ตอนที่แล้ว655-656
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป659-660

657-658


1/10

Ep.657

อึก ..!

ลู่หยางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ในหัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เจ้าตัวลอบอุทาน ‘โชคดี’ ที่เมื่อวันก่อนเลือกที่จะยอมลดท่าที ไม่ขัดแย้งกับซูเฉิน มิฉะนั้นเขาคงมีสภาพเป็นศพเหมือนชาวครึ่งออร์คในตอนนี้

ซูเฉินเก็บชิ้นส่วนที่ดรอปจากศพของจงติ้ง จากนั้นหรี่ตา กวาดมองไปรอบๆ  ขึ้นเสียงว่า “ยังมีใครคัดค้านอีกไหม?”

ภายใต้สายตาของซูเฉิน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือพวกต่างเผ่า จะหน้าไหนล้วนสั่นเทาด้วยความกลัว ปิดปากเงียบ

“ก็แค่พวกขยะ!”

ซูเฉินแค่นเสียงเย็น จากนั้นกล่าวว่า “ใครที่ไม่อยากตาย ก็ไสหัวออกจากห้องโถงเคลื่อนย้ายซะ อยู่ให้ห่างเกินรัศมี 1 ไมล์ ถ้าใครกล้าก้าวเข้ามา จะถูกสังหารทันที!”

เพื่อความปลอดภัยในระหว่างกระบวนการเคลื่อนย้าย ซูเฉินตัดสินใจเคลียร์พื้นที่

ฝูงชนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ภายใต้การจับจ้องของซูเฉิน ไม่มีใครเลยที่กล้ารั้งอยู่ต่อ แตกฮือไปทุกทิศทาง

เมื่อเห็นว่าคนที่เหลือยังพอฉลาดอยู่บ้าง ซูเฉินก็ไม่ถือสาพวกเขาอีก เดินเข้าหาลู่หยาง กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “เจ้าเมืองลู่ คุณมีอะไรจะโต้แย้งกับข้อเสนอของผมรึเปล่า?”

“ไม่มีอยู่แล้ว!”

ลู่หยางตกใจจนสั่นไปทั้งตัว รีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ก็ใครมันจะกล้าโต้แย้งในเวลานี้? ใครมันจะไปก้าวเท้าลงหลุมกัน!

แน่นอน ลู่หยางจะไม่รนหาที่ตาย

“ในเมื่อคุณเองก็ไม่มีปัญหา งั้นก็ควรถอยออกไปด้วย ถูกไหม?”

“อ๋า?”

ลู่หยางได้สติกลับมา รีบขอโทษขอโพย แล้วทะยานออกไปจากสถานที่นี้ ไม่นานก็ลับไปจากสายตาของซูเฉิน

“ไปกันเถอะ ได้เวลาเข้าไปค่ายกลเคลื่อนย้ายแล้ว”

ซูเฉินตะโกนเรียกทุกคน ก้าวนำเข้าไปในห้องโถง

“เจ้านายช่างน่าทึ่งจริงๆ” โม่หรงถอนหายใจ เดินตามหลังซูเฉินไปติดๆ

ได้เป็นสักขีพยานว่าซูเฉินสามารถสังหารศัตรูด้วยกำลังของตนเอง เล่นเอาผู้แข็งแกร่งหลายคนต่างตกตะลึง กระทั่งหัวใจของโม่หรงยังเต้นรัว

เข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ภายใต้คำแนะนำของเฉินเฟิง ซูเฉินติดตั้งหินพลังงาน จากนั้นปล่อยพลังจิตออกไป และกดสวิตช์

ค่ายกลเคลื่อนย้ายถูกเปิดใช้งานอย่างราบรื่น วิสัยทัศน์ของทุกคนพร่ามัว ไม่กี่อึดใจต่อมา เมื่อภาพตรงหน้ากลับมามองเห็นชัดดังเดิม พวกเขาก็ได้มาปรากฏตัวในห้องโถงใหญ่แห่งใหม่แล้ว

มีผู้คนนับร้อยยืนอยู่รอบๆห้องโถงใหญ่ ทั้งหมดกำลังรอข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง

เมื่อเห็นซูเฉินและคนอื่นๆปรากฏตัว ทั้งหมดก็เพ่งมองพวกเขาทีละคน

“เอ๊ะ? ทำไมการเคลื่อนย้ายครั้งนี้ถึงมีคนแค่นี้เอง?” ไม่รู้ว่าใครในฝูงชนเป็นคนอุทานขึ้นมา

แต่ในทุกๆครั้งที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายถูกเปิดใช้งาน จำนวนการส่งจะมีน้อยและจำกัด ดังนั้น  แต่ละครั้งผู้เดินทางจึงมาเต็มจำนวน 50 คน

ทว่าสถานการณ์ตรงหน้า กลับมีแค่สิบคนนิดๆเท่านั้น นับเป็นอะไรที่หายากมาก

“เฮียซู ที่นี่คือเมืองตู้ลี่ของราชวงศ์เฝิงซี” เฉินเฟิงอธิบาย

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย หรี่ตาและกวาดมองไปรอบๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “พวกเราออกจากห้องโถงเคลื่อนย้ายก่อน แล้วค่อยว่ากัน”

ทุกคนรีบเดินออกจากค่ายกลมุ่งไปยังทิศทางด้านนอกห้องโถงใหญ่

แต่ใครจะทันคิด ว่าพวกเขาเดินมาได้แค่ไม่กี่ก้าว ก็มีเสียงฮึดฮัดดังเข้ามาในหู

“ช้าก่อน! ข้ามีเรื่องจะถามพวกเจ้า”

ซูเฉินทำเป็นหูทวนลม ยังคงก้าวออกไปอย่างไม่รู้สึกรู้สา คนอื่นๆที่เดินตามซูเฉิน จึงไม่สนใจอีกฝ่ายเช่นกัน

จะมีแต่ก็เฉินเฟิงที่ระหว่างเดินตาม ได้หันมองไปยังต้นเสียง พอเห็นหน้าตาของอีกฝ่ายชัดๆ สีหน้าของเขาก็แข็งทื่อไปเล็กน้อย รีบเตือนซูเฉิน “เฮียซู คนที่เรียกพวกเราคือจงยี่ เป็นผู้วิวัฒนาการขั้น 8 ของเผ่าครึ่งออร์ค”

“ไม่ต้องไปสนใจหรอก ถ้าเขาอยากตาย ฉันจะเติมเต็มความปรารถนานั้นให้เอง” ซูเฉินส่งเสียงฮึในลำคอ เดินหน้าต่อไป

เฉินเฟิงอ้าปากค้าง ไม่พูดอะไรอีก ด้วยความแข็งแกร่งของซูเฉิน อีกฝ่ายมีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนั้นจริงๆ

อีกด้านหนึ่ง จงยี่เห็นคนอื่นๆทำราวกับเขาเป็นอากาศธาตุ ก็โกรธจนลมออกหู ถลึงตาเดือดดาล ย่างเท้าออกไป ไม่กี่ก้าวก็สามารถขวางทางพวกซูเฉิน

เจ้าตัวเอ่ยเสียงขรึม “นี่พวกเจ้าหูหนวก? ไม่ได้ยินที่เราผู้เฒ่าบอกให้หยุดหรือ?”

2/10

Ep.658

ซูเฉินหรี่ตา ในดวงตาทอประกายเย็นวาบ กำลังพิจารณาว่าจะลงมือในห้องโถงเลยดี หรือออกไปก่อนค่อยจัดการมัน?

ขณะเดียวกันนั้นเอง ชายร่างผอมเพรียวในวัยกลางคนที่แผ่กลิ่นอายของความอ่อนโยน ได้ก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ

“พี่จง ทำไมถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนั้น”

ชายอ่อนโยนกวาดสายตามองซูเฉินและคนอื่นๆ ก่อนหันกลับมาถามจงยี่

“ที่แท้ก็เป็นน้องซือถู” จงยี่ทักทายกลับไปด้วยน้ำเสียงสุภาพ จากนั้นก็อธิบายว่า “ครั้งก่อน ข้านัดกับลูกจงติ้ง เขาบอกว่าจะรีบกลับมาทันทีที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายเปิดขึ้น”

“แต่ข้าไม่เห็นเขา จึงอยากจะสอบถามมนุษย์กลุ่มนี้ ใครจะคิดว่าพวกมันดันไม่ไว้หน้าข้า”

เมื่อซูเฉินได้ยินว่าจงติ้งคือลูกชายของจงยี่ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นตรงมุมปากเขา

ในทางกลับกัน เฉินเฟิงลอบส่ายหัว เพราะเขารู้ดี ว่าด้วยลักษณะนิสัยของซูเฉิน อีกเดี๋ยวคงเกิดการต่อสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“พี่จงโปรดสงบใจลงก่อน ฉันจะถามให้เอง”

ชายอ่อนโยนกล่าวโน้มน้าว หันมามองซูเฉินและคนอื่นๆ สีหน้าของเขาหมองลงเล็กน้อย แค่นเสียงเบาๆว่า “ทำไมคนที่ข้ามค่ายกลเคลื่อนย้ายในครั้งนี้ ถึงมีแค่พวกแกไม่กี่คน? .. เกิดอะไรขึ้นบนเกาะชงซวี่?”

ซูเฉินทำเป็นเมิน หันไปถามเฉินเฟิงแทน “พี่เฉิน ผู้ชายคนนี้คือใคร?”

ชายที่ดูอ่อนโยนเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจงยี่ แถมสายตาที่มองมายังพวกเขายังแฝงไว้ด้วยความไม่เป็นมิตร นี่ทำให้ซูเฉินรู้สึกไม่พอใจมาก

เฉินเฟิงกระซิบว่า “เขาชื่อ ซือถูห่าวหนาน เป็นเจ้าเมืองตู้ลี่ และยังเป็นผู้วิวัฒนาการขั้น 8 อีกด้วย”

ซือถูห่าวหนานเห็นเฉินเฟิงกับซูเฉินกระซิบกระซาบกัน ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของตัวเอง สีหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้นมาทันใด เอ่ยเสียงเย็นว่า “เด็กน้อย ฉันกำลังถามพวกเจ้าอยู่ ทำไมถึงทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน?”

ซูเฉินถูจมูกเขา มองไปทางซือถูห่าวหนาน กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “สุนัขที่ก้มหัวให้พวกต่างเผ่า และเรียกมันว่าพี่ ฉันก็ต้องไม่สนใจอยู่แล้ว”

ซู๊ดดดด!

ทันทีที่คำนี้ประกาศออกมา ได้ยินเสียงสูดหายใจลึกดังไปทั่วบริเวณ

ทุกคนจดจ้องซูเฉินด้วยความตะลึงลาน เจ้าเมืองตู้ลี่ที่แสนสง่างาม ผู้วิวัฒนาการขั้น 8 ที่แสนเรืองอำนาจ เวลานี้กลับถูกดูหมิ่นต่อหน้าสาธารณะโดยมนุษย์รุ่นเยาว์คนหนึ่ง?

หากไม่ได้มาเห็นกับตา ต่อให้ถูกเฆี่ยนตีจนตาย พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น

เจ้าเด็กนี่บ้าหรือโง่กันแน่? แม้แต่ซือถูห่าวหนานยังกล้าด่าทอ ไม่กลัวตายหรือไร?

ณ เวลานี้ ทุกคนต่างคิดเห็นเป็นเสียงเดียวกัน ว่าซูเฉินคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย และมีแนวโน้มที่จะถูกทรมานแสนสาหัสก่อนตายอีกด้วย

เฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้หันมามองหน้ากัน ถอนหายใจอย่างเงียบๆ

“เลือดคงได้ไหลนองเป็นแม่น้ำอีกแล้ว” เฉินเมิ่งเฟยรำพึง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยอารมณ์

อุปนิสัยของซูเฉิน หากผู้อื่นไม่เสนอหน้า เขาก็ไม่คิดเสนอหน้า แต่หากผู้ใดทำให้เขาขุ่นเคือง ทั้งหมดจะต้องตาย!

อาจกล่าวได้เลยว่า ทุกที่ที่ซูเฉินไป จะต้องเกิดพายุนองเลือดขึ้น

เดิมที เธอยังคิดว่าหากเข้ามายังทวีปเสวียนเทียนแล้ว ซูเฉินจะรู้จักสงบสติอารมณ์บ้าง

แต่ไม่นึกเลย ว่าซูเฉินยังคงก้าวร้าวและเผด็จการดังเดิม ยังคงทำเหมือนกับว่าทุกคนเป็นแค่มดปลวกในสายตาเขา

“เจ้าหนู จะบ้าไปใหญ่แล้ว!”

หลังจากอึ้งไปพักหนึ่ง จงยี่ก็ได้สติกลับมา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโหดร้าย ฉีกยิ้มเหี้ยมเกรียม

เขาไม่พอใจซูเฉินตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นตั้งใจใช้โอกาสนี้กำจัดซูเฉินให้สิ้นซากซะเลย

สีหน้าของซือถูห่าวหนานเปลี่ยนเป็นสีเขียว แดง และขาวตามลำดับ ถลึงมองซูเฉินไม่วางตา หัวเราะเย็นชา “เด็กน้อย รู้ไหมว่าราคาที่ทำให้ฉันต้องขายหน้า ต้องจ่ายด้วยอะไร? –บิดาไม่ฆ่าคนไร้นาม จงประกาศชื่อเจ้าออกมา!”

ขณะนี้ แม้เขาจะโกรธจนเกือบถึงจุดเดือด แต่ซูเฉินกลับยังคงกล้าหาญ ไม่แสดงถึงความหวาดกลัวออกมา

เจ้าตัวเลยเกิดความสงสัย พยายามระงับความโกรธของเขาเอาไว้ แล้วตรวจสอบเบื้องลึกเบื้องหลังของซูเฉิน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด