ตอนที่แล้วตอนที่ 18 เข้าเมืองด้วยกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 ซื้อเมล็ดพันธุ์

ตอนที่ 19 ไถ่ที่ดินระดับกลาง


เกวียนวัวหยุดอยู่นอกเมืองขณะที่เหล่าผู้โดยสารลงจากเกวียนทีละคน ครอบครัวของเซียวจิ่งถิงเดินเข้าเมืองก่อนจะไปเช่าแผงลอยที่ตลาด

ผู้คนเดินผ่านไปมาไม่ขาดสาย ทว่าเซียวจิ่งถิงและฉีมู่อานกลับรู้สึกเขินเล็กน้อย เซียวเสี่ยวฟ่านคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะแสดงทักษะของตัวเองออกมา เด็กน้อยจึงตะโกนสุดเสียง “องุ่นจ้า องุ่นสดๆเลย!”

เซียวเสี่ยวฟ่านกล้าหาญมาก ทำให้เซียวจิ่งถิงที่ยังประหม่าอยู่นั้นรู้สึกประทับใจและมองลูกคนเล็กต่างไปจากเดิม

เมื่อเห็นสายตาชื่นชมของพ่อที่มองไปทางน้องชาย เซียวเสี่ยวตงก็เริ่มรู้สึกอิจฉาและเป็นกังวล ทว่าเขาไม่อาจตะโกนอย่างน่าไม่อายเหมือนกับเซียวเสี่ยวฟ่านได้ เสี่ยวตงรู้สึกโกรธตัวเองอยู่ในใจ ใบหน้าเล็กๆแลดูเคร่งขรึมซึ่งเซียวจิ่งถิงคิดว่ามันดูตลกดี

ท่าทางของเซียวเสี่ยวฟ่านดูน่ารักน่าชังมากจนผู้หญิงหลายคนเดินเข้ามาถามราคา แต่เมื่อได้ยินว่าองุ่นพวงหนึ่งราคาตั้งสองร้อยห้าสิบเหรียญทองแดง พวกนางจึงพากันแยกย้ายออกไปทันที

เซียวจิ่งถิงยังคงใจเย็นได้อยู่ เขาตัดองุ่นมาสองสามลูกและเชิญชวนให้ผู้คนเข้ามาลองชิมดูก่อน นี่เป็นวิธีที่จะช่วยส่งเสริมการขายซึ่งก็ประสบความสำเร็จอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม ความคิดที่ว่าองุ่นไม่อร่อยนั้นฝังรากลึกอยู่ในจิตใจของผู้คน แถมราคาของมันยังสูงเกินองุ่นทั่วไปอยู่มาก ตลอดทั้งเช้า เขาจึงขายองุ่นได้เพียงสามสิบพวงเท่านั้น เซียวจิ่งถิงไม่นึกอยากจะลดราคาสักเท่าไหร่ และลูกค้าที่ยอมจ่ายราคานี้ก็มักจะไม่ออกมาเดินเที่ยวในตลาดอันต่ำต้อยเช่นกัน ดังนั้นสถานการณ์จึงไม่แย่จนเกินไป แต่ก็ไม่ได้ดีมากนัก

เมื่อเห็นเซียวจิ่งถิงที่อยู่ในอารมณ์หดหู่ ฉีมู่อานจึงพูดขึ้น "ข้ามีข้อเสนอ"

เซียวจิ่งถิงพยักหน้าทันที “รีบพูดมาเถอะ”

“ข้าพอรู้จักกับโจวจี้ผู้เป็นเจ้าของภัตตาคารเยว่เหออยู่บ้าง ภัตตาคารของเขาต้องเตรียมผลไม้วิญญาณมากมายทุกวัน เราอาจขายองุ่นให้เขาได้ในปริมาณมาก แต่ข้าเกรงว่าราคาจะต้องถูกกว่านี้” ฉีมู่อานพูดอย่างระมัดระวัง

ในอดีต เซียวจิ่งถิงเป็นคนหัวแข็งและไม่เคยฟังฉีมู่อานเลย เขามักจะดุด่าฉีมู่อานที่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องของตัวเอง บางครั้งยังถึงขั้นทุบตีเลยด้วย เมื่อเวลาผ่านไป ฉีมู่อานจึงไม่ค่อยกล้าแสดงความคิดเห็นของตัวเองเท่าไหร่นัก

เซียวจิ่งถิงพยักหน้า ดวงตาของเขาเป็นประกายขณะเอ่ยเบาๆ “หากเขาซื้อไปทีละมากๆ จะลดราคาหน่อยก็คงไม่เสียหาย” หากเก็บองุ่นไว้นานเกินไป พวกมันก็จะเน่าเสียอยู่ดี ปล่อยไว้แบบนี้นานๆคงไม่ดีแน่

เมื่อได้ยินเซียวจิ่งถิงเห็นด้วยกับความคิดนี้ ฉีมู่อานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย

เซียวจิ่งถิงทำความสะอาดอยู่พักหนึ่งขณะที่ฉีมู่อานไปพบกับเจ้าของภัตตาคารและขายองุ่นสามร้อยพวงให้กับโจวจี้ในเหอราคาพวงละสองร้อยเหรียญทองแดง พอนำมารวมกับเงินที่ได้จากการขายองุ่นสามสิบพวงก่อนหน้านี้ เซียวจิ่งถิงจึงได้เงินมากว่าหกสิบเหรียญเงิน

“รีบไปไถ่ที่ดินคืนมาเถอะ” ฉีมู่อานเร่งเร้า

เซียวจิ่งถิงยิ้มให้อย่างกระอักกระอ่วน “เมื่อตอนที่ข้านำที่ดินไปจำนำ ที่ดินระดับสูงหนึ่งหมู่มีราคายี่สิบสองเหรียญเงิน เพื่อไถ่มันคืนมา ข้าต้องให้ยี่สอบหกเหรียญเงิน จากเงินที่มีอยู่ตอนนี้ เราสามารถแลกกลับมาได้เพียงสองหมู่เท่านั้น”

ฉีมู่อานครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น “ทำไมท่านไม่ไถ่ที่ดินเกษตรระดับกลางมาก่อนล่ะ?” แม้ว่าที่ดินระดับสูงจะดีมาก แต่พวกเขาก็ไม่มีพลังวิญญาณเพียงพอที่จะใช้มันได้อย่างเต็มที่ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเซียวจิ่งถิง แค่ที่ดินระดับกลางก็ยากพออยู่แล้ว

เซียวจิ่งถิงพยักหน้าเห็นด้วย “เอางั้นก็ได้!”

ที่ดินระดับกลางมีอยู่ด้วยกันหกหมู่ หนึ่งหมู่มีราคาเท่ากับสิบเหรียญเงิน พอบวกดอกเบี้ยอีกเล็กน้อยจึงกลายเป็นเจ็ดสิบแปดเหรียญเงิน

เซียวจิ่งถิงรับโฉนดที่ดินมาและส่ายหน้าด้วยความหดหู่ เขาสูญเสียเงินทั้งหมดที่หามาได้แถมยังต้องการเพิ่มอีก

เรื่องนี้จะไม่จบนะ ช่วยผู้แปลหน่อยนะ mynovel.co ครับ

ครอบครัวของฉีมู่อานเองก็มีอาชีพทำไร่ทำสวนก่อนที่เขาจะแต่งงานกับเซียวจิ่งถิง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกชื่นชอบเรื่องที่ดินเป็นพิเศษ เมื่อเห็นเซียวจิ่งถิงไถ่ที่ดินคืนมา เขาจึงรู้สึกอบอุ่นใจในทันที

เมื่อมองไปที่สีหน้าของเซียวจิ่งถิง ฉีมู่อานก็พูดกับเขาตรงๆ “ในชนบทแบบนี้ ที่ดินระดับกลางหนึ่งหมู่จะขายได้ประมาณสิบแปดเหรียญเงิน แม้จะมีการเพิ่มดอกเบี้ยบางส่วนแต่ก็ยังถือว่าคุ้มค่า พอได้ที่ดินกลับมาแล้ว ท่านพี่ยังสามารถปล่อยให้คนอื่นเช่าได้ด้วย เช่นนี้รายได้ก็จะมีเข้ากระเป๋าทุกปี”

เจ้าของโรงรับจำนำคิดว่าเซียวจิ่งถิงจะไม่มาไถ่ที่ดินคืนแล้ว ดังนั้นเขาจึงลดราคาที่ดินเป็นสิบเหรียญเงิน เมื่อตอนที่เซียวจิ่งถิงไปไถ่ที่ดิน สีหน้าของเจ้าของโรงรับจำนำจึงดูไม่สู้ดีนัก

ฉีมู่อานยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยขณะที่คิดในใจว่า เจ้าของโรงรับจำนำคงไม่คิดว่าเซียวจิ่งถิงจะมาไถ่ที่ดินคืน เขาคงเชื่ออย่างสนิทใจว่าเซียวจิ่งถิงจะไม่กลับมาอีก

"ข้ารู้แล้ว" เซียวจิ่งถิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ แต่เขาก็ยังลำบากใจกับเงินจำนวนมากที่ต้องเสียไปอยู่ดี! “มาช่วยข้าเลือกเมล็ดพันธุ์หน่อยสิ”

ฉีมู่อานพยักหน้าและพูดอย่างร่าเริง “ดีเลย! หากท่านพี่ต้องการซื้อเมล็ดพันธุ์สำหรับที่ดินระดับกลาง ท่านควรซื้อเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดีกว่าเดิม”

เซียวจิ่งถิงไม่รู้เลยว่าหลังจากที่เขาออกจากโรงรับจำนำได้ไม่นาน หวังเอ้อร์หูก็เดินเข้าไปในนั้นแทน

เจ้าของโรงรับจำนำเต็มไปด้วยความไม่พอใจขณะหันไปพูดกับเขา “เจ้าบอกว่าเซียวจิ่งถิงจะไม่มาไถ่ที่ดินคืน แต่ตอนนี้เขากลับไถ่ที่ดินไปหกหมู่แล้ว หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ตอนแรกข้าคงให้เงินเขามากกว่าเดิมเพื่อหารายได้เพิ่มจากดอกเบี้ย”

หวังเอ้อร์หูหัวเราะหึๆ “ข้าแนะนำให้เขามาที่นี่ตั้งแต่แรกนะท่านเจ้าของร้าน ท่านได้รับกำไรมาตั้งสิบเหรียญเงินโดยไม่เสียอะไรเลย เช่นนั้นแล้วยังจะมาบ่นอีกรึ? ข้าแค่ไม่รู้จริงๆว่าเขาไปเอาเงินมาจากไหน เพราะก่อนหน้านี้เขาเป็นฝ่ายบอกเองว่าใช้เงินหมดไปนานแล้ว”

เมื่อนึกถึงคำพูดของชนชั้นสูงคนนั้น ตราบใดที่เซียวจิ่งถิงแยกจากภรรยาและลูกๆของเขา และต้องอาศัยอยู่ตามท้องถนน หวังเอ้อร์หูก็จะได้รับรางวัลเป็นจำนวนห้าร้อยเหรียญเงิน หวังเอ้อร์หูอดวิตกกังวลไม่ได้ เดิมทีเซียวจิ่งถิงเสพติดผงแห่งความสุขและเล่นพนันหนักมาก เขาใกล้จะล้มละลายอยู่แล้ว ทว่าตอนนี้การพนันก็ไม่เล่น ผู้หญิงก็ไม่เที่ยว แถมเขายังเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมืออีกด้วย มันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด