ตอนที่แล้วบทที่ 52: สัญญาของเชีย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 54: สายฟ้าและลม

บทที่ 53: หมาป่าปราดเปรียว! ศึกของหมายเลข 64 ครั้งที่ 2


บทที่ 53: หมาป่าปราดเปรียว! ศึกของหมายเลข 64 ครั้งที่ 2

แม้ว่าเฉินรุยจะเตรียมรับแรงกระแทกแล้ว แต่แรงโน้มถ่วง 2 เท่ายังทำให้เขารู้สึกกดดันพอสมควร ไม่เพียงแค่น้ำหนักร่างกายของเขา แต่น้ำหนักของอวัยวะภายในทั้งหมดของเขาได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจนทำให้ตัวเขาหายใจลำบากมาก บาดแผลที่ซี่โครงซึ่งเกือบฟื้นตัวเต็มที่แล้วก็เริ่มรู้สึกปวด

ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนที่เขาอ่านนวนิยายและการ์ตูน เหล่าพระเอกต่างฝึกฝนด้วยแรงโน้มถ่วงหลายสิบหลายร้อยเท่า ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าการฝึกด้วยแรงโน้มถ่วงมันยากเย็นขนาดไหน ถึงจะเพิ่มแค่ 2 เท่าก็ตามทีเถอะ

เขาเพ่งความคิดของเขาและชักนำพลังงานดวงดาวของเขาให้เริ่มวิ่งไปทั่วร่างกาย ความสามารถในการปรับตัวของเขานั้นเร็วขึ้นมากและการควบคุมกล้ามเนื้อร่างกายของเขาก็ดูจะสัมผัสได้ลึกซึ้งภายในแรงโน้มถ่วง

เฉินรุยเริ่มเดินช้าๆไปข้างหน้า เขาพยายามควบคุมลมหายใจของเขาและเคลื่อนไหวง่ายๆอย่างการยืดเหยียดแขนขา การเคลื่อนไหวเล็กๆแบบนี้อย่าดูถูกไปเชียว เพราะในสภาพแบบนี้ การทำอะไรหลายๆอย่างหาใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่จะต้องเร่งความเร็วโดยการใช้ความแข็งแกร่งมากขึ้นถึงสองเท่า

ขณะนั้นเอง 'ร่างดวงดาว' ก็ได้แสดงประสิทธิภาพเต็มที่ มันปล่อยให้พลังดวงดาวที่สูญหายไปคืนกลับมาเต็มเปี่ยม เฉินรุยไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อเขาสามารถวิ่งและกระโดดได้อย่างอิสระ สภาพแวดล้อมโดยรอบก็ได้เปลี่ยนไปและเขาก็ได้ออกจากสนามฝึก ดูเหมือนว่าเวลาจะผ่านไปแล้ว 2 วัน

เฉินรุยกลับไปดูที่แถบสถานะที่อารามเทพช้างเผือกและเห็นว่าค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 8% ดูเหมือนว่าผลการฝึกพลังดวงดาวในสภาวะแรงโน้มถ่วงสูงดูไม่เลวเลยทีเดียว โครงกระดูกคล้ายควันนั้นดูเหมือนจะกระชับแน่นขึ้น ร่างกายโปร่งแสงที่แสดงออกมาในจอสถานะก็ดูมั่นคงขึ้น

เขาจำได้ว่ามันผ่านไปแล้วหนึ่งวันและเขาก็ไม่ได้กินอะไรเลยในโลกความเป็นจริง ดังนั้นเขาจึงออกจากระบบสุดยอดอย่างรวดเร็ว ฟังก์ชั่นของระบบสุดยอดนั้นวิเศษมาก เมื่อเขาอยู่ในพื้นที่ฝึกซ้อม เขาจะไม่มีความรู้สึกหิวโหยหรือต้องการการขับถ่ายเลย แต่เมื่อเขากลับมาสู่ความเป็นจริง ท้องของเขาก็ปวดอย่างรุนแรง แสดงให้เห็นเลยว่าตัวเขาหิวโหยไม่มีอะไรตกลงท้องมาทั้งวัน

เมื่อเฉินรุยยืนขึ้น เขารู้สึกว่าน้ำหนักตัวของเขาดูจะเบามาก เขาไม่คุ้นเคยกับแรงดึงดูดภายใต้สภาวะปกติแล้ว ตอนนี้ราวกับว่าเขาถูกจำกัดพื้นที่ให้ขยับแต่ในห้อง ซึ่งตัวเขามีความสุขมาก ค่าออร่านับพันเรียกว่าไม่สูญเปล่า การฝึกมีประสิทธิภาพอย่างชัดเจน

หลังจากกินอาหารแล้วนอนหลับอย่างมีความสุข เฉินรุยก็รู้สึกว่าพลังแห่งดวงดาวของเขาได้ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ อาการบาดเจ็บที่ใต้กระดูกซี่โครงก็หายเป็นปกติ เขาจึงเข้าสู่สนามฝึกทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลา

ซึ่งตอนนี้เขาไม่ได้เลือกกฏอะไร เฉินรุยเคลื่อนที่ไปมาราวกับขนนก แต่ตอนนี้เขายังไม่ชินกับสถานะการเคลื่อนไหวในตอนนี้

หลังจากคิดไปสักพัก เขาก็ได้เลือกกฎเวลา 5 เท่ารวมกับแรงโน้มถ่วง 2 เท่า เขาใช้ไป 7000 ออร่า โดยตอนนี้เหลือเพียง 24000 จุด

เมื่อกลับมาสู่สภาพแวดล้อมที่มีแรงดึงดูดเป็นสองเท่า เฉินรุยก็รู้สึกสบายกว่าครั้งแรกอย่างมาก ในตอนนี้เขามีความเชี่ยวชาญในการควบคุมกล้ามเนื้อและพลังดวงดาว จริงๆแล้วแผนฝึกของเขาก็ง่ายมาก เพียงแค่ทำให้ตัวเขาเข้ากับแรงโน้มถ่วงสองเท่า จากการเดินธรรมดา วิ่ง กระโดด จากนั้นก็ลองโจมตีและป้องกัน ระยะเวลาห้าวันคนละอย่างกับการฝึกหนึ่งวันเลย แม้ว่าจะไม่มีความหิวโหยหรือความที่จะยากนอนหลับในพื้นที่ฝึก แต่การฝึกที่ไม่หลับไม่กินหาใช่จะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้

ที่จริงแล้ว เฉินรุยสามารถใช้อำนาจของเขาเพื่อออกจากพื้นที่ฝึกอบรมได้เลย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะการฝึกนี้ไม่เพียงแค่ฝึกร่างกาย แต่ยังรวมถึงจิตใจและความคิดของเขาด้วย

ในโลกนี้ไม่มีเวลาสำหรับอาหารเที่ยงหรอกนะ เมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้ว ระบบสุดยอดมันได้ให้สิทธิพิเศษแก่เขามากมาย หากเขายังคงบกพร่องอีก ขาดไร้ซึ่งความเพียร ตัวเขาก็ไม่ใช่อย่างอื่นนอกจากบุคคลที่โง่เขลา เช่นเดียวกับการต่อสู้กับแลนซ์ เขาจำเป็นที่จะต้องฝึกอย่างจริงจัง

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขาต้องมีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะตาย แม้จะเป็นเพียงการฝึกก็ตาม

ในขณะที่เฉินรุยฝึกพร้อมกัดฟันของเขาและเหงื่อก็ได้ไหลท่วมตัวเขา โครงกระดูกในหน้าต่างสถานะที่ดูเหมือนควันก็กำลังเปล่งแสงชัดเจนขึ้น แต่เดิมมันเป็นเพียงหมอกที่คล้ายควัน แต่ตอนนี้มันได้กลายเป็นเกล็ดแล้ว มีเส้นใยแสงจำนวนนับไม่ถ้วนที่ปรากฏอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ความมหัศจรรย์ของดวงจันทร์คู่ของอาณาจักรมารได้ทำให้กลางคืนและกลางวันผสานกัน เพียงพริบตาเดียว 5 วันได้ผ่านพ้นไป

ที่ทะเลสาบสีฟ้า ปากรีโลได้นั่งอยู่ข้างริมทะเลสาบ ตัวมันไม่เคยที่จะนอนไม่หลับแบบนี้มาก่อน ครานี้มันกำลังนั่งจ้องมองท้องฟ้าอันแสนมืดมิด ดูเหมือนว่ามันจะกังวลเล็กน้อย: ไม่ใช่เฉินรุยสัญญาว่าจะมาหามันหลังจากผ่านไป 5 วันรึ? ทำไมเขาถึงยังไม่มาอีก?

ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีเสียงกระพือปีกอันแสนคุ้นเคยดังอยู่ไกลๆ ปากรีโลได้ยืนขึ้นทันที: ในที่สุดก็มาสักที!

ในขณะที่ไวเวิร์นได้ร่อนลง มังกรพิษก็ได้แอบเข้ามาใกล้โดยตั้งใจจะทำการโจมตี

ทันทีที่ปากรีโลเข้าหาเงาดำที่ด้านหลังของไวเวิร์น ก็ได้มีเสียง “วู๊บ” และมีเงาหนึ่งโผล่ไปที่หลังมังกรพิษชั่วพริบตา ดวงตาของมังกรพิษเบิกกว้างและมันก็ได้ชกไปที่เงานั้น ความเร็วของเงาเหนือเกินจินตนาการ เงานั้นขยับร่างกายเพียงน้อยนิดและหลบหมัดนั้นไป ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ามังกรพิษผู้นี้จะเร่งความเร็วของหมัดตัวเขาเอง กำปั้นของมันหมุ่นไปในทิศทางที่ไม่มีทางเป็นไปได้และเล็งไปที่หน้าอกของเงาดำ เมื่อหมัดเกือบจะโดนเงาดำ ตัวเงาดำก็ได้ปล่อยหมัดออกมาเพื่อป้องกัน มังกรพิษผู้นี้ไม่ได้หลบ แต่กลับเป็นเงาดำที่รีบถอยหลังด้วยความตกใจ เงาดำได้แต่คงสภาพร่างกายของตัวเองไว้จากการรับหมัดนั้นมา จากนั้นมันก็ได้ตะโกนออกมาว่า "เจ้าสิบแปดมงกุฎ นั่นมันใช่ความแข็งแกร่งของมารระดับกลางที่ไหน?"

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว! ข้าจะทำยังไงก็เรื่องของข้า! ถ้าสู้ได้เจ้าก็ควรที่จะสู้สิ!” ดวงตาของมังกรพิษนั้นเบิกกว้างขึ้นและเขาก็ได้กระโดดไปหาเฉินรุยพื่อโจมตีอย่างรวดเร็ว

ร่างกายของเฉินรุยนั้นคล่องแคล่วมาก แต่ความเร็วของปากรีโลนั้นเร็วกว่ามาก ดวงตาของเฉินรุยไม่สามารถมองตามทันความเร็วของมังกรพิษได้เลย อย่างไรก็ตาม เขาอาศัยความรู้สึกของพลังดวงดาวและความทรงจำของกล้ามเนื้อที่เขาฝึกฝนมาจากสภาพแวดล้อมที่มีแรงโน้มถ่วงสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของมังกรพิษ

เขาคำนวณการเคลื่อนไหวของพิษมังกรอย่างแม่นยำและตอบโต้ด้วยการสับคาราเต้ใส่พื้นที่ว่าง การเคลื่อนไหวของมังกรพิษหยุดชะงักกะทันหัน แต่ข้อมือของเฉินรุยนั้นถูกจับโดยแน่นและเขาแทบไม่สามารถออกแรงได้เลย มังกรพิษไม่ได้โจมตีต่อไปปล่อยมืออย่างประหลาดใจ “ไม่เพียงแต่ความเร็วเท่านั้นพลังของเจ้าเองก็มาถึงระดับกลาง เจ้าฝึกได้ขนาดนี้อย่างไรกัน? หากเจ้าทำเช่นนี้ต่อไป เจ้าจะสามารถกลายเป็นมารระดับสูง หลังจากผ่านไปเพียง 2 เดือน!”

“ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” เฉินรุยส่ายหัวพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น กระนั้นก็เถอะ จากความเห็นของปากรีโลที่พูดถึงความแข็งแกร่งระดับกลางของเขาแล้ว มันก็ทำให้เขานึกถึงโครงกระดูกคริสตัลในหน้าต่างค่าสถานะของเขาขึ้นมาได้

ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ชีวิตของเขามีแค่การฝึกและนอน จากการวนลูปแบบนั้นมา เขาฝึกไปทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกคือเวลาและแรงโน้มถ่วงสองเท่า ครั้งที่สองและสามเป็นเวลาห้าเท่ากับแรงโน้มถ่วงสองเท่า เวลาที่เหลือของเขาคือการพักผ่อนและปรับให้เข้ากับแรงโน้มถ่วงปกติ

ตอนนี้เฉินรุยได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแรงโน้มถ่วงเป็นสองเท่าเรียบร้อยแล้ว ในช่วงเวลาสามเท่ากับห้าเท่า เขาพยายามที่จะไม่ใช้พลังดวงดาวและใช้เพียงความแข็งแกร่งของร่างกายเท่านั้น แน่นอนว่าไม่ง่าย แต่มันก็ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อ เขารู้ได้เลยว่านี้คือกุญแจสำคัญสำหรับการฝึกฝนสภาพกายภาพของร่างดวงดาว ไม่เพียงแต่ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งไปถึง 30% แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระหว่างการฝึก

นั่นคือเหตุผลที่ “โครงกระดูก” นั้นเริ่มมีสภาพกลายเป็นของแข็ง ฟังก์ชั่นการฝึกมีประสิทธิภาพมาก แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงพอๆกัน จากออร่า 35,000 ตอนนี้เหลือเพียง 17,000 จุด

“ปากรีโล เจ้าคิดว่าข้าสามารถเอาชนะ 'หมาป่าปราดเปรียว' ด้วยความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้ได้หรือยัง? ข้าเองก็ได้ไปค้นคว้าข้อมูลของชายผู้นี้มาก่อนแล้ว เขาเป็นดาร์คเอลฟ์ที่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิดและมีดสั้น ซึ่งมีทักษะมีดที่มีนามว่า 'ภาพติดตา' ฝ่ายตรงข้ามของเขาส่วนใหญ่จะถูกล้มด้วยการโจมตีเพียง 1 ครั้ง”

ปากรีโลคิดและก็ได้ตอบไปว่า “ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้า ก็มีโอกาสอยู่เพียงน้อยนิด ข้าไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีโอกาสอยู่ เผ่าดาร์คเอลฟ์มีความสามารถด้านการสัมผัสและความเร็ว โดยทั่วไปแล้ว ความอดทนเป็นจุดอ่อนของพวกมัน เจ้าต้องมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวของศัตรู 'ภาพติดตา' คงเป็นทักษะที่รวมทั้งความสามารถและความเร็วที่สูงของมันไว้ ซึ่งคงจะทำให้ศัตรูสับสน ในแง่ของวิธีการต่อสู้แล้ว ความสามารถของศัตรูเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง กลยุทธ์หาใช่จะสำคัญ จงระวังตัวไว้เสมอ อย่าล้มลงก่อนที่จะทำลายศัตรูให้หมดสิ้น”

เฉินรุยเข้าใจคำพูดของปากรีโลและก็ได้พยักหน้า ปากรีโลบอกว่าความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นรวดเร็วก็จริง แต่การควบคุมยังไม่เพียงพอ ความเร็วไม่ใช่ทุกสิ่ง มันยังมีความถี่ของการโจมตีและการโจมตีอย่างรุนแรงด้วย เขาต้องผสมผสานมันให้เข้ากัน ทั้งพลังและความเร็ว นอกจากนี้ยังมีปัญหาเวลาโจมตีอีก ในการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างดาร์คเอลฟ์แล้ว เขาจะต้องควบคุมทุกอย่างให้ได้

ทฤษฎีไม่จำเป็นมากนัก สิ่งสำคัญคือความคิดและทุกอย่างที่ควรปรับปรุงในการฝึก หลังจากปากรีโลพูดถึงสิ่งสำคัญแล้ว พวกเขาก็เริ่มฝึกการต่อสู้กัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาล เแินรุยก็ไม่ได้บ่นอะไรกับระดับพลังของมังกรพิษแล้ว เขาเริ่มซึมซับการฝึกฝนอย่างเต็มที่

มังกรพิษรู้ได้ทันทีว่ามนุษย์คู่หูของเขามีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปมาก ตัวมันจึงรู้สึกยินดีในใจและก็เริ่มโจมตีอย่างรุนแรงมากขึ้นไปอีก

10 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในเวลากลางคืน สนามประลองของเมืองพระจันทร์ดับสว่างไสวและดูวุ่นวายตามเดิม การต่อสู้ตัดสินกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

คนที่อยู่ในเวทีตอนนี้ต่างก็มีแต่ผู้มีชื่อเสียง หนึ่งคือบุรุษผู้แกร่งที่สุดในบรรดามารระดับกลาง “หมาป่าปราดเปรียว” เจสซี อีกด้านหนึ่งคือหมายเลข 64 ที่สามารถฆ่า“มือเปื้อนเลือด” แลนซ์ได้ใน 10 วันก่อน การต่อสู้ครั้งนี้ดึงดูดผู้ชมจำนวนมากและโอกาสในการเดิมพันก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ในขณะนั้นเอง เจสซี่กำลังยืนอยู่ภายใต้แสงไฟสลัวภายในสนามรบ แต่หมายเลข 64 กลับยังไม่ปรากฏ

คีธานที่นั่งอยู่ในที่นั่ง VIP ดูกังวลมาก ขณะที่อรัคก็ได้ลิ้มรสไวน์อย่างใจเย็น

“เป็นไปได้ไหมขอรับที่หมายเลข 64 มันจะไม่กล้ามา!” ลิชพูดและก็ขมวดคิ้วแน่น " ถ้าเขาหนีจากการต่อสู้ครั้งนี้ เราก็จะสูญเสีย... ”

ก่อนที่ลิชจะได้พูดจบ เสียงดั่งทองของอรัคก็ได้ดังขึ้นมา "เขามาแล้ว"

ในทางเข้าอุโมงค์ของผู้แข่งขัน จู่ๆก็ได้มีชายสวมหน้ากากเดินเข้ามา นั่นคือหมายเลข 64

อรัคเพ่งมองไปที่ชายผู้สวมหน้ากากชั่วครู่หนึ่งและก็ได้ยกคิ้วขึ้น แม้ว่าเขาจะอยู่ไกล แต่ด้วยพลังของมารระดับสูง เขาก็รู้ได้เลยว่าความสามารถของหมายเลข 64 แตกต่างจากสิบวันก่อนไปมาก

“มารระดับกลางงั้นเหรอ?” ม่านตาสีแดงเพลิงของอรัคหดเล็กน้อย ความประหลาดใจเป็นประกายได้พาดผ่านดวงตาของเขา ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “การต่อสู้ครั้งนี้ช่างน่าสนใจมาก…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด