ตอนที่ 7 รวมเหล่าดาราสาวมา
เย่เทียนหัวเราะและขอให้ทั้งสองคนรอสักครู่จากนั้นเขาก็ลงไปทำแพนเค้กด้วยตัวเองที่ชั้นล่าง
จื่อฉีพูดอย่างมีความสุข "เย่เทียนคนนี้น่าสนใจจริงๆ ฉันอยากรู้จังว่าเขาจะเอาแพนเค้กมาจากไหน”
ฉินเยี่ยนขมวดคิ้ว “เมื่อเช้าฉันเห็นเขาขับรถสามล้อขายเครปอยู่ ฉันว่าที่เขาขายเครปน่าจะเป็นเรื่องจริง”
“ห๊ะ?”
จื่อฉีอึ้ง นี่มันการแสดงประเภทไหนกัน?
เขาทำเงินจากการขายเครปได้ขนาดไหนกัน?
ไม่นานเย่เทียนก็เอาเครปสองชุดมาที่ชั้นบนแล้วส่งให้ฉินเยี่ยนและจื่อฉี “ลองชิมดู ผมไม่รู้ว่าถูกปากของพวกคุณรึเปล่า ผมไม่ได้ใส่พริกลงไป เครื่องปรุงก็ใส่น้อยกว่าปกติ”
จือฉีได้กลิ่นแพนเค้กหอมกรุ่น กัดหนึ่งและพูดชม “ว้าว รสชาติดีจริงๆ! เหล่าฉินคุณลองดูสิมันอร่อยนะ”
“ได้ งั้นฉันจะลองด้วย” ฉินเยี่ยพูดและแอบยิ้มอย่างขมขื่น เขากับจื่อฉีรู้จักกันมาหลายปีแล้วโดยเฉพาะเมื่อเขาอยู่ในเขตอ่าวอิมพีเรียล ดาราชื่อดังคนนี้จะเปิดเผยนิสัยที่แท้จริงของเธอ ไม่ต้องพูดถึงการกินอาหารด้านนอกที่ไม่รู้จักเลยขนาดน้ำเปล่าก็ยังเอาออกมาจากตู้เซฟ
“พ่อ ลูกชายของคุณโทรมา~~”
โทรศัพท์ที่หุ้มด้วยเพชรของฉินเยี่ยนดังขึ้น เสียงเรียกเข้าของเขาไร้สาระมากซึ่งต่างจากมาดประธานเอาแต่ใจของเขา
“ขอโทษ ฉันขอตัวไปรับสายก่อนนะ”
ฉินเยี่ยนหันไปรับสายและในไม่ช้าเขาก็หันหลังกลับแล้วพูด “นี่คือคุณชายผางเหว่ยจากบริษัทผาง เขาก็อาศัยอยู่ในชุมชนของเราเช่นกัน เขาต้องการมาที่นี่ด้วยฉันไม่รู้ว่าคุณเย่ต้องการพบเขาหรือเปล่า”
เย่เทียนยักไหล่และแสดงออกว่ายินดีต้อนรับ
สำหรับผู้ที่สามารถอยู่ในชุมชนนี้ พวกเขาจะต้องทิ้งลักษณะนิสัยชั่วเราของพวกเขาเช่นตระกูล ภูมิหลังและเส้นสายสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญและการได้เพื่อนใหม่มากขึ้นจะเป็นสิ่งที่ดีต่อพวกเขา
หลังจากนั้นไม่นาน แพลตตินั่มของแลมโบกินีก็หยุดที่ประตู
วัตถุทรงกลมที่เดินเซเข้ามาในห้อง นำโดยอากวงไปที่ชั้นสาม
“โอ้ สวัสดี! นี่ไม่ใช่จื่อฉีคนสวยหรอกเหรอ นี่มันเซอร์ไพรส์จริงๆ!” ผางเหว่ยตะโกนอย่างประหลาดเมื่อเห็นจื่อฉี
จื่อฉีกลอกตา “จะไปไหนก็ไป!”
ทั้งสองเป็นคนคุ้นเคยกันมาก
“เย่เทียน ฉันขอแนะนำให้รู้จักผางเหว่ยคนในแวดวงของเราเรียกเขาว่าผาง(อ้วน)เหว่ย ผางเหว่ยนี่คือเย่เทียนและเขาเป็นเจ้าของวิลล่า A1” ฉินเยี่ยนแนะนำ
“สวัสดี”
“สวัสดี สวัสดี! ผมไปเที่ยวมาน่ะเลยพึ่งรู้ แบบนี้แย่เลย...เวรเอ้ย!”
แบบนี้แย่เลย...เวรเอ้ย?
มุมปากของเย่เทียนกระตุก
ผางเหว่ยนั่งยองๆอยู่บนพื้นราวกับภูเขาเนื้อและถือขวดแชมเปญขนาด 30 ลิตรขึ้นมาแล้วตะโกนว่า “ArmanddeBrignacRose! แชมเปญขวดนี้ไม่ใช่ของสะสมของโรงแรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เหรอ? ทำไมมันถึงอยู่ในมือพี่เย่ได้ล่ะ? ฮึ! ไอ้สารเลวเหลียงกวน ครั้งสุดท้ายฉันขอซื้อด้วยราคา 2 ล้านแต่มันกลับไม่ขาย! ถ้าเจอมันอีกครั้งฉันจะด่าให้เละแน่!”
ของสะสมของโรงแรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์?
ฉินเยี่ยนเอามือแตะคาง จิตใจของเขากระสับกระส่ายและท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
โรงแรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เป็นบริษัทย่อยของบริษัทต้าเฟิง เป็นไปได้ไหมว่าเย่เทียนจะเป็นลูกชายของผู้บริหารบริษัทต้าเฟิง?
แต่ความเป็นไปได้นี้ไม่ค่อยสูงนัก บริษัทต้าเฟิงมีความแข็งแกร่งทางการเงินเท่ากับครอบครัวของฉันหรือแย่กว่านั้นเล็กน้อย ผู้บริหารทั่วไปจะสามารถซื้อวิลล่าอิมพี่เรียลA1แห่งนี้ได้ยังไง?
เว้นแต่...!
เขาเป็นลูกชายของผู้ก่อตั้งบริษัท! แต่สกุลของผู้ก่อตั้งบริษัทคือสวี!
ลูกนอกสมรส?
ก็เป็นไปได้!
เย่เทียนไม่รู่ว่าฉินเยี่ยนได้คิดสิ่งต่างๆมากมายจากแชมเปญหนึ่งขวด “ผู้จัดการเหลียงใจกว้างจริงๆ ถึงฉันจะไม่รู้มูลค่าของแชมเปญขวดนี้ แต่เขาก็ยังให้ฉันมา”
ผางเหว่ยกับฉินเยี่ยนถึงกับตัวแข็งค้าง
จือฉีที่เต็มไปด้วยความอยากรู้จึงถามว่า “ทำไมเขาถึงมอบแชมเปญให้คุณล่ะ?”
“ใช่ ทำไมกัน?” ผางเหว่ยเองก็อยากรู้เช่นกัน
“ไม่มีอะไรมากหรอก” เย่เทียนจิบแชมเปญแล้วพูด “ฉันเบื่อๆเลยซื้อหุ้น 51% ของบริษัทต้าเฟิงน่ะ”
แม่มันสิ!
ฉินเยี่ยนขาอ่อนจนเกือบล้ม
สีหน้าผางเหว่ยคืออึ้งจนเกือบพูดไม่ออก “บ้าน่า…ซื้อหุ้น 51% ของบริษัทต้าเฟิงเพราะเบื่อเนี่ยนะ? จริงจังเปล่าเนี่ย?”
บริษัทต้าเฟิงเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไห่จิง มีมูลค่าทางตลาดมากกว่า 6 พันล้าน!
กล่าวอีกนัยหนึ่งพี่ชายเย่มีทรัพย์สินอย่างน้อย 3 พันล้าน!
เย่เทียนเทแชมเปญใส่แก้วทั้งสามคนและพูดอย่างร่าเริงว่า “ฉันไม่สนใจเรื่องเงินหรอก แค่ได้ทำในสิ่งที่ชอบก็พอ”
ฉินเยี่ยนกับผางเหว่ยมองหน้ากันและเห็นความตกใจของกันและกัน
ดูความคิดของเขาสิ!
“ลูกเทียนเรียกเพื่อนๆมาทานอาหารเย็นได้แล้ว” ไม่นานหลังจากนั้น พ่อของเย่เทียนก็ขึ้นไปชั้นบนเพื่อเรียกทุกคนมาทานอาหารเย็น
เย่เทียนพูด “มาเถอะ ไปลองฝีมือของแม่ฉันกัน”
“ได้เลย ยินดีอย่างยิ่ง” ผางเหว่ยทำตัวเป็นคนคุ้นเคยพร้อมตบไหล่ของเย่เทียนแล้วพูด "มาแลกวีแชทกันเถอะพี่เย่ ไว้ว่างๆพวกเราก็ไปเที่ยวด้วยกัน"
“ได้สิ”
คนกลุ่มหนึ่งเดินลงมาข้างล่าง
คุณแม่ได้เตรียมอาหารไว้บนโต๊ะให้แล้ว
ไข่ผัดพริก ซุปซี่โครงหมู ปลากระพง ยำมะเขือเทศ...อาหารหลักคือโจ๊กข้าวฟ่าง
ฉินเยี่ยนยกชามโจ๊กข้าวฟ่างขึ้นและกล่าวชม “คุณลุงคุณป้ากับพี่เย่รู้วิธีใช้ชีวิตจริงๆ รู้วิธีรักษาสุขภาพให้ดี และเข้าใจความจริงว่า'ชีวิตช่างน่าเบื่อ' ผมขอชื่นชมจากใจเลย”
“อ่าาา ไม่ได้กินของอร่อยแบบนี้มาตั้งนาน กินแต่หูฉลามเป๋าฮื้อกับอาหารทะเลทั้งวันจนเดือนนี้เจ็บโรคเกาต์มาสามครั้งแล้ว” ผางเหว่ยพูดขึ้น
เย่เทียนยิ้มและไม่พูดอะไร พ่อกับแม่ของเย่มองหน้ากัน
สองคนนี้มีปัญหาทางจิตหรือเปล่า? คนปกติไม่ได้กินอาหารเย็นแบบนี้เหรอ?
คู่สามีภรรยาสูงอายุไปเดินเล่นในชุมชน คนหนุ่มสาวสี่คนพูดคุยกัน และฉินเยี่ยนแนะนำให้ร้องเพลง
ทั้งผางเหว่ยและจื่อฉีต่างเห็นด้วย ส่วนเย่เทียนก็ตามพวกเขาไปเพราะตอนกลางคืนเขาก็ไม่มีอะไรทำ
เขารู้สึกอายเนื่องจากสถานการณ์ทางครอบครัวของเขา ดังนั้นตั้งแต่เรียนมหาลัยจนถึงตอนนี้เขาเคยเข้าKTVแค่ครั้งเดียว!
ขณะที่คุยกันอยู่ เย่เทียนก็พูดถึงรถของเขา
“เวรเอ้ย เคอนิกเส็กก์เป็นของคุณนี่เอง!” ผางเหว่ยตบเขาต้นขาและหัวเราะอย่างดัง “ฉันก็นึกว่าเป็นของใครสักคนที่โพสต์รูปซะอีก แล้วทำพี่เย่ไม่ขับรถออกมาล่ะ?”
“มีคนนั่งไปนั่งบนกระโปรงรถจนบุบน่ะ ฉันเลยต้องส่งกลับไปซ่อมศูนย์ น่าจะเวลาซ่อมน่าจะเกินครึ่งปี” เย่เทียนรู้สึกหมดหวัง
ฉินเยี่ยนยิ้มด้วยหน้าบูด “นายปล่อยคนทำลายรถแบบนั้นได้ยังไง”
เย่เทียนพูด “ช่างเถอะ มันก็แค่รถฉันไม่สนใจหรอก”
“นายดูไม่ค่อนสนใจเลยนะ ถ้างั้นพอรถเคอนิกเส็กก์ซ่อมเสร็จแล้วฉันขอยืมไปขับเล่นสักสองวันนะ” ผางเหว่ยพูดติดตลก
หลังจากเจอกันไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ยืมรถหรูมูลค่ากว่า 30 ล้านหยวน เรื่องแบบนี้คนที่ทำได้ก็คงจะมีแต่ผางเหว่ยเท่านั้น
“ได้สิ”
เย่เทียนดูเฉยเมยเพราะระบบเป็นผู้ให้รถเขามา ไม่ต้องพูดถึงการยืมเลย ถ้าอยากได้เขาก็ให้ได้ด้วยซ้ำ
“ยอดเลย!” ผางเหว่ยยกนิ้วให้
ทั้งคนสี่คนต่างโทรหาเพื่อนและคนรู้จักขณะที่พวกเขาไปที่ไดมอนด์KTVที่ใหญ่ที่สุดของไห่จิง
ฉินเยี่ยนค่อนข้างดูเป็นผู้ใหญ่ แม้ว่าเขาจะล้อเล่นแต่เขาก็จะไม่ล้ำเส้นและเขาเป็นคนค่อนข้างสุภาพ
ผางเหว่ยพูดอะไรก็ไม่เคยกังวลเพราะคำพูดของเขาล้วนเป็นวาทศิลป์ “ห้องส่วนตัวที่ไดมอนด์KTV! มาให้ไวเลย! เอาดาราหญิงมาด้วย!!! ดาราหญิงน่ะ!!! (คอแตก)”
จื่อฉีชอบความร่วมมือทางธุรกิจมากกว่า "ถ้ามีเวลาก็มาที่ไดมอนด์KTVสิ ฉินเยี่ยนกับผ่างเหว่ยก็มาด้วยแล้วก็มีเพื่อนคนใหม่ของเราเย่เทียน แล้วพวกเราจะรอนะ"
“เย่เทียน นายก็เรียกเพื่อนมาด้วยสักสองสามคนสิ ยิ่งคนเยอะยิ่งสนุก” ฉินเยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ พวกเรามาทำความรู้จักกันเถอะ” อ้วนเว่ยพูด
เย่เทียนหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าออกมาดูผู้ติดต่อสองสามคนในนั้นและส่งข้อความถึงเซี่ยวหรง “ฉันอยู่ที่ห้องส่วนตัวในไดมอนด์KTV ถ้าเธอว่างก็มาร้องเพลงกันหน่อยเถอะแล้วเราจะได้คุยเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราด้วย”