[รถศึกอัจฉริยะ] ขาดศิลาทลายมิติอีกเพียงก้อนเดียว ก็จะสามารถเปิดฟังก์ชั่นข้ามเขตแดนได้ ตอนแรกเขาไม่รู้จะไปหามันจากที่ไหน ไม่นึกฝันเลยว่าจะมาเจอก้อนสุดท้ายที่นี่

“ถูกต้อง! มันคือศิลาทลายมิติ และมูลค่าของมัน ฉันมั่นใจว่าทุกท่านทราบดี ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 หินพลังงาน เคาะเพิ่มครั้งนึงต้องไม่ต่ำกว่า 500 ก้อน” ว่าจบ พิธีกรสาวก็ประกาศเริ่มประมูล

อย่างไรก็ตาม แม้ศิลาทลายมิติจะทำให้เกิดความปั่นป่วนไม่น้อย แต่กลับมีผู้เสนอราคาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

เหตุผลก็คือ การใช้งานหลักๆของศิลาทลายมิติ มีไว้เพื่อสร้างทางผ่านเขตแดนหรือค่ายกลเคลื่อนย้าย มันดึงดูดใจเฉพาะคนจากขุมกำลังใหญ่เท่านั้น

สำหรับผู้ฝึกตนทั่วไป ไม่ค่อยมีความหมายนัก ประมาณว่า ศิลาทลายมิติคือของสูง ดังนั้นไม่ใช่สมบัติที่คนธรรมดาต้องสนใจ

และสถานการณ์นี้ คือสิ่งที่ซูเฉินต้องการให้เกิดขึ้น เพราะเท่ากับว่า เขาจะได้ใช้หินพลังงานน้อยลง

หลังจากรออยู่พักหนึ่ง พอไม่มีใครเสนอราคา ซูเฉินเริ่มกังวลว่าจะประมูลไม่สำเร็จ ขณะที่เขากำลังจะเคาะราคา จู่ๆห้องหมายเลข 7 พลันชิงตัดหน้า เสนอราคาที่ 20,000 หินพลังงาน

และดูจากท่าทีแล้ว คล้ายต้องการศิลาทลายมิติไปครองให้จงได้

ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ลังเลเลยสักนิด เคาะสวนไปที่ 30,000 หินพลังงาน

ห้องหมายเลข 7 เคาะตามด้วยราคา 40,000 หินพลังงาน

ซูเฉินไม่รอช้า อัดกลับไปที่ 50,000 หินพลังงานทันที

คราวนี้ห้องหมายเลข 7 ลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังเคาะที่ 60,000 อีกครั้ง

ซึ่ง ณ จุดนี้ ราคาของมันมากกว่ามูลค่าของศิลาทลายมิติไปแล้ว

ทันทีที่ราคานี้ปรากฏขึ้น ตลอดทั้งงานประมูลกลายเป็นเดือดพล่าน ทุกคนต่างตกตะลึงกับราคาที่สูงลิ่ว และพยายามคาดเดาถึงสถานะของห้องหมายเลข 7

“เฮียซู ถ้ายังเสนอราคาต่อมันจะไม่คุ้มแล้ว” เฉินเฟิงกังวลแทนซูเฉิน เตือนสติเขา

ซูเฉินหรี่ตาลง ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเพิ่มราคาเป็น 70,000 หินพลังงาน

ศิลาทลายมิติมีความสำคัญต่อเขามาก ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร เขาไม่มีวันยอมให้พรากมันไปครอง

ต้องการงัดกับเขางั้นหรือ? จะบอกอะไรให้ จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่เคยประมูลแพ้ใครมาก่อนเลย

“ห้องหมายเลข 17 เสนอราคา 70,000 หินพลังงาน!” พิธีกรสาวร้องตะโกน บางทีอาจเพราะเธอตื่นเต้นเกินไป น้ำเสียงในตอนนี้เลยสั่นเครือ

ฮือฮา!

งานประมูลเกิดความโกลาหลขึ้นทันใด

เดิมที พวกเขาคิดว่า 60,000 หินพลังงานก็สูงเสียดฟ้าแล้ว คงไม่มีการแข่งราคากันอีก

แต่ใครจะคิด ว่าห้องหมายเลข 17 จะดันราคาขึ้นเป็น 70,000 ก้อน

นี่ทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก และยังย้อนคิดไปว่า ก่อนหน้านี้ห้อง 17 ก็ประมูลสมบัติไปได้หลายชิ้นแล้ว จับจ่ายหินพลังงานนับหลายหมื่นก้อน แต่เขายังมีแรงเหลือที่จะประมูลศิลาทลายมิติในราคาสูง แสดงว่าทรัพยากรทางการเงินมั่งคั่งเป็นอย่างยิ่ง

ช่างน่าทึ่งนัก!

ซู๊ดดดดด!

เหลิงมู่เย่สูดลมหายใจลึก วันนี้ เขาได้เห็นความบ้าบิ่นอีกด้านของซูเฉิน

เมื่อเสนอราคา 70,000 หินพลังงานออกมา ห้องหมายเลข 7 เงียบไป

สุดท้ายซูเฉินประสบความสำเร็จ ได้ศิลาทลายมิติมาครอง

หลังจากนั้น งานประมูลยังคงดำเนินต่อไป ชิ้นต่อมาคือเม็ดยาล้ำค่า มิใช่ใดอื่น มันคือ เม็ดยาอัคคีขั้น 7

เม็ดยาอัคคีไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มระดับแก่ปรมาจารย์มนตราธาตุไฟเท่านั้น นอกจากนี้มันยังมีคุณสมบัติที่สามารถนำไปใช้หลอมอาวุธธาตุไฟได้อีกด้วย

ดังนั้นรายการประมูลชิ้นนี้จึงค่อนข้างร้อนแรง มีหลายคนเข้าร่วมประมูลมัน

4/10

Ep.704

เม็ดยาอัคคีคือหนึ่งในวัตถุดิบหลักในการซ่อมแซม[ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] อู๋หยาจื่อได้อธิบายไว้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าซูเฉินจะไม่ยอมพลาดมัน

ห้องหมายเลข 6 เสนอราคาที่ 5,000 หินพลังงาน

ห้องหมายเลข 59 เสนอที่ 5,500

ห้อง 109 เสนอ 6,000

ซูเฉินยังไม่กระโจนร่วมสมรภูมิ เฝ้ารอซักพัก เมื่อราคาพุ่งสูงเกิน 10,000 หินพลังงาน เขาก็เคาะขึ้นเป็น 15,000 ทันที

พอราคานี้ออกมา งานประมูลเริ่มปั่นป่วนอีกครั้ง เพราะเม็ดยาอัดคคี มูลค่า 15,000 ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว

ประเด็นก็คือ ก่อนหน้านี้ห้องหมายเลข 17 จ่ายหินพลังงานไปแล้วเกินกว่า 100,000 ก้อน และคราวนี้เขาเล็งเม็ดยาอัคคีอีกครั้ง จุดนี้ทำให้หลายคนรู้สึกหดหู่และไปต่อไม่เป็น

หลังจากเห็นว่าห้อง 17 เข้าร่วมประมูล คนที่เหลือต่างก็ยอมแพ้ไป เพราะทั้งหมดต่างรู้ดี ว่าต่อให้แข่งกับเศรษฐีตัวจริงอย่างห้อง 17 ต่อไป ก็ไม่มีความหมาย

ขณะที่พิธีกรสาวกำลังประกาศว่าเม็ดยาตกเป็นของห้องหมายเลข 17

จู่ๆห้องหมายเลข 7 ก็เสนอราคาเพิ่มอย่างกะทันหัน ทั้งยังเคาะเป็น 20,000 หินพลังงาน

ก่อนหน้านี้ห้อง 7 เคยแข่งกันประมูลศิลาทลายมิติกับห้อง 17 แล้วพ่ายแพ้ไป

ฝูงชนต่างคาดเดาไปต่างๆนาๆว่า ครานี้ห้อง 7 ต้องการแก้แค้น หรือสนใจเม็ดยาอัดคคีจริงๆกันแน่?

ซูเฉินหรี่ตาลง ตริตรองพักหนึ่ง ก่อนเสนอราคาที่ 21,000 หินพลังงาน

ห้อง 7 คล้ายอยากจะสู้ให้ถึงที่สุด เสนอราคา 25,000 หินพลังงานต่อทันที

ราคานี้มันเกินมูลค่าของเม็ดยาอัดคคีไปมากแล้ว หากเป็นคนอื่น เกรงว่าคงยอมถอดใจ แต่ซูเฉินไม่ลังเลเลยที่จะเสนอราคา 30,000 อีกครั้ง

ถึงจุดนี้ ห้องหมายเลข 7 ไม่เสนอราคาอีก

แม้ซูเฉินจะได้รับเม็ดยาอัคคีมาตามต้องการ แต่เขากลับไม่ค่อยมีความสุขนัก เห็นได้ชัดว่าห้อง 7 ไม่ได้ต้องการเม็ดยาอัคคี แต่จงใจแทรกแซง ทำให้เขาเสียหินพลังงานอย่างไร้ประโยชน์ไปมากกว่า 10,000 ก้อน

ซึ่งซูเฉินคือปรมาจารย์ผู้ไม่เคยเสียเปรียบใคร เวลานี้เขากำลังคิดวิธีตอบโต้กับมัน

ขณะนี้ รายการชิ้นต่อไปเริ่มเปิดประมูล ดูคล้ายลูกปัดสีแดงเลือด นอกเสียจากให้ความรู้สึกดึงดูดใจนิดๆหน่อยๆแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่พิเศษอีก

ซูเฉินไม่ได้สนใจมันมากนัก ทว่าหลังจากโม่หรงชะโงกมองมัน จู่ๆก็อุทานออกมา

“ไข่มุกโลหิตวิญญาณ!”

ไข่มุกโลหิตวิญญาณ? นั่นมันอะไรกัน?

ทุกคนในห้องต่างสับสน มองโม่หรงเป็นสายตาเดียว

โม่หรงระบายลมหายใจ แล้วอธิบายอย่างช้าๆว่า “ไข่มุกโลหิตวิญญาณคือสิ่งที่ถูกสร้างจากแก่นโลหิตของผู้แข็งแกร่งระดับเทวะของเผ่าวิญญาณที่ใกล้จะล่วงลับ”

“งั้นมันก็เป็นสมบัติล้ำค่าน่ะสิ?” สีหน้าของซูเฉินเริ่มเปลี่ยนไป

รายละเอียดอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่นี่คือแก่นโลหิตของตัวตนระดับเทวะ ก็มากพอที่จะดึงดูดความสนใจเขาแล้ว

“มันคือสมบัติล้ำค่าจริงๆ แต่สำหรับผู้ฝึกตนทั่วๆไป ไม่นับว่ามีประโยชน์อันใด นอกจากนี้ หากใช้มัน ยังอาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์บางอย่างอีกด้วย”

โม่หรงกล่าวถึงจุดนี้ ก็ชะงักไปเล็กน้อย หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ ก็พูดว่าต่อ “แต่สำหรับผู้ฝึกตนนอกรีตของเผ่าวิญญาณแล้ว มันคือสมบัติล้ำค่า! หากใช้มัน พวกเขาจะสามารถยกระดับฐานฝึกตนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยในการฝึกฝนพลังศักดิ์สิทธิ์นอกรีตได้อีกด้วย”

เนื่องจากมันคือสิ่งชั่วร้าย ซูเฉินเลยไม่สนใจอีกต่อไป

ไม่นาน การประมูลไข่มุกโลหิตวิญญาณก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

เนื่องจากพิธีกรสาวไม่ได้แนะนำไข่มุกโลหิตวิญญาณมากนัก หลายคนเลยไม่ทราบว่ามันมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร ผู้เสนอราคาจึงมีแค่ไม่กี่คน

กระนั้น ซูเฉินสังเกตเห็นว่า ในบรรดาผู้เสนอราคา มีห้องหมายเลข 7 รวมอยู่ด้วย

ซึ่งเมื่อใดที่มีคนเคาะราคา ห้อง 7 จะดันราคาขึ้นทันที

เห็นแบบนี้ มุมปากของซูเฉินยกโค้งเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

0 0 โหวต

Article Rating

0 Comments

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด