ตอนที่แล้วระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 15 อิ่มแล้วก็ไปได้แล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 17 ลงมือรักษา

ระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 16 มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของมณฑล


ตอนที่ 16 มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของมณฑล

จางเชาสิ้นใจตายภายใต้ฝ่าเท้าของเย่โม่!

ในที่สุด เขาก็ถูกไอ้เด็กยากจนที่ตนเองเฝ้าข่มเหงรังแกมาตลอดกระทืบตายคาตีน!

เย่โม่เริ่มรู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า คนชั่วมีกรรมของตัวเอง คนยากไร้ก็มีกรรมของตัวเองเช่นกัน!

เวลานี้ เย่โม่รู้สึกจิตใจปลอดโปร่งโล่งอกโล่งใจอย่างสุดที่จะพรรณนา อารมณ์ขุ่นมัวในใจพลันอันตรธานหายไปในทันที เขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย ที่ได้ฆ่าคนตายไปถึงสามคนในวันนี้!

หากเรื่องนี้แพร่สะพรัดออกไป แน่นอนว่า มันจะต้องกลายเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีของเมืองนี้เลยทีเดียว!

[บี๊บ! โฮสท์ ได้ปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว - รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้คือคะแนน 8 คะแนน เวลานี้คุณมีคะแนนรวมอยู่ทั้งหมด 11 คะแนน ตามกฏคุณสามารถอัพเกรดขึ้นสู่ระดับสุดยอดปรมาจารย์ได้แล้ว กรุณาอัพเกรดของคุณทันที!]

“เยี่ยมมาก! จัดการอัพเกรดให้ฉันเลย!” เย่โม่เอ่ยตอบกลับไป

[บี๊บ! ระบบได้ทำการอัพเกรดให้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คุณเหลือคะแนนอยู่ 1 คะแนน คุณยังขาดอีก 19 คะแนนสำหรับการอัพเกรดทักษะการแพทย์ให้เข้าสู่ขั้นเหนือธรรมชาติ]

“อืมม… ตอนนี้ฉันฆ่าคนตายไปถึงสามคน ฉันจะต้องถูกตำรวจจับแน่ๆ! แต่ในฐานะลูกผู้ชาย ขอเพียงยังไม่ตาย ยังไงซะฉันก็ต้องหาทางยืนหยัดต่อสู้เพื่อความอยู่รอดให้ได้ อีกอย่าง ตอนนี้ฉันเองก็มีระบบทักษะที่น่าอัศจรรย์นี้อยู่ในร่าง นี่แสดงให้เห็นว่าฉันคือผู้ที่ถูกเหลือกให้ขึ้นไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดบนโลกใบนี้! แล้วฉันจะยอมจบเห่เพราะไอ้สวะสามตัวนี้ได้ยังไงกัน?”

ในระหว่างที่เย่โม่กำลังครุ่นคิดอย่างหนักเพื่อจะหาวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่นั้น เสียงของระบบก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา

[โฮสท์ อย่าได้กังวลใจไป! นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้รับการประเมินความสำเร็จในระดับดีมาก ระบบจะมอบรางวัลพิเศษให้]

“โอ้! รางวัลพิเศษอะไรเหรอ?”

[นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้รับการประเมินความสำเร็จอยู่ในระดับดีมาก ระบบจะให้รางวัลเป็นคุณเป็นพื้นที่ระบบขนาด 2 ลูกบาศก์เมตร]

[วันหน้า หากต้องการเพิ่มขนาดของพื้นที่ระบบ ก็สามารถใช้คะแนนแลกได้ โดย 10 คะแนนจะสามารถเพิ่มขนาดของพื้นที่ระบบได้ 1 ลูกบาศก์เมตร]

“แล้วไอ้พื้นที่ระบบอะไรนี่ มันใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?”

[ชื่อ ‘พื้นที่ระบบ’ ของมันก็บอกความหมายในตัวอยู่แล้ว พื้นที่ระบบเป็นพื้นที่อิสระที่โฮสท์จะสามารถนำติดตัวไปไหนต่อไหนได้ ภายในสามารถบรรจุอะไรก็ได้ โดยที่จะไม่ทำให้ของสิ่งนั้นเสียหาย แต่พื้นที่ระบบจะไม่สามารถใช้เก็บสิ่งมีชีวิตได้!]

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ฉันสามารถเอาศพของไอ้สามตัวนั่นเก็บไว้ในพื้นที่ระบบได้สิใช่มั๊ย? ถ้าอย่างนั้น ตำรวจก็ไม่มีทางสงสัยฉันได้เลยสินะ เพราะไม่มีหลักฐานที่จะสาวมาถึงตัวฉันได้!” เย่โม่ร้องถามทันที

[ถูกต้อง! กระทั่งหยดเลือดบนพื้นดิน พื้นที่ระบบก็จะเก็บเข้าไปพร้อมกับศพด้วย หลังจากนั้น หากโฮสท์มั่นใจว่าไม่ต้องการใช้สิ่งของที่เก็บไว้ในพื้นที่ระบบอีกแล้ว ก็สามารถทำการกำจัดมันทิ้งไปได้ และของสิ่งนั้นก็จะไม่หลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้อีกเลย]

“แล้วจะรออะไรอยู่อีก? รีบๆมอบพื้นที่ระบบให้ฉันเร็วเข้า ฉันจะได้เก็บซากศพของไอ้สามตัวนี่เข้าไปไว้ในนั้น!”

เพียงแค่พริบตาเดียว ทั้งซากศพและรอยคราบเลือดต่างๆบนพื้นดิน ก็ได้อันตรธานหายไปจากบริเวณนั้นทันที เย่โม่สัมผัสได้ว่า ศพของจางเชาและคนอื่นๆได้ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่ในพื้นที่ระบบของเขาแล้ว

“กำจัด!”

เย่โม่เพียงแค่พูดในใจ จากนั้น พื้นที่ระบบของเขาก็กลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง!

หลังจากเดินลงจากเนินเขาหลังโรงเรียนแล้ว เย่โม่ก็ได้ไปหาหวู่ชวงที่บ้าน หลังจากกำชับบางอย่างกับหวู่ชวงสองสามคำ เย่โม่ก็หันหลังเดินจากไปโดยมีหวู่ชวงที่ยืนจ้องมองจนเขาเดินหายลับตาไป

ด้วยพื้นที่ระบบที่เขาครอบครองอยู่นี้ อย่างมากตำรวจก็คงสืบได้เพียงแค่ว่า จางเชาและลูกน้องอีกสองคนของมันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เย่โม่จึงไม่ได้รู้สึกกังวลใจอะไรแม้แต่น้อย

หลังจากที่เดินหาอะไรกินตามร้านข้างทางแล้ว เย่โม่เห็นว่านี่เพิ่งจะบ่ายสองโมงตรงเท่านั้น กลับบ้านไปตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี จึงได้เดินทางไปที่โรงงานผลิตยาของเฟิงกั๋วตง เพื่อตรวจดูความคืบหน้าของการผลิตยาปี่แป่หยกน้ำค้างเสียหน่อย

โรงานกั๋วตงฟาร์ซูติคัลนั้น ตั้งอยู่ในแถบชานเมืองฉางเฟิง เย่โม่จึงได้นั่งรถประจำทางบนถนนหมายเลข 3 ไป และราวยี่สิบนาที่เขาก็มาถึงโรงงาน

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเคยพบเย่โม่มาก่อนหน้านี้สองสามครั้งแล้ว และรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับประธานบริษัท เมื่อเห็นเย่โม่เดินเข้ามา จึงรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูให้เขาเข้ามาทันที โดยไม่ต้องให้ลงทะเบียนให้เสียเวลา

เมื่อมาถึงห้องทำงานส่วนตัวของเฟิงกั๋วตง เย่โม่ก็ยกมือขึ้นเคาะประตู เฟิงกั๋วตงกำลังยืนคุยโทรศัพท์มือถืออยู่พอดี เขาก็เลยเอื้อมมืออีกข้างออกมาเปิดประตูห้อง

ในวินาทีที่เห็นเย่โม่ยืนอยู่ที่หน้าประตูนั้น คิ้วทั้งสองข้างที่ขมวดเข้าหากันแน่นของเฟิงกั๋วตงก็คลายออกจากกันทันที สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายมากขึ้น และรีบกดวางสายพร้อมกับเชื้อเชิญเย่โม่นั่งลงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

เฟิงกั๋วตงนั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างเย่โม่เหมือนเคย หลังจากนั้นก็ได้จัดแจงวางถ้วยชาไว้ตรงหน้าเด็กหนุ่ม ก่อนจะค่อยๆรินชาในกาลงไปในถ้วยให้

“เสี่ยวเย่ มีธุระอะไรถึงได้แวะมาที่นี่?”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีผมว่างๆ ก็เลยแวะมาดูความคืบหน้าในการผลิตยาปี่แป่หยกน้ำค้างซะหน่อย!”

“เอ่อ.. เมื่อครู่ที่ผมเดินเข้ามาในห้อง ดูเหมือนประธานเฟิงจะมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก! ไม่ทราบว่าการผลิตมีปัญหาเหรอครับ?”

“ไม่ใช่หรอก! ตรงกันข้ามเลยล่ะ การผลิตเป็นไปอย่างราบรื่น คาดว่าน่าจะออกสู่ตลาดได้ภายในอาทิตย์หน้าเป็นอย่างช้า!”

เฟิงกั๋วตงร้องบอกพร้อมกับส่ายหน้าไปมา เขาหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่า “พอดีฉันมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย…”

“งั้นเหรอครับ? ไม่ทราบว่าผมพอจะช่วยอะไรประธานเฟิงได้มั๊ยครับ? ลองเล่าให้ผมฟังก็ได้นะครับ ไม่แน่ว่าผมอาจจะช่วยได้!”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเย่โม่ ดวงตาทั้งคู่ของเฟิงกั๋วตงก็เป็นประกายขึ้นมาทันที จากนั้นจึงเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เด็กหนุ่มฟัง

“คืออย่างนี้ พี่เขยของฉันชื่อว่าหวงเจิ้งหมิง เพิ่งจะได้รับการเลื่อนขั้นให้ขึ้นเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองว่านซาน แล้วก็ยังได้คุมสำนักรักษาความมั่นคงที่เมืองนั้นด้วย แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดสโตรกขึ้น…”

“ตอนนี้ได้แต่นอนแน่นิ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเฟริสท์พีเพิลอยู่ในเมืองหลวงประจำมณฑล ตอนนี้ได้แต่นอนแน่นิ่งขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้อยู่ที่ ที่สำคัญ ถ้าเขาไม่สามารถหายได้ภายในครึ่งเดือนนี้ ตำแหน่งที่เพิ่งได้โปรโมทก็จะถูกเปลี่ยนไปให้คนอื่นทำแทน!”

“โรงพยาบาลไหนที่ว่ามีหมอเก่งๆดีๆ พวกเราก็พาไปหาจนหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีหมอคนไหนสามารถรักษาอาการของเขาได้!”

“ตอนนี้พวกเราก็ทำได้เพียงแค่ว่า ปล่อยให้เขานอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลประจำเมืองต่อไปเพื่อคอยเฝ้าสังเกตดูอาการอย่างใกล้ชิด”

“เสี่ยวเย่ เธอพอจะมีสูตรยาอะไรที่จะช่วยพี่เขยของฉันได้บ้างมั๊ย?”

ระหว่างที่พูดประโยคสุดท้ายนั้น เฟิงกั๋วตงก็ได้แต่จ้องมองเย่โม่ด้วยแววตาทีเปี่ยมไปด้วยความหวัง

เย่โม่ได้แต่คิดในใจว่า หากแม้แต่เขายังไม่สามารถรักษาพี่เขยของเฟิงกั๋วตงได้ ก็อย่าหวังว่าหมอคนไหนจะรักษาได้เลย เวลานี้ พี่เขยของเฟิงกั๋วตงเพิ่งจะได้รับตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองว่านซาน และยังควบตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความมั่นคงอีกด้วย แน่นอนว่าย่อมต้องมีอำนาจอิทธิพลอยู่ในมือพอควร หากเขายื่นมือเข้าไปช่วย คนๆนี้อาจจะมีประโยชน์กับเขาในวันข้างหน้า อย่างน้อยก็เรื่องที่เด็กหนุ่มสามคนหายตัวไป ตำรวจอาจจะไม่กล้าสงสัยในตัวเขามากนัก

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เย่โม่จึงได้แต่พยักหน้าและตอบกลับไปว่า

“ผมไม่มีสูตรยาอะไรในตอนนี้ แต่ผมอาจจะช่วยรักษาพี่เขยคุณได้!”

“เยี่ยมเลย! ถ้าอย่างนั้นฉันจะสั่งให้คนขับรถพาเธอไปที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย!”

เฟิงกั๋วตงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ เขาไม่เคยสงสัยในความสามารถของเย่โม่เลย และตอนนี้ก็ยิ่งเชื่อมั่นในสายตาของตนเองยิ่งกว่าเดิม

เฟิงกั๋วตงเชื่อว่า เด็กหนุ่มคนนี้ต้องไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน และการที่เขาเลือกที่จะคบหากับเย่โม่นั้น นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตของเขาเลยทีเดียว!

“ได้ครับ! สองสามวันนี้ผมก็ไม่มีอะไรสำคัญต้องทำด้วย เดี๋ยวผมขอโทรบอกลุงกับป้าก่อนนะครั้ง ทั้งคู่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง!”

จากนั้น เย่โม่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเย่เจี้ยนกัวผู้เป็นลุง แจ้งว่าเขาจะเดินทางไปจัดการเรื่องพิธีการต่างๆเกี่ยวกับการผลิตยาปี่แป่หยกน้ำค้างกับเฟิงกั๋วตงที่ต่างเมืองสักสองสามวัน

ระยะทางระหว่างฉางเฟิงไปโรงพยาบาลในเมืองหลวงนั้นก็ไม่ได้ไกลมาก หากไปโดยรถยนต์ก็เพียงแค่สองชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าไปโดยรถไฟก็ราวสามชั่วโมง

ด้วยเหตุนี้ เฟิงกั๋วตงกับเย่โม่ออกเดินทางราวบ่ายสองครึ่ง ทั้งคู่จึงได้มาถึงโรงพยาบาลเฟิรสท์พีเพิลในราวสี่โมงครึ่งพอดี

--------------------------

ติดตามนิยายแปลสนุกๆอีกหลายเรื่องได้ที่เพจ  : แปลสนุก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด