ตอนที่แล้วตอนที่ 14 : ถูกกักขัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 : เรื่องน่าขำ

ตอนที่ 15 : โฉมหน้าที่แท้จริงของลัลลาบาย


“นายคิดจริงๆเหรอว่าเอริกอร์ที่ไม่แม้แต่จะเอาชนะนัตสึได้ด้วยซ้ำจะจัดการพวกมาสเตอร์ได้?” เควินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพร้อมพูดจาเหยียดหยามความโง่เง่าของอีกฝ่าย

“ฮ่าฮ่า! จริงอยู่ที่คุณเอริกอร์ไม่สามารถเอาชนะพวกตาแก่นั่นได้ แต่ด้วยเวทย์ลมจะทำให้เสียงขลุ่ยนั่นฆ่าเจ้าพวกตาแก่นั่นได้แน่นอน” คาเงยามะไม่สนใจคำพูดของเควินและเลือกที่จะพูดดูถูกพวกเควินแทน

“แกหยุดพูดไร้สาระได้แล้ว!” นัตสึที่ใจร้อนที่สุดในกลุ่มรีบลงมือเป็นคนแรก เปลวเพลิงสีแดงลุกท่วมมือของเขา

“หมัดเหล็กมังกรเพลิง!”

เปลวเพลิงพุ่งโจมตีไปยังอสรพิษเงา แม้ว่าจะไม่สามารถทำลายมันลงได้แต่เควินก็แอบสังเกตุเห็นว่าสีมันจางลงเล็กน้อย

“ไฟไม่ได้งั้นเหรอ?” นัตสึตะโกนออกมาเมื่อเห็นว่าเปลวเพลิงนั้นไร้ผล

“รีบปลดเจ้านี่ซะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่านายทิ้ง!!!” เอลซ่านำดาบไปพาดคอเพื่อข่มขู่อีกฝ่าย

“ฮ่าฮ่าฮ่า! จะรออะไรอยู่ล่ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าหากฉันตายไปอสรพิษเงาพวกนี้จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น!” คาเงยามะไม่แม้แต่จะสนใจคำขู่ของเอลซ่า โดยเอาแต่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

“เพราะแบบนี้เองสินะ นายถึงมั่นใจว่าจะหยุดพวกเราไว้ได้กว่าสิบนาที” เควินด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนเดินไปที่ม่านอสรพิษเงา

“ถึงฉันจะไม่สามารถให้อภัยกับการกระทำของนายได้ แต่ฉันขอนับถือความใจกล้าและความเสียสละของนาย ฉันจะไม่ปล่อยให้นายตายที่นี่ นายควรจะได้โอกาสเรียนรู้และปรับปรุงตัวภายในคุกของสภาจอมเวทย์” ขณะพูดเควินก็หยิบการ์ดใบหนึ่งออกมา

“ปัดเป่าพลังเวทย์!”

การ์ดใบนั้นส่องสว่างขึ้นมา จากนั้นอสรพิษเงาที่กักขังพวกเขาเอาไว้ก็ค่อยๆสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

คาเงยามะได้แต่ตะโกนออกมาด้วยความตกตะลึง “เป็นไปได้ยังไงกัน!”

“ต้องรีบแล้ว!” เควินสั่งให้ทุกคนขึ้นไปบนหลังของมังกรค้างคาว

“จับให้แน่นๆล่ะ” มังกรค้างคาวเริ่มกางปีกและออกบินด้วยความเร็วสูง

“สุดยอด!” เมื่อมองลงมาจากบนท้องฟ้า ลูซี่ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น

“สบายกว่าที่คิดแฮะ” เกรย์เองก็ตื่นเต้นไม่ต่างกัน การได้บินไปบนฟ้าถือเป็นความใฝ่ฝันของหลายๆคน

ความเร็วในการบินของมังกรค้างคาวนั้นรวดเร็วมาก เพียงไม่นานพวกเขาก็ตามเอริกอร์ได้ทัน

อันที่จริงส่วนหนึ่งเป็นเพราะเอริกอร์ได้ต่อสู้กับนัตสึก่อนหน้านี้จึงทำให้พลังเวทย์ของเขาลดต่ำลงมากเลยทำให้บินได้ช้าลงกว่าปกติ แต่อย่างน้อยในตอนนี้เขาก็เกือบจะถึงสถานที่จัดงานประชุมของเหล่ามาสเตอร์แล้ว

“พวกนั้นตามมาทันได้ยังไงกัน? หรือว่าในบรรดาคนพวกนั้นมีคนที่สามารถสลายพลังเวทย์ได้อยู่ด้วยกัน?” เอริกอร์รู้ตัวตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่าตนนั้นไม่สามารถเอาชนะพวกเควินได้ เขาจึงรีบวางขลุ่ยไว้บริเวณริมฝีปากเป็นแนวขวางเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเล่น

“ไม่มีทางให้แกทำได้หรอก!” นัตสึพุ่งลงไปหาเอริกอร์ทันทีด้วยความช่วยเหลือจากแฮปปี้ เขาใช้มังกรสยายปีกจัดการกับเอริกอร์และทำลายขลุ่ยลัลลาบายได้ภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“จบแล้วสินะ” เควินยกมือขึ้นมาเผยให้เห็นอักษรเวทย์ จากนั้นอักษรเวทย์เหล่านั้นก็พุ่งไปมัดตัวเอริกอร์เอาไว้แน่น มังกรค้างคาวบินลงสู่พื้นปล่อยให้ทุกคนปีนลงมาจากหลังมัน

“จบเรื่องแล้วรีบไปรายงานมาสเตอร์กันเถอะ” เอลซ่ามองดูคาเงยามะและเอริกอร์พร้อมถอนหายใจ

“ไม่ต้องหรอก เพราะนัตสึแหกปากนั่นแหละ มาสเตอร์ก็เลยมาหาพวกเราด้วยตัวเองแล้ว”

เมื่อเควินพูดจบ มาคารอฟและเหล่ามาสเตอร์ทั้งหลายก็เดินออกมาจากที่ซ่อน โดยมีมาคารอฟที่ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ

“สมกับเป็นจอมเวทย์จากแฟรี่เทลจริงๆ”

พวกมาสเตอร์ไม่ได้เห็นเอริกอร์อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ พวกเขาเอาแต่เดินเข้ามาสำรวจจอมเวทย์ของแฟรี่เทล

“สุดท้ายแล้วทุกอย่างที่พวกเราทำไปมันก็สูญเปล่าสินะ” คาเงยามะพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าผิดหวัง

“ต่อให้นายทำสำเร็จจริงๆ พวกนายก็จะถูกไล่ล่าจากสมาพันธ์นักเวทย์และกิลด์ของนายก็จะถูกจัดการลงอยู่ดีนั่นแหละ” เควินที่สังเกตุเห็นความผิดหวังของคาเงยามะพูดตอกหน้าอีกฝ่ายไปอย่างไร้ปราณี

“คุคุคุ...จอมเวทย์พวกนี้นี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ สุดท้ายข้าก็ต้องเป็นคนลงมือเองสินะ?”

ทันใดนั้นเองขลุ่ยที่พังแล้วก็มีเสียงดังออกมา ก่อนจะมีม่านควันสีม่วงปกคลุมไปทั่ว จากนั้นปีศาจร่างยักษ์ก็ปรากฎตัวออกมา

“ข้า...จะกินวิญญาณของพวกเจ้าให้หมด!”

มันเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างใหญ่โตที่เนื้อหนังทั่วทั้งร่างของมันเกิดขึ้นมาจากไม้ และด้วยกลิ่นอายเวทย์อันแสนน่ารังเกียจเป็นตัวบ่งบอกอย่างดีว่ามันคือหนึ่งในปีศาจ

“ร่างจริงของมันน่าเกลียดจริงๆ” เควินมองดูร่างกายของมันด้วยสายตาดูถูก

“ใช่เวลาพูดเรื่องนั้นรึไง! นั่นมันปีศาจจากหนังสือของเซเรฟเชียวนะ!” ลูซี่กำลังเกิดอาการหวาดผวาอย่างหนัก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้

“ข้าจะเริ่มกินจากใครดีนะ” เสียงของลัลลาบายดังขึ้นอีกครั้ง “ช่างมันเถอะ กินพวกมันทั้งหมดพร้อมกันไปเลยละกัน!”

มันเริ่มแหกปากส่งเสียงร้องประหลาดออกมา ซึ่งนั่นก็คือโฉมหน้าที่แท้จริงของบทเพลงต้องสาป

“ไม่แปลกเลยที่มันได้ชื่อว่าเป็นบทเพลงต้องสาป ในเมื่อเสียงมันแสลงรูหูได้ขนาดนี้” เควินพูดประชดประชันออกมาอีกครั้ง จากนั้นร่างทั้งสามที่อยู่ข้างๆเขาก็ได้พุ่งออกไปราวกับสายลม

ซึ่งก็คือนัตสึ เกรย์ และเอลซ่า

การโต้กลับอย่างรวดเร็วของทั้งสามได้ขัดจังหวะการโจมตีของลัลลาบายเอาไว้ได้ จนทำให้ตอนนี้ลัลลาบายตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

“นายไม่เข้าไปช่วยเหรอ?” ลูซี่หันไปถามเควินที่ยืนดูอยู่เฉยๆ

“แค่สามคนนั้นก็เหลือแหล่แล้ว หน้าที่ของฉันก็แค่ต้องระวังไม่ให้เจ้าพวกนั้นทำลายเมืองทิ้งต่างหาก”

“เป็นงานที่ฟังดูลำบากจริงๆ”

ถึงเควินจะพูดแบบนั้น แต่มังกรค้างคาวก็ได้บินเข้าไปโจมตีลัลลาบายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งสามแสดงฝีมือออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ภายในเวลาสั้นๆเอลซ่าสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวทั้งหมดของลัลลาบายได้ โดยมีเกรย์คอยสกัดกั้นการโจมตี และทันทีที่มันเผยช่องว่างออกมานัตสึก็ได้โจมตีเพื่อปิดฉากมันทันที

การโจมตีของทั้งสามพุ่งตรงไปยังร่างของลัลลาบาย จนมันล้มและแน่นิ่งไปในที่สุด

“สุดยอดไปเลย! นี่สินะทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของแฟรี่เทล” เมื่อเห็นว่าพวกนัตสึสามารถจัดการปีศาจจากหนังสือของเซเรฟได้อย่างง่ายดาย ใบหน้าของลูซี่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม

***

ลัลลาบายขลุ่ย

ลัลลาบายร่างปีศาจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด