ตอนที่แล้วบทที่ 49: พันธมิตร! การสนับสนุนของมังกรพิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 51 เปลี่ยนขยะให้เป็นสมบัติ! ผงมหัศจรรย์

บทที่ 50: พรสวรรค์ของคนแคระคาค่า


บทที่ 50: พรสวรรค์ของคนแคระคาค่า

เฉินรุยก็รู้ดีว่าปากรีโลไม่ชอบเรื่องอะไรแบบนี้ เขาจึงได้ยิ้มและพูดไปว่า "ยังไงเราก็เป็นพันธมิตรกัน ของๆเจ้าก็เป็นของข้า ของๆข้าก็ยังเป็นของๆข้า ข้าจะช่วยเจ้าจัดการสมบัติทั้งหมดในบึงคืนสงบเอง! หากเจ้ามีน้องสาวมังกรผู้แสนสวย ข้าจะอุทิศตนให้นางและเราจักได้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นไปอีก ... ”

หากจะต้องเจอคนปากแข็ง เราก็จะต้องดื้อดึงยิ่งกว่าให้ได้

“อุ๊บ! ช่างเป็นคนโลภเสียจริง!” มังกรพิษแสดงท่าทีรังเกียจออกมา “แค่ข้าชายตามอง ข้าก็รู้เลยว่าเจ้าและลอร่าคงเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ข้าหวังว่าในอนาคตที่เจ้าเจอกันเจ้าจะรักกันนะ!”

เฉินรุยที่คิดภาพจินตนาการลอร่าจากปากของปากรีโลก็คงจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดูบ้าคลั่ง นั้นยิ่งทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เพราะนั่นไม่ใช่คำอวยพรเลยสักนิด บางทีเป็นคำสาปเสียมากกว่า

มังกรพิษหยุดพูดเล่นและก็ได้พูดไปว่า“จริงๆแล้วสิ่งที่เจ้าพูดนั้นถูกต้อง นี่เป็นโอกาสที่ดีในการฝึก เจ้ามีพลังที่ได้รับสืบทอดมาจากมรดกของปรมาจารย์ ทุกครั้งที่เจ้าไปยังถึงจุดๆหนึ่ง เจ้าก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเข้าไปอีก บางที ในเวลาสองเดือนเจ้าอาจสามารถเอาชนะมารระดับสูงตนนั้นได้ ในเวลานั้น เป้าหมายที่จะได้ไปเยือนยังบึงคืนสงบคงอยู่ไม่ไกลนัก…”

เฉินรุยรู้ว่าปากรีโลเชื่อในมรดกของปรมาจารย์มาตลอด ดังนั้นปากรีโลจึงได้กล้าเชื่อมั่นในตัวเขา เฉินรุยจึงไม่ได้แย้งอะไร

หลังจากนั้น มังกรพิษก็ได้ยิ้มอย่างชั่วร้าย“แต่ถ้าเจ้าไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ตนนั้นได้ ให้มาที่ทะเลสาบสีฟ้า เมื่อมารระดับสูงตนนั้นมาที่นี่ด้วยสัญญาศึก ข้าจะจัดการมันให้เอง! แม้ว่าตอนนี้ข้าจะมีพลังเพียงราชามารระดับสูง แต่การฆ่ามารระดับสูงตนนั้นคงไม่ยาก เพราะ 'พิษ' ที่อยู่ในชื่อของข้าหาใช่ของประดับแต่อย่างใด!”

“งั้นนี้ก็เป็นสิ่งที่เจ้าต้องการจริงๆสินะ คำว่า 'ส้นทรีน' ควรใช้กับเจ้าเสียมากกว่า” เฉินรุยพูดออกมา “ยังไงก็เถอะ กว่าหน้านี้ข้าไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย การต่อสู้ที่แท้จริงต้องใช้ทุกอย่าง ข้าไม่สามารถหวังเพียงโชคได้ และยิ่งมันอันตราย มันยิ่งทำให้ข้าพร้อมมากกว่านี้”

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้รับประโยชน์จากการต่อสู้ที่แท้จริงมาสินะ เรียกได้ว่าไม่เลว อันดับแรก มาคิดวิธีจัดการ” หมาป่าปราดเปรียว “เจสซี่เสียก่อน” มังกรพิษพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “จากชื่อเล่น ข้าคิดว่าสิ่งที่อีกฝ่ายมีคือความรวดเร็ว มารประเภทนี้เป็นมารที่รับมือได้ยากที่สุด เพราะพวกมันโจมตีและป้องกันได้อย่างรวดเร็ว ความอดทนและความยืดหยุ่นของเจ้าก็แข็งแกร่งมาก แต่เจ้าเป็นประเภทที่ชนะทางความเร็ว แต่การป้องกันของเจ้ายังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ของเจ้ายังคงอยู่เหนือเจ้า ไม่อย่างนั้นก็คงเอาชนะได้”

“จะเป็นอย่างไรถ้า…ข้าสามารถตามความเร็วของอีกฝ่ายได้ทัน”

“มันยากเกินไป” มังกรพิษส่ายหัวอย่างเด็ดขาด “วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการฝึกความเร็วคือการรับน้ำหนัก แต่เจ้ามีเวลาแค่สิบวันเท่านั้น ดังนั้นเจ้าไม่สามารถทำได้ อีกเรื่องก็คือความแข็งแกร่งของมารระดับกลางตนนี้”

เฉินรุยนึกถึงกฎแรงโน้มถ่วงของสนามฝึกซ้อมในระบบสุดยอด และเขาก็ได้ยิ้มอย่างลึกลับ“บางทีข้าอาจมีวิธีเพิ่มความเร็วอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้นอยู่”

“หากเป็นเช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน” มังกรพิษรู้ว่าคู่หูของเขามีมรดกแปลกๆอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรไป “ถึงแม้ว่าเจ้าจะสามารถตามทันความเร็วได้แล้ว แต่ความแตกต่างของพลังยังมีอยู่ สภาพร่างกายในปัจจุบันของเจ้าก็ไม่ดีนัก รีบไปฟื้นฟูอาการบาดเจ็บก่อนฝึกเสียก่อนเถอะ ค่อยมาที่นี่อีก 5 คืนข้างหน้า ข้าเองก็จะพยายามควบคุมพลังของข้าให้อยู่ในระดับกลาง และเจ้าก็ไปฝึกการเพิ่มความเร็วของเจ้าล่วงหน้าก่อนเลย”

"ได้" เฉินรุยไม่อยากเสียเวลา เขารีบขี่ไวเวิร์นกลับไปทันที

ก่อนออกเดินทาง ปากรีโลก็ไม่ลืมที่จะเตือนว่า“ไม่ว่ายังไงจงระวัง ถ้าเจ้าทำไม่ได้จริงๆให้หนีมาที่แห่งนี้ เพราะข้าเองก็ยังใช้ชีวิตได้มาไม่มากพอที่ใจข้าต้องการเลย!”

เฉินรุยยิ้ม ไวเวิร์นกางปีกออกและหายไปในท้องฟ้ายามค่ำคืน

จากนั้นเขาก็ได้ตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ท่านอาจารย์อัลดาซเหมาะสมกับตำแหน่งที่เขาได้รับมาจริงๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา เฉินรุยได้ใช้โพชั่นฮีลลิ่งไปสองขวด ประกอบกับความสามารถของ 'ร่างดวงดาว' กระดูกซี่โครงที่หักนั้นได้รับการรักษาให้หายขาดในเวลากลางคืน แม้แต่บาดแผลทางร่างกายที่รุนแรงกว่านี้ก็หายไปหมดเลย

หลังจากที่เฉินรุยตื่นขึ้นมา สถานที่แรกที่เขาไปคือที่อยู่ของแก๊งค์เสื้อคลุม แน่นอนว่าในฐานะตัวตนของมนุษย์ผู้เป็นเลขา

เมื่อคืนก่อนจากคำสั่งของเอกิล คนแคระเฒ่าดิดิจึงได้เคารพเฉินรุยดั่งเอกิล

“ดิดี เอกิลมีอะไรบางอย่างที่สำคัญที่จะให้เจ้าทำ” เฉินรุยกล่าวและคนแคระเฒ่าก็ได้หูผึ่งในทันที "เจ้าต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้เข้าแข่งขันที่เข้าร่วมในการต่อสู้ของสนามประลองให้ไวที่สุด ไม่ใช่พวกที่ระดับต่ำ แต่เป็นพวกระดับกลางและระดับสูง โดยเฉพาะมารที่มีนามว่า "หมาป่าปราดเปรียว" เจสซี "

ในการต่อสู้ เราต้องรู้จักศัตรู และเขาจะต้องมีศรัทธารวมถึงความกล้า หากเป็นเช่นนี้ เขาก็สามารถเอาชนะศัตรูได้แน่นอน

“ข้าเองก็เพิ่งได้รับข้อมูลมาในยามที่ข้าไปพนันในสนามประลอง ท่านกรุณารอสักครู่ขอรับ” คนแคระเฒ่าที่ได้ยินคำดังนั้นก็ได้กลับไปที่บ้านและในไม่ช้า มันก็กลับมาพร้อมกับหนังสือเล่มเล็กๆ หนังสือเล่มนี้หนักมาก ดูเหมือนมันจะถูกใช้อยู่เป็นประจำ

เฉินรุยลองอ่านผ่านดูๆ มีข้อมูลและระดับรายละเอียดบันทึกไว้อยู่ สําหรับเอกิลที่เพิ่งจะเข้าร่วมเมื่อวานก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ บันทึกเกี่ยวกับ "มือเปื้อนเลือด" แลนซ์คือ: แลนซ์; เซนทอร์ ; นาม "มือเปื้อนเลือด"; แข็งแกร่งในระดับมารระดับกลาง ; โจมตีอย่างดุดัน ; เน้นความโหดเหี้ยม ; ความสามารถพิเศษที่ครอบครอง 'บ้าคลั่ง'

เฉินรุยที่เพิ่งไปเผชิญหน้ากับแลนซ์มาเมื่อวานก็รู้เลยว่าเจ้าสิ่งนี้มันมีประโยชน์แค่ไหน

ส่วนข้อมูลของเจสซี่คือ: เจส; ดาร์คเอลฟ์ ; นาม "หมาป่าปราดเปรียว"; ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในมารระดับกลาง ; รวดเร็วมาก ; มีความชํานาญด้านกริชและการต่อสู้ระยะประชิด; มีทักษะประพิเศษ 'ภาพติดตา' ; ฝ่ายตรงข้ามจะถูกสังหารในชั่วพริบตา

เขาต้องเป็นประเภทความเร็วแน่นอน ไม่แปลกใจเลยที่ถูกเรียกว่า "หมาป่าปราดเปรียว" เฉินรุยขมวดคิ้วพร้อมกับดูหน้าสุดท้ายที่เป็นชื่อของอรัค อรัค ; มารระดับสูง มารผู้ยิ่งใหญ่ [หมายเหตุ: มารระดับสูงคือเผ่าพันธุ มารผู้ยิ่งใหญ่คือระดับ]; ระดับความแข็งแกร่งของเขาไม่เป็นที่รู้จัก เพราะเมื่อเขาต่อสู้ล่าสุดก็คือเมื่อ 4 เดือนก่อน เขาสามารถผ่ากลางมารระดับผู้ยิ่งใหญ่ได้ภายใน 10 นาที

เฉินรุยรู้สึกตกใจมาก อรัคสามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามใน "ระดับเดียวกัน" ได้อย่างง่ายดาย พลังของเขาอาจจะมากกว่าระดับกลางไปแล้ว เขาน่าจะไปถึงจุดสูงสุดของมารระดับสูงหรืออย่างน้อยก็คงแข็งแกร่งจนอยู่ในช่วงระดับกลาง

ช่างเป็นข้อมูลที่มีค่ามากจริงๆ เฉินรุยคิดและเก็บมันไว้ จากนั้นเขาก็เอาถุงเหรียญออกมาและให้มันแก่คนแคระเฒ่า "เอกิลได้ให้ข้าเอา 50 เหรียญดำให้กับเจ้า เมื่อวานเขาไม่ได้เอาเงินมากพอ เขาจึงให้เจ้าไปแค่ 2 เหรียญ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งของอีกหลายอย่างที่เขายังต้องการอยู่ เจ้าใช้เหรียญพวกนี้ไปชื้อมันเอาล่ะกัน พยายามเลือกของที่มีคุณภาพที่สูงหน่อยนะ โดยเฉพาะพวกหินเรืองแสง"

"50 เหรียญคริสตัลดำ?" คนแคระเฒ่าตัวสั่นในทันที เมื่อมันเปิดดู ข้างในก็เป็นกองเหรียญคริสตัลดำ มันสับสนเป็นอย่างมาก เพราะมันไม่เคยเห็นจำนวนเงินที่เยอะขนาดนี้มาก่อน

เผ่าพันธุ์คนแคระต้อยต่ำเสียยิ่งกว่าอิมป์ ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถไปต่อกรกับใครได้เลย ชีวิตปกติของพวกมันอยู่ในระดับต่ําสุดในอาณาจักรมาร พวกมันมักจะถูกรังแกมาเสมอ ยกเว้นเหล่าอัจฉริยะที่สามารถเข้าถึงจุดสูงสุดในบางวิชาได้ แต่โดยทั่วไปแล้วก็มักจะไม่มีอัจฉริยะแบบนั้นหรอก มันไม่เคยคิดเลยว่าเจ้านายผู้นี้ที่มันติดตามเพียงชั่วคราวจะให้เงินมันจัดสรรเป็นจำนวนมาก แม้จะไม่ทำสัญญาข้ารับใช้ก็ตามที ความไว้วางใจระดับไหนกันเนี่ย!

ดวงตาของคนแคระเฒ่าเริ่มมีน้ำไหลออกมาและมันก็ได้เงยหน้าขึ้นมอง“โปรดส่งคำพูดของข้าให้นายท่านด้วย ดิดิผู้นี้ขอสาบานด้วยเกียรติของบรรพบุรุษของคนแคระทมิฬ ดิดิจักไม่ทำให้นายท่านต้องผิดหวัง!”

สำหรับคนแคระทมิฬแล้ว มันเป็นคำสาบานที่ดูร้ายแรงมาก ในขณะนั้นเอง ร่างผอมแห้งร่างหนึ่งก็ได้รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนไปว่า “ลุงดิดิ! ข้าทำได้แล้ว! ในที่สุดข้าก็สำเร็จแล้ว!”

“กาก้า เจ้าโง่เอ้ย!” เงาดำที่วิ่งเข้ามาคือกาก้า คนแคระเฒ่าในตอนนี้โมโหเป็นอย่างมาก “เจ้าไม่เห็นว่าท่านเฉินรุยอยู่ที่นี่หรือไง? ไม่รู้จักกฏเรอะ! ถ้าเจ้าทำตัวแบบนี้อีก ข้าจักไล่เจ้าออกจากแก๊งค์เสื้อคลุมเสีย!”

กาก้าถึงกับต้องผงะ เพราะตัวมันยังคงกลัวเลขามนุษย์ที่เคยคว้าคอมันอยู่ พอมันตระหนักได้ถึงมนุษย์ที่อยู่ในห้อง มันก็ได้โค้งคำนับทันที “ข้าขอโทษด้วยท่านเฉินรุยที่ตัวข้าหยาบคายเกินไป”

“ไม่เป็นไร” เฉินรุยเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของกาก้าและก็ได้ถามอย่างสงสัยว่า “ในมือของเจ้าใช่มันฝรั่งลาลาหรือเปล่า?”

"ครับท่าน สิ่งนี้คือมันฝรั่งลาลาดัดแปลงของข้า" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของกาก้าก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

คนแคระเฒ่าก็ได้พูดอย่างเย็นชาไปว่า “เจ้าควรจริงจังกับงานและเลิกทำตัวไร้ประโยชน์ได้แล้ว เจ้าควรทำสิ่งที่มันยิ่งใหญ่กว่านี้!”

เฉินรุยตระหนักได้เลยว่างานที่คนแคระเฒ่าพูดถึงคือการโกงและหลอกหลวงผู้อื่น

กาก้าพยักหน้าและก็หันไปทางเฉินรุย “ท่านเฉินรุย มันฝรั่งลาลาจะเติบโตในครึ่งปี แต่เจ้าสิ่งนี้สามารถเติบโตได้ภายในหนึ่งเดือน ผลผลิตก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่จะผายลมได้ง่ายกว่าหลังทานเสร็จ”

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นความตื่นเต้นของเขาหรือเพราะผลของมันฝรั่งลาลา ตัวกาก้าจึงได้ตดออกมา กลิ่นเหม็นนั้นเหม็นเป็นพิเศษ เฉินรุยปิดจมูกอย่างรวดเร็ว

เขาจำได้ว่าในระหว่างการแข่งขันหลักครั้งหนึ่ง เขาเคยสวมรอยเป็นอัลดาซและใช้ "ขจรสิบเมตร" เพื่อฆ่าแซนโดร ตอนนี้มันอาจเป็นผลกรรมที่ติดจรวดมาหาเขาก็ได้

ตาของคนแคระเฒ่าตอนนี้ก็กลายเป็นสีเขียว“ออกไป! หยาบคายเสียจริง!”

กาก้ารีบหันหลังและออกไปในทันที ในขณะที่วิ่งออกไป เขาก็ตดเสียงดังอีกต่างหาก คนแคระเฒ่ารู้สึกอายเป็นอย่างมาก ถ้ามันไม่ใช่เพราะเขาชราแล้ว เขาคงรีบวิ่งไปเอากาก้ามาทุบตีต่อหน้าเฉินรุยแล้ว

คนแคระเฒ่าก็ได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อน “กาก้านั้นสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เขาจึงขาดระเบียบวินัยบ้าง และเขาก็ชอบเล่นกับพืชพวกนี้เป็นที่สุด ถ้าเขาทำให้ท่านต้องขุ่นเคือง โปรดท่านอย่าตำหนิเขาเลย”

เฉินรุยคิดเกี่ยวกับเรื่องของกาก้าดู ในตอนแรกเขาก็ใช้ผงดอกไม้ตั้งแต่พบหน้า เฉินรุยคิดพักหนึ่งและก็พยักหน้าพร้อมตอบกลับไปว่า “มันไม่สำคัญหรอก แค่ทำสิ่งที่เอกิลมอบให้เจ้า 3 อย่างก็พอ ทั้งเขาและข้าต่างก็เชื่อในความสามารถของเจ้า”

คำพูดนี้ได้ทำให้คนแคระเฒ่าใจเต้นแรงอีกครั้ง จากนั้นเฉินรุยก็ออกมาและตรงไปที่วัง

ในห้องประชุม เชียกำลังคุยกับตาเฒ่าเกาสน์ นางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเฉินรุยเข้ามาก่อนเวลางาน นางจึงพูดตอบกลับไปว่า“เฉินรุย เจ้ามาตรงเวลานะ ข้าเพิ่งได้รับข่าวมาว่าโจเซฟได้กลับไปที่ดินแดนจ้าววิญญาณสีชาด เพราะเรื่องความล้มเหลวของเขาในการประลองเวหา จักรพรรดิไม่พอใจมาและน้องชายของเขา คานิตา ก็ได้คว้าโอกาสนี้ในการเสนอให้กีดกันเขาจากเมืองพระจันทร์ดับ ในตอนนี้ โจเซฟและคานิตาต่างก็ต่อสู้กันเองในหลายๆทาง ดังนั้นโจเซฟคงไม่ได้กลับมาที่เมืองพระจันทร์ดับสักพักหนึ่ง”

เกาส์จึงพูดขึ้นไปอีกว่า“ข้าคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเรามาก เฉินรุย เจ้าคิดว่ายังไง?”

หลังจากพูดคุยสักพักหนึ่ง พวกเขาทั้งคู่ก็ปรึกษากันเรื่องแผนของเจ้าหญิง จนพอเห็นเฉินรุยเข้ามาก็เอามาคุยกับเฉินรุย เพราะตาเฒ่าเกาสน์ก็รู้สึกเคารพเลขามนุษย์ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งมาใหม่ผู้นี้มาก

เฉินรุยพอรับฟังก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ เขานั้นได้เจอที่ของเขาในอาณาจักรมารแห่งนี้แล้ว เมื่อเขาเป็น“เฉินรุย” เขาจะเป็นนักยุทธศาสตร์ที่วางแผนอันแสนแยบยล เมื่อเขาเป็น“เอกิล” เขาจะเป็นนักรบที่มีความแข็งแกร่งอันสุดยอด

และพอถึงวันหนึ่ง เขาจะถอดหน้ากากออกมาและควบคุมโชคชะตาของเขาเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด