ตอนที่แล้วลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 90
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 92

ลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 91


กำลังโหลดไฟล์

บทที่ 91: ซอลลี่ผู้โดนแผดเผาและโดโด้ ผู้เรียกร้องความสนใจ

ในห้องแร่เสีย

กลยุทธ์ของเฉินรุยนั้นมีประสิทธิภาพมาก ตอนนี้ที่จุดศูนย์กลางมืดแล้ว การโจมตีระยะไกลของยากัสก็สูญเสียพลังไป และเปลวเพลิงของทั้งคู่ก็ทำให้พวกเขาตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย

ยากัสนั้นตอบสนองเร็วมาก เขาไม่ได้อยู่ในความมืดแล้ว เขารีบเคลื่อนที่และถอยกลับไปที่ประตู อย่างไรก็ตาม ซอลลี่ไม่ขยับ เพียงแค่นเสียงออกมา ไฟปีศาจในร่างกายของนางค่อยๆหายไป และนางก็หายไปในความมืด

“ฮึ่ม ไอ้งี่เง่านี้ดันไปหาขนแกะและกลับมาตัดขน กล้าสู้กับซอลลี่ในความมืดงั้นเหรอ เลือกลงนรกชัดๆ” ยากัสพูดกับตัวเอง แม้ว่าเคียวบินในมือของเขาจะไม่ถูกวางลง แต่เขาเชื่อมั่นในตัวซอลลี่อย่างชัดเจน

เฉินรุยเองก็เข้าใจความมั่นใจของยากัสทันที แม้ว่ามันจะมืดสนิท แต่ซอลลี่ก็ไม่ได้รับผลกระทบเลย การกระทำของนางดูรวดเร็วและแม่นยำมาก ราวกับว่านางเกิดมาเพื่อความมืด

ในตอนแรก การโจมตีของซอลลี่มีลักษณะที่แปลกประหลาด ด้วยความมืดมิดในตอนนี้ มันจึงกลายเป็นว่าหากลอบเร้น จะทำให้หลบได้ยากขึ้น

ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซอลลี่ก็ทำให้เฉินรุยลำบากมาก เขาได้รับการโจมตีติดต่อกัน สมมติว่าตะเกียงเวทย์มนตร์ไม่ได้ถูกปลด เขาก็ยังคงสามารถรับมือกับมันได้ ทว่าตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับถูกกักขังไว้เพียงลำพัง เฉินรุยรู้ว่าเขาไม่สามารถทนแบบนี้ต่อไปได้แล้ว เนื่องจากยากัสอยู่ห่างไกลและซอลลีอยู่คนเดียว เขาจึงต้องฉวยโอกาสนี้เพื่อจัดการหนึ่งในนั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

ในสายตาของซอลลี่ ปฏิกิริยาของศัตรูของนางดูเหมือนจะเฉื่อยมากขึ้น อาจเป็ฯเพราะอาการบาดเจ็บ และเขาน่าจะมีปัญหาในการระบุตำแหน่งที่แน่นอนของนางยาก การไหลเวียนของอากาศเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดูเหมือนจะมาจากซี่โครงล่างของเขา คราวนี้ ปฏิกิริยาของศัตรูกลับช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ทันใดนั้น เขาก็ได้ถูกกริชแทงและกรีดร้องออกมา จากนั้นเขาก็สร้างรูปมีดด้วยมือของเขาและหันไปทางทิศที่โจมตีมา ซอลลี่ไม่รู้ว่ามันเป็นการโจมตีหลอกของเขาหรือไม่ แต่เมื่อนึกถึงความน่ากลัวของเทคนิคลับนั้น นางก็เลยรีบที่จะถอนกริชออกและถอยออกมาทันที

อย่างไรก็ตาม ศัตรูรายนี้ของนางกลับโจมตีอย่างไร้จุดหมายอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งดูเหมือนจะประสาทไปแล้ว ทันใดนั้น ซอลลีก็เข้าใจแล้วว่าการโจมตีครั้งก่อนของนางทำให้ศัตรูของนางบาดเจ็บอย่างหนัก นางหัวเราะเยาะออกมาอย่างเบาๆ นางแกล้งเพื่อดึงดูดความสนใจของคู่ต่อสู้ แล้วก็ย่องไปทางหลังของเขาราวกับผีและแทงเต็มกำลัง ในขณะนั้น ศัตรูของนางก็ยังไม่ตระหนัก ริมฝีปากสีแดงของนางยกขึ้นเล็กน้อย มันคือรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด

ยากัสที่อยู่ข้างนอกสังเกตเห็นเสียงกรีดร้อง ซึ่งมันไม่ใช่เสียงของซอลลี่ และเขาก็ผ่อนคลายพอควร เขาตะโกนออกมาอีกว่า “ซอลลี่ อย่าลืมไว้ชีวิตมันล่ะ แต่เจ้าต้องเอาแขนขาของมันออกก่อน”

ในเวลาเดียวกันกับที่ยากัสส่งเสียง ซอลลี่ก็รู้สึกเย็นชาในใจ การโจมตีอย่างมั่นใจของนางนั้นหยุดลงทันที กริชในมือของนางถูกสอดเข้าไปเพียงสามนิ้วเท่านั้น เมื่อนางมองลงไป ลมหายใจของนางได้หยุดลงด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่แทงทะลุหัวใจของนางคือกริชสองหัว ซึ่งเป็นอาวุธของนางเอง ตอนนี้ มันทะลุหัวใจของนางไปแล้ว ในขณะที่อีกด้านของกริชอยู่ในมือของเฉินรุย

ในสายตาของซอลลี่ ศัตรูคนนี้ดึงกริชที่ซี่โครงล่างของเขาออกมาในทันทีด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง และเจาะกลับเข้าไปที่ใจกลางหัวใจของนางราวกับสายฟ้า ความสงบและความแม่นยำของการโจมตีครั้งนี้ไม่เหมือนกับรูปลักษณ์ที่เฉื่อยชาและบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ ปรากฎว่าศัตรูสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของนางได้อย่างแม่นยำ เขากำลังหลอกล่อนางมาโดยตลอด

ซอลลี่ใช้กำลังที่เหลืออยู่และตะโกนออกไป นางนั้นอยากจะล้มเฉินรุยด้วยตัวเองโดยใช้กำลังทั้งหมดที่อยู่ในมือของนาง แต่เฉินรุยก็ดึงกริชที่หัวใจของนางออกมาทันที จากนั้นพลังที่เหลืออยู่ของนางก็ราวกับหมดไป จนทรุดตัวลงกับพื้น

“ซอลลี่!” ในที่สุด ยากัสก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาตะโกนออกมาดังๆ จากนั้นเขาก็จับเคียวบินได้แน่น จนทำให้เกิดพลังระเบิดขึ้นในร่างกายของเขา เขาเดินเข้ามาใกล้อย่างระมัดระวัง แต่เขาไม่รู้เลยว่ามีฝ่ามือที่เปิดอยู่เล็งตรงมาที่เขาในความมืด

เฉินรุยกำลังชาร์จ 'ยิงออร่า' ของเขา และรอให้ยากัสเข้ามาใกล้ จากนั้น 'ดวงตาวิเคราะห์' ก็ย้ำเตือนเขา ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มไว้แน่น และแสงสีแดงก็ส่องประกายขึ้นมาในทันใด

ปรากฎว่าซอลลี่ที่กำลังจะตายอยู่บนพื้น ได้ยินเสียงของยากัสและรั้งเฉินรุยไว้อย่างสิ้นหวัง ใครจะรู้กันว่านางมีแรงทำแบบนี้ได้อย่างไร

“ยากัส! 'ดาบพันเล่ม'”

ไฟปีศาจของซอลลี่ทำให้เฉินรุยในความมืดถูกเปิดเผยให้ยากัสเห็นทันที มันเป็นเปลวไฟที่ซอลลี่จ่ายด้วยชีวิตของนาง เฉินรุยไม่สามารถหลุดพ้นจากมือของนางได้เลย แต่แขนที่ยื่นออกไปของเขายังคงเปิดฝ่ามืออยู่

ยากัสก้าวไปข้างหน้า ตะโกน และเสียงผิวปากนับไม่ถ้วนจากท้องฟ้าก็ดังขึ้น เขาได้ใช้ 'ดาบพันเล่ม' อย่างไม่ลังเลเลย

แสงเย็นวาบได้พาดผ่านในดวงตาของเฉินรุย จากนั้นลูกบอลสีขาวขนาดใหญ่ก็พุ่งออกมาด้วยความเร็วสูง วิ่งเข้าหายากัส ยากัสไม่ได้คาดหวังเลยว่าศัตรูของเขาจะมีท่าทีที่สุดยอดเช่นนี้ เขาในตอนนี้ใช้เทเลพอร์ตไม่ได้ในขณะที่กำลังปล่อย 'ดาบพันเล่ม' อย่างเต็มกำลัง เคียวบินที่เขาขว้างใส่ลูกบอลเบาด้วยความสิ้นหวังนั้นได้ถูกกลืนกินทันที เขาทำได้เพียงไขว้แขนและปิดกั้นร่างกายที่อ่อนแอของเขา หลังจากกำลังใช้ท่าไม้ตายอยู่

อย่างไรก็ตาม เขานั้นไม่มีทางรับมันได้

ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเฉินรุยไม่เหมือนเมื่อก่อน พวกเขาทั้งคู่เป็นมารระดับสูงสุดในระดับต้น ดังนั้นยากัสจึงไม่สามารถป้องกัน 'ยิงออร่า' เหมือนที่มิคาสทำได้ ไฟอสูรของเขาถูกแสงสีขาวกลืนหายไปเกือบหมด และร่างกายของเขาได้แต่ขยับถอยหลังอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ในขณะที่การป้องกันของเขาค่อยๆพังทลายลง “ปุ๋ม!” 'ยิงออร่า' ได้ผลักยากัสเข้าไปในผนังด้านหลังและห้องแร่เสียทั้งหมดดูเหมือนกับกำลังจะสั่นสะเทือน

ในที่สุดแสงสีขาวก็หายไป รอยบุ๋มทรงกลมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนกำแพงหินแข็ง และร่างกายที่นิ่มนวลของยากัสก็ติดอยู่ในกำแพงลึก

ความอัศจรรย์ที่สุดของ 'ดาบออร่า' นั้นเป็นการโจมตีวนซ้ำไม่รู้จบ ตอนนี้ยากัสถูกน็อคแล้ว เขาไม่สามารถโจมตีได้เลย เฉินรุยเองก็ใช้ 'ยิงออร่า' ไปแล้ว ไหล่ของเขาเองก็บาดเจ็บหนักมาก มีรอยขีดข่วนอยู่ประปราย ในทางกลับกัน ซอลลี่ที่เกาะเขาแน่นกลายเป็นบังเกอร์ ขณะที่หลังของนางก็ถูกเสียบด้วยเคียวบิน 4 อัน ไฟปีศาจของนางดับแล้ว นางนั้นตายไปแล้ว

“ท่านคูเลีย… จะกลับมาใน 2 วัน เขาจะล้างแค้นให้ข้า...”

เสียงของยากัสมาจากผนังด้านหน้าก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็ตายไปแล้ว

แหวนปรากฏขึ้นบนนิ้วของเฉินรุย จนส่องแสงเจิดจ้า มันคือวงแหวนส่องสว่างที่โจเซฟ “จัดหาให้” เขาค่อยๆดึงมือของซอลลี่ออกและวางศพของนางลงบนพื้น จากนั้นเขาก็ถอดเคียวบินบนไหล่ของเขา และเขาก็เอาเคียวบิน 4 อันบนหลังของซอลลี่มาด้วย ในที่สุด เขาก็ค่อยๆหลับตาที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจอย่างช้าๆ

เฉินรุยไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงกำลังทำอะไรแบบนี้ แต่หัวใจของเขายังคงตกใจกับการกระทำของซอลลี่ อันที่จริง การแทงที่หัวใจของนางนั้นให้เป็นบาดแผลร้ายแรงก็พอแล้ว แต่เพื่อที่จะเอาชนะเขาและปกป้องยากัส นางจึงใช้ลมหายใจสุดท้ายของนางเกาะขาเขาจนตัวตาย ถ้าเฉินรุยมีทางเลือก เขาไม่ต้องการที่จะทำร้ายหรือฆ่าผู้หญิงคนใด แต่เขาไม่มีทางเลือก

ในการสู้รบ มีเพียงศัตรูและตัวเองเท่านั้น เป็นหรือตายเท่านั้น

ในทางกลับกัน ยากัสกลับตรงกันข้าม อย่างแรกเขาไม่ลังเลเลยที่จะใช้ 'ดาบพันเล่ม' เลย ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาไม่ได้เอ่ยชื่อซอลลี่ด้วยซ้ำ เขาแค่บอกว่าคูเลียจะล้างแค้นให้ "ข้า" แทนที่จะเป็น "เรา"

เหอะ……

มารระดับสูงสุด……

สิ่งเดียวที่ตายยากที่สุดคงเป็นความรักระหว่างคนนี้แหละ

แต่บางที...ในตัวบางคนอาจจะไม่มี...

ดวงตาสีแดงสวยงามที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในใจของเขาอย่างลึกลับ ร่างกายของเขา ซึ่งตอนแรกเย็น เพราะเสียเลือดก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น

อาการบาดเจ็บของเฉิยรุยครั้งนี้เบากว่าตอนที่เขาต่อสู้กับมิคาส อาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงที่สุดคือบริเวณซี่โครงด้านล่างที่เขาหลอกล่อศัตรู แต่พลังดาราของเขาก็หมดลงเกลี้ยงเลย หลังจากดื่มโพชั่นเลือดไปหนึ่งขวด เขาก็เริ่มสำรวจรูขนาดใหญ่

ตอนนี้ตะเกียงวิเศษที่อยู่ด้านบนแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ด้วยการอาศัยวงแหวนส่องสว่าง เขาสามารถมองเห็นชั้นของแร่เหลือทิ้งที่ซ้อนกันอยู่ เฉินรุยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และเปิดโกดังเก็บของของเขา เขาต้องการเก็บแร่เหล่านี้ไว้ ส่งผลให้โกดังเก็บของเต็มในทันทีเป็นครั้งแรก แม้แต่โกดังขยายใน "สถานะมิชาร์" ก็ตาม

แร่ธาตุในหลุมขนาดใหญ่ลดลงอย่างกะทันหันไปไม่กี่เมตร แต่มันก็ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด เขาไม่รู้ว่าหลุมนี้ลึกแค่ไหน

ในขณะนั้นเอง ประตูหินที่ปิดของห้องแร่ร้างส่งเสียงถูกผลักเปิดออกอย่างกะทันหัน เฉินรุยจึงปิดวงแหวนส่องสว่างทันที ประตูถูกผลักเปิดออก แต่ภายใต้แสงไฟจากโคมไฟติดผนัง เขาไม่เห็นใครเลย ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น “นายท่าน ท่านอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”

กลายเป็นว่าคนที่มาคือโดโด้ เฉินรุยเปิดใช้งานวงแหวนคบเพลิงและถอนหายใจด้วยความโล่งอก “โดโด้ เจ้าสบายดีไหม?”

เมื่อโดโด้ได้ยินเสียงของเขา เขาก็รีบกระโดดไปที่แสง ทำให้เกิดเสียงแปลกๆบนพื้นขึ้น เมื่อมามาถึงเฉินรุย สีหน้าของมันก็กลายเป็นรอยยิ้มที่เยินยอ “นายท่าน โดโด้น่ะน่าทึ่งมาก ข้ากลืนสุนัขสองหัวเข้าไป แต่กระดูกนั้นรสชาติแย่มาก ข้าก็เลยถ่มมันออกมา”

เฉินรุยตกตะลึง ขณะที่เขานึกถึงโครงกระดูกขนาดใหญ่ในป่าฝนสีดำ หัวใจของเขาก็รู้สึกขนลุกเล็กน้อย “เจ้าหาข้าเจอได้ยังไงเนี่ย?”

“พอโดโด้กลืนศัตรูที่เหมือนสุนัขเข้าไป ทันใดนั้นจมูกของข้าก็อ่อนไหวมาก และข้าก็ได้กลิ่นของนายท่านด้วย” ทันใดนั้นใบหน้าของโดโด้ก็กลายเป็นรูปหัวสุนัขและดมกับพื้น มันแสดงออกให้เห็นเลย

เฉินรุยตกตะลึงอีกครั้ง: กล่าวอีกนัยหนึ่งหรือว่า... โอกาสที่โดโด้จะได้รับความสามารถของเป้าหมายที่ถูกกลืนเป็นความสามารถพิเศษของผลมาร? ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันสามารถใช้ท่าทางของมังกรได้ ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะได้ข้ารับใช้ที่เยี่ยมมาก

สไลม์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์อาจกลายเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์เลยก็ได้

“โดโด้ ทำได้ดีมาก ครั้งต่อไปเจ้าจะไม่ถูกทอดทิ้งในมื้อบาร์บีคิวแล้วล่ะ”

เมื่อโดโด้ได้ยินนายของมันชมเชย มันก็สร้างแขนสองข้างอย่างภาคภูมิใจและกอดอกบน “เอว” ของมัน พร้อมยิ้มอย่างเกินจริงด้วยปากที่กว้างโต

หลังจากที่โดโด้ภาคภูมิใจอยู่ครู่หนึ่ง มันก็นึกถึงบางสิ่งและพูดว่า “นายท่าน มีคนมากมายขวางทางเข้า …โดโด้ไม่กล้าออกไป…”

ประโยคนั้นเผยให้เห็นถึงนิสัยขี้กลัวของโดโด้ ฉายาในฐานะสัตว์ประหลาดมารที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ดูเหมือนเป็นเพียงภาพชั่วคราวที่ไม่มีตัวตน สไลม์ที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันยังคงเป็นแค่สไลม์

เนื่องจากเขาฆ่าซอลลี่และยากัสไปแล้ว และเซอเบอรัสก็ถูกโดโด้กลืนเข้าไปด้วย มันคงยากที่พวกเขาจะแพ้ จากคำพูดของยากัส คูเลียจะกลับมาใน 2 วัน ความแข็งแกร่งของเขานั้นเหนือกว่าซอลลี่และยากัสอย่างสิ้นเชิง อย่างน้อยเขาก็อยู่ในขั้นกลางของมารระดับสูงสุด ตอนนี้เวลาเริ่มกระชิดแล้ว ด้านหนึ่ง เขาต้องฝึกฝนอย่างหนักด้วยเวลาจำกัด ในทางกลับกัน เขาต้องพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของคูเลีย เพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปหาเรื่องกับคนงานเหมืองแร่

ยามหลายคนที่ทางเข้าหลุมหลักก็ถูกสังหารไปก่อนหน้านี้แล้ว คนที่ไล่ตามเขามีเพียงเซอร์เบอรัส ซอลลี่ และยากัส เมื่อคนอื่นๆที่ค่อนข้างอ่อนแอมาถึง เฉินรุยและคนอื่นๆก็ได้เข้าไปในหลุมหลักแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินหรือเห็นอะไรเลย

โดโด้มองดูเจ้านายของมันอย่างสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นมันก็มองดูโดโด้ด้วยท่าทางแปลกๆ จู่ๆโดโด้ก็รู้สึกแย่ จากนั้นมันก็ได้ยินนายท่านของมันพูดอย่างจริงใจว่า “โดโด้ ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องกลับไปทำงานแบบเก่าแล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด