ตอนที่แล้วHO บทที่ 98 มองดูชุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปHO บทที่ 100 เมลติ้งสโนว์มาถึงแล้ว

HO บทที่ 99 เสร็จสิ้นภารกิจ


เมื่อซินหยา เว่ยและวอนเดอร์ริ่งซาวด์ทำธุระของตัวเองเสร็จ พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าขึ้นอีกครั้ง ทั้งสามคนไม่ได้กลับมารวมกันที่เรือนแพจนดวงอาทิตย์ยามบ่ายขึ้นสูงบนท้องฟ้าอีกครั้ง

วอนเดอร์ริ่งซาวด์เป็นคนแรกที่กลับมายังเรือนแพ หลังจากได้รับแจ้งว่าเขาทำภารกิจเสร็จสิ้น ก็มีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้น เขารู้ว่ามันภารกิจต่อเนื่องซึ่งไม่มีทางเสร็จง่าย ๆ อย่างแน่นอน

ภารกิจใหม่ของเขาคือการใช้หลักฐานที่เขาค้นพบเพื่อค้นหาซากปรักหักพังของหุบเขาแอนเวิร์ธที่ถูกลืม เมื่อมองลงไปที่หนังสือในมือ เขาก็รู้สึกขอบคุณชายชราที่อนุญาตให้เขายืมมัน

ในตอนแรกเขาคิดจะอ่านมันที่ห้องสมุดกับชายชราแต่ภายในสถานที่แห่งนั้นไม่สะดวกที่จะอ่านหนังสือ ถ้าเขาต้องอ่านหนังสือหนา ๆ แบบนี้ เขาอยากจะอ่านในที่สะดวกสบาย

ดังนั้นวอนเดอร์ริ่งซาวด์จึงออกจากห้องสมุดที่สกปรกและรีบกลับไปที่เรือนแพ ขณะที่เขาเดินเข้าไปข้างใน เขาไม่เห็นใครเลย เขาเรียกโรมมิ่งวิด์และดริฟติ้งคลาวด์ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เขาจึงสันนิษฐานว่าพวกเขาคงยังทำธุระของตัวเองยังไม่เสร็จ

เนื่องจากไม่มีใครอยู่ที่นี่ วอนเดอร์ริ่งซาวด์จึงคิดว่าน่าจะเริ่มอ่านหนังสือ เมื่อขึ้นไปที่ดาดฟ้า วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็พบเก้าอี้ที่นุ่มสบายหันหน้าไปทางทะเลสาบ

เมื่อวอนเดอร์ริ่งซาวด์มองออกไปที่ทิวทัศน์อันตระการตา ขณะที่ได้ยินเสียงนกและคลื่นรอบ ๆ รอบตัวเขา เขารู้ว่านี่เป็นบรรยากาศที่เหมาะสำหรับเขาที่จะอ่านหนังสือ

วอนเดอร์ริ่งซาวด์ถอนหายใจและเปิดหนังสือสีน้ำเงินที่ขาดรุ่งริ่งแล้วเริ่มอ่าน ขณะที่เขาอ่าน เขาได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับหุบเขาแอนเวิร์ธ

หุบเขาแอนเวิร์ธที่ซึ่งผู้คนและมอนเตอร์อาศัยอยู่อย่างสงบสุข ว่ากันว่าที่แห่งนั้นก่อตั้งโดยวิหารในช่วงมหาสงครามเมื่อหลายร้อยปีก่อน

มันเป็นสถานที่ที่ผู้คนและมอนเตอร์ที่ไม่ต้องการต่อสู้และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หนังสือเล่มนี้ยังกล่าวถึงวิธีที่ผู้คนในหุบเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในตอนนั้นว่าทรยศต่อเผ่าพันธุ์ของพวกเขาเอง เลวร้ายจนหลายเมืองในภาคตะวันออกพยายามปิดล้อม

เมื่อเห็นว่าหุบเขาของพวกเขากำลังจะกำจัดด้วยความเกลียดชัง ผู้อาวุโสในตอนนั้นจึงเสียสละตัวเองเพื่อสร้างกำแพงล้อมรอบหุบเขาและผู้คนภายในและเมืองได้หายไปพร้อมกับผู้คนนนั้นในนั้น

จากที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์อ่าน เขาเห็นว่ามีข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับสถานที่นี้ สิ่งหนึ่งที่เขาสนใจจริง ๆ ก็คือผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในแอนเวิร์ธนั้นแทบจะเป็นอมตะ โดยมีอายุมากกว่าหลายร้อยปีจากอายุขัยปกติของพวกเขา

นอกจากนี้ ยังมีการคาดเดามากมายว่าหุบเขแเอนเวิร์ธจะอยู่ที่ใด บางคนบอกว่ามันอยู่ใต้ดิน บางคนบอกว่ามันลอยอยู่ที่ไหนสักแห่งบนท้องฟ้าเบื้องบน

วอนเดอร์ริ่งซาวด์ไม่เชื่อการคาดเดาใด ๆ ในขณะที่เขาอ่านต่อไปเขาเห็นว่ามีการกล่าวถึงภูเขายูนลูนเป็นจำนวนมาก เขารู้ว่านั่นต้องมีความเกี่ยวข้องไม่ก็ทางใดทางหนึ่ง เนื่องจากมีการกล่าวถึงมากเกินไป

เมื่อรู้ว่าภูเขายูนลูนอาจเป็นสถานที่ที่เขาต้องไปต่อไปเพื่อดำเนินการค้นหาแอนเวิร์ธ วอนเดอร์ริ่งซาวด์จึงเปิดแผนที่เพื่อดูว่าภูเขาตั้งอยู่ที่ใด น่าเสียดายสำหรับเขา เขาไม่สามารถทำได้ แผนที่ของเขาไม่ได้รับการอัพเกรดมากพอที่จะค้นหาภูเขาลูกนั้นเจอ

เขาควรทำอย่างไรต่อไปดี เขาคิดว่าเขาควรกลับไปที่ห้องสมุดของชายชราคนนั้นแล้วถามเขา ในขณะที่เขากำลังจะทำเช่นนั้น เขาจำได้ว่าแผนที่ของดริฟติ้งคลาวด์ได้รับการอัพเกรด เขาจึงตัดสินใจรอดริฟติ้งคลาวด์กลับมาถามเขาในเรื่องนี้ เผื่อเขาจะทราบที่ตั้งของมัน

จากนั้นวอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็ลุกขึ้นแล้วเก็บหนังสือไว้ในช่องเก็บของของเขา เขาเดินเข้าไปภายในเรือนแพ

ขณะที่เขากำลังรอดริฟติ้งคลาวด์กลับ เขาตัดสินใจว่าเขาจะเพิ่มค่าสเตตัสสักหน่อย เมื่อเข้าไปในห้องนั่งเล่น วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็กดปุ่มสีแดงยักษ์ที่ผนังและในเวลาเพียงไม่กี่นาที ห้องนั่งเล่นก็เปลี่ยนเป็นห้องออกกำลังกาย หลังจากดูอุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งหมดในห้องแล้ววอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็เลือกลู่วิ่ง

มันจะช่วยให้เขาได้รับค่าสเตตัส ค่าพลังกาย(STA) และค่าสติปัญญา(INT) แถมมันยังช่วยให้เขาสามารถฝึกฝนการเป่าขลุ่ยพร้อมกับวิ่งได้

เมื่อขึ้นลู่วิ่ง วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็เริ่มวิ่ง ขณะที่เขาวิ่งเขาพยายามเล่นเพลงเก่าเพลงหนึ่งที่เขาสร้างขึ้นเองด้วยการเป่าขลุ่ย

...

เว่ยเป็นคนที่สองที่กลับมาที่เรือนแพ หลังจากวิ่งไปรอบเมืองตลอดทั้งคืนเพื่อถามคำถามกับผู้คน เธอรู้สึกเหนื่อยกายเหนื่อยใจ มันยากแค่ไหนที่จะมีคนมาตอบคำถามของเธอ

ย้อนกลับไป ตอนที่เธอทำภารกิจ NPC ส่วนใหญ่ที่เธอพบจะไม่สนใจเธอหรือไล่เธอออกไป สองสามครั้งที่เธอต้องซื้ออะไรบางอย่างก่อนที่พวกเขาจะเริ่มคุยกับเธอด้วยซ้ำ หลังจากใช้เวลาสักพัก เธอพบว่าถ้าเธอคุยกับ NPC เป็นครั้งแรก ถ้าเธอพูดคำชมกับพวกเขา มันจะช่วยให้พวกเขาตอบคำถามของเธอได้ง่ายขึ้น

แม้ว่าเธอจะใช้เวลาสองสามชั่วโมงกว่าจะรู้ตัว แต่หลังจากนั้นการสอบถามก็ไหลลื่นขึ้น เมื่อทำแบบสอบถามสุดท้ายเสร็จ เว่ยก็รีบกลับไปที่ร้านเสื้อผ้าของแมรี่ โจด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้นบนใบหน้าของเธอ

เมื่อเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้า เว่ยก็ทักทายแมรี่ โจที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ว่า “ฉันกลับมาแล้ว”

“คุณนั่นเอง กลับมาไวกว่าที่ฉันคิดมาก” แมรี่ โจตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส “คุณทำตามที่ฉันขอเสร็จแล้วหรือยัง?”

“ฉันทำเสร็จหมดแล้ว” เว่ยกล่าวพลางส่งคลิปบอร์ดให้แมรี่ โจพร้อมคำถามที่กรอกเสร็จแล้ว

ใบหน้าของแมรี่ โจดูสดใสขึ้นกว่าเดิม “ขอบคุณมาก คุณไม่รู้ว่าคุณช่วยฉันมากแค่ไหน”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยินดีช่วยคุณ” เว่ยรู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เธอยิ่งมีความสุขมากขึ้นเมื่อการแจ้งเตือนว่าภารกิจเสร็จสิ้นปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ

“นี่ของคุณ” แมรี่ โจกล่าว “บัตรกำนัลเสื้อผ้าที่ให้สิทธิ์คุณได้รับชุดฟรีจากร้านเสื้อผ้าในภูมิภาคเซียม

เว่ยรับตั๋วทองนั้นมา เธอแทบรอไม่ไหวที่จะเอาชุดนั้นมาครอง  ขณะที่เธอค้นหาชั้นวาง เธอไม่พบมัน ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีขึ้นมา เธอจึงกลับไปที่เคาน์เตอร์ที่แมรี่ โจยืนอยู่

“คุณแมรี่ คุณจำชุดที่ฉันต้องการก่อนหน้านี้ได้ไหม” เว่ยถาม

รอยยิ้มบนใบหน้าของแมรี่ โจหายไปและเว่ยรู้ว่าเธอกำลังได้รับข่าวร้าย

“น่าเสียดาย ชุดเจ้าหญิงสีขาวก่อนหน้านี้ถูกขายไปแล้ว ปกติแล้วทุกวันนี้ไม่มีใครเข้ามาในร้านของฉันแต่ลูกสาวคนเล็กของนายกเทศมนตรีเข้ามา เธอบอกว่ามีคนพูดถึงร้านฉันและมาที่ร้านของฉันด้วยความสงสัย เธอได้พบชุดนั้นเข้าและซื้อมันไป”

เว่ยรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับสิ่งนี้ เธอต้องการชุดนั้นจริง ๆ และเธอก็ทำงานอย่างหนักเพื่อมัน เมื่อเห็นว่าเด็กสาวมีความทุกข์ใจเพียงใด แมรี่ โจจึงพูดปลอบโยนเธอ

“ไม่ต้องเศร้าใจไป เธอจำบัตรกำนัลที่ฉันให้ได้มั้ย มันสามารถใช้แลกเสื้อผ้าทุกร้านในภูมิภาคเซียมเลยนะ” แมรี่ โจบอกเธอ

ทันใดนั้น ใบหน้าของเว่ยได้พลันสว่างขึ้น แม้แมรี่ โจจะได้พูดตรง ๆ  แต่เธอกำลังบอกว่าในภูมิภาคเซ๊ยมมีร้านเสื้อผ้าที่ดีกว่าร้านของเธอมาก

หากในวันหนึ่งขณะที่เธอออกไปผจญภัย เธอพบกับร้านที่มีชุดที่เธออยากได้ เธอก็สามารถนำบัตรกำนัลนี้ไปใช้ได้

ด้วยข้อสรุปดังกล่าว เว่ยก็ร่าเริงขึ้น เธอเก็บบัตรกำนัลไว้ในช่องเก็บของและบอกลากับแมรี่ โจ จากนั้นเธอมุ่งหน้ากลับไปที่เรือนแพ

ตัดภาพมาปัจจุบัน ขณะที่เว่ยเดินเข้าไปในเรือนแพ เธอได้ยินเสียงคนเล่นดนตรีที่คุ้นหู ขณะที่เธอเดินตามเสียงเพลง เว่นเห็นวอนเดอร์ริ่งซาวด์กำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งอย่างกระฉับกระเฉงโดยไม่พลาดจังหวะขณะที่เขาเล่นเพลงด้วยขลุ่ยของเขา

เว่ยยืนดูการแสดงของเขา ช่างเป็นอะไรที่สวยงาม

ในขณะเดียวกัน วอนเดอร์ริ่งซาวด์สังเกตเห็นใครบางคนกำลังจ้องมองมาที่เขา เขาหยุดเล่นและหันกลับมามองเว่ย ขณะลงจากลู่วิ่ง

เว่ยปรบมือให้เขาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง “ยอดเยี่ยมมากวอนเดอร์ริ่งซาวด์ คุณควรจะเป็นนักดนตรีในชีวิตจริง!”

วอนเดอร์ริ่งซาวด์หน้าแดงไม่พูดอะไร เขาพยายามเปลี่ยนเรื่อง เสียงพเนจรกล่าวว่า “แล้วธุระของคุณเป็นอย่างไรบ้าง”

...