ตอนที่ 30
บทที่ 30 ความสามารถคือทุกอย่าง
การแข่งขันดำเนินต่อไปส่วนใหญ่ลูตันก็ยังไม่ได้ครองบอล แต่ตอนนี้ทุกคนรู้ดีว่าลูตันไม่ได้โฟกัสไปที่การต่อสู้เพื่อแย่งบอล ถึงแม้ว่าจะเป็นฝั่งนอตทิงแฮม ฟอเรสต์ที่ครองบอลอยู่ก็ตาม แต่กระแสของเกมอยู่ในมือของเจ้าบ้านลูตัน
ก่อนจบครึ่งแรก ลูตันมีโอกาสอีกหลายครั้งที่จะทำประตูของน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ถ้าไม่ใช่เพราะผลงานที่โดดเด่นของลี แคมป์ ผู้รักษาประตูฟอเรสต์ สกอร์คงไม่อยู่แค่สองต่อศูนย์
เกาป๋อค่อนข้างพอใจกับฟอร์มของทีมในตอนนี้ พวกเขาเป็นฝ่ายคุมเกม
ครึ่งแรกจบลงรวดเร็วและเจ้าบ้านกำลังนำอยู่สองประตู แฟนๆบนอัฒจันทร์ต่างปรบมือให้กับนักเตะและโค้ชของลูตันแบบไม่มีกั้ก
ในช่วงพักครึ่งเกาป๋อชมผลงานของวาร์ดี้ ในครึ่งแรกและชมผลงานโดยรวมของทั้งทีมด้วย พวกเขาทำตามที่ฝึกได้อย่างสมบูรณ์แบบ แนวรับแน่น รักษาวินัยได้ดี และความเร็วในการสวนกลับก็สุดยอด ประสิทธิภาพโดยรวมค่อนข้างสูงและเกาป๋อไม่มีอะไรจะเสริม ทีมที่กำลังจะชนะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบการเล่น ดังนั้นเขาขอแค่ให้ทีมเล่นให้ได้แบบครึ่งแรก
แต่ในห้องแต่งตัวอีกห้องหนึ่ง บรรยากาศกลับเป็นอีกอย่าง
บิลลี่ เดวิสเดือดจัดในเวลานี้ เขาได้ระบายความโกรธที่สะสมในครึ่งแรกลงกับนักเตะในทีมฟอเรสต์ ในห้องล็อกเกอร์ นักเตะเกือบจะทุกคนถูกเขาดุ...
ในฐานะทีมระดับแชมป์เปี้ยนชิฟของอังกฤษ เขารู้สึกขายหน้ามากที่มาโดนทีมจากลีกทูจัดการแบบนี้ บิลลี่ เดวิสทนดูการแข่งขันที่เสียเปรียบมานานแล้ว
เข้าไม่ได้คิดว่าทีมลูตันเก่งซักเท่าไหร่ แม้ว่าวาร์ดี้จะเร็วและคว้าโอกาสเอาไว้ได้ กองกลางอย่างก็องเต้และดริงค์วอเตอร์ก็เก่งทั้งเกมรุกและเกมรับ แต่บิลลี่ เดวิสก็เชื่อว่าที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้มันเป็นเพราะว่าทีมของเขาไม่ได้ตั้งใจและประมาทศัตรูเกินไป!
ทีมจากลีกทู ที่ขายตัวหลักไปเยอะขนาดนั้นจะเก่งได้แค่ไหนกัน?
บิลลี่ เดวิสเชื่อว่าทีมฟอเรสต์เก่งกว่าทีมลูตันเยอะ แต่ฟอร์มของนักเตะในสนามเป็นตัวกำหนดทิศทางของการแข่งขัน ดังนั้นเขาจึงต้องดุใส่นักเตะของน็อตติ้งแฮมให้พวกเขาตื่นตัวขึ้น
แม้น็อตติ้งแฮมจะไม่ใช่ทีมที่ผงาดโดดเด่นในยุโรปมานานแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ทีมรองบ่อนที่อ่อนแอ นับประสาอะไรเมื่อเทียบกับทีมที่อยู่ต่ำกว่าพวกเขาถึงสองลีก!
แฟนบอลที่บ้าคลั่งก็ได้พักบ้างหลังจากคึกคักมานาน
แฟนบอลใช้ประโยชน์จากเวลาพักครึ่งเพื่อที่จะลุยต่ออีกครั้งในครึ่งหลัง
รอยนั่งอยู่ในบูธสื่อ เธอกำลังกำลังพยายามจะเขียนข่าว
แม้ว่าเธอจะโกรธและไม่ชอบเกาป๋อ แต่ด้วยจรรยาบรรณของเธอในฐานะสื่อมืออาชีพเธอก็ยังคงเขียนข่าวตามความจริง
“….เริ่มเกมมาดูเหมือนว่าลูตันจะถูกฟอเรสต์บุกใส่อย่างหนัก แต่ช่วงครึ่งแรกเวลาประมาณนาทีที่ 30 ทีมลูตันก็เปลี่ยนไปพวกเขาพุ่งเข้าไปแย่งบอลและสวนกลับเร็ว หากคุณได้ดูเกมแรกล่ะก็ คุณจะเห็นว่าลูตันมักจะทำประตูด้วยแทคติกนี้ ด้วยรูปแบบการป้องกันที่แน่นหนา จนเกมบุกของฝั่งศัตรูเจาะไม่เข้า หลังจากนั้นก็แย่งบอลมา แล้วใช้เกมสวนกลับที่รวดเร็วของลูตัน การจ่ายบอลแค่ไม่กี่จังหวะจนทะลุไปยังโซนอันตรายของอีกฝั่ง แถมพวกเขายังมีสองกองหน้าอย่างวาร์ดี้และชาร์ลี ออสติน ทักษะการยิงของวาร์ดี้นั้นสุดยอดมากและไลน์การวิ่งของชาร์ลี ออสตินก็ยอดเยี่ยม การประสานงานของทั้งคู่นั้นสุดยอดมาก และที่สำคัญกองหน้าสองคนนี้ยังมีส่วนร่วมในเกมรับ และไม่มีใครในลูตันที่ไม่เล่นเกมรับ”
"...จากสองเกมที่ผ่านมา การเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมของเกาป๋อประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก”
รอยปิดสมุดบันทึก
กลุ่มลูกค้าหลักของ "Hat Seller" ที่เธอทำงานอยู่ส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองของลูตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนบอลของลูตัน ดังนั้นข่าวเกี่ยวกับทีมของลูตันจึงสำคัญมากสำหรับสำนักพิมพ์นี้
ถึงแม้จะไม่อยากยอมรับ แต่เกาป๋อก็เป็นโค้ชที่มีความสามารถจริงๆ
การคิดแบบนี้มันทำให้รอยรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย
ทำไมพรสวรรค์ถึงอยู่กับคนแบบนี้!
"ไอ้ลามก!!!"
เมื่อคิดถึงตอนที่เกาป๋อจ้องมาที่หน้าอกของเธอก็ทำให้เธอรู้สึกโมโหมาก
“คุณรอย คุณเป็นอะไรน่ะ!”
เกาป๋อออกมาจากห้องล็อกเกอร์ก่อนจะหมดเวลาพัก หลังจากติวนักเตะแค่แปปเดียวเขาก็เดินออกมา
รอยหันหน้าไปมองและเห็นเกาป๋อเดินออกมาจากห้อง
“คุณเกาป๋อ ช่วงพักครึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับโค้ช” รอยพยายามหันหน้าหลบเธอไม่อยากมองหน้าเกาป๋อ
“นั่นมันสำหรับคนอื่น ไม่ใช่ผม…” เกาป๋อยักไหล่
ที่นั่งสำหรับสื่ออยู่ถัดจากอุโมงค์ทางเดินนักเตะ และรอยนั่งอยู่ตรงนั้นขณะที่รอยกำลังจะนั่งเกาป๋อก็เดินผ่านทางเดินนักเตะที่อยู่ใกล้ๆกับรอย
รอยรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อเธอหันหน้าไปเจอกับใบหน้าของเกาป๋อใกล้ๆ
โอ้…เขาก็ดูหล่อดี...
ก่อนที่รอยจะตั้งสติกลับมาได้เกาป๋อก็หันหลังกลับไปแล้ง
“เพราะผมเป็นโค้ชจอมโกหก คุณรอย!”
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของเกาป๋อ เธอที่พึ่งจะได้สติกลับมา เวลานั้นเองเสียงของโฆษกในสนามก็ดังขึ้นมา
“เหล่าแฟนบอลลูตันทั้งหลาย!! ครึ่งหลังกำลังจะเริ่มแล้ว!!! เอาล่ะ พวกเรามาต้อนรับฮีโร่ของลูตันกลับสู่สนามกันเถอะ!!!”
มีเสียงดังขึ้นมาทำให้รอยได้แต่มองตามหลังเกาป๋อที่ค่อยๆก้าวเท้าเดินไกลออกไปเรื่อยๆ
ในช่วงครึ่งหลังของเกม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เปิดเกมรุกอย่างหนักทันทีที่เริ่ม แต่ลูตันก็ใช้การสวนกลับทำลายเกมบุกของน็อตติ้งแฮมในทันที
คราวนี้เป็นชาร์ลี ออสตินที่ทำประตูได้
ดริงค์วอเตอร์จ่ายบอลยาวไปด้านข้าง และลูอิส เอ็มมานูเอลก็เปิดบอลจากด้านข้างให้ชาร์ลี ออสติน โหม่งตรงกลางเขตโทษทำเพิ่มเป็นสามประตูต่อศูนย์! !
“น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แพ้แล้วจริงๆ ลูตันเป็นทีมที่มหัศจรรย์มาก สถิติของพวกเขาทำให้แฟนๆต่างอึ้ง น็อตติ้งแฮมยิงไปสามครั้งตรงกรอบศูนย์แต่ทางฝั่งลูตันยิงสามครั้งตรงกรอบหมดและเป็นสามประตู วันนี้พวกเขายิงได้ดีมากๆ” นักวิจารณ์อุทาน
เกาป๋อไม่ได้ตื่นเต้นกับลูกที่สามเท่าไหร่ เขาลุกขึ้นยืนปรบมือ แล้วก็นั่งลง
สุดท้ายสกอร์ก็จบลงที่ 3-0 ฝ่ายลูตันเจ้าบ้านเอาชนะน็อตติ้งแฮมฟอเรส และผ่านเข้าสู่รอบที่สองของลีกคัพ!
เมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกม เกาป๋อเดินไปยังม้านั่งฝั่งน็อตติ้งแฮทด้วยรอยยิ้ม ทางฝั่งบิลลี่มีสีหน้าบูดบึ้งและทำท่าไม่อยาดจับมือกับเกาป๋อก่อนจะรีบเข้าไปในห้องแต่งตัว
นักเตะของน็อตติ้งแฮมคงจะไม่ได้พักอย่างสบายๆแน่นอน
เกาป๋อและนักเตะเดินอยู่ในสนามเพื่อฉลองชัยชนะ
ชัยชนะสองนัดติดต่อกันตอนเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ทำให้เกาป๋อมั่นใจในแทคติกของเขา