ตอนที่ 18 ในวันที่คนรักมากที่สุดแต่งงาน!
ตอนที่ 18 ในวันที่คนรักมากที่สุดแต่งงาน!
หูเล่ย มีการแสดงออกที่ขมขื่นมากเมื่อเขาเล่ามาถึง ณ จุดนี้!
เขาส่ายหัวเบา ๆ ราวกับว่าเขาต้องการบังคับตัวเองไม่ให้จมอยู่กับความรู้สึกในอดีต!
กงหมิงเฟยที่กำลังฟังหูเล่ยเล่าเรื่องอยู่อย่างเงียบ ๆ ได้แอบเปิดทักษะในการชักนำอารมณ์เอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว!
ในขณะนี้ตัวเขานั้นมีความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเขาเองเป็นหูเล่ย เขากำลังดิ้นรนต่อสู้ทำงานอย่างหนักกับแฟนสาวของเขาในเมืองใหญ่ และในที่สุดก็เลิกกันเพราะความไม่เข้าใจ!
เมื่อเส้นทางของเขาได้ก้าวมาถึงความฝันที่ควรจะเป็นแล้ว เขากลับได้รับการ์ดเชิญให้เข้าร่วมงานแต่งงานของเธอ!
หูเล่ย สูดหายใจเข้าลึก ๆ และเริ่มเล่าเรื่องต่อไป
ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเขาเห็นรอยยิ้มของเธอ เห็นเธอหัวเราะและร้องไห้ เคยเห็นทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ตำแหน่งของไฝเม็ดเล็กๆ บนแผ่นหลังของเธอเขาก็ยังจดจำมันได้และรู้ว่ามันมีจำนวนมากน้อยเท่าใด! แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่เคยเห็นนั่นก็คือ เห็นเธอในชุดงานแต่งงาน!
น้ำเสียงของหูเล่ยเริ่มจะผันผวน ดวงตาของเขาเริ่มเปียกชื้นและน้ำมูกก็เริ่มไหลออกมาเล็กน้อย!
เมื่อเขามองดูอดีตแฟนสาวของเขาในชุดงานแต่งงาน และเห็นพ่อของเธอจูงมือเธอไปส่งมอบให้แก่เจ้าบ่าวที่หน้าเวทีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หัวใจของเขาก็คล้ายกับว่ากำลังถูกมือยักษ์บดขยี้จนแหลกละเอียด!
กลุ่มเพื่อนๆของเธอหลายคนรู้จักกับเขา แต่ในงานแต่งงานวันนี้ไม่มีใครเข้ามาพูดคุยกับเขาแม้แต่คำเดียว!
เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเริ่มดื่มฉลองการแต่งงานของพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มเดินไปตามโต๊ะต่างๆเพื่อดื่มและแสดงความขอบคุณ!
และเมื่อทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเดินมาถึงโต๊ะของเขา มีความคิดเดียวสำหรับเขาเพียงเท่านั้น นั่นก็คือเขาอยากจะฉุดลากดึงเธอออกมาจากมือของเจ้าบ่าว แล้วพาเธอหนีไปให้ไกลจากสถานที่แห่งนี้!
ในตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น! เขาแค่อยากให้เธอกลับมา! หลังจากที่เขาฟื้นคืนสติจากห้วงความคิดของเขาแล้ว! เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็เดินไปกล่าวคำขอบคุณและดื่มรับคำอวยพรจากแขกที่มาร่วมงานโต๊ะอื่นแล้ว
วันนี้เป็นวันแรกที่เขาเมามายมากถึงขนาดนี้! นับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาทำงานในเมืองหลวง ต่อให้เขาดื่มกับกลุ่มลูกค้าหรือสังสรรค์ในเชิงธุรกิจ เขาก็จะตื่นตัวมากและดื่มแค่พอรู้สึกมึนเมาเล็กน้อยเพียงเท่านั้น
เฉพาะในวันนี้เท่านั้นที่เขาทําตามใจตัวเอง โดยการดื่มอย่างมึนเมาอย่างเต็มที่ ท่ามกลางคนที่ไม่รู้จัก บางครั้งก็หลับตาลงฟังเสียงดนตรีเบาๆ ในงานแต่งงาน บางครั้งก็ลืมตามองแก้วไวน์ที่อยู่ในมือและยกมันขึ้นดื่มราวกับว่านี่คือน้ำอมฤตที่สามารถชะล้างความเจ็บปวดออกจากหัวใจของเขาได้!
เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็เป็นช่วงเวลาบ่ายของวันถัดไปแล้ว เขาถูกคนขับรถส่วนตัวของเขาพากลับมานอนที่บ้านหลังใหญ่ที่เขาซื้อไว้ในเมืองเซี่ยงไฮ้!
เมื่อเรื่องเล่ามาถึงในตอนนี้ รอยยิ้มของชายอ้วนวัยกลางคนที่ดูใจดีได้จางหายไป! เขาถอดแว่นตาและบีบจมูกด้วยมือขวา แม้ว่าเขาจะก้มหน้าลงเล็กน้อยแต่ทุกคนในห้องถ่ายทอดสดก็ยังสามารถสังเกตเห็นหยดน้ำตาเล็กๆที่ไหลออกมาจากหางตาของเขาได้
ไหล่ที่ค่อนข้างหนาของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย เสียงลมหายใจที่กระชั้นถี่แสดงออกถึงความผันผวนในอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี!
หูเล่ย สูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง เพื่อปรับอารมณ์ของเขาแล้วพูดว่า "ต่อมาหลังจากนั้นไม่ถึงปีผมก็แต่งงาน!"
เมื่อหูเล่ยพูดถึงเรื่องนี้น้ำเสียงของเขาก็ดูหนักแน่นและจริงจัง
เมื่อเขาจัดงานแต่งงานเขาไม่ได้ส่งคำเชิญให้กับอดีตแฟนสาวของเขา! ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ไม่ต้องการให้เธอรู้สึกไม่ดีกับเขา และความรู้สึกในใจลึกๆของเขา เขากลัวการเผชิญหน้ากับเธอ!
ในตอนนั้นเขาคิดเพียงว่าเมื่อเขาแต่งงานและมีครอบครัวแล้วเขาคงจะสามารถลืมเธอได้!
แต่เขาคิดผิด! การแต่งงานในครั้งนั้นของเขาถือได้ว่าเป็นความล้มเหลว เมื่อตัวเขาอายุได้ 39 ปีเขาและภรรยาที่แต่งงานกันมาก็ได้หย่าร้างกัน และภรรยาของเขาก็ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของเขาไปมากกว่า 70% ส่วนตัวเขาได้รับสิทธิ์ในการดูแลบุตรชายของเขา
แล้วเมื่อไม่นานมานี้เมื่อเข้าไปโรงเรียนอนุบาลเพื่อรับลูกชายของเขากลับจากโรงเรียน เขาก็ได้รู้ว่าอดีตแฟนสาวของเขานั้นเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้! และเธอยังเป็นครูประจำชั้นในห้องเรียนของลูกชายของเขาด้วย!
ปรากฏว่าไม่นานหลังจากที่เธอแต่งงาน สามีของเธอก็เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์! เหลือเพียงแค่เธอและลูกชายของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้สร้างครอบครัวใหม่ เธอเลี้ยงดูลูกชายของเธอด้วยตัวคนเดียว!
หลังจากที่เขาได้เจอกับอดีตแฟนสาวของเขาเขาก็นอนคิดอยู่ทั้งคืน เขาอยากจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง! แต่เมื่อเขาไปที่โรงเรียนอนุบาลในวันรุ่งขึ้น ครูประจำชั้นในห้องเรียนของลูกชายของเขาก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว!
ปรากฏว่าเธอได้ลาออกไปตั้งแต่ตอนเย็นหลังจากที่ได้เจอกับเขา! สาเหตุก็คงจะเพราะว่าเธอไม่ต้องการจะพบกับเขาอีก!
เมื่อได้เล่าเรื่องของตัวเองมาถึงในตอนนี้ น้ำตาของหูเล่ยก็ไหลออกมาอย่างท่วมท้น แต่เขาไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายแต่อย่างใด มีเพียงแค่เสียงสะอื้นเบาๆให้ได้ยินเพียงเท่านั้น!
เขาหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดน้ำตาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกมาว่า: "ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวในชีวิตของผม น้องชายหมิงเฟย! ผมอยากให้คุณแต่งเพลงให้กับความรักของผมและเธอหน่อยจะได้ไหม?"
เมื่อหูเล่ยสังเกตดูกงหมิงเฟยผ่านทางหน้าจอ สภาพของกงหมิงเฟย ก็ไม่ได้ดูดีกว่าเขามากนัก!
ดวงตาของกงหมิงเฟยเป็นสีแดง ขอบตาของเขายังมีคราบหยดน้ำตาใสๆอยู่จนเห็นได้อย่างชัดเจน แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มและพูดออกมาว่า: "แน่นอนพี่ชาย! ได้โปรดให้เวลากับผม 10 นาที แล้วผมจะใช้บทเพลงเพลงนี้สื่อความรักของพี่ชายออกมา!"
กงหมิงเฟยหยิบโทรศัพท์มือถืออีกตัวขึ้นมาและเปิดแอพพลิเคชั่นการประกอบเพลง ขณะเดียวกันเขาก็เปิดทักษะการผลิตเพลงของเขาไปพร้อมๆกัน
ในตอนนี้ผู้ชมภายในห้องถ่ายทอดสดสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า กงหมิงเฟยกำลังสร้างดนตรีประกอบกับเนื้อเพลงที่เขาได้แต่งขึ้นอย่างไร
ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดต่างเห็นว่ากงหมิงเฟย คลิกอย่างรวดเร็วไปที่เครื่องดนตรีจำนวนมากในแอพพลิเคชั่น ราวกับว่าเขากดมันอย่างสุ่มๆ?
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกค่อนข้างตกใจมากนั่นก็คือเสียงซาวด์ของดนตรีที่คล้ายกับว่ากำลังสร้างขึ้นมาแบบสุ่มๆนั้นกลับไพเราะมากจริงๆ!
ในขณะนี้ผู้ชมที่เข้ามาในห้องถ่ายทอดสดในช่วงหลังๆ สามารถเข้าใจได้แล้วว่าฉายานักแต่งเพลงอัจฉริยะของกงหมิงเฟยนั้นมาจากไหน!
หลังจากผ่านไป 10 นาที กงหมิงเฟยก็ยิ้มออกมาบางและหายใจอย่างโล่งอก ดนตรีในการประกอบกับเนื้อเพลงนั้นยังมีซาวด์ของเครื่องดนตรีขาดหายไปเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเขาสามารถใช้เสียงของกีต้าร์เล่นทดแทนในจังหวะที่ขาดหายไปได้ และนี่ก็ไม่ใช่การบันทึกงานเพลงในห้องอัดเสียง ก่อนหน้านี้เขามีกีต้าร์เพียงตัวเดียวก็ยังร้องเพลงได้อยู่ทุกวัน!
กงหมิงเฟย ลุกจากเตียงในชุดเสื้อกล้ามแบบสบายสบายตัวเดิม เขาหยิบกีตาร์ขึ้นมาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินออกไปแจ้งกับทางเจ้าของโรงแรมเกี่ยวกับการร้องเพลงออกทางช่องถ่ายทอดสดของเขา เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาในกรณีที่เสียงร้องเพลงของเขาไปรบกวนผู้อื่น
เจ้าของโรงแรมก็ใจดีและเป็นกันเองอย่างมาก เพราะเนื่องจากในช่วงเวลานี้นอกจากกงหมิงเฟยแล้ว ก็มีแต่คนในครอบครัวของเขาเท่านั้นที่พักอยู่ที่นี่ เขาจึงบอกให้กงหมิงเฟยสามารถจัดกิจกรรมของเขาได้อย่างสบายใจ
และนอกจากนี้เมื่อเจ้าของโรงแรมรู้ว่ากงหมิงเฟยคือผู้ประกาศที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและมีกลุ่มคนติดตามดูการถ่ายทอดสดของเขาเป็นจำนวนมาก มันทำให้เขาไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดกงหมิงเฟย ยิ่งเปิดการถ่ายทอดสดมากก็ได้นั่นก็เท่ากับว่าเป็นการโฆษณาโรงแรมให้กับเขาไปในตัว!
เมื่อได้รับอนุญาตจากทางเจ้าของโรงแรมแล้วกงหมิงเฟยก็รู้สึกโล่งใจ!
เมื่อเขากลับขึ้นไปบนเตียงเขาหยิบกีตาร์ และหันไปพูดกับชายอ้วนวัยกลางคน "พี่ชาย! คุณยังอยู่หรือไม่?"
"โอเค! ผมยังรอคุณอยู่!"
เมื่อได้ยินเสียงที่สดใสและขี้เล่นของหูเล่ยกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม กงหมิงเฟยก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า "เพลงนี้ผมเขียนจากเรื่องเล่าและประสบการณ์ของพี่ชายโดยเฉพาะ ชื่อว่าเพลง 'รักแท้จากครั้งวัยเยาว์!' ผมหวังว่าคุณจะชอบมัน!"
[สามี~~ อ๊าา~เร็วๆเข้าเถอะฉันไม่ไหวแล้ว~ ฉันรอฟังเพลงของสามีไม่ไหวแล้ว~ อิอิ]
[โอ้ยย! เหลากงนายจะให้พวกเรารออีกนานไหม? ฉันตั้งบันทึกเสียงเพื่อรอเพลงของนายนานมากแล้วนะ]
[มาเลย~ พวกเรากำลังรออยู่]
หลังจากช่วงเวลาผ่านไปแล้ว 10 นาทีกลุ่มแฟนคลับก็ส่งข้อความเร่งเร้าออกมาในทันที
แต่ในช่วงเวลานี้ชายอ้วนหูเล่ยกลับเงียบเสียงลงไป เขาหลับตาลงเล็กน้อยคล้ายกับว่ายังคงคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต
และกงหมิงเฟยก็ไม่ปล่อยให้ทุกคนรออีกต่อไป เขากดปุ่มเพื่อเล่นซาวด์ของดนตรี และเสียงอันไพเราะของดนตรีสตริงก็ดังขึ้น กงหมิงเฟยถือกีตาร์ราคาถูกของเขาและโยกร่างกายของเขาตามจังหวะเบา ๆ
แต่สายตาของเขาไม่ได้อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เขาก้มศีรษะลงและมองไปที่สายกีต้าร์ของเขา
เจ้าตัวน้อยแบล็คเพิร์ลนอนซุกตัวอยู่ข้างๆเขา ช่วงเวลานี้มันค่อนข้างจะเกาะติดกับเขามากจริงๆ
เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดก็หยุดส่งข้อความแล้วเงียบเสียงลง พวกเขาทั้งหมดต้องการจะได้ยินเพลงของกงหมิงเฟย และมีความคาดหวังสำหรับการแต่งเนื้อเพลงตามเรื่องที่ชายอ้วนวัยกลางคนเล่าออกมา
แต่วันนี้เพลง 'Love You หรือเพลง รักเธอ' ที่กงหมิงเฟยแต่งให้กับชายหนุ่มผู้อกหักที่ต้องการจะกระโดดสะพาน ได้ถูกตั้งค่าเป็นเสียงเรียกเข้าในโทรศัพท์ของกลุ่มแฟนคลับเกือบจะทุกๆคน
พวกเขาค่อนข้างจะตื่นเต้นกันมาก ด้วยความที่ไม่คิดว่าจะได้ฟังเพลงใหม่อีกครั้งในตอนกลางคืน!
~~♪~Ƹ̵̡♫\♬♪~~
~~ห้องของเรายังคงอยู่เหมือนเดิม~~
~~กลิ่นอายแห่งความรักยังคงล่องลอยอยู่ไม่จางหาย~~
~~ ทีวีและโซฟาตัวเก่า รวมทั้งรูปถ่ายของเรา ฉันยังคงเก็บมันเอาไว้~~
~~หากวันใดที่เธอผ่านมา จะพบว่าทุกสิ่งไม่เคยเปลี่ยนไป แม้แต่ใจของฉัน~~
~~ข้อมูลติดต่อและเบอร์โทรของเธอยังคงอยู่ในความทรงจำ และเบอร์ของฉันก็ไม่เคยจะเปลี่ยนไป~~
~~ฉันรู้แล้วเมื่อวันที่เธอจากไป ว่าตัวฉันนั้นรักเธอมากเพียงไหน~~
~~และฉันก็รู้แล้ว เธอทุ่มเทความรักจนหมดใจให้ฉันเช่นเดียวกัน~~
~~ฉันทำทุกสิ่งพังทลายไปด้วยมือของฉันเอง~~
กงหมิงเฟยเปลี่ยนเสียงร้องของเขากลายเป็นทุ่มและแหบเล็กน้อย ไม่ได้สดใสเหมือนกับเสียงเพลงที่เขาร้องเมื่อตอนเช้า
เสียงร้องของเขาทำให้คนฟังทุกคนรู้สึกว่าเพลงนี้ไม่ได้ร้องออกมาโดยกงหมิงเฟย แต่เป็นเพลงที่ร้องออกมาจากชายอ้วนวัยกลางคนหูเล่ย!
ความผันผวนของเนื้อเพลงเต็มไปด้วยประสบการณ์แห่งชีวิต ความโหยหาและหวลคำนึงถึงความรักในครั้งเก่าก่อนถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจน!
และหลังจากที่ หูเล่ย ได้ยินช่วงแรกของเนื้อเพลง น้ำตาของชายวัยกลางคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาค่อนข้างมาก ก็ไหลออกมาอย่างท่วมท้น!
……..
จบบท