ตอนที่แล้ว717-718
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป721-722

719-720


9/10

Ep.719

วังสุริยันจันทรา สร้างขึ้นในภูเขาสูงตระหง่าน ห้อมล้อมด้วยสายหมอก เป็นเหมือนแดนสวรรค์

[รถศึกอัจฉริยะ] เดินทางเป็นเวลาสามวัน ในที่สุดก็มาถึงจุดหมาย

นอกพื้นที่วัง กู่เทียนฮวากับหลินฮั่วอินมารออยู่เป็นเวลานานแล้ว

เมื่อ [รถศึกอัจฉริยะ] ปรากฏขึ้น  ทั้งสองก็ตรงเข้าไปต้อนรับด้วยความตื่นเต้น

ซูเฉินและคนอื่นๆลงจากรถทีละคน เนื่องจากถนนในวังสุริยันจันทราขุรขระ ไม่เหมาะที่จะขับรถฐานทัพ ซูเฉินเลยใส่ [รถศึกอัจฉริยะ] ลงในถุงเก็บของ

“น้องซู ประมุขวังต้องการพบนายตามลำพัง”

เดินมาข้างซูเฉิน กู่เทียนฮวากระซิบ

ซูเฉินอึ้งไปเล็กน้อย เขาเพิ่งมาถึงวังสุริยันจันทรา ยังไม่ได้พักหายใจ ประมุขวังทำไมใจร้อนแบบนี้?

เอาจริงๆกู่เทียนฮวาก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเช่นกัน เขายิ้มอย่างกระอักกระอ่วน อธิบายว่า “ท่านประมุจมีเรื่องด่วนจะหารือกับนาย”

ซูเฉินปาดจมูกเขา กล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “งั้นผมจะไปที่นั่นก่อน”

หลังจากนั้น ซูเฉินก็แยกตัวออกไปกับกู่เทียนฮวาเพียงลำพัง คนที่เหลือเข้าไปในวังสุริยันจันทราภายใต้การนำทางของหลินฮั่วอิน

“ศิษย์พี่กู่ ทำไมท่านประมุขถึงรีบร้อนที่จะเจอผม?”

ระหว่างทาง ซูเฉินอดถามไม่ได้

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน บางทีอาจเกี่ยวข้องกับงานประลองรอบคัดเลือกของขุนเขาหวังเฉียว” กู่เทียนฮวาอธิบาย

ซูเฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง และคิดว่าก็เป็นไปได้

งานประลองรอบคัดเลือกของขุนเขาหวังเฉียวมีความสำคัญมาก ก่อนหน้านี้ เขาโอ้อวดว่าจะยึดโควต้าทั้งหมด คาดว่าที่ประมุขวังเรียกตัว สาเหตุหลักๆน่าจะมาจากเรื่องนี้

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองหยุดหน้าประตูตำหนักโบราณที่ดูแปลกตา

“น้องซู ที่นี่แหละ ท่านประมุขรออยู่ข้างในนานแล้ว นายรีบเข้าไปเถอะ” กู่เทียนฮวาเตือน

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเดินเข้าไปในตำหนัก

กู่เทียนฮวาไม่ได้ตามเข้าไปด้วย เพียงยืนอยู่ข้างนอก เฝ้ารออย่างเงียบๆ

สิ่งที่ทำให้ซูเฉินประหลาดใจก็คือ มีเพียงคนเดียวอยู่ในตำหนัก ทั้งยังเป็นผู้หญิง และดูเหมือนอายุจะราวๆ 30 ปีนิดๆเท่านั้น เธองดงามและน่าหลงใหล ขณะเดียวกันก็ให้กลิ่นอายไม่ธรรมดา

ซูเฉินตะลึงงัน เขาเข้าใจว่าก่อนจะเข้ามา ประมุขของวังสุริยันจันทราคงไม่พ้นเป็นผู้ฝึกตนขั้น 10 ทว่าหญิงสาวตรงหน้าเขาสมควรอายุราวๆ 30 ปีเท่านั้น อายุเท่านี้จะสามารถฝึกตนถึงขั้น 10 ได้หรือ? แต่ถ้าทำได้ พรสวรรค์ของเธอจะน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!

แน่นอน  มีความเป็นไปได้อื่นเช่นกัน ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาอาจไม่ใช่ประมุขวัง

“เจ้าคือซูเฉินใช่ไหม?” ผู้หญิงคนนั้นสำรวจมองซูเฉิน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ผมคือซูเฉิน” ซูเฉินพยักหน้า แล้วเอ่ยต่อว่า “ส่วนผู้อาวุโสคงจะเป็นประมุขแห่งวังสุริยันจันทรา?”

“ข้าชื่อฉางไช่หลี่ และเป็นประมุขคนปัจจุบันของวังสุริยันจันทรา”

หญิงสาวคนนั้นยิ้มหวาน ให้ความรู้สึกราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ

ซูเฉินถึงกับอ้าปากค้างคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็นประมุขจริงๆ ทั้งยังเป็นผู้ฝึกตนขั้น 10 ตั้งแต่ยังเยาว์วัย

คล้ายกับว่าเห็นถึงความสงสัยในใจของซูเฉิน  ฉางไช่หลี่อธิบายว่า “ข้าอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว แต่เมื่อครั้งยังเยาว์บังเอิญได้กินผลไม้ที่สามารถคงรูปลักษณ์ได้ตลอดกาล เลยทำให้ยังดูเหมือนอายุแค่ 30 ปี เจ้าไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องนี้”

ซูเฉินรู้สึกตัว จากนั้นเอ่ยถามว่า “ท่านประมุข ไม่ทราบมีเรื่องอะไรให้รับใช้ถึงได้เรียกผมมาอย่างกะทันหันแบบนี้”

“ซูเฉิน ข้าได้ยินมาว่าปีนี้เจ้าอายุแค่ 17 ปี แต่กลับเป็นผู้ฝึกตนขั้น 7 แล้ว ทั้งยังเป็นผู้ฝึกตนทุกอาชีพ เรื่องนี้จริงหรือไม่?”

ฉางไช่หลี่มองซูเฉินด้วยแววตาเหม่อลอย เอ่ยถามเสียงทุ้มต่ำ

ก่อนหน้านี้ ตอนที่กู่เทียนฮวาแจ้งข้อมูลของซูเฉิน เธอรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินไป กระทั่งมาพบกับซูเฉินด้วยตัวเอง ก็ยังรู้สึกไม่เต็มใจเชื่อนัก

อายุ 17 ปี แต่ก้าวมาอยู่ในขั้น 7 แล้ว ทั้งยังเป็นทุกอาชีพ ไม่ว่าใครได้ฟัง คงคิดว่าเป็นแค่เรื่องเพ้อเจ้อ

10/10

Ep.720

“เป็นเรื่องจริง”

ซูเฉินพยักหน้ารับ

แถมตอนนี้เขายังยกระดับขึ้นเป็นผู้ฝึกตนทุกอาชีพขั้น 8 แล้วด้วย แต่เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนจิตใจอีกฝ่ายมากเกินไป เลยไม่ได้อธิบายอย่างละเอียด

ซู๊ดดดด!

ได้รับการยอมรับจากปากซูเฉิน ฉางไช่หลี่สูดหายใจอย่างแรง

หลังจากสงบสติอารมณ์ลง ก็เอ่ยถามต่อ “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีแผนจะครองโควต้าทั้งหมดในงานประลองรอบคัดเลือกของขุนเขาหวังเฉียว แล้วเรื่องนี้เล่าจริงหรือไม่?”

ซูเฉินกล่าวอย่างแจ่มแจ้งว่า “จริง การยึดทุกที่นั่งสำหรับผมแล้วเป็นแค่เรื่องง่ายๆ”

เห็นซูเฉินดูมั่นใจมาก ฉางไช่หลี่กลืนน้ำลาย กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “รู้หรือไม่ ว่าคนที่เข้าร่วมงานประลองรอบคัดเลือก พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสูงของขุมกำลังทั้งเจ็ด และข่าวใหม่รายงานว่า หนึ่งในนั้นยังมีขั้น 9 รวมอยู่ด้วย เจ้ามั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ถ้าเกิดพวกเขาร่วมมือกันกำจัดเจ้าเล่า?”

ซูเฉินยิ้ม ตอบอย่างเฉยเมยว่า “ต่ำกว่าขั้น 10 .. รวมไปถึงขั้น 10 ไม่ว่าใครก็สู้ผมไม่ได้!”

หากยังอยู่ในขั้น 7 เขาอาจยังยอมพูดจาเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่บ้าง แต่เมื่อมาอยู่ในขั้น 8 บวกกับใช้งาน[เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] เลื่อนเป็นขั้น 9 ผู้แข็งแกร่งขั้น 10 ก็ไม่อยู่ในสายตาเขาอีกต่อไป

“…”

ฉางไช่หลี่อ้าปากค้าง เหม่อมองซูเฉินอย่างตะลึงงัน สีหน้าแสดงอาการเหม่อลอย

ซูเฉินอยู่แค่ขั้น 7 ใครกันที่มอบความกล้าให้เขาพูดเช่นนี้?

ถ้าบอกว่าตัวเองไร้เทียมทานในขั้นเดียวกัน ฉางไช่หลี่ยังพอยอมรับได้ ประเด็นก็คือ ประโยคที่ซูเฉินพูดว่าต่ำกว่าขั้น 10 มิอาจสู้เขา นั่นไม่ใช่รวมถึงเธอในฐานะประมุขวังด้วยหรอกหรือ?

“เจ้ามั่นใจขนาดนั้นเชียว?”

ฉางไช่หลี่ได้สติกลับมา เลียบเคียงถาม

“ถ้าท่านประมุขไม่เชื่อ ท่านสามารถหาใครก็ได้มาวัดฝีมือกับผมซักสองสามกระบวนท่า จะกี่คนก็ได้ ไม่ต้องคำนึงถึงระดับฐานฝึกตน ผมจะขอรับมือทั้งหมดนั้นคนเดียว” ซูเฉินกล่าวอย่างจริงจัง

เนื่องจากเขาตั้งใจจะเข้าร่วมกับวังสุริยันจันทรา ดังนั้นต้องแสดงกำลังรบให้อีกฝ่ายเห็น แสดงให้พวกเขาเห็นค่า แล้วตัวเองจะได้รับสถานะสูงในวังสุริยันจันทรา

ฉางไช่หลี่ถึงกับอ้าปากค้าง ต้องตกใจกับคำพูดของซูเฉินอีกครั้ง

ตอนนี้เธอสับสนเล็กน้อย ว่าซูเฉินใช่แข็งแกร่งจริงๆ หรือคุยโวกันแน่?

ครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายเอ่ยปากว่า “ซูเฉิน ทำไมเจ้าถึงอยากเข้าร่วมกับทางวังสุริยันจันทราของพวกเรา?”

ขุมกำลังที่ทรงพลังในทวีปเสวียนเทียน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วังสุริยันจันทรเท่านั้น อันที่จริงมีบางกลุ่มแข็งแกร่งกว่าพวกเขาซะอีก

และด้วยพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของซูเฉิน ไม่ว่าเขาจะเลือกขุมกำลังใด อีกฝ่ายย่อมอ้าแขนรับ แล้วเหตุใดเขาถึงเลือกวังสุริยันจันทราเล่า?

จุดประสงค์ของซูเฉินที่เลือกวังสุริยันจันทรานั้นง่ายมาก ประการแรกก็เพื่อชิงโควต้าเข้าสู่มิติท้ารบ  ขอแค่เข้าร่วมกับขุมกำลังใหญ่ ก็จะได้รับโอกาสในการเป็นตัวแทน

ประการที่สอง เขากับเฉินเฟิงและเหล่าศิษย์ เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การเลือกวังสุริยันจันทรา จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ดังนั้น ซูเฉินจึงกล่าวอธิบายทั้งสองประการนี้

“ที่แท้ก็เพื่อเข้าสู่มิติท้ารบ” ฉางไช่หลี่พึมพำกับตัวเอง

การเข้าสู่มิติท้ารบมีโอกาสปลุกพลังพิเศษ อัจฉริยะเช่นซูเฉิน เป็นธรรมดาที่ปรารถนามัน

ซูเฉินสามารถเอ่ยเรื่องแบบนี้ออกมาอย่างไม่ลังเล ฉางไช่หลี่เกิดความเชื่อขึ้นส่วนหนึ่งว่าเขาเป็นคนดี ยอมเปิดเผยไม่โป้ปด ก่อนที่จะกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า

“ข้ายินยอมให้เจ้าเข้าร่วมกับทางวังสุริยันจันทราของพวกเรา!”

“ขอบพระคุณท่านประมุข!” ซูเฉินประสานมือคารวะ

ฉางไช่หลี่พยักหน้าเล็กน้อย กล่าวต่อว่า “แต่งานประลองรอบคัดเลือกของขุนเขาหวังเฉียวเป็นเรื่องสำคัญมาก ข้ายังต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของเจ้า หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสา”

ฟังอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเห็นกับตาถึงจะเชื่อว่าคือความจริง

มีเพียงได้เห็นความแข็งแกร่งของซูเฉินกับตาเท่านั้น เธอจึงจะวางใจได้

“แน่นอน” ซูเฉินยิ้มอย่างมั่นใจ

“เอาล่ะ ตามข้ามา” ฉางไช่หลี่กวักมือ เดินตรงไปด้านนอกตำหนัก

ซูเฉินถูจมูกเขา ตามหลังไปติดๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด