ตอนที่แล้วตอนที่ 4 เรียนรู้เวทมนตร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 การกลับมา

ตอนที่ 5 เวทมนตร์ระดับทองแดง


ตอนที่ 5 เวทมนตร์ระดับทองแดง

ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

[ยินดีด้วย คุณฟิวชั่นเวทมนตร์ระดับเหล็ก เวทย์ละอองน้ำและเวทบอลน้ำสำเร็จ คุณได้รับเวทย์พายุฝน เวทมนตร์ระดับทองแดง]

หลังจากที่ระบบแจ้งเตือนเสร็จวัตสันก็ได้ยกมือขึ้น

แสงสีฟ้าได้มารวมตัวกันที่กำปั้นของเขา ท้ายที่สุดแล้วลูกบอลน้ำที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นก็ได้ปรากฏขึ้น มันเป็นลูกบอลน้ำที่มีมากกว่าร้อยลูก พวกมันปกคลุมห้องใต้หลังคาเอาไว้อย่างแน่นหนา ลูกบอลน้ำแต่ละลูกเปรียบเทียบได้กับเวทลูกบอลน้ำ เวทมนตร์ระดับเหล็กในก่อนหน้านี้ มันเป็นลูกบอลน้ำที่กำลังเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างชั้นเมฆหนาขึ้นมา

วัตสันยืนอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆด้วยความประหลาดใจ

เวทมนตร์ระดับทองแดง พายุฝน: สามารถเรียกเมฆฝนภายในพื้นที่ที่กำหนดได้โดยที่มีขอบเขตสูงสุด 100 ตารางวา

ถ้าหากเวทมนตร์ระดับเหล็กเป็นดั่งพื้นฐานของนักเวทย์ทุกๆ คน เวทมนตร์ระดับทองแดงคงจะนับได้ว่าเป็นเวทมนตร์ระดับสูง นักเวทย์ที่เชี่ยวชาญการใช้เวทมนตร์ประเภทใดประเภทหนึ่งจะยิ่งใช้เวทมนตร์นั้นได้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่งที่เวทมนตร์ระดับเหล็กแตกต่างจากเวทมนตร์ระดับทองแดงอาจจะเกินกว่าหลายสิบเท่าตัว

ยกตัวอย่างเช่นเวทมนตร์ระดับทองแดงอย่างเวทย์พายุฝน ยิ่งผู้ใช้เชี่ยวชาญในการใช้มากขึ้นเท่าไหร่ หยดน้ำที่ตกลงมาก็จะอนุภาคใหญ่ยิ่งขึ้น บางทีผู้ใช้อาจจะเปลี่ยนหยาดฝนให้กลายเป็นลูกบอลน้ำก็เป็นได้ ความรุนแรงที่ลูกบอลน้ำตกกระทบสู่พื้นก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น

วัตสันไม่ได้คาดคิดเลยว่าเวทมนตร์ที่มีจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ ท้ายที่สุดแล้ววัตสันก็ยกเลิกการใช้เวทมนตร์ไป ลูกบอลน้ำที่ลอยอยู่รอบตัวได้ตกลงมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

ตู๊ม!

ลูกบอลน้ำกว่าหลายร้อยลูกได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นน้ำก่อนที่จะไหลไปทั่วพื้น มันได้ทำลายประตูห้องใต้หลังคารวมไปถึงหน้าต่างและผนังที่ทำมาจากโคลน แม้แต่กำแพงไม้เองก็ยังมีรอยแตกร้าว

วัตสันที่ยืนอยู่บนนั้นได้แต่เฝ้าดูเศษซากบ้านที่ถูกทำลายถูกน้ำพัดพาไป แม้แต่ชั้นหนังสือทั้งสองชั้นเองก็ตกลงสู่พื้น แน่นอนว่าหนังสือทุกเล่มเปียกน้ำ และเพราะแบบนั้นจึงทำให้วัตสันตกตะลึงมากกว่าเดิม

เมื่อได้สติอีกครั้งวัตสันจึงรีบเก็บหนังสือทั้งหมดขึ้นมา

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? แผ่นดินไหวอย่างงั้นเหรอ?”

“วันนี้ฝนก็ไม่ได้ตก ทำไมหลังคาถึงรั่วได้?”

เสียงอุทานได้ดังมาจากชั้นล่าง ในตอนนี้คนในครอบครัวเริ่มเดินขึ้นมา เอ็ดเวิร์ดและแคทเธอรีนเป็นผู้ที่กำลังเดินมาถึงโดยที่มีสการ์เล็ต ซีค และซีโน่เดินตามมาจากทางด้านหลัง ทุกคนรีบมุ่งหน้ามายังห้องใต้หลังคาอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือห้องที่ถูกทำลายไปครึ่งห้องและวัตสันที่ยืนอยู่ ห้องใต้หลังคาที่เคยมีบัดนี้มองเห็นท้องฟ้าสีครามได้แล้ว

“นายกำลังอาบน้ำอยู่บนนี้หรอวัตสัน? หรือว่าท่อน้ำระเบิดกัน?” พี่ชายทั้งสองคนถามวัตสันอย่างสับสน

“เอ่อ...” วัตสันยิ้มด้วยความเขินอายก่อนที่จะซ่อนหนังสือเวทมนตร์ไว้ที่ด้านหลัง

เอ็ดเวิร์ดสังเกตเห็นพิรุธของวัตสันได้ นอกจากนี้ตัวเขายังเห็นวงแหวนเวทมนตร์ที่ถูกสลักไว้ที่พื้นอีกด้วย

ดวงตาของเอ็ดเวิร์ดเป็นประกายในทันที

“วัตสัน ลูกแอบเรียนเวทมนตร์อยู่อย่างงั้นเหรอ?”

เรียกเวทมนตร์?

เป็นไปไม่ได้

เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ตกใจยิ่งกว่าเมื่อได้เห็นสภาพห้องใต้หลังคาในตอนนี้

“พวกเราไม่ได้ทดสอบพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของวัตสันมาแล้วเหรอ?” แคทเธอรีนที่เห็นสภาพห้องได้แต่ส่ายหัว

เอ็ดเวิร์ดเอามือตบแก้มของตัวเอง แม้ว่ายากที่จะเชื่อแต่แรงสั่นสะเทือนรวมไปถึงเสียงที่ได้ยินก็ยังดังเกินกว่าที่จะเป็นอุบัติเหตุ

สการ์เล็ตพี่คนที่เจ็ดของวัตสันได้พูดขึ้น “พวกเราเคยทดสอบพรสวรรค์ของวัตสันไปแล้ว การรับรู้ถึงองค์ประกอบเวทมนตร์ที่วัตสันมีอ่อนแอกว่าของฉันซะด้วยซ้ำ! การที่วัตสันจะเรียนรู้เวทมนตร์ได้มันจะต้องยากเกินกว่าจะทำได้แน่”

เอ็ดเวิร์ดเดินตรงไปหาวัตสันโดยที่ไม่สนใจใครก่อนที่จะเช็ดหยดน้ำบนใบหน้าของผู้เป็นลูกชาย เอ็ดเวิร์ดยิ้มให้ก่อนที่จะพูดขึ้น “บอกพ่อมาเถอะ อย่าปิดบังอีกเลย”

เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเลยที่จะปิดบังได้ วัตสันก็ได้ยื่นหนังสือเวทมนตร์ให้เอ็ดเวิร์ดอย่างเขินอาย “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ท่านพ่อเป็นห่วง ตอนที่ผมกำลังศึกษาหนังสือเล่มนี้และได้เรียนรู้เวทมนตร์ระดับเหล็กสองบทอยู่ ในตอนนั้นผมก็เผลอปลดปล่อยพลังออกมาจนต้องเกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้...”

วัตสันกำลังศึกษาการใช้เวทมนตร์อยู่จริงๆ !

เอ็ดเวิร์ดเหลือบมองวัตสันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ตัวเขารู้ดีว่าหนังสือที่ถืออยู่คือหนังสือที่มีเวทมนตร์พื้นฐานบันทึกเอาไว้ แน่นอนว่าเวทมนตร์ระดับเหล็กย่อมไม่อาจสร้างความเสียหายได้มากขนาดนี้ เอ็ดเวิร์ดที่รู้เรื่องทั้งหมดไม่คิดที่จะถามวัตสันต่อ ตัวเขาเลือกที่จะพูดชมเชยแทน

“พระเจ้าเข้าข้างพวกเราแล้ว! พวกเรามีนักเวทย์คนที่สองแล้ว! เอาล่ะวันนี้พวกเราจะต้องเฉลิมฉลอง!”

แม้ว่าเอ็ดเวิร์ดจะไม่รู้ว่าวัตสันผู้ที่ไร้ความสามารถในการใช้เวทมนตร์จะสามารถเรียนรู้การใช้เวทมนตร์ได้ยังไง แต่ถึงแบบนั้นนี่มันก็คือเรื่องดี เอ็ดเวิร์ดไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้เฉลิมฉลอง เดิมทีเอ็ดเวิร์ดไม่ได้คาดหวังว่าลูกคนอื่นๆ จะสามารถสืบทอดตำแหน่งขุนนางที่มีได้ ตัวเขาได้แค่คาดหวังกับลูกคนที่สองมาโดยตลอด แต่ในตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ครอบครัวของเขามีผู้ใช้เวทมนตร์ถึง 2 คนด้วยกัน ตำแหน่งขุนนางที่ตระกูลมีจะต้องได้รับการสืบทอดแน่

การที่ในครอบครัวมีผู้ใช้เวทมนตร์ได้ถึง 2 คนเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การฉลองแล้ว แม้แต่ขุนนางใหญ่หลายครอบครัวเองก็ยังต้องดีใจ

แคทเธอรีนที่รู้แบบนั้นรีบพูดอย่างตื่นเต้น “ซีค ซีโน่ เร็วเข้า! ไปเอาไข่ห้าสีที่เก็บไว้มาเร็ว! พวกเราจะต้องให้วัตสันกินไข่สัก 5 ฟอง ไม่สิ 10 ฟองไปเลย!”

“ครับ ท่านแม่” ซีคและซีโน่หันกลับมาก่อนจะจากไปพร้อมรอยยิ้ม พวกเขามีความสุขมากที่รู้ว่าน้องคนที่แปดคนนี้มีพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์อยู่

สการ์เล็ตเป็นเพียงคนเดียวที่ทำหน้าบึ้ง เธอมักจะเอ็นดูน้องชายคนสุดท้องคนนี้เสมอมา เป็นเพราะทั้งสองคนได้ออกล่าด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นจึงทำให้สการ์เล็ตคิดอยากจะปกป้องน้องคนนี้ในฐานะพี่สาว สการ์เล็ตได้ฝึกฝนอย่างหนักก็เพื่อที่จะได้เป็นนักธนูระดับเหล็ก แต่แล้วจู่ๆ วัตสันก็ได้กลายเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ เป็นนักเวทย์ไป

แล้วเธอจะปกป้องน้องชายคนนี้ได้ยังไงกัน?

สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงต่อมาวัตสันก็ถูกเชิญไปยังโต๊ะอาหาร เบื้องหน้าของเขามีไข่ห้าสีที่ถูกต้มกว่า 10 ฟองวางไว้ เมื่อทุกคนมากันพร้อมหน้าพร้อมตาเอ็ดเวิร์ดก็เริ่มต้นพูด “เอาล่ะกินซะสิ ตอนนี้เป็นเวลาที่ลูกกำลังเติบโต”

แม้ว่าไข่จะอร่อย แต่การกินมากเกินไปก็อาจจะทำให้รู้สึกเบื่อได้

ในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมาวัตสันได้กินไข่จำนวนมากไปจึงทำให้ผลที่ได้รับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในตอนแรกการกินไข่ห้าสีหนึ่งฟองจะสามารถเพิ่มอายุขัยของเขาได้ 1 ปี แต่ในตอนนี้จะต้องใช้ไข่กว่า 10 ฟองเพื่อที่จะได้อายุขัยในเวลาที่เท่ากัน นอกจากนี้การพัฒนาร่างกายเองก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นจนเห็นผล

วัตสันไม่สามารถต้านทานความคาดหวังของผู้เป็นพ่อแม่ได้ ตัวเขาได้แต่หยิบมีดและส้อมของตัวเอง

1 ชั่วโมงต่อมาเมื่อสิ้นสุดมื้อเที่ยงวัตสันก็ได้เดินออกไปยังทุ่งที่เต็มไปด้วยวัชพืช วัตสันต้องกินไข่ 10 ฟองติดต่อกัน แม้ว่าตัวเขาจะสามารถกินไข่ต่อไปได้แต่เอ็ดเวิร์ดก็คงจะไม่ยอมให้ตัวเขาหยุดกินไข่แน่ ทุกคนมีไข่ให้กินเพียงคนละฟองเท่านั้น แม้แต่สการ์เล็ตเองก็ยังปฏิเสธที่จะกินไข่ใบที่ 2

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเอ็ดเวิร์ดก็ได้ขอให้ซีคและซีโน่ขายไข่กว่า 200 ฟองที่เหลือให้กับฟาร์มที่อยู่ใกล้ การหาข้าวสวยหรือเนื้อให้กับวัตสันก็ยังถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ดี ในตอนนี้เอ็ดเวิร์ดพยายามดูแลวัตสันให้ได้มากที่สุด วัตสันเป็นผู้ค้นพบไก่หอมหวนห้าสี แล้วก็ยังกลายเป็นผู้ใช้เวทมนตร์

วัตสันไม่รู้เลยว่าจะพูดกับผู้เป็นพ่อว่ายังไง ในตอนนี้ท้องของเขาได้เกินขีดจำกัดมามากแล้ว และเพราะแบบนั้นวัตสันจึงเลือกที่จะไปเดินเล่นแทน

พื้นที่เพาะปลูกที่มียังคงเป็นทรัพย์สินของครอบครัววัตสัน มันเป็นพื้นที่ที่มีขนาดกว้างถึง 14 เอเคอร์

เป็นเพราะมีคนในครอบครัวไม่กี่คนที่รู้จักวิธีการเพาะปลูก และก็เพราะแบบนั้นพื้นที่ทั้งหมดจึงถูกทิ้งร้างไป วัตสันได้ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตั้งแต่ที่ตัวเขาเรียนรู้การใช้เวทมนตร์ การใช้ระบบฟิวชั่น การเลี้ยงไก่ ตัวเขาก็ควรที่จะใช้พื้นที่เพาะปลูกที่มีฝึกฝนอย่างเหมาะสม เป็นเพราะการฝึกเวทมนตร์คงจะไม่สามารถฝึกที่ห้องใต้หลังคาได้ไปตลอด และเมื่อคิดได้แบบนั้นวัตสันจึงเลือกที่จะทดสอบพลังของเวทมนตร์ระดับทองแดงอีกครั้ง

เมื่อคิดได้แบบนั้นวัตสันจึงกลางแขนออกก่อนที่จะปลดปล่อยพายุฝนไปในทุ่งโล่ง “ต้องสร้างพายุที่รุนแรงกว่านี้!”

ตู๊ม!

เสียงฟ้าร้องดังขึ้น ชั้นเมฆสีดำที่ทอดยาวไปหลายร้อยเมตรได้มารวมตัวกัน ท้องฟ้าที่เคยสดใสมืดลงไปในพริบตา เพียงครู่เดียวเท่านั้นลูกบอลสีฟ้าที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นก็เริ่มโปรยปราย มันตกลงบนพื้นราวกับกระสุนปืนใหญ่ หยดน้ำที่ตกลงมาได้ทิ้งหลุมลึกลงในพื้นดิน

ภาพพายุฝนที่โหมกระหน่ำทำให้ทุกคนที่ผ่านไปมามองเห็นได้อย่างชัดเจน คนงานในฟาร์มที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็ผงกหัวด้วยความประหลาดใจ

“นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น? ดูเหมือนฝนจะตก แต่ทำไมฝนถึงได้ตกแค่ตรงนั้นล่ะ?”

“นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นเม็ดฝนมีขนาดใหญ่แบบนั้น มันอาจจะฆ่าฉันได้เลยก็ได้ถ้าหากมันตกโดนหัวฉัน”

ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย 

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด