ตอนที่แล้ว767-768
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป771-772

769-770


3/10

Ep.769

ซูเฉินพูดแบบนั้น หลีกุยหยางก็ปฏิเสธไม่ลง เก็บผลอายุวัฒนะอย่างระมัดระวัง

หลังจากนั้น ซูเฉินนั่งลงบนเก้าอี้คนขับ เปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก]

สิ่งแรกที่เขาทำคือมองไปยังรายการ [คุณสมบัติเลเวล 10 อย่างเต็มรูปแบบ]

หลังจากแลกชิ้นส่วน [คุณสมบัติเลเวล 10 อย่างเต็มรูปแบบ] แล้วรายการในระดับที่สูงกว่าในชื่อ [คุณสมบัติเลเวล 11 อย่างเต็มรูปแบบ] ก็ปรากฏขึ้น

ซึ่งเลเวล 11 ในที่นี้สอดคล้างกับระดับเสมือนเทวะ แต้มพลังงานที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนคือ 15,000 จุด

ปัจจุบันซูเฉินยังเหลือแต้มพลังงานอีกหลายหมื่นจุด มันเพียงพอที่จะแลก [คุณสมบัติเลเวล 11 อย่างเต็มรูปแบบ]

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าต่อให้ขึ้นเป็นเสมือนเทวะ แต่พออยู่ในทวีปใหญ่ ความแข็งแกร่งก็ยังถูกลดลงเหลือขั้น 10 อยู่ดี ดังนั้นในทางปฏิบัติไม่นับว่ามีประโยชน์ใดๆ

เลยคิดว่านำไปแลกเปลี่ยนกับอย่างอื่นก่อนดีกว่า และวิธีที่ช่วยเพิ่มพูนกำลังรบโดยเร็วที่สุด คงต้องนึกถึงชิ้นส่วนที่มีราคา 10,000 แต้มพลังงานเป็นอย่างแรก

ปัจจุบันมี 4 รายการในราคา 10,000 แต้มพลังงานที่ยังไม่แลก ได้แก่ [ค่ายกลอเวจีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุ] , [เมืองแห่งศรัทธา] , [มังกรศักดิ์สิทธิ์ขนเพลิงมายา] และ [ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน]

ซูเฉินตั้งใจจะแลกเปลี่ยนหนึ่งในนั้น ส่วนที่เหลือนำไปซื้อ [โพชั่นกายภาพ] เพิ่มกำลังรบแก่เหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ

เพราะช่วงหลังๆมานี้ คู่ต่อสู้ที่ซูเฉินพบเจอ ส่วนใหญ่มีฐานฝึกตนอยู่ในขั้น 9 ขึ้นไปทั้งสิ้น หากปล่อยให้สัตว์เลี้ยงวิญญาณมีระดับต่ำเกินไป สุดท้ายจะกลายเป็นตัวไร้ประโยชน์ไม่อาจใช้งานได้อีกต่อไป

หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำอะไร พวกมันก็จะกลายเป็นเหมือนกับสามหมาป่ากลายพันธุ์

และนั่นคือสิ่งที่เขาไม่ต้องการจะเห็น

ดังนั้น เรื่องเสริมความแข็งแกร่งเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ ไม่อาจล่าช้าได้

ซูเฉินหันไปมองรายการชิ้นส่วนราคา 10,000 แต้มพลังงาน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายยอมจ่ายหมื่นแต้มเพื่อแลกกับ [ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน]

ส่วนเหตุผลที่เขาแลกเปลี่ยนกับ [ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน] เป็นเรื่องของสัญชาตญาณล้วนๆ

เขารู้สึกว่า [ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน] น่าจะช่วยเขาได้มากที่สุด

หลังจากแลกเปลี่ยนสำเร็จ ข้อมูลตอบกลับก็ถูกถ่ายโอนไปยังสมองของซูเฉิน

[ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน] คือพลังศักดิ์สิทธิ์สายสนับสนุน มันสามารถผลักคู่ต่อสู้ให้จมอยู่ในภาพหลอนเป็นช่วงเวลาสั้นๆ

“ไม่เลวนี่”

มุมปากของซูเฉินยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

[ชีวิตเมามายจมอยู่ในห้วงฝัน] เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์สายสนับสนุน ทว่าบทบาทของมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ลองจินตนาการเอาเถอะ ในตอนที่ฝ่ายตรงข้ามตกอยู่ในอาการมึนงง แม้จะเพียงลมหายใจเดียว เขาก็สามารถฆ่าพวกมันได้ด้วยกระบวนท่าสังหารอันทรงพลัง

ต่อมา เขาตรวจสอบรายการ [โพชั่นกายภาพ]

หลังจากขบคิดอย่างถี่ถ้วน สุดท้ายเขาแลก [โพชั่นกายภาพ เลเวล 8 ] สามขวด และ [โพชั่นกายภาพ เลเวล 9] อีกสามขวด

ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 27,000 แต้มพลังงาน ด้วยผลของน้ำยาเหล่านั้น ได้ช่วยให้ต้นหลิววัชระ , เต่าทรราชปราณฟ้า และหงส์เพลิง เลื่อนเป็นขั้น 8 เรียบร้อย ส่วนด้วงเขมือบทองคำขยับเป็นขั้น 9

สำหรับ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ซูเฉินไม่ได้มอบ [โพชั่นกายภาพ] แก่มัน เพราะเจ้าหมอนี่สามารถยกระดับได้โดยการสูบเลือดขอสัตว์กลายพันธุ์ที่ระดับสูงกว่า เรียกว่าเลื่อนขั้นง่ายกว่าตัวอื่นๆมาก

ซูเฉินวางแผนที่จะจับสัตว์กลายพันธุ์ขั้น 9 แล้วให้มันกลืนกินในอนาคต ด้วยวิธีนี้ ก็จะประหยัด [โพชั่นกายภาพ เลเวล 9 ] ได้ขวดหนึ่ง

ส่วน [โพชั่นกายภาพ เลเวล 9 ] อีกสองขวด เขาเก็บไว้ให้ต้นหลิววัชระและหงส์เพลิง เอาไว้ฐานฝึกตนของพวกมันเสถียรเมื่อไหร่ ค่อยมอบให้เลื่อนระดับอีกที

เนื่องจากแต้มพลังงานสามารถแลกเปลี่ยนได้แค่นี้ เพราะฉะนั้นเรื่องเต่าทรราชเลื่อนเป็นขั้น 9 จึงต้องชะลอออกไป

ในส่วนของโลกันต์เยือกแข็ง กับอัคคีผลาญแปดทิศ สามารถเลื่อนขั้นได้โดยการกลืนกินหินพลังงานและแร่ธาตุระดับสูง ซึ่งปัจจุบันซูเฉินยังไม่มีมัน เอาไว้เจอเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน

หลังจากนั้น  ซูเฉินปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] ใช้ [อัญมณีอัพเกรด] เลื่อนขั้น [นักรบจักรกล] เป็นขั้น 8  และติดตั้งหินพลังงานขั้น 8 ที่เหลือลงไป

4/10

Ep.770

หลังจากนั้น ซูเฉินเปิด [พื้นที่เพาะปลูก] ตรวจดูความคืบหน้าว่าต้นผลจำลองจิตเจริญเติบโตไปถึงไหนแล้ว

เนื่องจากผลจำลองจิตยังขาดอีกหนึ่งลูก เขาเลยให้ความสำคัญกับมันเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาเพิ่งปลูกต้นผลจำลองจิตได้ไม่นาน ดังนั้น แม้จะมีความสามารถในการเร่งความเร็วของ [อุปกรณ์เร่งเวลา] ก็ไม่น่าจะออกผลในระยะเวลาอันสั้น

ซูเฉินมองมันอยู่พักหนึ่ง ก่อนปิด [พื้นที่เพาะปลูก]

ในตอนนั้นเอง หลีกุยหยางได้เดินเข้ามาแล้วถามว่า “ซูเฉิน พวกเราจะออกจากที่นี่เมื่อไหร่”

ด้วยผลอายุวัฒนะที่มี เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับไปยังทวีปมนุษย์

เห็นหลีกุยหยางกังวลมาก ซูเฉินเลยตัดสินใจได้ “งั้นก็ไปกันเลย”

คนอื่นๆเมื่อได้ยินคำนี้ ต่างตื่นเต้นกันมาก

“เสี่ยวจือ เปิดฟังก์ชั่นข้ามเขตแดน ออกไปจากที่นี่”

รอจนทุกคนเตรียมตัวพร้อม ซูเฉินไม่พูดพล่ามทำเพลง ออกคำสั่งโดยตรง

“รับทราบ” [รถศึกอัจฉริยะ] น้อมรับคำสั่ง ทั่วทั้งตัวรถทอประกายสีเงินสว่างไสว ก่อนพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

เมื่อมาถึงความสูงระดับหนึ่งแล้ว จู่ๆมันก็เริ่มพร่ามัว สุดท้ายหายวับไปกลางอากาศ

ซูเฉินและคนอื่นๆรู้สึกว่าโลกหมุน เป็นอาการเดียวกับตอนเปิดใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้าย รอจนความรู้สึกนี้หายไป  เสียงของ [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ดังเข้ามาในหูพวกเขา

“เจ้านาย พวกเราออกจากดินแดนที่ถูกทอดทิ้งเรียบร้อยแล้ว”

“ดีมาก!”

ซูเฉินถอนหายใจ สายตาเขาจ้องมองไปยังหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ออกคำสั่งแก่ [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ ขยายภาพรอบๆให้ที”

เมื่อออกจากดินแดนที่ถูกทอดทิ้งแล้ว ก็เท่ากับว่าเดินทางมาสู่ทวีปอื่น ซูเฉินเลยอยากจะรู้ ว่าเขาเข้าสู่ทวีปใดกันแน่? จะได้เตรียมตัวให้พร้อม

หน้าจอควบคุมส่วนกลางสับเปลี่ยนภาพ ไม่ช้าก็ปรากฏแนวเทือกเขาที่ยาวต่อเนื่อง

ซูเฉินเพ่งมองอย่างตั้งใจ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน เพราะรู้สึกว่าเทือกเขาตรงหน้ามันค่อนข้างคุ้นเคย

นี่มัน … ไม่ใช่ว่าเป็นเทือกเขาฮวงเจ๋อหรอกหรือ?

หากเป็นเทือกเขาฮวงเจ๋อจริงๆ  ไม่ใช่ว่าเขาได้กลับมายังเกาะเฉียนหยูหรอกหรอ? นี่ถือว่ากลับมายังทวีปเผ่ามนุษย์แล้วถูกไหม?

มันจะไม่โชคดีเกินไปหน่อยหรือ?

ซูเฉินเรียกหยางฮ่าวมา แล้วเอ่ยถาม “หยางห่าว นายลองดูทีสิ ว่านี่ใช่เทือกเขาฮวงเจ๋อรึเปล่า?”

หยางห่าวเห็นแค่หางตา ก็ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น “พี่เฉิน ที่นี่คือเทือกเขาฮวงเจ๋อจริงๆ!”

ถึงอย่างไรเขาอาศัยอยู่ในเทือกเขาฮวงเจ๋อมานานกว่าสิบปี ย่อมคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่นี่ มองแวบเดียวก็จดจำได้

ทันทีที่หยางเฉียนกับหยางหลิงเทียนได้ยินคำ ‘เทือกเขาฮวงเจ๋อ’ ทั้งสองตื่นตัว ก้าวออกมาข้างหน้า มองออกไป

หวู่หยางและคนอื่นๆก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน

สถานที่ที่เทือกเขาฮวงเจ๋อตั้งอยู่คือเกาะเฉียนหยู และพวกเขาผูกพันธ์กับที่นี่

หลีกุยหยางกินผลอายุวัฒนะเป็นอย่างแรก แล้วค่อยเอ่ยถามว่า “ซูเฉิน นี่พวกเรากลับมายังทวีปเผ่ามนุษย์แล้วใช่ไหม?”

ซูเฉินพยักหน้า “พวกเราอยู่บนเกาะเฉียนหยู แม้จะเป็นเพียงเกาะ แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในทวีปของเผ่ามนุษย์”

“ที่นี่คือเกาะเฉียนหยูงั้นหรอ อ๊าาา!”

กู่เทียนฮวาและคนอื่นๆเริ่มตื่นเต้น ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยได้ยินว่าบ้านเกิดของซูเฉินคือเกาะเฉียนหยู เลยอยากจะชมเป็นขวัญตามานานแล้ว

“ซูเฉิน พวกเราขอลงไปดูได้ไหม” หยางเฉียนเดินเข้ามาหาซูเฉิน กล่าวเสียงกระซิบ

“แน่นอน ลงไปได้เลย” ซูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นสั่งให้ [รถศึกอัจฉริยะ] เข้าไปในเทือกเขาฮวงเจ๋อ

ซูเฉินยังจำได้ดี ว่าก่อนออกจากเทือกเขา เขาได้ทิ้งต้นขนมปังไว้ข้างในถ้ำ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง นี่เป็นเวลาเหมาะที่จะแวะไปดูพอดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด