บทที่ 56: ออร่า! ความต้องการทรัพยากรที่เร่งด่วนเป็นที่สุด
บทที่ 56: ออร่า! ความต้องการทรัพยากรที่เร่งด่วนเป็นที่สุด
คนแคระเฒ่านึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และก็หยิบกระเป๋าออกมา ราวกับจะยืนสมบัติให้ เขากล่าวว่า“นายท่าน ของเหล่านี้คือศิลาเรืองแสงและวัสดุหลายอย่างที่ข้าเพิ่งไปรวบรวมมา ราคารวมของมันทั้งหมด 15 เหรียญคริสตัลดำ”
มีวัสดุประมาณ 10 ชิ้นในกระเป๋า รวมถึงศิลาเรืองแสง 5-6 เม็ดที่คุณภาพแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม ในร้านขายของเวทมนตร์ทั่วไป ศิลาเรืองแสงคุณภาพทั่วไปมักจะมีราคา 10 เหรียญคริสตัลดำ
"ไม่เลว สำหรับตอนนี้ ไม่ต้องหาสิ่งอื่นเพิ่มแล้ว แค่เพียงวัสดุเวทมนตร์ โดยเฉพาะศิลาเรืองแสงก็เพียงพอ ยิ่งมากยิ่งดี สำหรับเรื่องเงินเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะหามาให้เอง”
คนแคระเฒ่าดูร่าเริงมาก เพราะตัวมันได้รับคำชมต่อหน้าเจสซี่และมันก็ได้พูดออกไปว่า“คืออย่างนี้นะนายท่าน ศิลาเรืองแสงมักเป็นวัสดุที่ค่อนข้างไม่เป็นที่นิยมที่ผลิตในอาณาจักรเงา ดังนั้นแล้วคนขายจึงไม่ค่อยมีสินค้าเหลือมากนัก อย่างไรก็ตาม ข้าได้รับข้อความมาว่ามีพ่อค้าคนหนึ่งชื่อซิลวามีเหลืออยู่พอสมควร แต่ราคาที่พวกเขาขายค่อนข้างสูง เหรียญคริสตัลสีดำ 18 เหรียญแลกกับศิลาคุณภาพสูง เหรียญคริสตัลสีดำ 9 เหรียญสำหรับคุณภาพปานกลางและเหรียญคริสตัลสีดำ 2 เหรียญสำหรับคุณภาพต่ำ หากท่านต้องการทั้งหมด เราคงต้องใช้เหรียญคริสตัลดำ 600-700 เหรียญ”
เฉินรุยเองก็เพิ่งจะชนะได้เงินรางวัลมา 750 เหรียญ รวมแล้วเขาก็มีอยู่ 760 เหรียญ ซึ่งเพียงพอที่จะชื้อศิลาเรืองแสงพวกนี้และนอกจากนี้แล้ว 10 วันที่ผ่านมานี้ จากออร่า 35,000 จุด ตอนนี้เหลือเพียง 3,000 จุดเท่านั้น มันไม่เพียงพอสำหรับการใช้สนามฝึกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เขาจะต้องต่อสู้กับเรก้าอีก 20 วัน ดังนั้นเขาจึงต้องการออร่าจำนวนมาก แต่อย่างอื่นเขาต้องขอข้อมูลมาก่อน
“ข้ารู้จักซิลวา” ทันใดนั้นดาร์คเอลฟ์ผู้นี้ก็ได้พูดว่า “ชายผู้นี้น่ารังเกียจมากและเขาก็มีลูกน้องจำนวนมาก หากเจ้าทำสัญญากับเขา ไม่แน่เจ้าอาจถูกหักหลังเป็นแน่แท้”
คนแคระเฒ่าก็พยักหน้า “ ท่านเจสซี่พูดถูกแล้ว ชื่อเสียงของซิลวานั้นไม่ค่อยดีนัก แต่เขาแข็งแกร่งมาก ในความเป็นจริง ธุรกิจที่ไม่เป็นที่นิยมอย่างศิลาเรืองแสงเป็นเพียงฉากหน้า มีข่าวลือบอกไว้ว่าเขาแอบทำการค้าขายอย่างอื่นแบบลับๆ
เฉินรุยเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามเจสซี่ไปว่า “ผู้ที่เป็นกะลาหัวให้กับซิลวาคือผู้ใด?”
“ผู้ที่คอยช่วเหลือเขาและมีอำนาจมากที่สุดคือเซนทอร์ที่มีชื่อว่า กราว ซึ่งได้มาถึงขั้นมารระดับกลางแล้ว อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของเขานั้นเทียบไม่ได้กับเรก้า ที่เหลือก็เป็นพวกมารระดับกลางจำนวนหนึ่ง ถ้าเจ้าให้เหรียญคริสตัลสีดำ 30 เหรียญแก่ข้า ตัวข้าจะร่วมเดินทางไปด้วย”
นั่นแพงเกินไปแล้ว! 30 เหรียญคริสตัลสีดำเลยนะ! มันเทียบเท่ากับ 3000 คริสตัลเหรียญม่วงด้วยซ้ำ! คนแคระเฒ่าแทบจะเด้งตัวล้มลงกับพื้น ถ้าเงินนั้นได้ถูกมอบให้มันและลูกสาว มันก็สามารถอยู่อย่างสบายๆได้เลย 3 ปี ใครจะรู้ว่านายท่านของเขาเอกิลได้ตอบตกลงโดยไม่ลังเลเลย “เยี่ยม! ข้าตกลง”
เฉินรุยสามารถใช้เหรียญ 30 เหรียญเพื่อค่าออร่าพวกนั้นได้ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้จะต้องสำเร็จ แต่ห้ามล้มเหลว
“เจ้าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ?” เฉินรุยถามเจสซี่ จากนั้นเขาก็เห็นดาร์คเอลฟ์ยกนิ้วขึ้นแล้วพยักหน้า “ดิดิ ไว้ข้าจะมาที่แก๊งค์เสื้อคลุมทุกเช้าหลังจากวันนี้ และข้าต้องการให้เจ้าติดต่อกับซิลวา บอกไปว่าข้าต้องการศิลาเรืองแสงทั้งหมด คุณภาพเป็นที่ตั้ง ให้บอกราคามาได้เลย”
ดิดิรีบตอบรับไปในทันที แล้วเฉินรุยก็ได้ออกไปและตรงไปที่ห้องทดลองทันที ในตอนนี้ ตัวเขาไม่ได้ถูกถามอะไรมากมายจากเหล่าองครักษ์ เพราะเป็นคำสั่งจากเจ้าหญิงใหญ่ ซึ่งในทำนองเดียวกัน อัลดาซเองก็ได้คอยช่วยสนับสนุนเขาเต็มที่ อันที่จริงแล้ว ดาร์คเอลฟ์ไม่รู้เลยว่า “มรดกทดสอบของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่” แท้จริงเป็นเพียงคำโกหกที่ใครบางคนโกหกขึ้นมา อัลดาซนั้นแค่หวังว่า "มรดก" ของปรมาจารย์จะช่วยเขาเรื่องยาก็เท่านั้นเอง
เมื่อเฉินรุยกลับไปเป็นตัวตนเลขานุการ เขาก็ได้เปิดใช้งานความสามารถ 'กลั้นลมหายใจ' ในสายตาของคนอื่น เขายังคงเป็นมนุษย์ที่ไร้อำนาจ
จากนั้นเขาก็ได้บอกให้เคกูส่งข้อความถึงปากรีโลไป โดยบอกว่าเขาปลอดภัย เพื่อที่มังกรพิษผู้นั้นจะได้ไม่ต้องกังวล ก่อนหน้านี้ เคกูได้เดินทางกับเขาไปหลายรอบ ดังนั้นมันจึงคุ้นเคยกับเส้นทางดี หลังจากไวเวิร์นออกไปแล้ว เฉินรุยก็ได้กลับไปที่ห้องของเขา
หลายวันมานี้ ตัวเขาได้พยายามควบคุมพลังดวงดาวและเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเป็นอย่างมาก โดยมันแสดงเป็นค่าประสบการณ์ และแน่นอนว่าพวกค่าประสบการณ์นั้นมันแสดงแค่ในหน้าต่างระบบ มันไม่ได้หมายความว่า เมื่อค่าประสบการณ์ถึง 100% แล้ว เขาจะสามารถ "ระดับขึ้น" มันแค่หมายความว่าเขานั้นจะถึงระดับหนึ่งของการฝึกฝนเท่านั้นเอง โครงกระดูกในหน้าต่างตอนนี้แข็งตัวโดยสมบูรณ์แล้ว ซึ่งมันเป็นผลจากการฝึกอบรมพิเศษของเขา 10 วัน หากให้ละเอียดกว่านี้ คือเขาใช้ระยะเวลามากกว่า 1 เดือน โดยใช้ห้องกาลเวลาของระบบ
การเปลี่ยนแปลงของโครงกระดูกในระบบไม่เพียงแต่บ่งบอกว่าเฉินรุยได้ก้าวมาถึงมารระดับกลาง มันยังบอกอีกว่าสถานะอัลไคน์ของเขามีพลังป้องกันแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก วันนี้ แม้ว่าการต่อสู้ในสนามประลองจะรุนแรงอย่างมากและตัวเขาก็มีบาดแผลมาก แต่เขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงอะไรเลย มีเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งมันเบากว่าคราวของแลนซ์มาก
ซึ่งในระหว่างการต่อสู้ ความจริงแล้วที่เฉินรุยสามารถจัดการเจสซี่ได้ก็เพราะ 'ดวงตาวิเคราะห์' ในบรรดาเงาทั้งห้าของเจสซี่ มีเพียง 1 เดียวเท่านั้นที่เป็นจริง แล้วการใช้ดวงตาวิเคราะห์ก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่าร่างไหนเป็นร่างจริง แม้ว่าภาพลวงตาแบบอื่นจะไม่สามารถตัดสินได้ด้วยตาเปล่าหรือความรู้สึก แต่พวกมันก็ไม่สามารถหลอกลวงทักษะอย่าง 'ดวงตาวิเคราะห์' ไปได้ สิ่งนี้ย่อมสำคัญต่อการต่อสู้ของเฉินรุยในอนาคตอย่างแน่นอน
ในแถบสถานะ หลังจากที่ร่าง "โครงกระดูก" ได้รวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แล้ว เส้นใยจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ตรงกลางลูกบอลแสงของ "อัลไคน์" ก็ไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใน "โครงกระดูก" ด้วย มันกลับขยายออกไปอีก โดยห่อหุ้มร่างโครงกระดูกอันแสนประหลาด ดูเหมือนมันกำลังจะสร้างชิ้นส่วนของ "กล้ามเนื้อ" ช้าๆ
ด้วยประสบการณ์จากการฝึกฝนแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้น เฉินรุยก็เข้าใจเบาๆว่า เมื่อ "กล้ามเนื้อ" แข็งตัวเหมือน "โครงกระดูก" สถานะอัลไคน์ที่เกิดจาก 'กายาบริสุทธิ์' ก็จะสมบูรณ์ หากเขาบรรลุถึงสถานะสมบูรณ์ของอัลไคน์และก่อให้เกิดการวิวัฒนาการระดับสองดาว ตัวเขาก็จะสามารถเป็นมารระดับสูงได้อย่างอัศจรรย์
วิธีปฏิบัติได้พิสูจน์แล้วว่ากฎแรงโน้มถ่วงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฝึกร่างกายแบบนี้ ในสถานะปัจจุบัน แรงโน้มถ่วงสองเท่าก็เริ่มไม่ค่อยได้ผลแล้ว จากนี้คงต้องใช้แรงโน้มถ่วง 4 เท่า อย่างไรก็ตาม สำหรับแรงโน้มถ่วง 4 เท่าแม้จะไม่มีกฎใดๆใช้ด้วย มันก็ยังต้องใช้ค่าออร่าถึง 4000 จุดต่อวันเลย วัสดุที่คนแคระเฒ่าหามาได้ก็มีเพียงแค่ 1500 จุด นอกเหนือจากออร่าตอนแรก 3000 จุดแล้ว ตอนนี้เขาก็มีเพียง 4500 จุดเท่านั้น บางทีเขาควรรอสินค้าจากซิลวาสินะ
อีกทั้งวันนี้เขาล้าเป็นอย่างมาก ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำให้มันค่อยเป็นค่อยไป ไม่อย่างนั้นมันคงมีผลเสียเกิดขึ้น พรุ่งนี้เขาน่าจะต้องหยุดพัก จากนั้นค่อยไปฝึกกับมังกรพิษช่วงกลางคืนดีกว่า
เฉินรุยหลับจนกระทั่งตื่นและก็ไปหาอะไรมากิน เมื่อเขาเดินออกจากห้องทดลอง เขาก็ได้ชนเข้ากับแซลลี่ อิมป์ตัวน้อยก็ได้แจ้งข่าวให้เขาทราบ ดูเหมือนว่า ซัค เซนทอร์จากร้านช่างเหล็ก“กิโยติน” จะเพิ่งซื้อสินแร่ขยะจำนวนมากและเขาต้องการให้เฉินรุยจัดการกับพวกมัน แต่ตอนนี้มันเป็นช่วง "พักผ่อน" ของเฉินรุย อิมป์ตัวน้อยจึงไม่กล้าที่จะเข้ามารบกวนเฉินรุยในห้อง ตอนนี้พออิมป์ตัวน้อยได้เห็นเจ้านายของมันเดินออกมาจากห้อง ตัวมันก็รีบรายงานในทันที
แม้ว่าแร่ 1 ก้อนจะไม่ได้มีออร่ามากนัก แต่ก็ยังพอมีบ้าง เฉินรุยต้องการออร่าที่สิ้นหวังในเวลาแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบตรงไปที่ร้านช่างเหล็กทันที
ดูท่าว่าซัคจะจงใจชื้อ "ขยะแร่" จำนวนมากด้วยคริสตัล ตอนนี้มันกังวลพอสมควรว่าจะจัดการกับพวกมันยังไงดี แต่พอเห็นเฉินรุยมา ตัวมันก็ดีใจอย่างมาก
“ซัค ตอนนี้เจ้าหญิงได้ให้ภารกิจให้ข้าทำมา ดังนั้นในสองเดือนนี้ข้าจึงยุ่งเป็นอย่างมาก นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้ามาช้า ข้าขอโทษด้วย!”
คำขอโทษของมนุษย์ทำให้ซัคชื่นใจพอสมควร “เพื่อนของข้า ตอนนี้เจ้าคือเลขาของเมืองพระจันทร์ดับ แน่นอนว่าภารกิจของเจ้าหญิงนั้นต้องสำคัญกว่า ข้ารู้สึกขอบคุณเจ้าจริงๆที่เจ้ามาที่นี่เพื่อช่วยข้า!”
เฉินรุยไม่สามารถอธิบายได้มากนัก เขาจึงได้แต่ตบไหล่ของซัค “อืม ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องสุภาพนักหรอก มาดูแร่พวกนี้กันดีกว่า”
พอได้ยินดังนั้น ซัคก็รีบพาเฉินรุยไปที่สวนหญ้าทันที ที่นั่นมีแร่มากมายประมาณ 100 ชิ้น คริสตัลพวกนี้มากกว่าก่อนหลายเท่าตัว ในมุมมองของช่างตีเหล็ก พวกมันเป็นแร่ที่ไร้ประโยชน์ แต่พวกมันในสายตาของเฉินรุยคือออร่าจำนวนมาก
“เฉินรุย คือมันมีแร่อยู่มากมาย ...” ซัคเกาหัวด้วยความลำบากใจ “ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้าเองผงพวกนั้นมาพอหรือเปล่านะ แต่หากไม่พอ ข้าให้เงินเจ้าไปชื้อจากท่านปรมาจารย์ได้”
ตอนนี้ตัวเขาเบิกบานใจเป็นอย่างมาก...เขานั้นส่ายหัวและพูดขึ้นมาว่า "ไม่ต้องห่วง ข้ามีมันพอ แต่เจ้าต้องเก็บผงทั้งหมดที่เหลืออยู่หลังจากแปลงผลึกไว้ เพื่อที่ข้าจะได้มอบให้กับอาจารย์อัลดาซเพื่อทำการวิจัย”
ซึ่งเซนทอร์ผู้นี้ก็ได้ตอบตกลงทันที ส่วนทางด้านเฉินรุยก็เริ่มงานของเขาในการเปลี่ยนขยะให้เป็นสมบัติ สายตาของซัคดูมีความสุขมาก ผลึกที่น่ารำคาญได้ถูกเปลี่ยนเป็นผงอย่างน่าอัศจรรย์และแร่ที่เหลือก็ได้ “ฟื้นคืน” สำหรับเฉินรุยแล้ว ยิ่งมีแร่คริสตัลในแร่เหล่านี้มากเท่าใด เขาก็จะได้รับออร่าเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น หลังจากพยายามมาอย่างยาวนาน เฉินรุยก็เก็บเกี่ยวออร่าได้มากกว่า 4,000 จุด รวมแล้วตอนนี้ก็ใกล้เข้า 9,000 ไปทุกที
เฉินรุยรับผงทั้งหมดที่ซัคเก็บมาและก็ได้พูดไปว่า “ซัค หากคราวหน้าเจ้าชื้อพวกนี้มาอีกก็บอกข้าด้วย ข้าว่างยามใดตัวข้าจะมาที่นี่โดยเร็วที่สุด”
"ขอบคุณเจ้ามาก" ซัคพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดต่อไปอีกว่า “เพื่อน ข้าคงไม่สามารถหาแร่แบบนี้อีกเยอะๆได้อีกนานพอสมควร อีกทั้งสถานการณ์ของเหมืองไม่กี่ปีมานี้ก็ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก ข้าได้ยินมาว่าพวกโจรได้ยึดครองเหมืองเป็นสถานที่กบดานเสียแล้ว สินแร่ขยะพวกนี้ได้ถูกขโมยไปจากเหมือง คนงานหลายคนได้พยายามเสี่ยงชีวิตเพื่อเอามันกลับมา”
เฉินรุยเองก็พอรู้ว่าเส้นทางการค้าทางตะวันตกได้ถูกโจรควบคุมไว้หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดเลยว่าพวกมันจะขยายพื้นที่ไปยังเหมืองด้วย แม้ว่าเหมืองขยะจะให้ค่าออร่าเพียงสิบจุด แต่ก็มีคำกล่าวหนึ่งว่า “หยดน้ำเล็กๆจำนวนมากก็สามารถรวมกันเป็นมหาสมุทรได้” แร่เสียที่สะสมมาหลายร้อยปีสามารถให้ออร่ากับเขาได้ในปริมาณที่มากแน่นอน
ในตอนนี้เขายิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ออร่า ถึงขั้นต้องตามหาพวกวัสดุเวทมนตร์อย่างศิลาเรืองแสงเลย นอกจากนี้ ราคามันยังสูงเกินไป ดังนั้นจึงไม่เหมาะนักที่จะใช้มันพัฒนาพลังของเขาในระยะยาว หลังจากผ่านการทดสอบสองเดือนนี้แล้ว เขาต้องไปที่เหมืองและ 'จัดการ' แร่เสียทั้งหมด ยังไงมันก็วินทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว ทั้งตัวเขาและคนที่ได้รับประโยชน์จากแร่ที่เหลือ
หลังจากผ่านมาสักพัก เฉินรุยก็ได้ออกจากร้านช่างตีเหล็กและก็ได้คิดถึงร้านอลิชเพิ่งเปิดตัวใหม่ เนื่องจากการฝึกอบรมพิเศษอย่างเร่งด่วนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาจึงไม่สามารถเข้าร่วมพิธีเปิดของนางได้ แต่ตอนนี้เขาไม่มีอะไรทำ ดังนั้นไปดูก็ไม่เสียหายอะไร
เมื่อมาถึงถนนกว้าง เขาก็ได้เห็นร้านขายของ “แปลก” ที่ปลายถนนจากระยะไกล ซึ่งมีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีคำพูดใหญ่ๆอยู่ 3 คำ: ร้านค้าปลีกของเจ้าหญิง
