ตอนที่แล้ว591-592
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป595-596

593-594


3/10

Ep.593

ซูเฉินครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วประกาศแผนการรบทันที “พี่เฉิน ฝากคุณกับพี่เซี่ยจัดการพวกเลเวล 7 ส่วนเลเวล 8 สองตน และเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”

แม้เฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้จะอยู่ในเลเวล 6 ทว่ากำลังรบของพวกเขาเหนือกว่าเลเวลเดียวกันมาก ต่อให้ไม่ถึงขั้นสามารถสังหารเลเวล 7 ได้ แต่ถ้าถ่วงเวลา ไม่น่ายาก

ว่าจบ เขาก็เปิด [ระบบรับสมัครทหาร] จ่ายสองแต้มพลังงานผูกมัดสองศิษย์พี่น้อง

หากบังเอิญโชคดีสังหารเลเวล 7 ได้จริงๆ มันจะดรอปชิ้นส่วนได้อย่างน้อยหลายร้อยชิ้น ถ้าไม่ผูกมัดเอาไว้ ซูเฉินคงขาดทุนแย่

เมื่อได้ยินว่าซูเฉินจะรับมือกับเลเวล 9 และเลเวล 8 อีกสองตนเพียงลำพัง เฉินเฟิงกับเซี่ยจิงอี้ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

“อาเฮียซู นี่ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม?”

เฉินเฟิงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“วางใจเถอะ ฉันเองก็มีผู้ช่วยเหมือนกัน” ซูเฉินยิ้ม ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก

จากนั้น เขาก็เรียก [นักรบจักรกล] ออกมายืนเคียงข้าง ใช้ [อัญมณีอัพเกรด] เลื่อนขั้นมันเป็นเลเวล 7  แล้วติดตั้งหินพลังงานเลเวล 7 สองก้อนลงไป

เฉินเฟิงส่ายหัว ลอบถอนหายใจ ‘อาศัยแค่หุ่นเชิดกับคนบนรถคันนี้น่ะเหรอ?’

เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยที่ซูเฉินกล่าวถึงคือพวกหวู่หยางและ [นักรบจักรกล] หัวใจของเฉินเฟิงก็กลายเป็นด้านชา

แม้ว่าหวู่หยางและคนอื่นๆจะมีกำลังรบไม่เลว แต่คนที่แข็งแกร่งสุดอยู่ในเลเวล 5 เท่านั้น แค่ผู้ฝึกตนเลเวล 7 ฝั่งศัตรูตนเดียว ก็สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดลงได้แล้ว เรียกได้เลยว่าไม่มีทางก่อคลื่นลมใดๆ

ส่วน [นักรบจักรกล] อย่างมากแค่สกัดกั้นผู้ฝึกตนเลเวล 7 ได้ และไม่อาจคาดหวังอะไรมากกว่านี้

ดังนั้น หมายความว่าซูเฉินต้องเผชิญหน้ากับเลเวล 9 และ 8 เพียงลำพัง ในกรณีนี้ไม่ต้องพูดถึงชัยชนะ เกรงว่าคงถูกสังหารในพริบตาเดียว

บอกเล่าแผนการเสร็จสิ้น ซูเฉินหันมากำชับอีกครั้ง “เสี่ยวจือ ถ้ามีผู้ฝึกตนเลเวล 7 โจมตีนาย ขอให้บินหนีขึ้นฟ้าทันที เข้าใจไหม”

ว่าจบ เขาก็เปิดประตูและก้าวลงจากรถ

เฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้กัดฟัน ก้าวเดินตามอย่างช่วยไม่ได้

ขณะเดียวกันนั้นเอง ทหารกลุ่มใหญ่ของชาวราชวงศ์อสูรก็มาถึงเบื้องหน้าแล้ว

“มนุษย์! เป็นเจ้าจริงๆ!”

ท่ามกลางชาวราชวงศ์อสูร ชายตนหนึ่งที่สวมมงกุฏเหนือศีรษะ มีอายุย่างเข้าวัยกลางคน และกำลังแผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามออกมา เมื่อมองเห็นหน้าซูเฉินชัดๆ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นทันที

“เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ซูเฉินยิ้มบาง

ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเขามิใช่ใครอื่น เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่ ที่เคยพบกันในเมืองทงเทียนนั่นเอง

“ฮ่า ฮ่า …”

เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สีหน้าของมันแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย “ไอ้หนู ทางไปสวรรค์มีไม่เลือกเดิน ดันมาเคาะประตูนรก ครั้งก่อนในเมืองทงเทียน เจ้าโชคดีหลบหนีไปได้ คราวนี้มาดูกัน ว่าเจ้าจะรอดชีวิตไปได้อย่างไร!”

ในตอนที่อยู่เมืองทงเทียน ซูเฉินสังหารลูกน้องของเทพศักดิ์สิทธิ์ไปนับพันตน และในบรรดาลูกน้องเหล่านั้น ยังมีผู้ฝึกตนเลเวล 5 กว่า 20 ตน ที่ถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาเขา

อาจกล่าวได้ว่าทำให้เทพศักดิ์สิทธิ์เสียหน้ายับเยิน ด้วยเหตุนี้ ความเกลียดชังที่เขามีต่อซูเฉินจึงบาดลึกเข้ากระดูกดำ

ครั้งนี้เมื่อได้พบซูเฉินในอาณาเขตของตัวเอง เขาสาบานว่าจะถลกหนังซูเฉิน ทำให้ซูเฉินรู้สึกเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้

ซูเฉินเบ้ปาก เขาหัวเราะและกล่าวคำดูถูก “ครั้งก่อนที่เจอกันในเมืองทงเทียน แกทำอะไรฉันไม่ได้ วันนี้ก็จะทำไม่ได้เช่นเดียวกัน รู้ไหมว่าเพราะอะไร?”

กล่าวถึงตรงนี้ ซูเฉินนิ่งไปเล็กน้อย ผุดยิ้มออกมา “ก็เพราะแกมันก็แค่ขยะในสายตาฉันอย่างไรเล่า!”

ทันทีที่คำนี้ประกาศออกมา รอบด้านตกอยู่ในความเงียบสงัดจนน่าขนลุก

เฉินเฟิงกับเซี่ยจิงอี้อ้าปากค้าง ในสมองคล้ายมีเสียงอื้ออึงเล็กน้อย

ซูเฉินเยาะเย้ยผู้แข็งแกร่งเลเวล 9 แบบต่อหน้าต่อตา นี่ไม่เท่ากับเป็นการโยนตัวเองลงสู่ความตายหรอกหรือ?

เหล่าราชวงศ์อสูรเบิกตากว้างจ้องมองซูเฉิน ในแววตาของพวกมันเต็มไปด้วยความโกรธ

เพราะความยิ่งใหญ่ของเทพศักดิ์สิทธิ์มิใช่สิ่งที่จักถูกดูหมิ่นได้!

แต่มนุษย์คนหนึ่ง กล้าดีอย่างไรถึงพ่นวาจาให้ร้ายเขา?

ผู้ใดกันที่ให้ความกล้ามนุษย์ผู้นี้? หรือสมองของมันใช่เสียสติไปแล้วหรือไม่?

4/10

Ep.594

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … ไอ้หนู เจ้าทำให้ข้าโกรธได้สำเร็จแล้ว เราราชาจะทำให้เจ้ารู้สึกเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้!”

เทพศักดิ์สิทธิ์เป่ยยี่หัวเราะกราดเกรี้ยว ปราณสังหารอันรุนแรงแผ่ซ่านออกมาจากทั่วร่างเขา กระพือไปเบื้องหน้าดั่งมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ กดดันเฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้จนไม่สามารถหายใจได้ ต้องชักฝีเท้าถอยไปหลายก้าว

“เหอะ!”

ซูเฉินแค่นเสียงเย็น หลังจากนั้น ได้ยินเพียงเสียง ‘ปึดดด!’ สะท้อนออกมาจากตัวเขา ร่างกายค่อยๆสูงใหญ่ขึ้นเป็นสิบจั้ง กลิ่นอายอันทรงพลังของผู้ฝึกตนเลเวล 8 เปิดเผยออกมาโดยไม่มีการเก็บงำใดๆ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งเช่นเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่ เขาไม่กล้าประมาท

ทันทีที่ไพ่ตายนี้ถูกเปิดเผยออกมา มันไม่เพียงสามารถข่มชาวราชวงศ์อสูรเท่านั้น แต่ยังช่วยเรียกความมั่นใจของเฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้ให้กลับมาอีกด้วย

“อาเฮียซู ที่แท้คุณก็มีวิชาแปลงร่างด้วย!”

เฉินเฟิงประหลาดใจมาก แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาเริ่มกลับมาฮึกเหิมอีกครั้ง

เพราะหลังจากที่ซูเฉินแปลงร่าง ระดับฐานฝึกตนได้ขึ้นมาอยู่ในเลเวล 8

ซึ่งในกรณีนี้  มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะงัดกับเทพศักดิ์สิทธิ์เลเวล 9 ได้

“นี่เจ้ามาถึงขั้น 8 แล้วจริงๆ?”

สีหน้าของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่ทั้งตกใจและสับสน

เพราะเขายังจำได้แม่น ย้อนกลับไปตอนเมืองทงเทียน ซูเฉินมีเลเวลอยู่ที่ 4 เท่านั้น แต่นี่ผ่านมาแค่ไม่กี่เดือน กลับสามารถปีนป่ายมาถึงเลเวล 8 ได้อย่างน่าทึ่ง

แม้ได้เห็นกับตา แต่ก็ยังยากจะทำใจเชื่อ

‘อย่าบอกนะว่านี่คือพรสวรรค์อันน่าสะพรึงของผู้ที่จักสามารถก้าวข้ามขั้น 10 ไปได้?’ เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่กำหมัดแน่น ลอบร้องในใจ

ความไวในการฝึกฝนของซูเฉินรวดเร็วมาก เป็นความเร็วที่พบเจอได้ยากยิ่งในโลกใบนี้ นี่ทำให้ในหัวใจเขาเกิดความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ

แต่ขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เขายิ่งตั้งมั่นกว่าเดิม ว่าจะต้องกำจัดซูเฉินให้สิ้นซากให้จงได้

หลังจากซูเฉินเปิดใช้งาน เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์] เขาก็เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] ต่ออย่างรวดเร็ว ยกเว้นหมาป่ากลายพันธุ์สามตัว สัตว์เลี้ยงวิญญาณตนอื่นๆล้วนถูกเรียกออกมาทั้งหมด

“สัตว์เลี้ยงวิญญาณ … หนึ่งในนั้นมีขั้น 8 รวมอยู่ด้วย!!”

สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายทรงพลังที่เล็ดลอดออกมาจากด้วงเขมือบทองคำ สีหน้าของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก

ชาวราชวงศ์อสูรก็ไม่ต่างกัน การแสดงออกของพวกเขาเริ่มดูตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย

สัตว์เลี้ยงวิญญาณที่ซูเฉินเรียกออกมา มีเต่าทรราชปราณฟ้าและหงส์เพลิงที่เลเวลต่ำสุดอยู่ที่ 6 สูงสุดคือด้วงเขมือบทองคำเลเวล 8 พวกมันสร้างแรงกดดันทางจิตใจอย่างหนักต่อชาวราชวงศ์อสูร

“เฮียซูมีสัตว์เลี้ยงวิญญาณที่ทรงพลังอยู่มากขนาดนี้เชียว!?”

เฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้ตกใจมาก แทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี

ในตอนแรก พวกเขาคิดว่าผู้ช่วยที่ซูเฉินกล่าวถึงคือหวู่หยางและคนอื่นๆ ไม่นึกเลยว่าซูเฉินจะยังเก็บงำไพ่ตายที่ทรงพลังเอาไว้มากขนาดนี้

ด้วยผู้ช่วยที่ทรงพลังจำนวนมาก บางทีอาจมีโอกาสชนะจริงๆ

“เสี่ยวฉง เสี่ยวหลิว เลเวล 8 สองตนนั้นขอมอบให้พวกนาย!”

ระหว่างนั้นเอง ซูเฉินออกคำสั่งทันที “ลงมือได้!”

สิ้นเสียง ทั้งคนทั้งร่างของเขาทะยานเข้าหาเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่

ด้วงเขมือบทองคำและสัตว์เลี้ยงวิญญาณตนอื่นๆต่างมองหาคู่ต่อสู้ของตัวเอง

เฉินเฟิงและเซี่ยจิงอี้ มุ่งเป้าไปทางชาวราชวงศ์อสูรเลเวล 7 ตรงเข้าสังหารพวกมัน

“รนหาที่ตาย!”

เห็นซูเฉินโร่เข้ามาเพียงลำพัง สีหน้าของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่แปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย ง้างแขนและทุบกำปั้นสวนออกไป

ชาวราชวงศ์อสูรตนอื่นๆก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน เข้าต่อสู้กับด้วงเขมือบทองคำอย่างดุเดือด

ส่วนพวกระดับต่ำลงมา ตรงเข้าล้อมรอบ [รถศึกอัจฉริยะ]

สัมผัสได้ถึงลมกรรโชกที่พัดเข้ามา ซูเฉินไม่ลังเลใจเลยที่จะชก [หมัดดาวตก] สวนไป

วินาทีถัดมา เงาหมัดสีทองอร่ามปะทะเข้ากับหมัดสายลมของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่ บังเกิดเสียงปะทะดังเป็นชุด

ตูม ตูม ตูมมม!

เงาหมัดทองคำสูญเสียประกายแสงทว่ายังไม่หมดไป ขณะเดียวกันหมัดสายลมของเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่ถูกทำลาย เงาหมัดที่เหลือชกลงบนร่างอีกฝ่าย

เทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่เลือกที่จะไม่หลบ ต้านทานหมัดอันหนักหน่วงเหล่านี้ ผลลัพธ์คือร่างกายเขาสั่นไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“เป็นร่างกายที่แข็งแกร่งจริงๆ”

เห็นภาพนี้ สีหน้าของซูเฉินทอแววประหลาดใจ แต่ก็ยังพุ่งเข้าหาเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งเป่ยยี่อย่างไม่ลังเล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด