ตอนที่แล้ว663-664
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป667-668

665-666


9/10

Ep.665

ซู๊ดดดดดด

ได้ยินแบบนั้น ครั้งนี้เป็นซูเฉินที่ต้องสูดหายใจลึก

ในวังสุริยันจันทรามีระดับเทวะอยู่ถึงสองคน เรื่องนี้เขาไม่นึกไม่ฝันมาก่อน

ณ ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่วังสุริยันจันทราถูกเรียกของขุมกำลังอันดับหนึ่งของขุนเขาหวังเฉียว  ปรากฏว่ามีสองระดับเทวะคอยหนุนหลังอยู่นี่เอง

เพราะอย่างนี้ไง การเป็นศิษย์ของวังสุริยันจันทรา ถึงไม่มีใครกล้าล่วงเกินกันได้ง่ายๆ

“ถ้าอย่างนั้น เรื่องเข้าร่วมกับทางวังสุริยันจันทรา คงต้องขอให้พี่เหลิงช่วยแนะนำแล้ว” ซูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“น้องซูอย่าได้เกรงใจ” เหลิงมู่เย่ไม่ได้วางท่าแม้แต่น้อย

ด้วยกำลังรบและพรสวรรค์ของซูเฉิน เมื่อเข้าร่วมกับวังสุริยันจันทรา สถานะของเขาจะต้องพุ่งทะยานอย่างแน่นอน ไม่แน่บางทีอาจได้เข้าชิงตำแหน่งประมุขนิกายคนต่อไป

ได้พบเจอกับคนที่โดดเด่นเช่นนี้ เหลิงมู่เย่ไหนเลยจะกล้าละเลย

หลังจากนั้น ซูเฉินและอีกสามคนรวมตัวกัน เพื่อหารือเกี่ยวกับงานประลองรอบคัดเลือก

เนื่องจากซูเฉินเข้าร่วมกับทางวังสุริยันจันทราโดยมีเป้าหมายหลักคือการเข้าสู่มิติท้ารบ ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

[รถศึกอัจฉริยะ] หลังจากเดินทางมาได้สองชั่วโมง จู่ๆมันก็ร้องเตือนขึ้น “เจ้านาย ข้างหน้ามีผู้แข็งแกร่งหลายฝ่ายกำลังต่อสู้ชุลมุนกันอยู่”

“พวกเขามีระดับฐานฝึกตนเท่าไหร่? แล้วมีฝ่ายไหนบ้าง?” ซูเฉินถามอย่างไม่ใส่ใจ

“มีผู้ฝึกตนขั้น 7 อยู่หลายคน หนึ่งในนั่นคือฝ่ายมนุษย์ และมีพวกต่างเผ่ารวมอยู่ด้วย” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันที

มนุษย์กับพวกต่างเผ่ากำลังสู้กัน?

ซูเฉินเกิดความสงสัยในใจ เอ่ยสั่งว่า “เสี่ยวจือ ล็อคเป้าพวกเขา แล้วขยายภาพที”

ภาพบนหน้าจอควบคุมส่วนกลางเริ่มสลับสับเปลี่ยน ไม่นานก็ปรากฏฉากในป่าเล็ก เบื้องล่างมีมนุษย์สามคนกำลังต่อสู้กับกับชายเผ่าปีศาจราตรี

มนุษย์ทั้งสามคนนี้ เป็นชายสองหญิงหนึ่ง ทั้งหมดล้วนมีระดับฝึกตนขั้น 7

ชายหนึ่งและหญิงหนึ่งจากทั้งสาม มีตราสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ปักอยู่บนเสื้อผ้า คาดว่าคงเป็นคนของทางวังสุริยันจันทรา

ส่วนชายเผ่าปีศาจราตรีเองก็เป็นผู้ฝึกตนขั้น 7 เช่นกัน แม้ตกอยู่ในสถานการณ์สามรุมหนึ่ง แต่ด้วยกำลังรบที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากของเขา น่าแปลกที่ฝ่ายมนุษย์สามคนไม่อาจสู้ได้ อีกทั้งเหมือนใกล้จะยื้อไว้ไม่ไหวอีกต่อไป

เห็นภาพนี้ ซูเฉินรู้สึกตื่นตัวเล็กน้อย เพราะศิษย์จากวังสุริยันจันทรา กระทั่งในระดับเดียวกันก็ยังโดดเด่น แต่นี่ทั้งสามร่วมมือกัน กลับถูกกดดันจนแทบหายใจไม่ออก

สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า ชายเผ่าปีศาจราตรีทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

ซูเฉินรู้สึกว่า ต่อให้เป็นโม่หรงในขั้น 8 ก็ยังไม่แน่ว่าจะรับมือกับชายเผ่าปีศาจราตรีผู้นี้ได้

“นั่นศิษย์พี่กู่เทียนฮวากับศิษย์พี่หญิงหลินฮั่วอิน นี่!”

เมื่อเห็นว่าเป็นคนของทางวังสุริยันจันทรา สีหน้าของเหลิงมู่เย่และคนอื่นๆก็เปลี่ยนไป

“เฮียซู ได้โปรดไปช่วยพวกเขา!” เฉินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน

สถานการณ์ของกู่เทียนฮวาและหลินฮั่วอินนั้นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง หากไปไม่ทันเวลา อาจร้ายแรงถึงชีวิต

“เสี่ยวจือ รีบขับเข้าไป” ซูเฉินออกคำสั่ง

เขากำลังจะเข้าร่วมกับทางวังสุริยันจันทรา เป็นธรรมดาที่ไม่ต้องการเห็นศิษย์ของวังตกอยู่ในอันตราย

[รถศึกอัจฉริยะ] เร่งความเร็วเต็มพิกัด ชั่วพริบตาเดียวถึงที่หมาย

ทันทีที่ประตูเปิดออก

เหลิงมู่เย่และอีกสองคนรีบลงจากรถ กระโจนเข้าร่วมการต่อสู้ทันที

ซูเฉินไม่รีบร้อนโจมตี เขากวาดสายตามองไปทางอื่นแทน เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่พวกกู่เทียนฮวา ยังมีการต่อสู้ชุลมุนอีกสามกลุ่ม

และสองกลุ่มคือการต่อสู้กันเองระหว่างพวกต่างเผ่า

ซูเฉินยิ่งมองเท่าไหร่ก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเท่านั้น ไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงมาต่อสู้กันที่นี่

ขณะที่เขากำลังลงจากรถเพื่อไปจับสักตนมาเค้นถาม [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ร้องด้วยความตื่นเต้น “เจ้านาย ฉันตรวจพบศิลาทลายมิติสี่ก้อนอยู่ในบริเวณนี้!”

10/10

Ep.666

“ศิลาทลายมิติมีไว้ทำอะไร?” การแสดงออกทางสีหน้าของซูเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

แม้เขาจะยังไม่รู้ว่าศิลาทลายมิติมีไว้ทำไม แต่ในเมื่อมันคือสิ่งที่ [รถศึกอัจฉริยะ] ร้องเตือน แสดงว่าต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน

“ศิลาทลายมิติเรียกอีกอย่างว่าหินเปิดเขตแดน ซึ่งก็ตามชื่อมัน มีไว้ใช้ในการเปิดทางผ่านเขตแดน” [รถศึกอัจฉริยะ] อธิบาย

ซูเฉินไม่อาจสงบใจได้อีกต่อไป เอ่ยเสียงสั่น “นายกำลังจะบอกว่า ด้วยศิลาทลายมิตินี้ นายจะได้รับความสามารถในการเคลื่อนย้ายไปยังทุกทวีปได้อย่างอิสระเสรี อย่างงั้นใช่ไหม?”

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป ว่าหากต้องการเข้าสู่ทวีปหนึ่งจากอีกทวีปหนึ่ง นอกเหนือไปจากการใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายแล้ว อีกวิธีคือต้องเดินทางโดยทางผ่านเขตแดนเท่านั้น

แต่หากสามารถเดินทางไปยังทวีปอื่นๆได้อย่างอิสระ แบบนั้นไม่เท่ากับว่าซูเฉินสามารถสังหารพวกต่างเผ่าได้ตามต้องการหรือ?

“ถ้าโดยภาพรวมแล้วก็หมายความแบบนั้น”

[รถศึกอัจฉริยะ] ยืนยัน แล้วกล่าวต่อว่า “หากว่ากันตามปกติแล้ว ศิลาทลายมิติมีไว้ใช้ในการสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายหรือทางผ่านเขตแดน แต่ถ้าเจ้านายติดตั้งให้ฉันในปริมาณที่มากพอ ก็จะสามารถเดินทางไปยังทวีปอื่นๆได้”

“อย่างไรก็ตาม ด้วยระดับในปัจจุบันของฉัน มันยังต่ำเกินไป เลยสามารถเข้าสู่ทวีประดับต่ำได้บางส่วนเท่านั้น ต้องรอจนระดับของฉันค่อยๆเพิ่มขึ้น เจ้านายถึงสามารถก้าวเข้าสู่ทวีปที่มีระดับสูงกว่าเดิมได้”

“แล้วต้องใช้ศิลาทลายมิติกี่ก้อน?”

ซูเฉินสูดหายใจลึก พร้อมเอ่ยถาม

“แค่ห้าก้อนก็น่าจะพอแล้ว” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบกลับ

“ห้าก้อน …” ซูเฉินพึมพำ

ทว่าในที่แห่งนี้มีแค่สี่ก้อน ยังเหลืออีกก้อนที่ขาดอยู่

แต่ก็ไม่เป็นไร เอาสี่ก้อนนี้มาก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง

“เสี่ยวจือ ศิลาทลายมิติสี่ก้อนในที่นี้ อยู่ในมือใครบ้าง?” ซูเฉินเอ่ยเสียงกระซิบ

“ในที่นี้มีการต่อสู้เกิดขึ้นทั้งหมดสี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีอยู่คนละก้อน” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบในทันที

ซูเฉินตอนนี้เริ่มฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ว่าคนเหล่านี้ที่กำลังต่อสู้ฆ่าฟันกัน ใช่เพื่อแย่งชิงศิลาทลายมิติหรือไม่?

แต่จะยังไงก็ช่าง ตราบใดที่ซูเฉินลงสู่สนาม ทั้งหมดต้องตกเป็นของเขา

“เหล่าโม่ เสี่ยวตี๋ ทั้งสองออกมาช่วยฉันฆ่าศัตรู!”

ซูเฉินเรียกโม่หรงและ [นักรบจักรกล] นำทั้งสองกระโจนเข้าสมรภูมิของพวกต่างเผ่าเป็นแห่งแรก

กลุ่มที่กำลังต่อสู้กันเองนี้คือเผ่าปีศาจราตรีกับเผ่าหนามหยก ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นผู้วิวัฒนาการขั้น 7 กำลังรบทัดเทียม ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ

ซูเฉินทะยานไปข้างหน้า ซัด [หมัดดาวตก] ทุบลงไป สังหารทั้งสองฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

“นี่มันจะเร็วเกินไปหน่อยไหม?”

เห็นซูเฉินสังหารเหล่าผู้แข็งแกร่งตายลงราวกับใบไม้ร่วง โม่หรงถึงกับอ้าปากค้าง

“เหล่าโม่ เก็บกวาดสนามรบ!”

ซูเฉินออกคำสั่ง กระโจนเข้าหากลุ่มพวกต่างเผ่าในอีกสมรภูมิ สับดาบสีดำหมึกลงไป ปลดปล่อยอสนีบาตอันน่าสยดสยอง

พวกต่างเผ่าในสมรภูมินี้กำลังสู้กัน ทั้งหมดไม่ทันตอบโต้ ก็กลายเป็นศพไหม้เกรียม

“เสี่ยวตี๋ ปกป้องที่นี่ไว้ ใครกล้าเข้ามาก็ฆ่ามันได้เลย!”

ซูเฉินกำชับ ละสายตาไปยังสมรภูมิที่สาม

การต่อสู้ระหว่างกลุ่มนี้ คือมนุษย์ห้าคนและครึ่งออร์คอีกนับสิบ

อย่างไรก็ตาม ซูเฉินสังหารพวกต่างเผ่าไปหลายสิบตน การกระทำของเขาค่อนข้างเอะอะใหญ่โต จึงดึงดูดความสนใจของทุกคน

ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายต่างยุติการต่อสู้แล้ว ทั้งหมดมองไปทางซูเฉินด้วยความรู้สึกเหลือจะเชื่อ

อีกด้านหนึ่ง ชายเผ่าปีศาจราตรีพบว่าจู่ๆก็มีผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งปรากฏขึ้น ไล่สังหารพวกต่างเผ่าไปทั่ว จึงพยายามแยกตัวจากสมรภูมิ

แต่พวกเหลิงมู่เย่กับคนอื่นๆพยายามสกัดกั้นสุดชีวิต ทั้งหกร่วมมือกันโจมตี แม้พวกเขาจะไม่สามารถเอาชนะชายเผ่าปีศาจราตรีได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้อีกฝ่ายไม่มีเวลาหลบหนี

ซูเฉินเหลือบมอง พบว่าเฉินเฟิงและคนอื่นๆยังไม่ตกอยู่ในอันตราย จึงหันมากล่าวเสียงเย็นกับมนุษย์และกลุ่มครึ่งออร์คว่า “ส่งศิลาทลายมิติมาซะดีๆ ไม่อย่างงั้นก็ตายเสีย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด