ตอนที่แล้ว643-644
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป647-648

645-646


9/10

Ep.645

“ที่แท้แกก็คือเสิ่นรั่วหง” ซูเฉินถอนหายใจยาว

ก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งสังหารสาวกสายในสองคนของตำหนักอสูรหยก และรู้จากปากพวกมัน ว่าเสิ่นรั่วหงได้สั่งให้พวกเขาตามหาสัตว์จำแลง

เมื่อพิจารณาจากจุดนี้ คาดว่าสัตว์จำแลงอีกตัวน่าจะอยู่ในมือของเสิ่นรั่วหง

อย่างไรก็ตาม เสิ่นรั่วหงเป็นเพียงหนึ่งในผู้อาวุโสของตำหนักอสูรหยกเท่านั้น ความเป็นความตายของเขาเพียงคนเดียวจะเกี่ยวข้องกับทั้งขุนเขาหวังเฉียวได้อย่างไร?

ออกจะโม้เกินตัวไปหน่อยไหม?

“เป็นอย่างไร ยอมรับข้อเสนอข้าหรือไม่?”

เห็นซูเฉินไม่ตอบคำ เสิ่นรั่วหงคิดว่าซูเฉินเกิดความกลัว น้ำเสียงเริ่มดึงขึ้น กลับมาฮึกเหิมดังเดิม

“ไม่ดีกว่า”

ทว่าคำตอบของซูเฉินกลับตรงข้ามกับที่คิด อีกฝ่ายแค่นเสียงเบาๆ ระเบิดพลังจิตกวาดไปทางเสิ่นรั่วหง

“เจ้า … ได้! เช่นนั้นบิดาจะสู้กับเจ้าจนกว่าจะตายไปข้าง!”

เสิ่นรั่วหงทั้งตกใจและโกรธแค้น หลังจากคำรามออกมา เขาเปิดถุงสัตว์เลี้ยงวิญญาณอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเอง กลิ่นคาวเลือดเหม็นโฉ่ฟุ้งกระจายจากมัน

กี๊ กี๊ กี๊ ..!

ตามมาด้วยเสียงหวีดร้องน่าสยดสยอง เห็นแค่เพียงหัวขนาดใหญ่น่ากลัวปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเสิ่นรั่วหง

“อสูรกลืนฟ้า!”

ซูเฉินเลิกคิ้ว หัวที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขานั้นมิใช่ใดอื่น แต่เป็นอสูรกลืนฟ้าที่มีชื่อเสียงมากในเผ่าสัตว์อสูร

ตอนนั้นในภูเขาสือจิน เขาเคยสังหารมันไปครั้งหนึ่ง

แต่ครั้งก่อนอสูรกลืนฟ้ามีเลเวลอยู่แค่ 6 เท่านั้น ขณะที่ตัวตรงหน้า มันอยู่ในเลเวล 8 แล้ว

อย่างไรก็ตาม ซูเฉินเองก็ไม่ใช่คนเดิมในอดีตเช่นกัน

ด้วย [กายาเทพอสูรนิรันดร์]  สามารถต้านทานทุกการโจมตีของอสูรกลืนฟ้าได้อย่างสิ้นเชิง

อาจกล่าวได้เลยว่า การปรากฏตัวของอสูรกลืนฟ้าเลเวล 8 นี้ ไม่อาจก่อภัยคุกคามใดๆแก่เขา

“แกคิดว่าจะมั่นใจในตัวอสูรกลืนฟ้านั่นได้หรือ?”

ซูเฉินยิ้มดูแคลน จากนั้นเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] เรียก [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ออกมา

“แมลงสัตว์ร้ายขั้น 8!!” เสิ่นรั่วหงร้องอุทาน

กลวิธีโจมตีของซูเฉินมีมากมาย ชวนให้ต้องอ้าปากค้างจริงๆ

สัตว์เลี้ยงวิญญาณธาตุไฟขั้น 7 ก่อนหน้านี้ก็ถูกเรียกแล้ว ตอนนี้ยังเรียกแมลงสัตว์ร้ายขั้น 8 ออกมาได้อีก ให้ตายเถอะแล้วเขาจะสู้ได้อย่างไร?

“เสี่ยวจิน เสี่ยวเหยียน นายสองคนร่วมมือกันสังหารอสูรกลืนฟ้าตัวนั้นซะ” ซูเฉินชี้ไปทางสัตว์เลี้ยงวิญญาณของศัตรู เอ่ยปากออกคำสั่ง

เดิมที ด้วยกำลังรบของเขา การสังหารอสูรกลืนฟ้าตนนี้เป็นเพียงเรื่องง่ายดาย

แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] เพิ่งปลุกพลังศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ดังนั้นเขาเลยอยากใช้โอกาสนี้ รอดูว่ามันจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดไหน

“เจ้านาย ไม่ต้องให้เจ้านกตัวโตช่วย แค่ฉันตัวเดียวก็พอแล้ว!” [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] กล่าวด้วยความมั่นอกมั่นใจ

“เหอะ!”

หงส์เพลิงพ่นลมหายใจออกทางจมูกด้วยความดูแคลน

ซูเฉินอึ้งไปเล็กน้อย พยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นลองสู้คนเดียวดูแล้วกัน อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ”

“เจ้านายไว้ใจได้เลย!”

[จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] กระพือปีกดุเดือด โฉบเข้าสังหารอสูรกลืนฟ้า

“รนหาที่ตาย!”

อสูรกลืนฟ้าโกรธจัด อ้าปากใหญ่ที่เหมือนอ่างเลือดของมัน แสงสีดำหลายสายถูกยิงออกมา พุ่งตรงไปทาง [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ]

ในฐานะที่เป็นอสูรสายโลหิตที่มีชื่อเสียงในเผ่าสัตว์อสูร เมื่อถูกดูแคลนเช่นนี้ มันไม่อาจทานทนได้

ดังนั้นใช้ไพ่ตายทันทีที่เริ่มลงมือ ลอบสาบานในใจว่าจักต้องสังหาร [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ในคราเดียว

อีกด้านหนึ่ง [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ปากดูดเลือดของมันถูกปกคลุมไปด้วยคลื่นสีแดงสด จากนั้นเส้นแสงสีแดงก็ปะทุออกมา ปะทะเส้นแสงสีดำกลางอากาศ และผลปรากฏว่าสามารถเอาชนะมันได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งความเร็วยังไม่ลดลง พุ่งเข้าใส่หัวอสูรกลืนฟ้าในพริบตาเดียว

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ก็เริ่มดูดทันที

ฉากอันน่าประหลาดปรากฏขึ้น หัวมหึมาของอสูรกลืนฟ้าหดลีบลง เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นนับไม่ถ้วน เลือดข้างในสาดกระเซ็น  ไหลเวียนในอากาศ ตรงเข้าปาก [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ]

10/10

Ep.646

“อ๊าาาากกกก!”

ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันน่าสมเพช  อสูรกลืนฟ้าเหือดแห้ง เนื้อหนังลีบแบบติดกระดูกอย่างรวดเร็ว สูญสิ้นกลิ่นอายแห่งชีวิตไปอย่างสมบูรณ์

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ ฝูงชนตื่นตะลึง นิ่งงันราวถูกแช่แข็ง

สัตว์อสูรขั้น 8 ถูกสังหารได้ง่ายดายขนาดนี้เชียว?

กระทั่งซูเฉินที่ตั้งความหวังไว้สูงกับ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ยังรู้สึกเกินคาดไปเล็กน้อย

“เป็นไงเจ้านกตัวโต ฉันเก่งไหม?”

[จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ตะโกนอย่างมีชัยหันไปทางหงส์เพลิง

หงส์เพลิงเบือนหน้าหนี ไม่สนมัน ทว่าในใจลอบคิดว่า ‘ดูท่าต่อไปคงไม่สามารถรังแกเจ้ายุงยักษ์ได้ตามใจชอบแล้ว!’

เสิ่นรั่วหงเห็นอสูรกลืนฟ้าถูกสังหาร หัวใจเขาเย็นยะเยืยอก

เจ้าตัวรู้ดี ว่าหากไม่หนีตอนนี้ คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว

ขณะที่ข่มใจให้สงบลง เขาก็หันหลังและวิ่งหนีไป

แต่ซูเฉินไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ให้เขา

เจ้าตัวเปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ทั้งคนทั้งร่างพรั่งพราวเป็นแสงตระการตา โฉบวูบไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยพลังจิตเพื่อสกัดตัวเสิ่นรั่วหงเอาไว้ ง้าง[ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] และทุบลงจากมุมสูง บดเสิ่นรั่วหงกลายเป็นซอสเนื้อ

จากนั้นก้มลงหยิบถุงสัตว์เลี้ยงวิญญาณ แล้วเดินกลับไปยังตำแหน่งที่จากมาอย่างสบายๆ

ในถุงสัตว์เลี้ยงวิญญาณคาดว่าคงมีสัตว์จำแลงอยู่ อย่างไรก็ตาม ซูเฉินไม่รีบร้อนที่จะตรวจสอบมัน กลับเลือกมองไปยังประติมากรรมทั้งสองแทน

ประติมากรรมน้ำแข็งสองตัวนี้ หนึ่งคือชายชราหลังค่อมเลเวล 8 อีกหนึ่งคือชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยอยู่ห่างจากเสิ่นรั่วหงเลย

ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ประติมากรรมน้ำแข็งทั้งสองนี้ ไม่ต่างจากตัวอื่นๆ ไม่หลงเหลือกลิ่นอายแห่งชีวิต

กระนั้น ซูเฉินพบจุดที่น่าสงสัย

นั่นคือประติมากรรมน้ำแข็งตนอื่นๆ จะมากจะน้อยมีชิ้นส่วนดรอปออกมา แต่มีเพียงทั้งสองร่างนี้เท่านั้นที่ยังไม่ดรอปชิ้นส่วน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น แบ่งได้เป็นสองกรณี

กรณีแรก มีโอกาสที่ชิ้นส่วนไม่ดรอปเลย

อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์นี้มีน้อยมาก

เพราะเมื่อเลเวลยิ่งสูง โอกาสดรอปชิ้นส่วนก็จะยิ่งมากขึ้น แล้วอีกอย่างจำนวนต้องไม่ใช่น้อยๆ

ขณะที่ชายชราหลังค่อมเป็นถึงเลเวล 8 แล้วจะไม่ดรอปชิ้นส่วนได้อย่างไร?

กรณีที่สองก็คือ ทั้งสองคนนี้ใช้กลวิธีพิเศษในการกลบซ่อนกลิ่นอาย มองผิวเผินอาจเหมือนตายไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงพวกเขายังมีชีวิตอยู่

ซูเฉินรู้สึกว่าความเป็นไปได้ในกรณีที่สองมีสูงมาก เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เขาชกไปทางชายวัยกลางคน

บังเกิดเสียงระเบิดดังรุนแรง เห็นแค่เพียงชายวัยกลางคนร่างแหลกเป็นเสี่ยงๆ ตามมาติดๆด้วยรังสีแสงสีแดงพุ่งวูบออกมาจากมัน พุ่งหายไปไกลอย่างรวดเร็ว

“หนอนโหลิต!”

ดวงตาของซูเฉินเย็นเยียบ กวาดพลังจิตออกไปพันธนาการหนอนโลหิตเอาไว้

“ผู้อาวุโสโปรดไว้ชีวิต!”

เมื่อตระหนักว่าตนเองขยับไม่ได้ หนอนโลหิตกรีดร้องด้วยความสยดสยอง

“หนอนโลหิตขั้น 6 ดูเหมือนว่าจ้าวหุบเขาวิญญาณอสรพิษจะถูกแกควบคุม”

ซูเฉินพึมพำ สังหารหนอนโลหิตอย่างไร้ปรานี

จากนั้น เขากวาดสายตาไปยังชายชราหลังค่อม กล่าวหยอกเย้าว่า “แล้วแกเล่า? ยังจะแกล้งเล่นละครไปอีกนานแค่ไหน?”

กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก ..!

สิ้นเสียงซูเฉิน ก้อนน้ำแข็งบนร่างของชายชราหลังค่อมแตกเป็นเสี่ยงๆ

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ชายชราไม่ได้เลือกที่จะหลบหนี  ทั้งยังไม่โจมตีซูเฉิน แต่กลับคุกเข่าลงแทน เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า

“ผู้อาวุโส ข้าขอยอมจำนนต่อท่าน ได้โปรดอย่าสังหารข้า!”

ซูเฉินปาดจมูกเขา เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “แกมาจากเผ่าพันธุ์ไหน? แล้วชื่ออะไร?”

ชายชราหลังค่อมตอบกลับทันทีว่า “ผู้อาวุโส ข้าชื่อโม่หรง มาจากเผ่าวิญญาณ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด