ตอนที่แล้วตอนที่ 99 ออสตินปากสั่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 101 ร่วมมือกัน

ตอนที่ 100 เอาจริง


ตอนที่ 100 เอาจริง

ออสตินยกดาบในมือขึ้นมากัน ก่อนจะถอยหลังด้วยความกลัว “พวกเราไม่ได้มีเรื่อง...เรื่องบาดหมางกัน อีกอย่างผมไม่รู้จักคุณ ดังนั้นปล่อย...เออ อย่าพึ่งฆ่าผมเลย พอดีผมกำลังนัดดวลกับไอ้บ้าคนหนึ่งอยู่ ขอผมสั่งสอนเขาก่อนแล้วจะรีบยอมแพ้ออกไปในทันที คุณตกลงไหม”

ออสตินใช้สกิลปากเจรจาในทันที แต่ยิ่งพูดกายก็ยิ่งอึ้งไม่คิดว่าหมอนี่มันจะปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้ กายจึงถามกลับไป

“ก็นายไม่ได้รอฉันอยู่หรือไง”

ออสตินงงกับคำพูดของกาย เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองจะไปรอ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] ทำเพื่ออะไร แต่ในความหลงตัวเองจนปัญญาอ่อนนั้นออสตินก็พอจะฉุกคิดขึ้นมาได้บ้าง

“แก...แกคือไอ้เด็กที่ร้านเกมนั่น เป็น...ไป...ได้ยังไง” ออสตินถึงกับอ้าปากเหวอในทันที และคิดว่าตัวเองบ้าถึงขนาดไปท้าผู้เล่นแนวหน้าอย่าง [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] แถมยังคุยโวโอ้อวดไว้ซะเยอะ ถึงแบบนั้นออสตินกับตื่นเต้นมากกว่าเดิม แต่ยังไม่ทันพูดอะไรมากไปกว่านี้กายก็จัดการลงมือในทันที

“มาเริ่มกันเถอะ”

พูดจบกายก็ควงค้อนสั่นสะเทือนฟาดเข้าไปที่ชายตรงหน้า

“ไม่!!!” ออสตินทำได้เพียงยกมือกันตามสัญชาตญาณ แต่ช่างน่าสงสาร เพราะการโจมตีของกายเร็วเกินไปค้อนฟาดเข้าไปที่กลางอกส่งออสตินลอยละลิ่วไปหลายสิบเมตรพร้อมกับเสียงร้องแหลมราวกับหญิงสาวลากยาวไปสุดทาง

ทำเอาผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงที่กำลังวิ่งมากผวาในเสียงร้องของออสติน

“เชี่ย..เสียงร้องนี่ชวนหลอนหูชะมัด เธอคงเจ็บน่าดู”

“หืม เมื่อกี้ไม่ใช่ผู้เล่นผู้ชายอย่างนั้นเหรอ”

“??”

ผู้เล่นพวกนั้นต่างหันมามองหน้ากัน แต่สุดท้ายก็ไม่สนใจเรื่องนี้ต่อ มันหันมาสู้กับ [ลอร์ดเจ็ดโลหะ] เพราะตอนนี้กองกำลังกะโหลกแดงมาถึงแล้ว

“ฮ่า ๆ ลอร์ดเจ็ดโลหะ เจ้าเตรียมตัวตายได้เลย” เสียงของโคเวิร์ตกะโหลกคลั่งดังขึ้นมา ตอนนี้โคเวิร์ตกำลังขี่ม้ามาพร้อมกับกองกำลังทหารม้าอีก 30 นาย ทั้งหมดใช้ดาบโค้งเป็นอาวุธแบบเดียวกัน แต่การแต่งกายนั้นบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นพวกทหารม้าจากกองกำลังโจร

กายที่ตอนนี้ลงมือจัดการออสตินไป หันไปเจอกับโคเวิร์ตที่กำลังพากองกำลังทหารม้าควบมาทางเขา ด้านหลังยังมีพวกผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงนับร้อย ๆ คน

กายขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัวเมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า แม้ตัวเขาจะแข็งแกร่ง แต่พอเจอแบบนี้มันก็ยากจะรับมือเช่นกัน

ในตอนนั้นเองกองกำลังอีกหนึ่งก็เข้ามาประชิดกายเช่นกัน

“ฮ่า ๆ เจ้าจะยอมเป็นลูกน้องข้า นักเลง 1 ผู้นี้ไหม” เสียงของเฮนริกเจ้าของไอดีที่ใช้ฉายาว่า [นักเลง1] ดังมาแต่ไกล

ทำไมมีแต่พวกบ้าเบอเยอะขนาดนี้ กายคิดในใจอย่างลำคาน

แต่เพราะพวกนักเลงนั้นเคลื่อนที่ช้าเนื่องจากไม่มีม้า นั้นทำให้กายไม่สนใจไปก่อน เขาควบเจ้าหมอกเข้าจัดการกับโคเวิร์ตก่อนในทันที

“เข้ามาสิวะ” โคเวิร์ตเองก็ไม่น้อยหน้า เขาตรงเข้าหากายเช่นกัน

ระยะห่างของทั้งสองหดสั้นลงเรื่อย ๆ 20 เมตร 15 เมตร 10 เมตร 5 เมตร 1 เมตร

“ตาย!” กายหนักของโคเวิร์ตตวัดฟันมาในนอนใส่กาย

“หึ” กายถอนหายใจในลำคออย่างเย้ยหยัน หงายตัวแนบชิดกับหลังของเจ้าหมอกหลบดาบได้อย่างง่ายดาย การหลบของกายทำให้ทั้งโคเวิร์ตและกายพุ่งผ่านกันไป

กายไม่ได้มีเจตนาจะปะทะกับโคเวิร์ตอยู่แล้ว เพราะนี่คือแดนสงครามชนะหนึ่งคนไม่มีความหมายอะไร มันต้องเป็นผู้อยู่รอดคนสุดท้ายตั้งหากถึงจะเรียกว่าชนะจริง ๆ

“ตาย!” กายจับค้อนสั่นสะเทือนทุบเข้าไปที่ทหารม้าของกิลด์กะโหลกแดง

“อ๊าก!!!” ผู้เล่นคนนั้นร้องออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัวเพราะในตอนแรกพวกมันคิดว่าโคเวิร์ตและกายจะสู้กันก่อน พวกตนคอยลอบโจมตี แต่กายผ่านโคเวิร์ตมาได้และไล่ฆ่าพวกเขา

ในเวลาแค่ไม่ถึง 5 วินาทีกายก็จัดการพวกบนหลังม้าไปมากกว่าสิบคนแล้ว ม้าของพวกกิลด์กะโหลกแดงไม่มีทางตามเจ้าหมอกของกายทัน เพราะพวกมันเป็นเพียงม้าระดับ 1 เท่านั้น ถ้าตัวไหนจะตามทันก็มีม้าของโคเวิร์ต

“บัดซบ แน่จริงก็มาสู้กันสิ” โคเวิร์ตตะโกนไล่หลังกาย

ดาบใหญ่ในมือของโคเวิร์ตถูกปาออกไปพุ่งเข้าหาแผ่นหลังของเขา แต่กายก็หันกลับมาใช้ค้อนสั่นสะเทือนฟาดใส่ดาบหนังทื่อ ๆ ของโคเวิร์ตกระเด็นลอยไปเสียบทะลุร่างของกิลด์กะโหลกแดงคนหนึ่งจนตาย

“แก!ไอ้เวรนี่ ตั้งขบวนล้อมมันไว้” โคเวิร์ตสั่งการ ทหารม้าที่เหลือก็วิ่งวนเป็นวงกลมรอบกายและเจ้าหมอก แต่ไม่มีตัวไหนเข้ามาโจมตีกาย ขณะเดียวกันผู้เล่นนับร้อยของกิลด์กะโหลกแดงก็มาล้อมกายไว้

“ซวยละซิ” กายมองไปรอบ ๆ ในตอนนั้นเองก็ปรากฏกองทหารม้าลึกลับปรากฏขึ้นมาอีกหนึ่ง ไม่ใช่ใครแต่เป็นพวกเงาที่เรียนแบบมา มันมีม้ามาด้วยนั้นทำให้ผู้เล่นที่ไม่มีม้าผู้น่าสงสารโดนไล่ฆ่าตายอย่างอนาถ

ทางด้านเดียวกันกลุ่มนักเลงก็เจอกับปัญหานี้เช่นกัน กว่าจะจัดการได้ก็ต้องทำให้ม้าไม่มีพื้นที่เคลื่อนไหว ก่อนจะลุมฆ่าเงาที่ขี่ม้า แน่นอนว่าม้าเองก็เป็นเงาดังนั้นจึงโดนจัดการไปด้วย

“แบบนี้แย่แน่ พวกมันเล่นโกงแบบนี้” เฮนริกบ่นออกมา

“ลูกพี่ทำไมเราไม่เอาม้าพวกนี้มาใช้ละ ไม่ก็ไปขโมยม้าพวกนั้นมา” [นักเลง2] ชี้ไปที่ม้าของกิลกระโหลกแดงที่เจ้าของโดนกายเก็บไปก่อนหน้านั้นแล้ว

“ฮ่า ๆ จริงด้วย ไปเอามาเร็ว แล้วก็ไล่ฆ่าแม่งให้หมดเลย”

....

“แบ่งคนไปสู้กับพวกเงา ที่เหลือฆ่าลอร์ดเจ็ดโลหะ” โคเวิร์ตสั่งการก่อนจะควบม้าวนไปหยิบดาบหนักและพุ่งเข้าหากาย

“ก็เข้ามาสิ” กายและโคเวิร์ตปะทะกันในทันที ดาบสู้กับค้อน แม้แต่คนบ้า ๆ แบบโคเวิร์ตก่อยังต้องตกใจกับการปะทะของดาบและค้อนแต่ละครั้ง มือของโคเวิร์ตแทบจะจับดาบหนักไม่อยู่แล้ว เพราะพลังที่ส่งมาจากค้อนสั่นสะเทือน

แต่ยังดีที่กิลด์กะโหลกแดงมักรอบโจมตีกายอยู่บ่อย ๆ

“ธนูเตรียมพร้อม”

“ยิง!”

ลูกศรจำนวนมากมาจากพวกที่ไม่ได้ขี่ม้าเล็งยิงกายในระยะประชิดมันไม่สนใจว่าจะโดนพวกเดียวกันเองหรือไม่

“เวรเอ๊ย” กายสบถออกมาเพราะตอนนี้เขากำลังได้จังหวะโจมตีช่องโหว่ของโคเวิร์ต แต่ก็ต้องถอยกลับมายกค้อนกันลูกศรที่ยกเข้ามา ซึ่งนั้นไม่ใช่แค่กันให้ตัวเองแต่เป็นเจ้าหมอกด้วย

หลังจากปัดลูกศรได้หมดอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว กายก็เจอกับการโจมตีของเงาพอดี กายใช้ค้อนสั่นสะเทือนรับการโจมตีไม่ต่างจากโล่ ก่อนจะจู่โจมกลับไปเข้าที่ศีรษะของมัน ร่างเงาแหลกสลายตายไปในทันที

“ฆ่ามัน มันจนมุมแล้ว”

พวกผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงร้องตะโกนออกมา โคเวิร์ตก็เข้ารุมล้อมสู้ด้วยเช่นกัน

“หึ ถ้างั้นคงต้องเอาจริงแล้วสินะ” กายกล่าวจบก็หยิบดาบหักสังหารออกมาถือไว้อีกมือหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างถือค้อนสั่นสะเทือนไว้

“ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลัง ขั้น 1”

“ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดความเร็ว ขั้น 1”

โคเวิร์ตและพวกกิลด์กะโหลกแดงสัมผัสได้ว่า บรรยากาศรอบตัวของลอร์ดเจ็ดโลหะเป็นไป แต่ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไรที่เปลี่ยน

“เจ้าหมอกลุย” กายตบเท้าให้เจ้าหมอกวิ่งไป แม้กายจะไม่ได้จับสายบังเหียนคุมมัน แต่คำสั่งง่าย ๆ เจ้าหมอกก็พอเข้าใจ

เจ้าหมอกวิ่งทะยานเข้าหาโคเวิร์ตที่นำหน้าสุดเข้าปะทะกับกาย

“มาสิวะ ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน ขั้น 2” โคเวิร์ตร้องคำราม ฟาดฟันดาบใส่กาย

แต่ก่อนที่เจ้าหมอกจะถึงโคเวิร์ตกายก็กระโดดออกจากม้าและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมกับใช้ศิลปะการต่อสู้ออกมา

“ศิลปะการต่อสู้ ทุบ ขั้น 2”

ค้อนสั่นสะเทือนทุบเข้าม้าของโคเวิร์ตดัง ตู้ม!เสียงกระดูกม้าแตกร้าวดังอย่างต่อเนื่อง แรงของการโจมตีงัดทั้งม้าและคนลอยขึ้นกลางอากาศ

“มันเป็นไปได้ยังไง...” โคเวิร์ตที่ลอยอยู่ไม่อยากจะเชื่อ แต่กายยังไม่หยุดแค่นั้นหลังการโจมตีกายปล่อยมือออกจากค้อนสั่นสะเทือนเพื่อให้เร็วขึ้น ความเร็วของกายยังคงมีอยู่จากศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดความเร็วที่ใช้ไปเมื่อสักครู่

เขากระโดดเข้าหาโคเวิร์ตที่ลอยกลางอากาศจากนั้นก็จับดาบักสังหารสองมือฟันใส่โคเวิร์ต

“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ฟาดฟัน ขั้น 2”

“อ๊ากกก...” โคเวิร์ตร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ก่อนร่างที่โดนฟันขาดท่อนจะหล่นลงพื้นแล้วก็สลายหายไปเป็นลูกไฟ

ตั้งแต่ใช้ศิลปะการต่อสู้ควบม้าเข้าหาและสังหารโคเวิร์ตนั้นใช้เวลาไม่ถึง 3 วินาที การกระทำของกายเสริมภาพลึกลับให้กับตัวตนของลอร์ดเจ็ดโลหะอีกครั้ง นี่คือการเผยศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดให้กับผู้เล่นทั่วไปได้เห็นเป็นครั้งแรก

“มันเกิดอะไร”

“ศิลปะการต่อสู้ ใช่...ต้องใช่แน่ ๆ แต่ไม่ใช่แบบกระบวนท่า”

“ฮ่า ๆ แบบนี้พวกเราจะไปสู้มันได้ยังไง มันโกงชัด ๆ ศิลปะการต่อสู้ที่เสริมร่างกายแบบนี้”

ผู้เล่นหลายคนเริ่มสติหลุด บางคนอิจฉาลอร์ดเจ็ดโลหะที่ได้ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดมาครอง ถ้าพวกเขาได้ไปคงสร้างชื่อเสียงและทำเงินได้มากกมายเช่นกัน

แต่ต่อให้ทุกคนนั้นจะเหม่อลอยไปถึงไหน กายก็ไม่สนใจศัตรูก็คือศัตรู วันนี้กายจะไล่ฆ่าพวกกิลก์กะโหลกแดงอีกครั้ง และในทุ่งหญ้าของโลกราชันกายก็จะไล่ฆ่าเช่นกัน เขาจะทำมันจนกว่าพวกบัดซบจะยอมรับว่า “พวกมันสู้เขาไม่ได้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด