ตอนที่แล้วตอนที่ 5 หมาดูถูกคน! เขาเป็นประธานใหญ่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 รวมเหล่าดาราสาวมา

ตอนที่ 6 ฉันขายแพนเค้กจริงๆนะ


ในห้องจัดเลี้ยงเงียบไปเกือบหนึ่งนาทีเต็ม

เพื่อนร่วมชั้นทั้งชายและหญิงที่เลียแข้งเลียขาเกาจิ้นรู้สึกต้องเสียใจอย่าสุดซึ้งเพราะไปเลียผิดคน!

พวกเขาต่างรีบวิ่งออกไป .เย่เทียน ไม่สิ ประธานเย่รอฉันด้วย!”

“พี่ชาย เรามาคุยกันดีกว่า”

“พี่เย่เทียน~~”

หน้าของเกาจิ้นกลายเป็นสีเขียว ร่างกายของเขาเริ่มสั่น

เย่เทียน?

คนขายเครปกลายเป็นประธานใหญ่?

เขาไม่อยากเชื่อเรื่องนี้แม้ว่าความจริงจะอยู่ตรงหน้าก็ตาม

“เสี่ยวเย่นั่นเธอจะไปไหน?”

เกาจิ้นดึงตู้เสี่ยวเย่กลับมา

ตู้เสี่ยวเย่มองเกาจิ้นอย่างดูถูกและปัดมือทิ้ง “ฉันรู้สึกไม่สบายเลยจะไปห้องน้ำ”

“ผายลมเถอะ! เธอจะไปหาเย่เทียนล่ะสิ!”

“ใช่ ฉันจะไปหาเย่เทียน เขารวยกว่านายตั้งเยอะ ส่วนกระเป๋านี่ฉันคืนให้!!——เย่เทียน รอฉันด้วย! ฉันมีอะไรจะบอกนาย!! นายจำได้ไหมว่าฉันเคยเขียนจดหมายรักให้นายด้วยนะ~~”

“เธอ....เธอ!!”

เกาจิ้นโกรธจนเป็นลมล้มไป

เมื่อเพื่อนร่วมชั้นกลุ่มหนึ่งออกมาถึง เย่เทียนก็จากไปด้วยรถสามล้อ

เหลียงกวน “จุ๊จุ๊...อะไรคือมหาเทพทำตัวติดดิน พวกเขาช่างตาบอดกันซะจริง”

“เอ่อ...พี่ชาย  เย่เทียนรวยขนาดไหนเหรอ?” มีคนถามด้วยเสียงต่ำ

เหลียงกวนเป็นคนๆหนึ่ง หลังจากที่เดาว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องจัดเลี้ยงเมื่อครู่ เขาก็เหลือบมองดูอย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ไอ้พวกสุนัขตาต่ำชอบดูถูกคน ถ้าอยากรู้นักว่าท่านเย่รวยแค่ไหน ทำไมไม่ไปถามเขาเองล่ะ?”

“เอ่อ...” เขาโมโหเพราะหน้าแตกอย่างยับเยิน ——ไอ้เวรเกาจิ้น!

ระหว่างทางกลับบ้านก็มีเสียงดังขึ้น ยางรถสามล้อแตก

สวีเหว่ยเหว่ยก้มหน้าลงด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“เย่...ฉันขอโทษนะ ฉันอ้วนเกินไป”

เย่เทียนหัวเราะ “ยางรถฉันเสื่อมมากแล้ว อย่าไปคิดมากเลย เดี๋ยวฉันไปเรียกรถให้มารับเธอเอง”

เย่เทียนโทรหาพ่อบ้านกวง หลังจากยืนยันตำแหน่งแล้ว สิบนาทีต่อมารถโรลส์รอยซ์ก็มาถึง

พ่อบ้านพูดด้วยความเคารพ “คุณเย่ คุณสวี เชิญขึ้นมาเลยครับ”

เย่เทียนดึงสวีเหว่ยเหว่ยเข้าไปในรถ

ในเวลานี้เย่เทียนไม่รู้ว่าฉากขึ้นรถกับสวีเหว่ยเหว่ยถูกเซียวหรงที่พึ่งออกมาจากธนาคารเห็นเข้า

ดีมาก! เย่เทียน!

ไม่แปลกใจเลยที่นายกล้าพูดแบบนั้น ที่แท้นายก็มาอยู่กับผู้หญิงรวยนี่เอง!

อ้วนขนาดนี้ก็ยังเอา! นี่นายกระหายถึงขั้นไม่เลือกเลยหรือไง?

อย่างที่คิดไว้เลย พวกผู้ชายก็ชอบคิดแต่เรื่องใต้สะดือ!

น่ารังเกียจนัก!

ใบหน้าของเซียวหรงดูไม่ดีนัก ดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย

เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลาหาเรื่องเย่เทียน

บริษัทเซียวกำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่พร้อมกับบริษัทคู่แข่ง "บริษัทผางซือ" ที่สมรู้ร่วมคิดกับธนาคารและปฏิเสธการให้บริษัทเซียวกู้ยืมเงิน หากไม่มีเงินกู้ก้อนนี้ ห่วงโซ่ทุนของบริษัทเซียวจะถูกทำลาย 100% ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือได้เงินเท่าต้นทุนแต่สิ่งนี้อาจส่งผลต่อความแข็งแกร่งของบริษัทเซียวและอาจถึงขั้นต้องถอนตัวออกจากเวทีการค้า!

“ฉันจะไปกู้เงินสองร้อยล้านได้จากที่ไหน...” เซียวหรงหมดแรงอยู่พักหนึ่ง

อ่าวอิมพีเรียล วิลล่าA1

เย่เทียนรู้สึกมีความสุขมากขณะนั่งอยู่ในสนามท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายและดื่มแชมเปญ

สวีเหว่ยเหว่ยยิ้ม “เย่เทียน ฉันไม่คิดว่านายจะเก่งขนาดนี้”

“ไม่มีอะไรมากหรอกฉันแค่โชคดีนะ  เหว่ยเหว่ยเธอมาที่นี่ได้เสมอนะ”

“ถ้านายพูดแบบนั้นฉันจะโกรธแล้วนะ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเข้ามาในวิลล่าที่สวยแบบนี้มาก่อนเลย เดี๋ยวฉันจะมาบ่อยๆแน่! แล้วพอถึงตอนนั้นนายก็อย่ามารำคาญฉันก็แล้วกัน” สวีเหว่ยเหว่ยร่าเริงมากขึ้นมาก ไม่เหมือนกับตอนที่ยู่ในงานเลี้ยงรวมตัวของเพื่อนร่วมชั้น

เย่เทียนหัวเราะ “จะเป็นแบบนั้นได้ไง!”

สวีเหว่ยเหว่ยอยู่ต่ออีกสักพักหนึ่งค่อยจากไป

“ลุงกวงช่วยไปรับพ่อกับแม่ฉันที่หมู่บ้านหยิ่นหลงที” เย่เทียนแทบรอไม่ไหวที่จะให้พ่อแม่ของเขามีความสุขกับชีวิตที่ร่ำรวย

“ได้ครับ”

พ่อบ้านกวงพยักหน้า และเมื่อเขาหันหลังเดินจากไปเขาก็บันทึกคำศัพท์หนึ่งแถวในสมุดจดของเขาเงียบๆว่า “คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักเป็นคนที่กตัญญูต่อพ่อแม่”

ในเวลาต่อมา

พ่อและแม่ของเย่เทียนก็มาที่อ่าวอิมพีเรียลพร้อมกับถุงใบใหญ่และถุงใบเล็ก

เย่เทียนรับสัมภาระจากพ่อแม่ของเขา เขาทั้งร้องไห้และหัวเราะ “ทำไมพ่อกับแม่เอาของมาเยอะแบบนี้ ผมบอกแล้วไงว่าที่นี่เตรียมพร้อมไว้ให้ทุกอย่างแล้ว”

“ไม่ว่าจะมีกี่ชิ้นก็ต้องมีกระเป๋าหนึ่งใบเสมอ แล้วลูกเป็นยังไงบ้าง ลูกพาพวกเรามาที่สวนสัตว์ทำไม” คนชราสองคนไม่รู้จะมองไปทางไหน

ในฐานะที่เป็นชาวนาที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายมาทั้งชีวิต พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าเลี้ยงสัตว์ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่แบบนี้ พวกเขาไม่กลัวโดนขโมยหรือไง?

“ที่นี่เป็นชุมชน ไม่ใช่สวนสัตว์”เย่เทียนยิ้ม

“ไก่สีฟ้านั่นใหญ่จังเลย”

“ถ้าพ่อจำไม่ผิด นั่นน่าจะเป็นนกยูงนะ”

“ห๊ะ! นกยูง!”

“นี่มันม้านิ! แต่ทำไมมันหัวเล็กจัง”

“ม้าแคระครับแม่...”

“ลูกเอ๋ย พ่อว่าคืนนี้เรามากินลูกแกะตัวนี้กันดีกว่า เดี๋ยวคืนนี้พ่อจะจัดการมันให้”

“พ่อครับ ตัวนั้นเรียกว่าอัลปาก้าเป็นสัตว์สวยงาม ปกติเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงไม่ได้เอาไว้กิน...”

“โอ้! มันคือเป็นอัลปาก้านี่เอง!”

อัลปาก้า: ฮี่~ตุ้ย! จะโดนแดรกแล้วไหมล่ะ...

ที่ห้องนั่งเล่น

เย่เทียนโกหกพ่อแม่ของเขา โดยหาเหตุผลมาบอกว่าทำไมเขาถึงได้มาอยู่ที่อ่าวอิมพีเรียล

ส่วนเรื่องระบบเขาคงต้องเก็บเอาไว้ไม่บอกใคร เพราะเขายังไม่อยากโดนพาตัวไปเข้าห้องทดลองทำวิจัย

“เฮ้ย! แกก็กำลังดูบ้านให้เจ้านายอยู่ไม่ใช่เหรอ? แกไม่ควรให้เรามาที่นี่สิ ทำแบบนี้แล้วครอบครัวเราจะไม่มีปัญหาเหรอ?” พ่อของเย่เทียนรู้สึกกังวลเล็กน้อย

“ไม่ต้องห่วง เจ้านายเขาไว้ใจผมมาก พ่อกับแม่อยู่อย่างสบายใจได้เลยถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกลุงกวงเอา เขาเป็นพ่อบ้านของที่นี่ พ่อกับแม่ทำงานหนักมาทั้งชีวิตแล้ว ถึงเวลาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆบ้าง”

เย่เทียนจับมือแม่ของเขาด้วยรอยยิ้มที่สดใส “ถ้าพ่อกับแม่ไม่อยากอยู่เฉยๆก็หาพวกผักมาปลูกก็ได้เพราะที่ลานกว้างพื้นที่ค่อนข้างเยอะอยู่”

“พ่อกับแม่คิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว ปล่อยให้ที่มันว่างแบบนั้นก็น่าเสียดายออก”

“...”

ทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างมีความสุข

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและก็ถึงตอนกลางคืนในพริบตา

พ่อกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นส่วนแม่กำลังเตรียมอาหารเย็นในครัว

ทันใดนั้นกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น

เมื่อเย่เทียนเปิดประตูเขาก็เห็นว่าเป็นฉินเยี่ยนและสาวสวยที่คุ้นเคยซึ่งเขาเห็นในตอนเช้า

“สวัสดีเพื่อนบ้าน”

ฉินเยี่ยนยิ้มและยื่นกล่องของขวัญให้เย่เทียน “นี่เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชุมชนของเรา”

“ฉันก็มีเหมือนกัน” ผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มและยื่นกล่องของขวัญให้

“เข้ามาก่อนสิ”

เย่เทียนเชิญให้ทั้งสองคนเข้ามา และเมื่อเขามองไปที่แผ่นหลังของผู้หญิงคนนั้น เขาก็ตบหน้าผากแล้วพูด “คุณคือจื่อฉีใช่ไหม?”

จื่อฉียิ้มแล้วพูด “ใช่ คุณลุงกับคุณป้าก็อยู่ด้วยเหรอ สวัสดีค่ะคุณลุงกับคุณป้า”

“เอ่อ สวัสดีครับ” พ่อของเย่เทียนรีบดับบุหรี่

“ขึ้นไปคุยกันที่ชั้นบนเถอะ”

เย่เทียนพาผู้มาเยือนทั้งสองขึ้นไปชั้นบน

โดยมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งบนชั้นสาม

ฉินเยี่ยนกล่าว “ครั้งนี้เรามาเพื่อต้อนรับเพื่อนบ้านคนใหม่ ดังนั้นอย่าทำให้คุณเย่ต้องขุ่นเคือง”

เย่เทียนฮัมเพลงและเรียกให้พ่อบ้านกวงนำขวดแชมเปญที่ยังดื่มไม่หมดมาด้วย

“ArmanddeBrignacRose…” ฉินเยี่ยนและจื่อฉีต่างก็เป็นคนที่มีความรู้เรื่องเหล้า เมื่อพวกเขามองหน้ากันพวกเขาก็เทบพูดไม่ออก

สองคนนี้คนหนึ่งเป็นเจ้าของบริษัทและอีกคนเป็นท็อปสตาร์ ทั้งคู่มีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 100 ล้านหยวนแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ต้องลังเลใจถ้าให้พวกเขาดื่มแชมเปญเกือบสองล้านเป็นเครื่องดื่มธรรมดา

นี่คือมหาเทพที่มองไม่เห็น!

ตอนนี้ทั้งคู่ประเมิณเย่เทียนไว้สูงมาก

“ตอนนี้คุณเย่ทำงานอะไรอยู่เหรอ? บางทีพวกเราอาจสามารถร่วมงานกันได้” ฉินเยี่ยนถามพร้อมกับจิบแชมเปญและยิ้มน้อยๆ

ฉินเยี่ยนเป็นคนแบบนี้ เขาไม่มีทางพลาดทุกโอกาสที่สามารถทำธุรกิจได้

“ฉัน...” เย่เทียนคิดอย่างจริงจัง

“งานหลักคือขายเครปหน้าโรงเรียน”

“อั่ก...” จื่อฉีเกือบสำลัก

“เย่เทียน แม้ว่าพวกเราพึ่งพบกันเป็นครั้งแรกแต่คุณสามารถหลอกคนอื่นว่าคุณขายเครปได้ด้วยเหรอ?”

“ธุรกิจหลักของฉันคือขายเครปจริงๆ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวผมทำให้พวกคุณลอง” เย่เทียนพูดอย่างจริงจัง

“เอาสิ ผมก็อยากชิมฝีมือของคุณเย่เหมือนกัน” ฉินเยี่ยนดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม