ตอนที่แล้วผู้กอบกู้แห่งที่ราบทมิฬ ตอนที่ 4 ที่ราบทมิฬ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปผู้กอบกู้แห่งที่ราบทมิฬ ตอนที่ 6 เปิดเผยมรดก

ผู้กอบกู้แห่งที่ราบทมิฬ ตอนที่ 5 คำสั่งแต่งตั้ง


เมื่อไมนอสลงจากรถม้า เขาเห็นทหารยามยืนเข้าแถวเรียงกนัอยู่ข้างประตูทางเข้าคฤหาสน์ ที่นี้เล็กกว่า

คฤหาสน์ลังเก่าของไมนอส แต่ก็เป็นพื้นที่ดีใช่

จากนั้นชายวัยกลางคนร่างอ้วนหัวเกือบล้าน ใส่ชุดคลุมขาวเดินออกมาตอนรับที่หน้าประตู

ข่าวการมาของไมนอสนั้นได้ถูกแจ้งให้ทราบกันทั่ว แต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจนักว่าคิดว่ายังไง

ก็คงไม่สามารถมาเปลี่ยนแปลงอะไรในดินแดนแห่งนี้ได้ แต่สำหรับชายวัยกลางคนคนนี้กลับดีใจที่จะได้

พบกับผู้ที่จะมาปกครองดินแดนนี้แทนเขาเสียที่ เพราะเขาต้องทนอยู่ที่นี้มา 6 ปีในดินแดงแห่งนี้

“ยินดีตอนรับสู่เมืองดราย ข้าคือ เนลสัน สกินเนอร์ ผู้สำเร็จราชการดูแลพื้นที่ราบทมิฬ ในช่วง 6 ปี ตามคำสั่งขององค์กษัตริย์บราวน์ ข้าได้รับคำสั่งให้มาตอนรับและถ่ายทอดอำนาจการปกครองต่อให้กับท่านครับ”

“มาเถอะครับ เชิญที่สำนักงานเก่าของข้าก่อน กระผมจะได้ชี้แจ้งต่างๆให้”

ไมนอสกับดิลเลียนได้ยินก็พากันเดินตามเข้าไปในสำนักงาน

“นายท่านสจวร์ต หลังจากข้าได้ทราบข่าวการฟื้นของท่าน ข้าก็ได้เตรียมข้อมูลและสิ่งต่างๆ ไว้อำนวจความสะดวกต่อการเปลี่ยนผู้ปกครอง ข้าจะตรวจสอบอีกครั้งให้แน่ใจว่าข้อมูลที่สำคัญๆ จะถูกส่งมอบให้นายท่านในวันนี้”

…..

หลังจากสนทนากันไม่กี่ชัวโมง เนลสัน สกินเนอร์ ได้ออกจากคฤหาสน์ด้วยใบหน้าแสนมีความสุข

ในที่สุดเขาก็ได้ไปจากที่ห่วยๆ นี้สักที่ เขานั้นไม่ยอมเสียสักนาที ที่จะออกจากเมืองทั้งเก็บของไว้ยังเรียบร้อย รถม้าจอดรออยู่ เมื่อรถม้าของ เนลสัน ออกตัวไป เนลสันนั้นไม่มีแม้แต่จะหันย้อนกลับมาดูเมืองแห่งนี้อีกเลย

…..

ในคฤหาสน์ ไมนอส ได้พบกับเลขาสาว ที่เคยทำงานให้กับ เนลสัน  เธอชื่อ มีอา อายุ 27 ปี ระดับของเธออยู่ที่ 23 พรสวรรค์ฟ้า หน้าตาเธอสวยเอาเรื่องอยู่ เธอมีดวงตาที่สวยงาม และยิ่งหุ่นของเธอนั้นค่อนข้างมีส่วนโค้งเว้าที่น่าดึงดูดยิ่งหนัก

และอีกคนคือผู้บัญชาการ ชื่อ ไปกี้ อายุ 53 ระดับ 35 พรสวรรค์ฟ้า เป็นชายตัวสูงใหญ่ สายตาแหลมคม เขามีแผลขนานใหญ่บนหน้าด้วย

ทั้งสองคนนั้นเติบโตในที่ราบทมิฬ มีอาเริ่มทำงานให้กับสำนักงานนี้เมื่อ 5 ปีก่อน ส่วน ไปกี้ นั้นเคยทำงานร่วมกับผู้ปกครอง ถึง 3 รุ่น ทั้งหมด 25 ปี

ไปกี้เป็นที่รู้จักกับคนในพื้นที่ยังดี เขาสามารถให้ข้อมูลหรือสนับสนุนไมนอสได้เป็นยังดี

หลังจากพบปะ กับพนักงานทุกคนแล้ว ไมมอสก็ได้อยู่ในสำนักงานใหม่นี้กับพ่อบ้านสองคน เพื่อคุยเกี่ยวกับข้อมูลที่เขาได้รับมา

ไมนอสได้ทราบว่าที่ราบทมิฬนั้นมีค่าใช้จ่ายกับรายรับมากกว่ารายได้ยังมากเพราะกิจการต่างๆ ไม่ค่อยมีรายได้มากนักทั้ง การทำเมืองคริสตัลจิตวิญญาณ  หรือการค้าขาย

แล้วที่แสบกว่านั้นคือ เนลสัน พึ่งเก็บภาษีไปเมื่อ 2 - 3 วันก่อนพร้อมกับนำไปด้วย มีเหลือติดคลังแค่ 1,000 คริสตัลจิตวิญญาณระดับต่ำ เท่านั้น

ด้วยสภาพทางการเงินตอนนี้คงทำงานได้อีกแค่ 1 เดือนเท่านั้น (เดือนหน้าไม่มีจะจ่ายแล้ว)

ไมนอสพบทราบข้อมูลเพิ่มว่าที่ราบทมิฬมีเนื้อที่ 200,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งไร้ประโยชน์ แม้จะที่เยอะเหมาะกับการทำการเกษตร แต่ก็ไม่สามารถปลูกอะไรขึ้นได้

และทางทิศตะวันออกของดินแดนมีทะเลสาบที่เป็นแห่งน้ำให้กับแม่น้ำบางสาย แต่ก็ไม่ได้น่าดึงดูดมากนักพอเป็น แหล่งหารายได้ให้กับชาวประมง นำมาขายของในเมืองดรายแห่งนี้

ไมนอสได้ครุ่นคิดและออกปากถามพ่อบ้านของเขา

“ปู่ดิลเลียน ตอนนี้เรามีคริสตัลที่พ่อทิ้งไว้ให้เท่าไร”

“นายน้อย ขอรับหลังจาก ใช้มาเป็นเวลา 6 ปี กับค่าเคลื่อนย้าย ตอนนี้เราเหลืออยู่ 30,000 คริสตัลระดับต่ำ 500 คริสตัลระดับกลาง ครับ”

ไมนอสถอนหายใจยาว

“ถึงจะไม่มากก็พอจะ ใช้จ่ายได้ช่วงแรก  ผมอยากไปสำรวจที่ดินรอบๆ เมืองและอยากสร้างทีมงานที่จะมาช่วยผมทำการเกษตร ผมพอจะมีวิธีแก้ไขสภาพดินอยู่ แต่ผมต้องลองทดสอบเพื่อยืนยันก่อน”

“ผมยังต้องการให้รวบรวมข้อมูลของเจ้าแห่งอาคม ผมต้องกาสร้างเขตอาคมขนานใหญ่ เพื่อใส่รอบเมืองเพื่อเพิ่มความเข้มข้นพลังจิตวิญญาณ แต่ตอนนี้ต้องการแค่ข้อมูลก่อน เพราะเราคงยังไม่สามารถจ่ายค่าจ้างได้ในตอนนี้”

“แล้วก็พวกข้อมูลของนักตีเหล็กจิตวิญญาณด้วย ว่ามีใครบ้าง และอยู่ที่ไหน เมื่อเราต้องการจะจ้างงาน”

แม้ว่าโลกนี้จะไม่ได้มีเทคโนโลยีที่สูง แต่ยังมีสามารถใช้ชีวิตได้ยังสะดวกสบาย หากมีคริสตัลเพียงพอ

อาคมหรือเขตอาคมในสิ่งของหรือพื้นฐานจะแปลงพลังงานวิญญาณให้เป็นรูปแบบพลังงานอื่นๆ เช่น ความร้อน หรือ แสงสว่าง ที่สามารถนำมาอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต

สำหรับเจ้าแห่งอาคมนั้น เป็นบุคคลที่เน้นการฝึกฝนไปในวิชาเกี่ยวกับการสร้างอาคมต่างๆ

เจ้าแห่งอาคมนั้นไม่ได้มีวิชาต่อสู่ จะเป็นดังสายสนับสนุนด้วยอาคมหรือเขตแดนนมากกว่า

ถึงยังงั้นเจ้าแห่งอาคมก็มีบทบาทสำคัญยังมากกับโลกแห่งจิตวิญญาณ

เช่นเดียวกันช่างตีเหล็ก พวกเขาแทบจะเหมือนกับเจ้าแห่งอาคม แตกต่างกันแค่เขาใช้วิชาต่างๆ

ในการสร้างอุปกรณ์จิตวิญญาณ

เมื่อพ่อบ้านดิลเลียนได้ยินสิ่งที่ นายน้อยของเขาพูดก็ตกใจยังมาก

“นายน้อยบอกว่า วิธีปรับปรุงดินยังนั้นรึนายน้อย!? กระผมก็อยากจะเชื่อสิ่งที่นายน้อยพูดแต่ว่าดินแดนแห่งนี้คงทำไม่ได้”

“ที่ดินแดนนี้ถูกเรียกว่าที่ราบทมิฬเพราะว่าไม่ว่าจะพืชหรือต้นไม้เมื่อปลูกลงไปในดินแล้ว มันจะตายแล้วเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วสลายกลายเป็นฝุ่นไป”

“มีผู้เชี่ยวชาญมากมาย พยายามแก้ไขปัญหานี้แต่สุดท้ายก็หมดหวัง”

ดิลเลี่ยนบอกกล่าวนายน้อยของเขา

ทำให้ไมนอสตัดสินใจที่จะบอกความจริงเกี่ยวกับมรดกกับดิลเลี่ยน

“ปู่ดิลเลียน ผมมีอะไรจะต้องบอกกับปู่”

“หกปีก่อน ที่ผมเสียพ่อไปและเกือบตาย แต่เรื่องทั้งหมดนั้นทำให้ผมได้พบเจอและรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่มา

ผมได้ถูกยอมรับจาก พระเจ้า เฮอริคัส ลองกัส และได้รับสืบทอดมรดกจากเขามาทั้งหมด”

“ด้วยเหตุนั้น ทำให้ผมได้รับองค์ความรู้มากมายของพระเจ้า และสถานที่มิติพิเศษที่เขาทิ้งเอาไว้พร้อมกับสมบัติมากมายที่จะช่วยเราได้ทั้งตอนนี้และนับต่อจากนี้ไป แล้วที่ผมหลับไปนานถึง 6ปี ก็เกี่ยวกับตัวมรดกนี้ด้วย”

หลังจากพูดเสร็จไมนอสได้ วางม้วนวิชาสีทองหน้าดิลเลียน เมื่อพ่อบ้านเห็นม้วนวิชา ก็ร้องออกมายังไม่เชื่อ

“ปะ ปะ ปะ เป็น ไป….ไม่ได้!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด