ตอนที่แล้วตอนที่ 7 รวมเหล่าดาราสาวมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 ไหนว่าจะแค่แกล้งทำไง?

ตอนที่ 8 พูดเรื่องความรัก


ห้องประชุมชั้นบนสุดของบริษัทเซียว

ในห้องประชุมเซียวหรงกำลังถูขมับของเธออยู่ หวงอิงถอนหายใจและพูด “หรงหรง พวกเราคงทำได้แต่เลิกจ้างพนักงาน”

“ฉันรู้แต่มันเป็นไปไม่ได้เลย อย่างแรกเลยคือพวกเราถูกกดดันเรื่องเวลาอย่างที่สองคือไม่ว่าแผนกไหนๆก็สำคัญถ้าเราเลิกจ้างไปคงได้เกิดปัญหาแน่”

“แล้วช่องโหว่เรื่องเงินทุนของบริษัทล่ะ? ธนาคารไม่ยอมให้เรายืมเงินนะ ส่วนเงินที่มีอยู่ของบริษัทก็คงอยู่ได้อีกแค่ครึ่งเดือน”

“แม้แต่รถยังมีทางขึ้นภูเขา ฉันเองก็ต้องหาวิธีให้ได้เหมือนกัน  ไอ้สารเลวผางเหว่ยกัดไม่ปล่อยเลยจริงๆ! แบบนี้บริษัทเซียวคงได้ล้มละลายแน่!”

เซียวหรงกำหมัดของเธอแน่น

เธอรู้อยู่แล้วว่าหลังจากมีปัญหาเกิดขึ้นในบริษัทเซียวและเกิดช่องโหว่ทางการเงิน ผางเหว่ยประธานบริษัทผางจะต้องโทรหาเพื่อนของเขาให้กดดันธนาคารไม่ให้บริษัทเซียวยืมเงิน

นี่เป็นวิธีง่ายๆที่จะผลักบริษัทเซียวลงหลุม

สมแล้วที่ได้รับชื่อ ’ไซจูเก๋อ’

“ติ๊ง!”

เซียวหรงเห็นเย่เทียนส่งข้อความมาจึงรู้สึกแปลใจเล็กน้อย

“หรงหรง มีอะไรเหรอ?” หวงอิงพูดอย่างเร่งรีบ

เซียวหรงหยิบโทรศัพท์ให้หวงอิงแล้วพูดด้วยท่าทางแปลก ๆ “ไดมอนด์KTV ถ้าฉันจำไม่ผิดทีนั่นถูกบริษัทผางซื้อไปมาหลายปีแล้วนิ ทำไมเย่เทียนถึงไปอยู่ที่นั่นได้ล่ะ?”

“เธอจะไปเหรอ?” หวงอิงถาม

เซียวหรงลุกขึ้นทันที “ไปสิ ฉันอยากรู้นักว่าเจ้าขยะนี่จะพูดอะไรกับฉัน!”

ห้องส่วนตัวระดับสูงในไดมอนด์KTV

“สวัสดี! สวัสดี!”

“สวัสดีทุกคน!”

เพื่อนของฉินเยี่ยน ผางเหว่ย และจื่อฉีต่างมาทีล่ะคน

ผู้ชายที่มาส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ 100 ล้านหรือไม่ก็เป็นคนรวยรุ่นสอง ส่วนผู้หญิงก็เป็นดาราหรือไม่ก็เป็นผู้ประกอบการสาวที่ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง

แน่นอนว่าพวกเธอไม่สามารถเทียบกับจื่อฉีได้แต่พวกเธอก็ยังมีความนิยมอยู่บ้าง อย่างน้อยคนกว่าครึ่งตรงนี้เย่เทียนก็เคยเห็ยในรายการวาไรตี้

“เย่เทียน ฉันขอแนะนะให้รู้จัก นี่คือสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ป 24K ของบริษัทเรา...”

“เธอคือเฟิงเสี่ยวโม่กู่และเสี่วหยวนหยวน พวกเธอมีผู้ติดตามในเน็ตหลายสิบล้านคน”

“นี่คือ...”

จื่อฉีนั่งข้างเย่เทียนแนะนำพวกเขาทีละคน

ดาราสาวสวยเหล่านี้ยิ้มและพยักหน้า “สวัสดีค่ะ คุณเย่”

“นั่งก่อนสิ”

เย่เทียนทักทายทุกคนอย่างไม่ถือตัว เขานั่งอยู่ตรงกลางของรูปตัวCโดยมีจื่อฉีอยู่ทางซ้ายและฉินเยี่ยนนั้งอยู่ทางขวา ผางเหว่ยเริ่มทำตัวเจ้าชู้กับดาราสาวสองสามคนพร้อมถามเรื่องดวงกับราศีของพวกเธอและอ้างว่าเขาสามารถอ่านวิชาดูเส้นลายมือได้

“คุณเย่ทำงานอะไรอยู่เหรอ?” คนรุ่นที่สองถามด้วยรอยยิ้ม

คำถามนี้น่าสนใจสำหรับผู้เข้าร่วมปาร์ตี้ทุกคน

คนที่ในการตรงกลางได้ในสถานการณ์แบบนี้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา ต้องรู้ว่าที่นั่งตรงกลางมักจะเป็นของผางเหว่ยหรือไม่ก็ฉินเยี่ยน

“ทำไมไม่ลองเดากันดูล่ะ” จือฉียิ้มเยาะ

“อสังหาริมทรัพย์!”

“ท่องเที่ยว!”

“เสื้อผ้า!”

“อินเทอร์เน็ต!”

“อาหาร!”

ทุกคนเริ่มพูดคุยกัน

เย่เทียนชี้นิ้วไปที่คนดังหญิงที่พูดถึงเรื่องอาหาร “มันเป็นธุรกิจเรื่องอาหารจริงๆ”

“อ่า นี่มันกว้างเกินไปแล้ว” ดาราสาวทำหน้าเหมือนเด็ก “คุณเย่ขายอะไรอย่าพึ่งบอกนะให้เหยาน้อยแสดงความสามารถของเธอก่อน”

ดาราหญิงที่ชื่อเสี่ยวเหยาหน้าแดง “ว้าว พวกเธอเป็นพี่น้องภาษาอะไรถึงมาขายฉันแบบนี้เนี่ย”

ทั้งกลุ่มหนึ่งพากันหัวเราะคิกคัก

ผางเหว่ยพูดขึ้น “พรสวรรค์ของเสี่ยวเหยาน่าสนใจจริง ๆ ให้เธอแสดงมันก่อนสิแล้วค่อยให้ประธานเย่เผยตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นยังไง?”

“เอาเลย เอาเลย!!”

“เสี่ยวเหยา! เสี่ยวเหยา! เสี่ยวเหยา!”

พวกเขาต่างโห่ร้อง

เสี่ยวเหยาถอนหายใจ “ก็ได้ พวกเธอชอบแกล้งฉันตลอดเลย คุณเย่ พรสวรรค์ของฉันคือ... เลียนแบบเสียงสุนัขเห่า”

เย่เทียนเต็มไปด้วยความสนใจ “จริงเหรอ?”

“จริงค่ะ เพราะครอบครัวของฉันเลี้ยงหมาไว้เยอะมาก ตอนเด็กฉันเป็นเด็กออทิสติกอ่อนๆ ฉันเลยชอบเล่นกับพวกมันและเรียนรู้จากพวกมันอย่างช้าๆ ตัวแรกคือหมาตัวเล็ก ......วู วู”

“แล้วก็เป็นวูฟด็อก โฮ่ง โฮ่ง!!!”

“ต่อมาเป็นไซบีเรียน...”

การแสดงนี้ทำให้ทุกคนในที่หัวเราะและชื่นชม

เย่เทียนเองก็ปรบมือให้รัวๆ

เป็นความสามารถที่เจ๋งจริงๆ!

“ฮี่ฮี่ ที่จริงเห่าเป็นเพลงได้ด้วยนะ โฮ่งโฮ่ง โฮ่งโฮ่งโฮ่ง โฮ่งโฮ่ง โฮ่ง โฮ่งโฮ่ง โฮ่งโฮ่งโฮ่ง โฮ่งโฮ่ง โฮ่ง ....”

“สุดยอด!!”

เย่หัวเราะ “ฉันชอบเธอจริงๆ เก่งมาก!”

“จริงเหรอ!” เสี่ยวเหยาหน้าแดง

ฉินเยี่ยนส่งซิกแล้วเขยิบตัวออก “เสี่ยวเหยามานั่งตรงนี้สิ”

เสี่ยวเหยายิ้มและนั่งลงข้างๆเย่เทียน เธอยกแก้วไวน์ขึ้นพร้อมกับแก้มของเธอแดงก่ำแล้วพูด “คุณเย่ ฉันขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว”

หลังจากดื่มไวน์หมดแล้ว เสี่ยวเหยาก็โอบแขนของเย่เทียนและพูดอย่างร่าเริง “คุณเย่ ฉันแสดงเสร็จแล้ว คุณควรบอกเรื่องธุรกิจของคุณได้แล้วนะ”

“ใช่ ใช่!” ผู้คนต่างโฮ่ร้อง

เย่เทียนยิ้มและกล่าวว่า “งานหลักของฉันคือ...ขายเครปผลไม้!”

ห๊า!

คนในห้องต่างเงียบ

ทุกคนหันไปมามองหน้ากัน

“เครปผลไม้คืออะไร?” มีบางคนสงสัย

“หรือว่าคุณเย่จะเป็นลูกชายของเจ้าของร้านราชาเครป?”

“ว้าว ฉันเคยไปกินราชาเครปเหมือนกัน อันล่ะ 28 หยวนอร่อยมากเลย!”

จื่อฉีทำหน้าไม่ค่อยดีและพูด “พวกเธออย่าเดาเลย มันเป็นแค่เครปธรรมดา”

เย่เทียนพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ เครปธรรมดาราคาชุดละ 6 หยวน ถ้าจะเพิ่มไข่ ไส้กรอก ฯลฯ คุณต้องคิดเงินเพิ่มอีก 1 หยวน

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

คนทั้งกลุ่มหัวเราะอย่างเคอะเขิน

เสี่ยวเหยาก้มไปในอ้อมแขนของเย่เทียน “คุณเย่เป็นคนตลกจริงๆนะเนี่ย”

ฉินเยี่ยนยิ้มอยู่ข้างๆ “พูดตามตรง ถึงแม้ว่าการขายเครปจะเป็นธุรกิจหลักของเย่เทียนแต่จริงๆแล้วเขาเป็นผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจสูงสุดของบริษัทต้าเฟิง”

“บริษัทต้าเฟิง!”

“บ้าน่า!”

ทุกคนต่างตะลึกและยืนขึ้นดื่มอวยพรให้เย่เทียน

คนในไห่จิงจะมีใครไม่รู้จักบริษัทต้าเฟิงได้ยังไง?

“เอาล่ะ ฉันจะเอาอะไรให้ดู”

ผางเหว่ยหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาแล้วเปิดวิดีโอขึ้น มันเป็นวิดีโอของเย่เทียนที่ใช้รถเคอนิกเส็กก์ลากรถสามล้อ

“ว้าว! ฉันเคยเห็นวิดีโอนี้เหมือนกัน!”

“กลายเป็นว่าเขาคือคุณเย่!”

“พระเจ้า!”

ทุกคนต่างเริ่มกรีดร้อง

รถยนต์หรูราคามากกว่า 30 ล้าน!

พวกเขาจะไม่รู้จักได้ยังไง!

ดาราสาวที่เคยผลักเสี่ยวเหยาออกไปแสดงความสามารถ เธอมองดูเสี่ยวเหยาข้างๆเย่เทียนและรู้สึกเสียใจทจนหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีเขียว อันที่จริง... หน้าเธอเปลี่ยนเป็นหมาไปเลยต่างหาก! แย่จริง พลาดโอกาสไปซะได้!

แต่อย่าพึ่งท้อไป!

เพราะยังมีโอกาสอยู่!

“เอาล่ะเอาล่ะ เลิกเผาฉันได้แล้ว มาร้องเพลงกันดีกว่า จื่อฉีคุณจะร้องเลยไหม?” เย่เทียนยิ้ม

“เอาสิ!” จื่อฉีพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ฉันจะแสดงความน่าอายให้เห็นแล้ว คุณเย่สนใจมาร้องคู่กับฉันรึเปล่า?”

เย่เทียนโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่ล่ะ ฉันขอนั่งฟังเธอร้องดีกว่า”

“ฉันจะร้องกับเธอเอง!” อ้วนเกว่ยกระโดดขึ้นมา

“นั่งลงไปเลย!” จื่อฉีจ้องเขม็ง

หัวของผางเหว่ยหดลง

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ทุกกคนพากันหัวเราะ

“ถ้าอย่างนั้นฉันร้องเพลงที่ดังของฉันแล้วกัน เพลงฟองน้ำ...!”

ท่วงทำนองที่สวยงามและการแสดงที่เร่าร้อน ทำให้บรรยากาศในห้องส่วนตัวให้ถึงจุดไคลแม็กซ์ทันที

“ฟองทั้งหมด~~!!!”

หลังจากเพลงจบ เสียงปรบมือก็ดังขึ้นทันที

จื่อฉีทำความเคารพอย่างสวยงาม "ต่อไปเสี่ยวหยวนหยวน ร้องเพลงที่มีชื่อเสียงของเธอดีกว่า เพลงตู้ตู่ตู้!"

“โอเค!!”

เสี่ยวหยวนหยวนขึ้นสู่เวที แม้ว่าเสียงของเธอจะไม่สมบูรณ์แต่ความสนุกจากเพลง “ตู้ตู่ตู้ตู่” ก็ไม่ได้หยุดนิ่ง

การร้องเพลงรอบต่อไปเป็นเพลงแปดเซียนข้ามทะเล และการแสดงร้องเพลงต่างๆก็ได้ทำให้ห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

“เธอทำอะไรได้อีกนอกจากเลียนเสียงเห่า?” เย่เทียนถามเสี่ยวเหยา

เสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปาก ดวงตาของเธอพูดอย่างเขินอาย “ฉัน...ฉันพูดเรื่องความรักได้”

“เรื่องความรักนั่นก็ดี!”

“พูดเลย!”

ฉินเยี่ยนและคนในกลุ่มต่างส่งเสียงเชียร์

เสี่ยวเหยามองเย่เทียนอย่างเขินอาย “ในชีวิตหนึ่งเราจะตกหลุ่มรักได้สามครั้ง ครั้งหนึ่งด้วยความไม่รู้ อีกครั้งหนึ่งเป็นบทเรียน ครั้งสุดท้ายคือควาหมายของชีวิตและฉันหวังว่าฉันจะได้อยู่กับคุณทั้งสามครั้งและขอให้คุณเป็นคนที่อยู่กับฉันตลอดไป…”

“ฮ่าฮ่า ดีมาก!!!”

“โลกนั้นเปลี่ยนไปทุกวัน แต่ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงคือความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอและหัวใจที่รักเธอตลอดไป”

“เยี่ยม!!!”

“ก่อนจะเจอคุณฉันมัวจมอยู่กับอดีต แต่พอเจอคุณแล้วฉันจึงเริ่มวางแผนอนาคตของพวกเรา”

“วิเศษมาก!”

“ชาติหน้าพวกเราก็จะอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ถ้าคุณไม่มาฉันก็จะไม่ยอมแก่”

“เยี่ยมมาก!”

เย่เทียนรีบหยุดเซี่ยวเหยา “พอเถอะ ขนฉันลุกจนจะร่วงหมดแล้ว มาดื่มกันเถอะ”

เสี่ยวเหยาเม้มริมฝีปากของเธอและพูด “ที่ฉันดื่มไม่ใช่ไวน์ แต่เป็นความรักของคุณ~”

“พรวด...!” เย่เทียนแทบจะพ่นไวน์ที่ดื่มไปออกมา

ตอนนี้ก็มีบางอย่างกำลังเข้ามา

เอี๊ยด!

ในเวลานี้ประตูก็เปิดออก

ผู้หญิงสองคนปรากฏตัวที่ประตู

พวกเธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซียวหรงกับหวงอิง

เซียวหรงมองดูไปรอบๆ  ความประหลาดใจของเธอมีไม่น้อยไปกว่าพายุไต้ฝุ่น18ลูก

ทำไมเย่เทียนถึงมาอยู่กับคนพวกนี้?

แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?

ทำไมถึงไปโอบแขนแบบนั้น?