ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 เซียวหรง ฉันจะหย่ากับเธอ

ตอนที่ 1 : ลงชื่อเข้าใช้ รับเคอนิกเส็กก์


“เย่เทียน ไปเอาน้ำซุปมา”

“ได้”

“เย่เทียน ไปทำปลาเผามา”

"ได้"

“เย่เทียน ไปเอาข้าวมาซิ”

“ได้”

“เย่เทียน...”

หลังจัดการเรื่องในครัวเสร็จเย่เทียนก็กลับมาที่โต๊ะเพื่อทานอาหารเย็น เขาไม่ไม้แต่จะถอดผ้ากันเปื้อนออกด้วยซ้ำแต่ก่อนที่เขาจะนั่งลงเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองของภรรยาของเขาเซียวหรง

เซียวหรงพูดด้วยความรังเกียจ “อย่าเข้ามานั่งใกล้ฉัน ตัวนายมีแต่กลื่นน้ำมันนายไปนั่งกินข้างๆนู่น”

เย่เทียน “เข้าใจแล้ว”

หลังจากนั้นเย่เทียนก็ไปนั่งยองๆอยู่ที่ประตูพร้อมถือชามข้าวและเริ่มกินหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน

พ่อเซียวหรงประหลาดใจกับสถานการณ์แปลกๆนี้ “หรงหรงรีบไปหย่ากับเขาเถอะ มันจะดีกับตัวลูกและตัวเขาเองด้วย”

เซียวหรงพูดด้วยสีหน้าเศร้า “หนูพูดเรื่องนี้กับเขาหลายครั้งแล้วแต่เขาปฏิเสธ แบบนี้จะให้หนูทำยังไงดีล่ะ เจ้าขยะนี่มันคงตั้งใจพึ่งหนูไปตลอดชีวิต พ่อไม่น่าเอามันมาเป็นลูกเขยตั้งแต่แรกเลย คนไร้ยางอายแบบนี้น่ารังเกียจจริงๆ!”

“เฮ้อ” พ่อเซียวหรงถอนสายตาจากเย่เทียนแล้วถอนหายใจเบา

ปีที่แล้วลูกสาวของเขาเป็นโรคประหลาด เขาไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยจนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับนักพรตเต๋าที่ผ่านเดินทางมา นักพรตเต๋าบอกว่าถ้าเขาต้องการช่วยชีวิตลูกสาวให้เขาหาบุคคลลึกลับมาแต่งงานด้วย ด้วยวิธีนี้จะสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกจากร่างกายของเธอได้

หลังจากหาอยู่นานในที่สุดพ่อเซียวหรงก็เจอเย่เทียนซึ่งเขาพึ่งจบการศึกษาจากมหาลัยและกลับมาที่ไห่จิง พอดี

วิธีของนักพรตคนนั้นได้ผลจริงๆ หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันไม่ถึงสามเดือนโรคแปลกๆของเซียวหรงก็หายไปและเธอก็กลับมาเป็นปกติ

แม้ว่าโรคจะหายเป็นปกติแต่ผลที่ตามมาก็คือเย่เทียน

ไม่ใช่ว่าเย่เทียนไม่ดีแต่ความต่างของครอบครัวทั้งสองฝ่ายมีมากเกินไป

บริษัทของตระกูลเซียวเป็นบริษัทชั้นนำในเมืองไห่จิงซึ่งมีมูลค่าในตลาดมากกว่าหนึ่งพันล้าน ครอบครัวของเย่เทียนเป็นแค่คนยากจนที่มีบ้านเก่าทรุดโทรมในชนบทซึ่งที่ดินยังมีราคาไม่ถึง 50,000 หยวนต่อไร่

หมาพื้นเมืองต่างกับฟีนิกซ์ยังไง?

พ่อเซียวหรงบอกกับเย่เทียนหลายครั้งว่าตราบใดที่เขายอมหย่ากับเซียวหรง เขายินดีที่จะให้เงิน 5 ล้านเป็นของตอบแทน

แต่เย่เทียนเป็นคนดื้อรั้น เขาบอกว่าตัวเองได้รับเงินจากการช่วยขับไล่วิญญาณร้ายไปแล้วจึงไม่ขออีก เมื่อพ่อเซียวหรงถามว่าทำไมเขาถึงไม่หย่ากับเซียวหรง เย่เทียนก็จะยิ้มอย่างเขินอายและเดินจากไปหรือไม่ก็เปลี่ยนเรื่องคุยจากนั้นเรื่องนี้ก็ลากยาวมาหนึ่งปี

“เย่เทียนเองก็ไม่ใช่คนที่รักเงิน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ปล่อยให้ผู้บริหารของบริษัทเลิกจ้างแล้วมาขายเครปผลไม้ทั้งวันแทนหรอก” แม่ของเซียวหรงส่ายหัว เธอไม่เข้าใจเย่เทียนจริงๆ

“หนูไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นยังไง! ยังไงหนูก็จะหย่ากับเขา! ฉันจะรอดูว่านายจะทนได้อีกนานแค่ไหน!”

เซียวหรงวางตะเกียบลงและขึ้นไปชั้นบนด้วยความโกรธ เมื่อเธอมาถึงบันไดเธอตะโกนขึ้น “ล้างจานเสร็จแล้วก็เอาน้ำไปล้างเท้าให้ฉันด้วย”

เย่เทียนพยักหน้า “ได้”

สาวใช้ในบ้านที่กำลังความสะอาดต่างพากันส่ายหัว

ให้ตายยังดีกว่ามีชีวิตอยู่ เป็นผู้ชายถ้าต้องอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีจะอยู่ไปเพื่ออะไร

หลังจากเย่เทียนล้างจานเสร็จเขาก็มาที่ห้องของเซียวหรงพร้อมกับน้ำอุ่น

อย่างที่ได้พูดไว้ก่อนหน้านี้เซียวหรงเป็นแค่ภรรยาในนามของเขา จะให้พูดอีกอย่างคือทั้งคู่ไม่ควรพูดถึงการเป็นสามีภรรยาด้วยซ้ำเพราะขนาดนอนห้องเดียวกันยังไม่ยอมให้จับมือ

“น้ำล้างเท้าพร้อมแล้ว” เย่เทียนยืนรออยู่หน้าประตู

เซียวหรงเคยสั่งไว้ว่าหากเธอไม่ได้สั่งให้เข้ามาก็ห้ามก้าวเข้าไปในห้องเธอเด็ดขาด

“เข้ามา”

เสียงของเซียวหรงไร้ซึ่งอารมณ์

เย่เทียนเข้าไปวางอ่างน้ำไว้ที่เท้าของเซียวหรง

เซียวหรงเหยียดเท้าผิวหยกลงไปในอ่างและตะโกนทันที “เย่เทียน! นายจะให้น้ำลวกเท้าฉันรึไง?!”

ปัก!

เซียวหรงเตะอ่างแช่เท้าอย่างกะทันหัน น้ำอุ่นในอ่างสาดเข้าไปที่หน้าของเย่เทียน

เย่เทียนเช็ดน้ำอุ่นบนหน้า ตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยแต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มทันที

“เป็นความผิดฉันเอง เดี๋ยวฉันไปเอามาให้ใหม่นะ”

“ฉันทำถึงขนาดนี้นายยังไม่โกรธอีกหรอ นี่นายยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?!”

ความคิดของเซียวหรงพังทลายอย่างสมบูรณ์ เธอแทบรอไม่ไหวแล้วที่ตัวเองจะโดนตบสักสองสามครั้งแต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังทำตัวเป็นแป้งให้โดนทุบอยู่ได้

เย่เทียนพึมพำเบาๆ “แน่นอนว่าฉันเป็นผู้ชาย ถ้าเธอไม่ลองแล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ใช่ผู้ชาย…”

“นายว่าอะไรนะ?”

“เปล่า ฉันจะไปปลี่ยนน้ำล้างเท้าให้”

“...”

“ไอ้ขยะ! ไอ้สวะเอ้ย!” เซียวหรงสาปแช่งด้วบความโมโห

เช้าวันต่อมา

ในวิลล่าหลังใหญ่อันกเงียบสงบ เย่เทียนนั่งอยู่ในโกดังซึ่งเดิมทีเป็นที่ถูกทิ้งล้างไว้แต่เขาทำการปรับแต่งมันใหม่ ตอนนี้ที่นี่กลายเป็นห้องนอนสุดพิเศษของเขาแล้ว

เย่เทียนมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว นอกจากตัวเขาเองแล้วไม่มีใครมองเห็นว่าโลกนี้เป็นอย่างไรในสายตาของเขา

ในสายตาเขามีแถบข้อมูลเขียนว่า “ความคืบหน้า 99.99%”

เมื่อปีก่อน

เขาเพิ่งเรียนจบมหาลัยและกังวลเรื่องหางานอยู่ แต่อยู่ดีๆแม่ของเขาก็ป่วยหนักและต้องใช้เงินจำนวนมากในการผ่าตัด เพื่อจะหาค่ารักษาให้แม่เย่เทียนต้องทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนแต่เงินที่เขาได้กลับมีเพียงน้อยนิดซึ่งมันก็ไม่พอ

ในช่วงวิกฤตนี้เขาเหลือบไปเห็นโฆษณาที่เผยแพร่โดยพ่อของเซียวหรงและวันเกิดที่ต้องการในโฆษณานั้นตรงกับเขาทุกประการ

เย่เทียนจึงเข้าไปสมัครงานซึ่งเขาก็ได้งานนั้น

เย่เทียนเข้าไปทำงานอยู่ในบ้านของตระกูลเซียว พ่อของเซียวหรงได้ให้เงินจำนวนมากกับเย่เทียนเพื่อเป็นการตอบแทน

ในที่สุดสุดท้ายการผ่าตัดก็ประสบผลสำเร็จ แม่ของเขาปลอดภัยและร่างกายของเธอกำลังฟื้นตัว

เย่เทียนจดจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้ในใจ

แต่เรื่องที่เขาความไร้เหตุผลของเซียวหรงมาเป็นเวลานานก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ในเดือนที่สามหลังจากแต่งงานกับเซียวหรง เย่เทียนพบว่าเขามี [ระบบที่ใช้งานไม่ได้] อยู่ในหัวของเขา เพื่อเปิดใช้งานระบบนี้เขาต้องอยู่ในฐานะลูกเขยของตระกูลเซียว แต่ถ้าเขาหย่ากับเซียวหรงระบบจะหายไปตลอดกาล

นี่เป็นเหตุผลที่เย่เทียนหัวเราะเยาะการกระอันไร้เหตุผลของเซียวหรง

เขาเป็นผู้ชาย แน่นอนว่าเขาต้องมีศักดิ์ศรี!

แต่เพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้นเขาทำได้แค่อดทน! อดทน! และอดทนเท่านั้น!

“ใกล้ถึงเวลาเปิดใช้งานแล้ว ฉันไม่รู้ว่ามันคือระบบอะไร แต่ในที่สุดวันที่แสนยากลำบากก็จะจบสักที...”

เย่เทียนลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปในกระท่อมที่มีแสงสลัวพร้อมกับปิดประตูอย่างนุ่มนวล...

วันรุ่งขึ้นคนของตระกูลเซียวออกไปทำงานที่บริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ เย่เทียนเตรียมแตงกวา แป้ง งา เหลียงปี่ ฯลฯ ในตอนเช้า จากนั้นขับรถสามล้อที่ดัดแปลงเองไปที่ 'โรงเรียนมัธยมต้นที่สอง' เพื่อขายอาหารเช้า

พ่อของเขาสอนการทำเครปผลไม้ให้กับเขา จากการทำแพนเค้กของเย่เทียนเขาสมควรได้รับตำแหน่งราชาแพนเค้กในโรงเรียนมัธยมต้นที่สอง!

“เถ้าแก่มาอยู่นี่ได้ไง? งั้นผมเอาเครปผลไม้! บะหมี่เย็น! โรตี! แล้วก็เหลียงผีใส่พริก! เอาแบบเพิ่มเส้นด้วยนะ”

เย่เทียนยื่นมือไปบีบหน้าของลูกค้าที่คุ้นเคยของเจ้าอ้วน “กินมื้อเช้าเยอะแบบนี้ เธอไม่เป็นอะไรหรอ?”

นักเรียนอ้วน “ความอยากอาหารของผมค่อนข้างดี เถ้าแก่รีบทำเถอะ”

“ใกล้เสร็จแล้ว”

มือของเย่เทียนทำอย่างคล่องแคล่ว เขาปาดแป้งไปทางซ้ายขวาและระลึกไว้เสมอว่าต้องไม่ทำพลาด

ไม่นานหลังจากนั้น

เมื่อเสียงกริ่งของชั้นเรียนดังขึ้นนักเรียนก็เข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับเครปร้อนๆและงานของเย่เทียนก็จบลง

ในตอนนี้เองก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น —— [ระบบลงชื่อเข้าใช้มหาเทพเปิดใช้งาน ต้องการลงชื่อเข้าใช้หรือไม่?]

“ระบบเปิดใช้งานแล้ว?”

เย่เทียนพูดด้วยความยินดีทันที “ลงชื่อเข้าใช้!”

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับ'เคอนิกเส็กก์']

[เวลาในการลงชื่อเข้าใช้อีกครั้งคือ 23 ชั่วโมง 59 นาที 59 วินาที]

เมื่อเสียงของระบบจบลง เย่เทียนก็รู้สึกว่ากระเป๋าข้างขวาของเขาหนักขึ้น เขาเอื้อมมือไปหยิบมันแล้วพบข้างในเป็นกุญแจที่มีโลโก้ค่อนข้างโดดเด่น แต่เย่เทียนไม่เคยได้ยินชื่อรถยี่ห้อนี้มาก่อน

“แล้วรถอยู่ไหนล่ะ?” เย่เทียนมองไปรอบๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนพูดด้านหน้าเขา

“ว้าว นี่มันรถอะไรเนี่ย ออกไปไหนมาไหนไม่กลัวโดนทุบรถหรือไง?”

“แกตาบอดหรือไง นี่มันเคอนิกเส็กก์ชัดๆ ราคามือสองก็ปาไป 15 ล้านแล้ว! ใครมันจะกล้าไปทุบล่ะ ขืนทุบลงไปได้หมดตัวแน่!”

“ฟัค! ฟัค! ฟัค!”

“ในไห่จิงมีมหาเทพอยู่ด้วยเหรอเนี่ย?!”

เย่เทียนถือกุญแจรถเดินไปตรงที่มีคนมุงดูกัน ในไม่ช้าเขาก็เห็นรถสปอร์ตสีดำที่ดูแปลกตา รูปร่างด้านหน้าและด้านหลังของรถนั้นดูดุดันสุดๆ

ไอคอนบนฝากระโปรงรถเหมือนกับกุญแจในมือของเขา

“นี่คือเคอนิกเส็กก์”

เย่เทียนโน้มตัวลงมา คนใจดีที่เดินผ่านไปมารีบดึงเขาไว้ทันที

“ระหวังหน่อยสิคนขายเครป ต่อให้นายขายบ้านไปก็ไม่มีปัญญาชดใช้หรอกนะ!”

"มองอยู่ห่างๆก็พอ ถ้าไปนายไปทำเป็นลอยคงได้หมดตัวแน่!"

“คนขายแพนเค้กแล้วไง คนขายแพนเค้กมีความฝันไม่ได้รึไง?”

ผู้คนต่างล้อเลียนหัวเราะเยาะเย่เทียนเนื่องจากทุกคนไม่รู้จักเขา

เย่เทียนไม่ได้พูดอะไร เขาแค่เล็งไปที่รถสปอร์ตและกดปุ่มบนกุญแจ

ติ๊ด!

คลึก!

ประตูรถที่เหมือนปีกเปิดขึ้นทั้งสองด้าน ภายใต้การตกตะลึงของผู้คนนับไม่ถ้วน เย่เทียนก็เดินเข้าไปตำแหน่งคนขับและเจอเอกสารอยู่ในถุงพลาสติก

สมแล้วที่เป็นระบบ!

ฮึ่ม!

เสียงของรถสปอร์ตดังขึ้น ฝูงชนจึงกระจายกันออกมาด้วยความประหลาดใจและมองดูรถสปอร์ตสีดำหายไป

“พระเจ้า! เขาไม่ได้ขายเครปเหรอ? ทำไมเขาถึงขับรถสปอร์ตได้ล่ะ!”

“ไม่ใช่แค่ทำลายคนดูแต่ยังทำให้พวกเราใจสลายด้วย! เดี๋ยวนี้คนรวยรุ่นสองชอบเล่นแบบนี้แล้ว?”

“พวกคนรวยนี่...ช่างหาทำจริงๆ!”

ผู้คนยังไม่ฟื้นจากอาการช็อกแต่ก็เห็นเคอนิกเส็กก์ที่หายไปขับกลับมาอีกครั้ง เย่เทียนจอดรถไว้ข้างถนน เขาเปิดท้ายรถแล้วดึงรถสามล้อมาวางไว้หลังรถ . . .

ใส่เข้าไป...

เข้าไป...

เข้าไป...

ไป...

ฮึ่ม! ฮึ่ม! หึ่ง!

รถสปอร์ตลากรถสามล้อขับออกไปอีกครั้ง

“เชี่ยยย!!! อะไรคือมหาเทพ? เขาเอารถสปอร์ตราคา 30 ล้านมาลากรถสามล้อ!”

“เขาต้องเป็นคนที่รวยมากแน่ โลกของเทพคนธรรมดาจะเข้าใจได้ยังไง”

“ไร้สาระ เขาไม่ใช่คนรวยสักหน่อย ไม่งั้นเขาจะขี่สามล้อมาขายเครปทำไม?”

“นี่แหล่ะที่เรียกว่าชีวิตและเรา...ก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป”