ตอนที่แล้วตอนที่ 124 : เดินในมหาวิทยาลัยกับหลินซีหลาน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 126 : เจียงเฉินคนนี้ไม่ใช่คนแล้ว!

ตอนที่ 125 : นี่พี่เฉินของฉันสุดยอดขนาดนี้เลยหรอ?


ตอนที่ 125 : นี่พี่เฉินของฉันสุดยอดขนาดนี้เลยหรอ?

ห้องประชุมของมหาวิทยาลับตี้ตู๋

งานเลี้ยงศิษย์เก่าดีเด่นได้เริ่มขึ้นแล้ว

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตส่วนใหญ่ต่างก็มากัน!

อธิการบดีจางห้าวจุนยืนต้อนรับศิษย์เก่าทุกคนอยู่หน้าประตูด้วยรอยยิ้มบนหน้าราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิบนหน้าของเขา

เนื่องจากหลินวีหลานไม่ได้เตะแรงเกินไป ฟ่านถงเลยยังอดทนเดินมาถึงห้องประชุมได้อยู่

ฉินเฟิงและฟ่างถงต่างก็มากันถึงแล้ว

ฉินเฟิงมองดูรอบๆแต่เขาก็หาเจียงเฉินไม่เจอ “ทำไมพี่เฉินยังไม่มาอีกนะ?”

ฟ่าถงเองก็พยายามมองหาเจียงเฉินและหลินซีหลานอยู่เหมือนกัน ถ้าโชคดีเขาจะเอาคืนให้สาสม!

ให้หลินซีหลานได้รับรู้ว่าการปฏิเสธเขามันเป้นการตัดสินใจที่ผิด!

แต่น่าเสียดาย....เขาหาเธอไม่เจอ

ฟ่านถงยิ้มอย่างดูถูก “หึหึ~ ขยะแบบนั้นคงไม่กล้าเข้ามาในงานหรอกอดตบหน้าพวกมันเลย หงุดหงิดจริงๆ!”

ก่อนหน้านี้เขาได้บริจาคเงินของเขาอย่างเต็มกำลังซึ่งมันสูงถึง 1.5 ล้านและดูเหมือนว่าตำแหน่งศิษย์ดีเด่นปีนี้จะเป็นของเขา!

การประชุมเริ่มขึ้น!

อธิการบดีจางห้าวจุน “ศิษย์เก่าดีเด่นทุกคน พวกเราคงมาถึงกันหมดแล้วใช่ไหม”

เทียนยู่เฉิงพูดออกมา “อธิการบดีคะ เจียงเฉินเขายังไม่มานะคะ”

ใบหน้าของอธิการบดีดูเย็นชาทันที “คนๆนี้ไม่ต้องไปสนหรอก เขาไม่ได้บริจาคเงินด้วยซ้ำ ไม่มาก็ไม่มาสิ”

“มาเริ่มงานกันเถอะ”

จางห้าวจุน “ถึงศิษย์เก่าดีเด่นทุกคน พวกเรามาอยู่ตรงนี้แล้วสถานที่ในอดีตของพวกเรา ความจริงแล้วที่นี่พวกเรายังต้องการความช่วยเหลืออยู่ การก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ของพวกเรามีปัญหา....”

อธิการบีดจางห้าวจุนพูดเรื่องความต้องการและความยากลำบากของมหาลัยในการสร้างอาคารเรียนออกมาก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ

“ทุกๆคนในนี้มีทั้งพรสวรรค์และความสามารถที่โดดเด่น ถ้สในนี้มีใครซักคนที่สามารถเกลี้ยกล่อมคุณลู่ตงหัวให้ขายที่ดินให้มหาวิทยาลัยของเราในราคา 35 ล้านได้ฉันจะสลักชื่อคนนั้นอยู่บนบรรทัดแรกของรายชื่อศิษย์เก่าดีเด่น!”

ทุกคนต่างตกตะลึง นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการอวดตัวเองแล้ว!

การแกะสลักชื่อของตัวเองไว้บนบรรทัดแรกนับเป้นความรุ่งโรจน์อันสูงสุดแล้ว!

แต่คำขอนี้มันไม่เกินตัวไปหน่อยหรอ?

ฉินเฟิงและฟ่านถงก็ยังต้องส่ายหัว ลู่ตงหัวคนนี้เขาใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาจะเจรจาด้วยได้!

งานนี้ใครอาสาไปต้องโดนหักหน้ากลับมาแน่นอน!

ในเวลานี้เองศิษย์เก่าทุกคนพากันมองไปที่เดียวกัน!

“เฉินเจี้ยน?”

ดวงตาของจางห้าวจุนเป็นประกาย!

ทุกคนตกตะลึง หรือว่าปีนี้จะมีม้ามืด?!

เฉินเจี้ยนยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ “ครับ! ผมเฉินเจี้ยน ผมเป็นนักพูดระดับประเทศ ผมเก่งเรื่องการพูดที่แสดงออกถึงอารมณ์และเหตุผล ผมเชื่อว่าผมจะกดดันลู่ตงหัวให้เขาขายที่ดินได้!”

“เยี่ยม! สถาบันของพวกเราจำเป็นคนที่มีพรสรรค์อย่างนาย!”

จางห้าวจุนทำการโทรหาลู่ตงหัวทันที

แล้วก็เชื่อมต่อลำโพงกับโทรศัพท์เพื่อให้ทุกคนได้ยินกันอย่างพร้อมเพรียง

ไม่นานเสียงเย่อหยิ่งก็ดังออกมาจากปลายสาย “จางห้าวจุน นายนี่มันน่ารำคาญจริงๆ ฉันบอกแล้วไงถ้าไม่ได้ 90 ล้านฉันไม่ขาย นายเข้าใจใช่ไหม?”

เหล่าศิษย์เก่าต่างตกใจกันและไม่กล้าพูดอะไรออกมา

“ทุกคน ไม่ต้องไปใส่ใจรายละเอียดตรงนี้หรอก”

อธิการบดีพูดและยิ้มออกมา “คุณลู่ตงหัว ผมขอเวลาคุณซัก 3 นาทีได้ไหม? ผมมีศิษย์เก่าคนหนึ่งเขาอยากจะคุยกับคุณ!”

“ได้! แค่ 3 นาทีเท่านั้น! ฉันจะรอฟังเรื่องไร้สาระของนายแค่ 3 นาทีถ้าครบเวลาเมื่อไหร่ฉันจะวางสายทันที!”

ลู่ตงหัวจับหูของตัวเองเขานั้นต้องอดทนฟังอีกฝ่ายถึง 3 นาที!

เฉินเจี้ยนเองก็รู้แล้วว่าถึงเวลาของตัวเองแล้วเขาจึงเริ่มพูดขึ้นมาทันที “คุณลู่ตงหัว ผมรู้ว่าที่ผืนนี้สำคัญกับคุณมาก แต่มหาลัยของเรานั้นเป็นที่ที่สอนและให้การอบรมกับบรรดาผู้คนมากมาย และส่งออกไปหล่อเลี้ยงประเทศนี้ทั้งประเทศทำให้คนรุ่นหลังได้มีอนาคตที่สดใส ผมคิดว่าบางทีเงินทองมันก็อาจจะไม่สำคัญเท่าการร่วมลงมือพัฒนาประเทศชาติสร้างสังคมที่ดี....”

หลังจากนั้นข้อความล้างสมองนี้ก็ดำเนินต่อไปถึง 1 นาทีกับอีก 50 วินาที!

เฉินเจี้ยนเองยังรู้สึกซาบซึ้งและร้องไห้ออกมาและทุกคนที่ได้ฟังก็รู้สึกไม่ต่างกัน

แต่โชคไม่ดี....

ลู่ตงหัวไม่รู้สึกอะไรซักนิด “พูดจบรึยัง? นายพูดเรื่องไร้สาระออกมามากพอแล้ว คนต่อไป!”

เฉินเจี้ยนกระอักเลือดออกมา!

ตอนแรกที่คิดว่าจำสำเร็จแต่ผลกลับออกมาเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?

ฉินเฟิงเองก็อยกาจะลองดูมั่ง “คุณลู่ตงหัว ผมคือฉินเฟิง คุณเองก็น่าจะรู้จักผม....”

ลู่ตงหัวพูดขัดขึ้นมาทันที “มันคงจะดีกว่ามั้งถ้าเราไม่ได้รู้จักกัน?”

ฉินเฟิงถูกสวนกลับมาเขาทำได้เพียงถอยออกมาด้วยความอับอาย!

ฟ่านถงเองก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจในประสบการณ์ของตัวเองเขาเลยลองอาสาดู “คุณลู่ตงหัว คุณจะช่วยลดราคาที่ดินลงหน่อยได้ไหม?”

“ได้ 89 ล้าน! เอาล่ะหมดเวลาแล้ว”

ลู่ตงหัววางสายทันที

ฟ่านถงดีใจจนร้องโอ้อวดออกมา “ดูสิ ฉันทำให้เขาลดได้ตั้ง 1 ล้าน!”

ทุกคนพูดไม่ออกและพากันมองเขาราวกับกำลังมองคนโง่

มันคงจะต่างกันมากละมั้ง 89 กับ 90 ล้านเนี่ย?

มหาลัยของเรามีทุนแค่ 35 ล้านเท่านั้นนะครับพี่!

สามศิษย์ดีเด่นถูกตบหน้ากันไปทีละคน!

ทั้งห้องประชุมเต็มไปด้วยความเงียบ....

จางห้าวจุนถอนหายใจออกมา

ศิษย์เก่าเหล่านี้ช่วยอะไรไม่ได้เลย!

แต่ยังไงก็ตาม ก็ไปโทษพวกเขาไม่ได้ ยังไงซะนี่ก็เป็นปัญหาที่มหาลัยแก้ไม่ตกมาหลายปีแล้ว!

“โอ้ อย่าโทษตัวเองกันไปเลยอย่าเอามันมาเก็บให้หนักใจ มาฉลองอย่างมีความสุขกันดีกว่า”

แม้ใบหน้าของจางห้าวจุนจะไม่มีความสุขแต่ก็ต้องบังคับให้แสดงออกว่ามีความสุข

ทันใดนั้นประตูทางเข้าก็เปิดออก

เจียงเฉินเดินนำหลินซีหลานเข้ามา

ก่อนหน้านี้พวกเขาพากันไปเปลี่ยนรองเท้ามาก็เลยต้องเข้ามาในงานสายไป 10 นาที...

เจียงเฉินพูดขอโทษออกมา “ท่านอธิการบดีขอโทษทีครับที่ผมมาสาย ว่าแต่เมื่อกี้กำลังคุยกันเรื่องปัญหาอะไรหรอครับ?”

ดวงตาของฟ่านถงเบิกกว้างทันที นี่เขาเป็นศิษย์เก่าดีเด่นคนที่ไม่ได้บริจาคเงินงั้นหรอ?

จางห้าวจุนตอบกลับไปอย่างสิ้นหวัง “ใช่”

ตาของฉินเฟิงเป็นประกายเขาเดินออกไปข้างหน้า “พี่เฉิน! พวกเรากำลังหาทางแก้ปัญหานี้อยู่พอดี นายช่วยกดดันลู่ตงหัวให้ขายที่ดินผืนนั้นให้เราหน่อยได้ไหมล่ะ?”

เจียงเฉินยิ้มแล้วพยักหน้า “อืม ไม่มีปัญหาหรอก”

พูดจบคนในงานก็หัวเราะออกมา!

ตอนนี้คงจะมีคนโง่ออกไปโชว์โง่โดนหักหน้าอีกแล้วสินะ?

ที่มากไปกว่านั้นอีกฝ่ายนั้นก็รำคาญพวกเรามากพอแล้วตอนนี้คาดว่าต่อให้โทรไปก็โทรไม่ติดหรอก!

จางห้าวจุนที่เห็นความมั่นใจอย่างล้นหลามของเจียงเฉินมันก็จุดประกายความหวังขึ้นมาในใจของเขาทันทีเขาเข้าไปจับมือเจียงเฉิน “เจียงเฉิน! ถ้านายทำให้ลู่ตงหัวยอมขายที่ดินได้ตำแหน่งศิษย์เก่าดีเด่นปีนี้จะเป็นของนายทันที!”

ทุกคนอยากจะเป็นลมและคิดว่าคนแบบนี้เนี่ยนะจะทำได้?

เจียงเฉินพยักหน้าอย่างจริงใจ “ผมไม่สนเรื่องตำแหน่งเป็นศิษย์เก่าดีเด่นอะไรแบบนั้นหรอกครับ ผมแค่อยากทำอะไรเล็กๆน้อยๆให้มหาลัยบ้าง”

“เยี่ยมเยี่มจริงๆ!”

อธิการบดีจางห้าวจุนมองเจียงเฉินที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและเริ่มที่จะคิดว่าเจียงเฉินกับลู่ตงหัวอาจจะคุ้นเคยกันพอสมควรแน่ๆ “งั้นเจียงเฉิน นายโทรหาลู่ตงหัวเถอะ”

เจียงเฉินกล่สวอย่างตรงไปตรงมา “จริงๆแล้วผมไม่มีเบอร์เขาครับ”

แม่งเอ้ย!!!

คนดูแทบช็อค!

นายไม่มีแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของเขาแล้วนายไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน?

นายคิดจะล้อเล่นกับเรารึยังไง?

ใบหน้าของอธิการบดีจางห้าวจุนแข็งค้างไปในทันที....ดูเหมือนเขาจะหวังมากเกินไป

ในเวลานี้เอง โทรศัพท์ของเจียงเฉินก็ดังขึ้นและสายนั้นก็มาจากลู่ฉู่ซวน

ลู่ฉู่ซวน “พี่เจียงเฉิน~ พ่อของหนูเพิ่งจะให้หนูมาเชิญพี่ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน พี่มีเวลามาทานอาหารเย็นกับพวกเราคืนนี้ไหม?”

เจียงเฉิน “เธอโทรมาพอดีเลย พ่อของเธออยู่ไหน บอกเขาหน่อยว่าฉันอยากคุยกับเขา”

ลู่ฉู่ซวน “พ่อคะ~~~~ พี่เจียงเฉินอยากคุยกับพ่อ!”

“ส่งมา!”

เจียงเฉินได้ยินเสียงของลู่ตงหัวดังมาไกลๆ “สวัสดั คุรเจียง คุณอยากจะคุยกับผมหรอ?”

ทุกคนตกตะลึง!

นี่ใช่ลู่ตงหัวคนที่หยิ่งผยองคนเมื่อกี้หรอ?

เจียงเฉิน “ใช่ ผมจะถามว่าคุณช่วยขายที่ดินให้มหาลัยได้รึเปล่า?”

ลู่ตงหัวมีความสุขมาก “บังเอิญจริงๆเลย คุณเจียงผมจะเล่าเรื่องอะไรตลกๆให้ฟัง เมื่อกี้เพิ่งจะมีคนโง่สองสามคนโทรมาหาผมและขอซื้อที่ตรงนั้นด้วยราคา 30 ล้านหยวนพอดี”

ทุกคนเงียบ พวกเขาอยากจะเป็นลมไปทันที!

พระเจ้า! เขาเรียกพวกเราว่าคนโง่!

โดยเฉพาะอธิการบดีจาง ที่ยิ่งอับอายขึ้นเรื่อยๆ.....

เขาเรียกเจียงเฉินว่า คุณเจียงแต่เรียกพวกเราว่า....คนโง่!

และที่มากไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ลู่ตงหัวเอาแต่ทำตัวหยิ่ง หยิ่งจนไม่มีเหตุผล!

แต่นี่เขากลับเคารพเจียงเฉินที่เป็นแค่คนส่งพัสดุเนี่ยนะ?!

แม้ว่าเขาจะไม่มีเบอร์ของลู่ตงหัว แต่ลูกสาวของลู่ตงหัวกลับเรียกชื่อของเจียงเฉินอย่างหวานแหวว!

หรือว่าเจียงเฉินจะเป็นลูกเขยของอีกฝ่าย? เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง!

เขาจะไปเรียกลูกเขยว่าคุณเจียงได้ยังไง!

ตัวตนของเจียงเฉินจะต้องน่ากลัวมากแน่ๆ!

ตอนนี้ทุกคนต่างสับสนกันหมด....

ใบหน้าของฉินเฟิงเต็มไปด้วยความรู้สึกของชัยชนะ “พี่เฉิน พี่เอาทั้งพ่อทั้งลูกอยู่หมัด นี่พี่จะเก่งไปถึงไหนเนี่ย?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด