ตอนที่ 30 ความล้มเหลวของเซียวจิ้งเฟิง

สีหน้าของเซียวจิ่งถิงมืดลงและเต็มไปด้วยความโกรธ เซียวจิ้งเฟิงเป็นคนแบบนั้นได้เช่นไร?

เซียวจิ้งเฟิงอยู่ในกลุ่มทหารรับจ้างเป็นเวลาสามปี และทำงานหลายอย่างกับพวกเขา กลุ่มทหารรับจ้างนี้ใจแข็งเกินกว่าจะขับไล่เซียวจิ้งเฟิงออกไป เขาไม่เชื่อว่าเซียวจิ้งเฟิงจะเหยื่อจากโจวคังฉี จะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่นอน ตระกูลโจวและตระกูลเซียวเป็นศัตรูเก่า เป็นไปได้ที่โจวคังฉีเห็นว่าตระกูลเซียวนั้นไม่มั่นคงเหมือนก่อน จึงจงใจจัดการกับเซียวจิ้งเฟิง

ตระกูลโจววางแผนต่อต้านเซียวจิ้งเฟิง และตระกูลเซียวก็ไม่ให้โอกาสเซียวจิ้งเฟิงปกป้องตัวเองด้วยซ้ำ ตระกูลเซียววยุ่งเหยิงจริงๆ ตั้งแต่ที่เฟิงเสวี่ยกลายเป็นภรรยาของเซียวมู่หง แต่เดิมเฟิงเสวี่ยเป็นนักเต้นระบำของตะกูล และถูกเซียวมู่หงรับเป็นอนุภรรยา แต่งนางก็ไม่ได้ถูกยอมรับว่าเป็นอนุภรรยาโดยตรงในสายตาของผู้คนมากมาย

มันเป็นเรื่องน่าขันที่จะขับไล่นายน้อยโดยชอบธรรมของตระกูลเซียว เพียงเพราะเห็นแก่หญิงสาวนักเต้นระบำ

เซียวจิ่งถิงรู้เกี่ยวกับตัวละครของเซียวจิ้งเฟิง บุคคลนี้ถือเอาความชั่วร้ายและความอยุติธรรม เป็นศัตรูของเขาเอง ค่อนข้างตรงไปตรงมา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำสิ่งนั้น นอกจากนี้เซียวจิ้งเฟิงยังดื่มเก่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเก่งเรื่องเจ้าชู้

“ท่านปู่ไม่ได้พูดอะไร แต่ทำแค่มองพี่ชายรองถูกไล่ออกจากบ้านหรือ?” เซียวจิ่งถิงถามด้วยความไม่พอใจ

ฉีมู่อานส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ปู่ของท่านกำลังเก็บตัว”

ซื้อข้าวให้ผู้แปลสักจานที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com นะขอรับ

เมื่อมองไปที่ท่าทางของเซียวจิ่งถิง ฉีมู่อานก็อดแปลกใจมิได้ เซียวจิ่งถิงและเซียวจิ้งเฟิงไม่ถูกกัน เซียวจิ้งเฟิงเคยสอนบทเรียนให้เซียวจิ่งถิงด้วยซ้ำ และเซียวจิ่งถิงมักจะเรียกเซียวจิ้งเฟิง ว่า "ไอ้เวร" หรือ "ไอ้สารเลว" ลับหลังอยู่เสมอ ฉีมู่อานคิดว่าเซียวจิ่งถิงจะยินดีกับความล้มเหลวของเซียวจิ้งเฟิงเสียอีก

“ท่านปู่ช่างใจกว้างขวางเสียจริง” เซียวจิ่งถิงกล่าวอย่างไม่พอใจ

“ไม่นานมานี้ สิ่งที่เขากังวลคือการยืดอายุของตัวเอง เขามีลูกชายมากกว่าหนึ่งคน และหลานอีกมากมาย คุณสมบัติของ เซียวจิ้งเฟิงไม่ดีนัก ดังนั้นเขาจึงไม่มีค่า ปู่ของท่านไม่ได้ดูแลเรื่องตระกูลมานานแล้ว และเขาก็ไม่สนใจที่จะสนใจเรื่องพวกนี้” ฉีมู่อานส่ายหน้า

พ่อของเซียวจิ่งถิง เซียวหลินเฟิง ที่เป็นลูกชายคนที่สองเป็นผู้ฝึกปราณระดับเจ็ด และแม่ของเซียวจิ่งถิง หวังลู่ เป็นผู้ฝึกปราณปราณระดับหก

ลุงของเซียวจิ่งถิง เซียวเฉิงเฟิง เป็นลูกชายคนแรก เขาเป็นผูฝึกปราณระดับหก และภรรยาของเขา ลิ่วเสียน เป็นผู้ฝึกปราณระดับห้า เซียวมู่หงเป็นลูกชายคนโตของเซียวเฉิงเฟิง และลิ่วเสียน

เซียวหลินเฟิงและเซียวเฉิงเฟิง มีพ่อคนเดียวกัยกัน แต่คนละแม่ ดังนั้นพวกเขาจึงแข่งขันกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง เมื่อตอนที่พ่อแม่ของเจ้าของร่างเดิมอยู่ด้วย พวกเขาก็ปราบปรามเซียวเฉิงเฟิง อย่างต่อเนื่อง ตอนนี้พ่อแม่ของเจ้าของร่างเดิมเสียชีวิตไปแล้ว เซียวเฉิงเฟิงก็จะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป แลพกดขี่น้องชายคนที่สอง

“ตระกูลเซียวจะต้องเผชิญหย้ากับการเปลี่ยนแปลงมากมาย” เซียวจิ่งถิงส่ายหน้า และคิดว่าตอนแรกที่เจ้าของร่างเดิมถูกไล่ออก จากนั้นพี่ชายคนที่สองของเขาก็ถูกใส่ร้ายด้วย สายเลือดของเซียวจิ่งถิงอาจกล่าวได้ว่าถูกจัดการโดยสมบูรณ์

เซียวจิ่งถิงยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อวิธีการของพี่ชายรอง ลิ่วเสียนที่เป็นภรรยาของลุงค่อนข้างดีกับเจ้าของร่างเดิม

“จดหมายนั้นบอกอะไรเกี่ยวกับที่อยู่ของพี่ชายรองหรือไม่?” เซียวจิ่งถิงถาม

ฉีมู่อานตกตะลึงขณะพูดว่า “ท่านอยากเชิญพี่ชายรองมาบ้านพวกเราหรือ?”

เซียวจิ่งถิงพยักหน้าและกล่าว “ใช่ ครอบครัวของเราสามารถที่จะให้ที่พักพิงแก่พี่ชายรองได้” พี่ชายคนที่สองของเจ้าของร่างเดิมเป็นคนซื่อสัตย์และชอบธรรม แข็งแกร่งไม่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม เซียวจิ่งถิงและฉีมู่อานยังขาดมือ ถ้าเขาสามารถให้เซียวจิ้งเฟิงมาอยู่กับพวกเขา ครอบครัวก็คงจะมีชีวิตชีวามากขึ้น

ฉีมู่อานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “พี่ชายของท่านดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ”

เซียวจิ่งถิงขมวดคิ้วอย่างลังเล พูดอย่างสมเหตุสมผล เขาควรจะไปรับเซียวจิ้งเฟิง แต่ถ้าเขาออกไป งานทั้งหมดในสวนก็จะล่าช้าลง… นี่คือพี่ชายของเจ้าของร่างดั้งเดิมจริงๆ การสืบทอดร่างนี้ เซียวจิ่งถิงยังรู้สึกถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับญาติพี่น้องอยู่

"ข้าต้องไปแล้ว" เซียวจิ่งถิงพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง

“ไม่ต้อง ข้าจะไปเอง” ฉีมู่อานลังเลอยู่สักพัก

"เจ้าจะไปรึ?" เซียวจิ่งถิงถาม

ฉีมู่อานพยักหน้าและกล่าวว่า “งานในสวนไม่สามารถทำได้หากไม่มีท่าน ครอบครัวของเราก็จะดีขึ้นได้ยาก ดังนั้นเราจะไม่ยอมแพ้ครึ่งทาง”

“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านไม่ควรไปปรากฏตัวตอนนี้ ข้ามักจะรู้สึกว่าหลังจากที่เรามาถึงที่นี่ ท่านอาและท่านป้ามิได้ลดหย่อนเฝ้ามองท่าน ท่านถูกส่งมาที่นี่เพื่อฝึกฝนตนเอง ถ้าท่านรีบออกไปก็อาจถูกพวกเขาตำหนิด หากท่านไปหาพี่ชายรองในเวลานี้ พวกเขาก็จะยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก ให้ข้าไปดีกว่า ข้าแค่หวังว่าท่านจะสามารถดูแลลูกทั้งสองคนของเราได้ในตอนที่ข้าไม่อยู่”

เซียวจิ่งถิงพยักหน้าและพูดว่า “ตกลง”เขายังไม่คุ้นเคยกับโลกนี้ และเขามีประสบการณ์น้อยกว่าฉีมู่อานมาก ฉีมู่อานเป็นคนเงียบๆ และอ่อนโยน แต่จริงๆ แล้วเขาฉลาดมาก ทั้งยังมีความคิดที่ยอดเยี่ยม