ตอนที่แล้วบทที่ 4 การเปลี่ยนแปลงพรสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 ความเร็วเพิ่มขึ้น 3 เท่า 

บทที่ 5 การคัดลอกพรสวรรค์จากสัตว์ร้าย?


"สัตว์ร้าย!!!"

เย่เทียนเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

เขาไม่เคยเห็นสัตว์ร้ายมาก่อน แต่จากข่าวลือสัตว์ร้ายนั้นน่ากลัวอย่างมาก พวกมันสามารถสังหารคนธรรมดาได้อย่างง่ายดาย มีเพียงผู้ฝึกยุทธเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับสัตว์ร้ายได้

ด้านนอกของฐานหลินไห่มีกําแพงเมืองอยู่ แต่บางครั้งกําแพงก็ไม่สามารถต้านทานพวกมัน บ่อยครั้งที่พวกมันลอบบุกเข้าไปในฐานของมนุษย์

คนทั่วไปหากโชคร้ายเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายมีเพียงจุดจบเดียวเท่านั้น นั่นคือความตาย

"ต้องรีบกลับบ้านก่อน!"

เย่เทียนคิดถึงน้องสาวของเขาเย่หยูเป็นอันดับแรก ซึ่งบ้านของเขาอยู่ไม่ไกลจากกำแพงเมืองนัก กําแพงที่บอบบางนั้นไม่สามารถต้านทานสัตว์ร้ายได้ ตอนนี้เขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงน้องสาวของเขามาก

ขณะที่กําลังวิ่ง เย่เทียนเห็นเงาสีเงินสลับขาวที่วิ่งผ่านตรงสุดปลายของถนนอย่างรวดเร็ว คนธรรมดาตกตายในทันทีที่เงาสีเงินนั้นพาดผ่าน

"เร็วมาก!"

เย่เทียนอุทานอย่างตื่นตระหนก

ความเร็วนี้เร็วกว่าการตอบสนองของดวงตาเขาแล้ว นี้เขายังยังคงมองมันจากระยะไกล หากเป็นในระยะประชิด เกรงว่าเขายังไม่เห็นแม้แต่เงาก็ถูกฆ่าโดยสัตว์ร้ายตนนี้แล้ว

"หากเราเผชิญหน้ากับมัน เราต้องตายอย่างแน่นอน!"

เย่เทียนคิด

เขาไม่โง่พอที่จะคิดว่าตนนั้นเป็นตัวเอก หากเจอสถานการณ์เลวร้ายเขาต้องตายอย่างแน่นอน แน่นอนว่าเขาคงไม่โง่พอที่จะไปต่อสู้กับสัตว์ร้ายตนนั้นด้วย

เมื่อเจอสถานการณ์ที่ไม่อาจเอาชนะได้ เช่นนั้นก็หนีโดยเร็วที่สุด!

เย่เทียนไม่ได้โง่ ดังนั้นสิ่งแรกที่เขาคิดคือการหนี

น่าเสียดายที่ความเร็วของเขา ช้ากว่าสัตว์ร้ายมากและดูเหมือนว่าสัตว์ร้ายตนนั้นกําลังพุ่งเข้าหาเย่เทียน

เย่เทียนรู้ว่าสัตว์ร้ายตนนี้ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เขา แต่หากมันพบเขา มันคงจะไม่รังเกียจที่จะประเคนอุ้งเท้าใส่เขาอย่างแน่นอน

"ไอ้เดรัจฉาน กล้าดียังไงฆ่าคนถึงในฐานแห่งนี้!"

นักรบหลายคนรีบพุ่งเข้ามา พร้อมกับชายวัยกลางคนและ ปิดล้อมสัตว์ร้ายไว้อย่างรวดเร็ว

"เยี่ยมเลย นั้นเป็นทีมนักล่าหมาป่าวายุ!"

มีคนตะโกน

ทีมนักล่าหมาป่าวายุ?

เย่เทียนได้ยินชื่อของหน่วยนักล่ากลุ่มนี้บ่อยครั้ง พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมนักล่าที่มีชื่อเสียงในพื้นที่แถบนี้ กัปตันทีมนี้มีฉายาว่าหมาป่าวายุ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นปลาย และในกลุ่มของเขายังมีนักรบระดับต้นหรือระดับกลางอีกสิบกว่าคน

เมื่อเห็นทีมนักล่าหมาป่าวายุมาถึง หลายคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"หลบไปซะ สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ธรรมดา!"

กับตันทีมหมาป่าวายุตะโกนใส่ผู้คนที่มุงดูโดยรอบ

เมื่อถูกกัปตันหมาป่าวายุตะโกนเช่นนี้ หลายคนจึงนึกขึ้นได้ว่าการต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกยุทธและสัตว์ร้ายนั้นไม่ง่ายนัก หากไม่ระวังก็อาจตายด้วยน้ํามือของสัตว์ร้ายได้ แม้แต่นักรบก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน

ถอยไป! !

ทุกคนถอยออกไป เย่เทียนก็ถอยห่างออกไป แต่ก็ไม่ได้ด่วนไปจากที่นี่

เขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าพลังการต่อสู้ของนักรบเป็นอย่างไร

เร็ว ๆ นี้การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น!

กัปตันหมาป่าวายุฟันไปที่สัตว์ร้ายด้วยดาบเดียว แสงจากดาบส่องสว่างจ้าภายใต้แสงยามราตรี เห็นได้ชัดว่าพลังของดาบเล่มนี้ไม่ธรรมดา แผ่นหินบนถนนถูกฟันจนเป็นทางยาวสามเมตรภายใต้คมดาบของกัปตันหมาป่าวายุ

น่าเสียดายที่สัตว์ร้ายตัวนั้นรวดเร็วเกินไป มันหลบการโจมตีนี้ได้

“การโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ แม้แต่แผ่นหินบนถนนที่แข็งกระด้างก็ยังถูกฟันแตกเป็นเสี่ยงๆ หากตัดร่างของมนุษย์ซักคน เกรงว่าจะผ่าคนๆนั้นออกเป็นสองส่วนในพริบตา นี่คือพลังของนักรบอย่างงั้นหรือ?”

เย่เทียนพินิจอย่างตื่นเต้น

นักรบจากหน่วยนักล่าหมาป่าวายุ หยิบอาวุธออกมาและเข้าต่อสู้กับสัตว์ร้ายตนนั้น

ทันใดนั้น

ผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งถูกสัตว์ร้ายตบกระแทกออกไปทันที และทิ้งรอยเลือดขนาดใหญ่ไว้บนหน้าอกของเขา

"เสี่ยวไป๋!"

กัปตันหมาป่าวายุมองอย่างกังวล แต่เขาก็ไม่ได้หยุดตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเสี่ยวไป๋ แต่กลับเข้าโรมรันโจมตีสัตว์ร้ายแทน

แม้ว่าสัตว์ร้ายจะทําร้ายผู้ฝึกยุทธไปคนหนึ่ง แต่ยังมีผู้ฝึกยุทธจํานวนมากที่ล้อมมันไว้ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

"ระวัง เจ้าเดรัจฉานตัวนี้กําลังคิดหนี!"

กัปตันหมาป่าวายุตะโกน

เป็นดั่งที่คาดไว้

เมื่อสัตว์ร้ายเห็นว่ามันกำลังจะเสียท่า มันก็ได้กลายเป็นลําแสงสีเงินพุ่งออกจากวงล้อมและต้องการที่จะหลบหนีออกไป

ในตอนนั้นเอง ลูกธนูดอกหนึ่งก็พุ่งมาจากระยะไกลๆ และยิงเข้าใส่สัตว์ร้ายอย่างจัง

มันหยุดชะงักจากนั้นก็ซวนเซล้มลงบนพื้นถนน และแน่นิ่งไป

"มันคือพังพอนจันทราสีเงิน!"

เย่เทียนพึ่งเห็นร่างมันอย่างชัดเจน

พังพอนสีเงินตัวนี้ยาวกว่าหนึ่งเมตร กรงเล็บแหลมคม ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ

"พังพอนจันทราสีเงินตัวนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากลูกธนู ทุกคนพยายามฆ่ามันให้ได้พวกเราจะได้ไม่ต้องออกไปล่าสัตว์ร้ายเป็นเวลาหนึ่งเดือน!"

กัปตันทีมหมาป่าวายุกล่าวอย่างตื่นเต้น

เห็นได้ชัดว่าพังพอนจันทราสีเงินตัวนี้มีมูลค่ามหาศาล

และมันก็กำลังบาดเจ็บสาหัสซึ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทีมนักล่าหมาป่าวายุ แต่ดูเหมือนว่ามันยังคงไม่ยอมแพ้

ทันใดนั้น

ร่างของมันก็ระเบิดแสงสีเงินออกมา พลังทั่วร่างของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

"ไม่ดีแล้ว มันกำลังกระตุ้นสายเลือดของมันแล้ว!"

กัปตันที่เห็นดังนั้น จึงรีบร้องเตือนคนอื่นๆที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

เกี๊ยววว!!!

ผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งถอยห่างออกไปไม่ทัน จนถูกกรงเล็บของมันโจมตี

แต่ทันใดนั้นพังพอนจันทราสีเงินก็พุ่งเข้าหาฝูงชน

สีหน้าของผู้ฝึกยุทธทุกคนพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาเข้าใจแผนการของพังพอนตนนี้แล้ว!

"พวกแกรีบแยกย้ายกันไปเร็วเข้า !"

กัปตันทีมหมาป่าวายุตะโกนใส่ฝูงชนที่อยู่ไกลออกไป

น่าเสียดายที่ความเร็วของพังพอนนั้นรวดเร็วเกินไป ภายใต้การระเบิดพลังสายเลือดของมัน ความเร็วของมันถูกยกระดับขึ้นอีกขั้น คนธรรมดากลุ่มนี้จะหลบหนีได้อย่างไร

ภายในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจ พังพอนจันทราสีเงินก็พุ่งเข้าไปหาฝูงชน

ไม่มีกระบวนท่าใด ๆ เพียงแค่การพุ่งชนง่ายๆ คนธรรมดาที่ถูกชน ก็กระเด็นออกไปโดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

ทันใดนั้น

ลูกธนูอีกดอกก็ถูกยิงมาจากเสี่ยวเย่วที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด

พรูดด!!!

อีกครั้งที่ลูกธนูพุ่งเข้าไปในร่างของพังพอนจันทร์สีเงิน สร้างบาดแผลเหวอะหวะขนาดใหญ่บนร่างของมัน

พังพอนจันทราสีเงินที่เดิมทีบาดเจ็บสาหัสและใกล้เจียนตายอยู่แล้ว พลังชีวิตของมันค่อยๆจางหายไป

ในเวลานี้หลายคนก็วิ่งหนีไป พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้พังพอนจันทราสีเงิน

แต่ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินไปเข้าไปหาเดรัจฉานตนนี้และลูบผิวของมันอย่างเบามือ

"เจ้าหนุ่ม เจ้ากล้าดียังไงถึงกล้าแตะต้องสัตว์ร้ายของเรา?"

กัปตันทีมหมาป่าวายุเดินเข้ามา และหัวเราะเสียงดัง

"นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นสัตว์ร้าย จึงอดไม่ได้ที่จะลองสัมผัสมัน!" ชายหนุ่มพูดอย่างกระอักกระอ่วน

กัปตันทีมหมาป่าวายุพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

"เจ้าหนู เจ้านี่กล้าหาญไม่เลว ข้าเดาว่าเจ้าคงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้ว อายุเพียงเท่านี้ก็สามารถเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้แล้ว ไม่แน่ว่าอีกไม่นานเจ้าอาจจะกลายเป็นนักสู้เลยก็ได้ เมื่อเจ้ากลายเป็นนักสู้ ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของทีมของเรา! ”

"ขอบคุณครับ กัปตัน!"

ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น

ทีมนักล่าหมาป่าวายุไม่ได้อยู่ต่อนานนัก พวกเขายกศพของพังพอนจันทราสีเงินออกไป

แต่ชายหนุ่มที่พึ่งพูดคุยกับกัปตันทีมหมาป่าวายุ ยังคงยืนอยู่บนถนนและหัวเราะอย่างโง่งม เมื่อคนอื่นเห็นฉากนี้พวกเขาคิดว่าชายหนุ่มคนนี้คงจะเสียสติไปแล้ว

ขั้นนักรบจะทะลวงผ่านได้ง่ายๆขนาดนั้นได้อย่างไร คําพูดของกัปตันทีมหมาป่าวายุเป็นเพียงคําพูดตามมารยาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่ชายหนุ่มหัวเราะไม่ใช่เพราะคําพูดของกัปตันทีมหมาป่าวายุ

แต่เพราะชายหนุ่มคนนี้คือเย่เทียน

"ฮ่าๆ ไม่คิดเลยว่าพรสวรรค์ที่สองที่เราจะคัดลอกมาจากสัตว์ร้าย!"

เย่เทียนพูดกับตนเองอย่างตื่นเต้น