ตอนที่แล้วตอนที่ 7 ความผิดพลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 คำสาป

ตอนที่ 8 ค้นหาคน


ตอนที่ 8

ค้นหาคน

“รู้หรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป”หลี่ลู่ชิงผู้เป็นพี่ชายยืดกอดอกอยู่ที่ใต้ต้นไม้หลังหมู่บ้านด้วยท่าทีดุๆราวกับกำลังต้องการจะต่อว่าน้องสาวที่กำลังก้มหน้าหงอยอยู่ข้างหน้าเสียให้ได้ แต่จะไม่ต่อว่านางได้อย่างไรเมื่อครู่นางเพิ่งจะก่อเรื่องแล้วใช้พลังของตนทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่เลยนี่นา แม้จะไม่มีผลเสียเพราะโดนลบไปแล้วก็ตาม แต่การเข้าไปยุ่งกับห้วงเวลานั้นเป็นเรื่องไม่สมควรทำ แม้ผู้ลงมือกระทำจะเป็นเทพก็ตาม

“ข้า....ข้าขอโทษเจ้าค่ะ......”หลี่หลินเยว่ผู้เป็นน้องเห็นพี่ชายทำหน้าดุแบบนั้นก็ไม่กล้าเถียงอะไรกลับ แม้ฐานะที่แท้จริงของทั้งสองจะเป็นเทพกับวิญญาณที่เทพองค์นั้นพามาเพื่อบ่มเพาะนิสัย แต่เพราะเวลาที่ผ่านมาฝ่ายลู่ชิงก็เหมือนจะเป็นผู้ดูแลเสียมากกว่า แถมปกติลู่ชิงไม่ค่อยจะแสดงท่าทีโมโหออกมาด้วยการที่เขาโกรธแบบนี้แสดงว่านางต้องทำเรื่องไม่เหมาะสมมากแน่ๆ

“เจ้ารู้หรือเปล่าว่ามีหลายต่อหลายโลกที่ต้องวุ่นวายเพราะการกระทำอย่างไม่ยั้งคิดของเหล่าเทพ เจ้ามีพลังมากมายเพียงใช้พลังเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้โลกใบนี้ผิดเพี้ยนไปได้ แม้เมื่อครู่จะเป็นการบิดเบือนเวลาเพียงครู่เดียว แต่ก็อาจจะทำให้เวลาของมิติต่างๆเกิดการผิดเพี้ยนไปด้วยได้นะ”ลู่ชิงพูดด้วยสีหน้าจริงจังเป็นอย่างมาก แม้มิติแต่ละมิติจะเหมือนถูกตัดขาดจากกัน แต่ทุกมิติก็ผลต่อกันและกันอยู่บ้างแม้จะน้อยนิดก็ตาม เพราะฉะนั้นเลยไม่มีอะไรรับประกันว่าการย้อนเวลาครั้งนี้จะไม่ทำให้มีสิ่งใดเสียหาย

“อ๊ะ....แต่ข้าย้อนเวลาทุกมิติเลยนะ เวลาไม่เหลื่อมล้ำกันหรอก”หลินเยว่ตอบกลับออกไปด้วยท่าทีเหมือนจะบอกว่าไม่ต้องห่วงเสียอย่างนั้น แต่เพราะพูดข้ออ้างออกไปไม่ดูเวล่ำเวลาผลที่ได้ก็เลยกลายเป็นสายตาดุๆของพี่ชายเสียอย่างนั้นทำเอานางกลับไปก้มหน้าเหมือนเดิมอย่างช่วยไม่ได้

“หลังจากนี้ห้ามเจ้าใช้พลังตามใจชอบอีก หากไม่ใช่เรื่องจำเป็นอย่าย้อนเวลาดื้อๆแบบนี้อีกเข้าใจหรือไม่”ลู่ชิงถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ พลังของนางทำได้ขนาดนั้นเลยงั้นหรือไม่ใช่ว่าตอนลงมาเกิดในร่างนี้จะสามารถเอาพลังมาได้เพียงเศษเสี้ยวเดียวหรืออย่างไร

“เจ้าค่ะ....หลังจากนี้ข้าจะระวัง”หลี่หลินเยว่ตอบพลางพยักหน้าน้อยๆด้วยท่าทีสำนึกผิด ตอนที่นางเผลอทำลายหมู่บ้าน พวกคุณลุงเจ้าของบ้านก็มีท่าทีเสียใจมาก เพราะแบบนั้นนางเลยตกใจจนเผลอย้อนเวลาโดยไม่ทันคิด ในฐานะเทพแล้วก็เป็นการกระทำที่ไม่มีความรับผิดชอบจริงๆ

“เด็กดี...ถึงพลังของเจ้ากับข้าจะใช้ทำอาหารจากสัตว์อสูรไม่ได้ แต่เอาไว้หลังจากนี้ข้าจะลองหาผู้ใช้พลังธาตุไฟสักคนมาช่วยเจ้าก็แล้วกัน”ลู่ชิงเห็นนางมีท่าทีรู้สึกผิดขนาดนี้ก็ไม่อยากต่อว่าอะไรนางอีก แต่เรื่องทั้งหมดก็เกิดเพราะนางอยากจะลองกินเนื้อของหมีตัวนั้นเท่านั้นเอง พอมาคิดดูแล้วนางพยายามลงมายังโลกเบื้องล่างเพื่อจะได้ลองสัมผัสรสชาติอาหารทั้งทีแถมเนื้อที่แสนล้ำค่ายังอยู่ตรงหน้าแล้วแต่กลับกินไม่ได้ เป็นใครก็ต้องเสียดาย เช่นนั้นแล้วก็ต้องหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้เสีย บางทีการจ้างพ่อครัวหรือแม่ครัวส่วนตัวเอาไว้สักคนก็คงเป็นทางออกที่ดี

“จริงด้วย แค่หาคนที่ใช้พลังธาตุไฟมาได้ก็พอนี่นา”หลี่หลินเยว่ได้ฟังก็เหมือนจะเพิ่งนึกออก ในเมื่อนางไม่สามารถใช้ไฟของตัวเองได้ก็แค่หาคนมาสร้างไฟแทนก็พอ

วูบ....

พริบตาที่คิดออก อยู่ๆดวงตาของหลี่หลินเยว่ก็เปล่งประกายสีรุ้งซึ่งเป็นหนึ่งในความสามารถของพรสวรรค์ที่นางมีออกมา ด้วยดวงตาคู่นี้นางสามารถมองเห็นได้ทุกสิ่ง แน่นอนว่าการหาผู้มีพรสวรรค์เกี่ยวกับธาตุไฟสักคนย่อมเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ดวงตาคู่นี้ทำได้

“นี่เจ้า....”ลู่ชิงอยู่เบื้องหน้าดวงตาคู่นี้ก็ราวกับโดนมองทะลุเข้าไปในส่วนลึกของร่างกาย เพียงแต่พริบตาเดียวเงาสีดำก็เข้ามาปกปิดร่างของลู่ชิงเอาไว้ทำให้ดวงตาของหลี่หลินเยว่ไม่อาจอ่านข้อมูลของพี่ชายนางได้ แต่เรื่องนั้นหลินเยว่ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเป้าหมายของนางคือเหล่าคนในหมู่บ้านต่างหาก แม้ตอนนี้ในหมู่บ้านจะไม่มีผู้ใช้พลังธาตุไฟเลย แต่ก็ยังมีเหล่าเด็กๆอยู่ บางทีเด็กที่ยังไม่ทราบว่าตนเองมีพรสวรรค์อะไรอาจจะมีบางคนซ่อนเร้นพรสวรรค์ธาตุไฟเอาไว้ก็เป็นได้

“ไม่มี...”หลี่หลินเยว่มองไปทางหมู่บ้านชั่วอึดใจก็ทำหน้ามุ่ยก่อนออกมาอย่างช่วยไม่ได้ นี่เรื่องตลกอะไรกัน แม้หมู่บ้านที่พวกนางอาศัยจะมีกันไม่กี่หลังคาเรือน แต่พรสวรรค์ที่หาได้ง่ายอย่างพรสวรรค์ในการควบคุมธาตุต่างๆกลับไม่มีปรากฏออกมาเลย หรือนางควรไปต่อว่าเทพสูงสุดของโลกใบนี้ดีเพราะตอนนี้เหมือนเขาส่งนางลงมากลางดงอาหาร แต่กลับไม่วางไม้ขีดไฟเอาไว้ให้เลย

วูบ..

แต่แทนที่จะหยุดอยู่เท่านี้ พลังของดวงตาทั้งสองกลับทวีความรุนแรงขึ้นและเพิ่มขอบเขตการตรวจสอบออกไปไกลกว่าเดิม

“เจอแล้ว ท่านพี่มีผู้ใช้พลังธาตุไฟอยู่ในป่าทางเหนือเจ้าค่ะ”หลังจากเร่งพลังเพิ่มขึ้น ในที่สุดหลินเยว่ก็พบสิ่งที่ต้องการเสียที แต่....คนผู้นั้นกลับอยู่ห่างออกไปนอกหมู่บ้านงั้นหรือ

“ทำไมถึงไปอยู่นอกหมู่บ้านได้ล่ะ คนคนนั้นมีอาการอะไรแปลกๆหรือเปล่า”ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นลู่ชิงก็ขมวดคิ้วด้วยท่าทีกังวลทันที คนในหมู่บ้านนอกจากเหล่านายพรานแล้วไม่ค่อยออกจากหมู่บ้านกันเท่าไหร่ หากไม่ใช่พ่อค้าหรือผู้สัญจรก็อาจจะเป็นคนของหมู่บ้านที่หลงออกไปในป่าก็ได้

“เหมือนจะอาการแย่มากๆ บางทีอาจจะใกล้ตายแล้วก็ได้”หลินเยว่ตอบออกมาตามที่ตนเห็นแทบจะทันที อาการของคนผู้นั้นเหมือนกำลังจะขาดใจตายไม่มีผิด แม้เจ้าตัวจะพยายามสู้แต่ก็เหมือนจะใกล้หมดลมแล้ว

“งั้นเจ้านำนางไป เราต้องช่วยคนคนนั้น”ทันทีที่ได้ยินว่าคนผู้นั้นกำลังจะตาย หลี่ลู่ชิงก็ใช้พลังวิญญาณของตนเรียกลูกม้าออกมาพร้อมกระโดดขึ้นขี่ทันที ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการหาผู้ใช้พลังธาตุไฟครั้งนี้จะทำให้เจอคนใกล้ตายเข้าพอดี นับว่าเป็นโชคดีของคนผู้นั้นจริงๆ

.

.

.

“นี่มัน...ห่างจากหมู่บ้านมากเลยนะ”หลังจากใช้ลูกม้าที่อัญเชิญออกมาเพื่อวิ่งตามความเร็วในการบินของหลินเยว่ ลู่ชิงก็พบว่านางนำทางออกมาห่างจากหมู่บ้านมาไกลมาก เรียกได้ว่าตอนนี้เรื่องที่คนผู้นั้นจะเป็นคนในหมู่บ้านที่พลัดหลงในป่านับว่าถูกตัดทิ้งไปได้เลย แถมยิ่งเดินทางเข้ามาก็เหมือนจะไม่ใช่ป่าธรรมดาไปทุกที ใครกันที่มาใกล้ตายเอาแถวนี้

“ถึงแล้ว ท่านพี่คนคนนั้นอยู่ข้างในเจ้าค่ะ”หลินเยว่บินมาถึงถ้ำแห่งหนึ่งก็ชี้เข้าไปด้านในทันที เพียงแต่กลิ่นอายที่ออกมาจากถ้ำกลับไม่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสถานที่ที่มีคนบาดเจ็บกำลังเอาตัวรอดอยู่เลย

“นี่มัน...ใช่คนที่ไหนกันเล่า”ลู่ชิงขี่ลูกม้าเข้าไปในถ้ำเพียงอึดใจเดียวก็พบ ผู้บาดเจ็บ ที่หลินเยว่บอกเข้าจนได้ ทว่า....ผู้บาดเจ็บรายนี้กลับไม่เหมือนคนเลยสักนิด แถมกลิ่นอายที่อยู่รอบๆตัวยังน่าขนลุกอีกต่างหาก

“แต่นางก็มีรูปร่างของมนุษย์นะเจ้าคะ”หลินเยว่ตอบพลางชี้ไปยังร่างสีดำสนิทที่ดูเหมือนมนุษย์ที่โดนเผาไปทั้งร่าง เพียงแต่รยางค์สีดำที่ราวกับเถาวัลย์กำลังแตกกิ่งก้านสาขาไปทั่วถ้ำนี้ก็ทำให้นางไม่ถูกมองได้ว่าเป็นมนุษย์เสียเท่าไหร่ แถมบนตัวนางยังมีอักขระบางอย่างสลักเอาไว้อีกต่างหาก

“เจ้านี่มองอย่างไรก็ไม่ใช่มนุษย์ แถมยังโดนคำสาปของเทพด้วย”ลู่ชิงมองอักขระสีแดงสดบนตัวนางอย่างละเอียด อีกขระเหล่านี้เป็นอักขระที่เทพใช้กัน แม้จะไม่ใช่แบบเดียวกับที่เทพต้นกำเนิดใช้แต่ก็ทรงพลังมาก ทรงพลังเกินกว่าระดับของเทพที่ปกครองโลกใบเดียว บางทีอาจจะเป็นระดับเทพผู้ปกครองมิติเลยก็ได้ ซึ่งการจะโดนเทพผู้ปกครองมิติสาปเอาเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะกระทำผิดร้ายแรงก็ต้องทำอะไรที่เลวร้ายมากๆ แบบนั้นไม่ว่าเจ้าสิ่งนี้จะเป็นอะไรมันก็อันตรายต่อทั้งโลกใบนี้หรือแม้กระทั่งต่อจักรวาลนี้เลย

“ช่วย.......ช่วยด้วย”เสียงแหบพร่าที่แสนน่าสงสารของหญิงสาวเบื้องหน้าดังขึ้นอย่างทุกทรมาน คำสาปของเทพไม่ใช่เรื่องล้อเล่นซึ่งตัวลู่ชิงที่เคยอยู่ในมิติทรมานนั้นเข้าใจดีเลย แต่เจ้าสิ่งนี้มองอย่างไรก็เป็นสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายที่กระทำความผิดมาจนโดนคำสาปเลือดจนแทบสิ้นชีวิต ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันทรมานอยู่ที่นี่มานานกี่ร้อยกี่พันปีแล้ว แต่จะช่วยมันจากคำสาปด้วยความสงสารคงไม่ใช่เรื่องดี

“เช่นนั้นข้าจะช่วยให้เจ้าไปสบายก็แล้วกัน”ลู่ชิงมองรยางค์สีดำรอบๆถ้ำก่อนจะมองไล่ไปตามร่างของสิ่งมีชีวิตเบื้องหน้า พริบตานั้นร่างของลูกม้าที่ลู่ชิงขี่มาก็สลายหายไปก่อนที่ลู่ชิงจะเรียกทวนเล่มหนึ่งขึ้นมาแทน เจ้าสิ่งนี้อ่อนแอมาก แม้แต่พลังในร่างของเด็กเช่นนี้ก็สามารถสังหารมันได้ ขอเพียงแทงลงไปในแก่นของมันเท่านั้น

วูบ.....

ระหว่างลู่ชิงกำลังจะลงมือ อยู่ๆแสงสีทองก็ส่องสว่างออกมาจากร่างของน้องสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้า พริบตานั้นรยางค์สีดำก็หดกลับเข้าไปในตัวของสิ่งมีชีวิตตรงหน้าพร้อมรูปร่างที่แต่เดิมเหมือนร่างที่โดนไฟเผาจนไหม้ไปทั้งตัวจะเริ่มกลับกลายเป็นหญิงสาวโฉมงามผู้หนึ่งอีกครั้ง

“นี่เจ้า....รักษาไปแล้วงั้นเหรอ”ลู่ชิงมองร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวเบื้องหน้าด้วยท่าทีเหนื่อยใจก่อนจะมองไปยังน้องสาวข้างๆที่ลงมือรักษาอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ก็ท่านพี่บอกว่าจะช่วยให้นางไปสบายนี่เจ้าคะ แถมก่อนหน้านี้ท่านยังบอกว่าต้องช่วยคนด้วย”หลินเยว่ที่ลงมือรักษาลงไปแล้วหันกลับมาด้วยใบหน้าใสซื่อเสียอย่างนั้นเล่นเอาลู่ชิงได้แต่กุมขมับกับตัวเอง ก็ใครจะไปคิดเล่าว่าท่านเทพต้นกำเนิดจะไม่เข้าใจว่า ไปสบาย มันหมายความว่าอย่างไร

“เรื่องนั้น....”ลู่ชิงได้แต่ยอมรับว่าครั้งนี้ตนสื่อสารไม่ดีเองก่อนจะมองไปยังร่างของหญิงสาวเบื้องหน้าอีกครั้ง พอกลับมาเป็นร่างเดิมลู่ชิงก็ได้ทราบเสียทีว่านางคือตัวอะไร นางคือปีศาจจิ้งจอกที่มีหางจิ้งจอกสีแดงโผล่ออกมาจากด้านหลังและมีหูจิ้งจอกงอกออกมาจากบนหัว แม้ในโลกนี้จะไม่มีปีศาจแบบนี้แต่ลู่ชิงเคยเห็นอะไรแบบนี้ในมิติที่เขาจากมาเช่นกัน

“หึหึ.....ไม่นึกเลยว่าเด็กคนนี้จะเป็นเทพลงมาเกิด ถึงกับรักษาข้าให้แบบนี้เชียว”ระหว่างกำลังคิดว่าจะจัดการอย่างไรกับปีศาจจิ้งจอกตนนี้ดี ร่างของปีศาจจิ้งจอกสาวเบื้องหน้าก็ลุกขึ้นยืนช้าๆพร้อมแผ่กลิ่นอายปีศาจออกมาอย่างรุนแรง

“แต่น่าเสียดาย พลังของข้ายังไม่ฟื้นฟูดี คงต้องใช้เจ้าเป็นยาบำรุงสักหน่อย”ปีศาจจิ้งจอกสาวหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงแหลมสูงก่อนจะเดินเข้ามาหาลู่ชิงและหลินเยว่ด้วยท่าทีราวกับตัวร้ายในบทละคร แถบนางยังเรียกเปลวไฟออกมารอบตัวเพื่อเตรียมจะใช้สังหารเด็กทั้งสองเอาไว้แล้วด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด