ตอนที่แล้วเทพอสูรโบราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปลิลิธ

แบบว่า...ข้าหิวแล้วอ่ะ


“แล้วทำไมเผ่ามารถึงไม่บอกเรื่องนี้กับพวกเราล่ะ” หลินอิงอิงถาม

“เหอะ เพราะประวัติศาสตร์สอนพวกข้าไว้น่ะสิว่ามนุษย์โลภมากแค่ไหน ดังนั้นพวกข้าจึงไม่มีวันยอมแบ่งปันวิทยาการที่สามารถโค่นเทพอสูรโบราณให้กับจอมโลภอย่างพวกเจ้าแน่ ยังไม่รวมที่บรรพบุรุษของพวกเจ้าปลูกฝังความเกลียดชังในเผ่ามารอย่างพวกข้าจนพบเจอเมื่อไหร่ก็ให้จัดการไม่ใช่รึไง” วาเนสซ่ายิ้มเยาะ

“...เรื่องนั้นมันก็ใช่” หลินอิงอิงพูดไม่ออก เพราะเธอรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง เธอเคยอ่านเจอบันทึกที่ห้องของพ่อเธอซึ่งมันเขียนประวัติศาสตร์ที่สมควรถูกลบทิ้งไปแล้ว บันทึกบอกว่าสมัยก่อนมนุษย์และเผ่ามารอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่อยู่มาวันหนึ่งผู้มีอำนาจของทั้งสองเผ่าเกิดการแตกหักกันเรื่องแบ่งสมบัติของเทพปกรณํมระดับ SSS ที่พบเจอในวิหารโบราณที่จมอยู่ในใต้สมุทร ทำให้เกิดสงครามแย่งชิงมันจนทั้งสองฝ่ายล้มตายกันไปจำนวนมาก และทำให้สมบัติชิ้นนั้นหายไปในมิติที่เกิดจากความรุนแรงของพลังระดับ SSS ของผู้ทรงพลังทั้งสองฝ่ายที่สู้รบกัน เมื่อสมบัติหายไป สงครามก็สิ้นสุดพร้อมกับความเกลียดชังที่ไม่อาจฟื้นคืนความสัมพันธ์กันได้ และมันได้ส่งต่อความไม่พอใจกันและกันมาจนถึงทุกวันนี้

และถึงแม้จะมีบางคนที่ต้องการเชื่อมสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ถูกพวกหัวรุนแรงซึ่งมักจะเป็นเหล่าผู้อาวุโสปฏิเสธอยู่ร่ำไป

“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องรีบไปบอกเรื่องนี้กับตระกูลหลัก จะได้เตรียมตัวรับมือกับปัญหาที่กำลังมาถึง” หลินอิงอิงกล่าวจบก็เดินออกจากห้องของราฟไป แต่ก่อนไปเธอก็หันหน้ามามองราฟแล้วบอกเขาว่า

“ถ้านายทำอะไรไม่ดีกับมารสาวนี่ล่ะก็ฉันเอานายตายแน่ โกโก้ ฝากดูนายท่านของเธอให้ฉันด้วยนะ อย่าให้เขารังแกผู้หญิงคนนั้นล่ะ ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวกลับมาใหม่” หลินอิงอิงกล่าวจบก็เปิดประตูห้องแล้วเดินจากไปโดยไม่ลืมที่จะล็อคประตูให้

“เง่ะ นี่เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงเนี่ย” ราฟส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ

“คนบ้ากาม ตัณหากลับ ปีศาจร้าย” วาเนสซ่าตอบเขาหน้าตาย

“บ๊ะ ยัยนี่ อยากโดนฉันลงโทษรึไง” ราฟขมวดคิ้ว

“หึ อยากฆ่าข้าก็มาเลยสิ เจ้าถนัดอยู่แล้วนี่เรื่องรังแกคนอ่อนแอกว่าน่ะ” วาเนสซ่าเชิดหน้า

“...” ราฟกอดอกมองหญิงสาวอย่างครุ่นคิดก่อนจะยิ้มออกมาแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาเธอ

“จะ จะทำอะไรน่ะ หยุดนะ ข้าแค่พูดเล่น ข้ายังไม่อยากตายตอนนี้...เอ๊ะ” วาเนสซ่ากรีดร้องออกมาก่อนจะเงียบไปเพราะเธอถูกราฟคลายจุดให้เธอกลับมาเดินได้อีกครั้ง

“อยู่ในห้องเงียบๆซะ ฉันจะใช้ความคิด ถ้าเบื่อก็ไปเล่นเกมตรงโน้นไป อ้อ ถ้าคิดหนีก็ตามใจนะ ฉันดูดปราณเธอจนหมดทำให้ตอนนี้เธอไม่ต่างจากคนธรรมดา ถ้าออกไปได้เจอคนที่เกลียดชังเผ่ามารที่หาได้ทั่วไปในโรงเรียนนี้ที่สัมผัสไอมารบนตัวเธอตัดหัวเธอไปขึ้นรางวัลหรือไม่ก็อาจจะจับเธอไว้แล้วทำเรื่องอย่างว่าก็ได้ เธอออกจะสวยนี่นะ” ราฟพูดเสียงเรียบพลางเดินไปยังเครื่องเล่นเกมที่วางบนโต๊ะแล้วเปิดเครื่อง ก่อนจะยกโซฟาที่มีวาเนสซ่านั่งอยู่ราวกับถือขนนกไปไว้ข้างหน้าเครื่องเล่นเกมโดยที่มารสาวเผยสีหน้างุนงงออกมา

“เจ้าไม่ได้จะฆ่าข้าหรอกเหรอ ทั้งๆที่สังหารศิษย์พี่ใหญ่ของข้ากับท่านผู้อาวุโสสูงสุดไปน่ะนะ ข้านึกว่าเจ้าเกลียดชังเผ่ามารเหมือนมนุษย์ส่วนใหญ่เสียอีก ผู้หญิงผมชมพูนั่นก็อีกคน รอบตัวของเจ้านี่มีแต่คนแปลกๆ” วาเนสซ่าขมวดคิ้ว

“ก็นะ พวกนั้นมันฆ่าไม่เลือกหน้า ส่วนเธอก็เลือกฆ่าแต่พวกที่ตั้งใจสังหารเธอแล้วปล่อยพวกที่แค่มาชิงแต้มจากเธอเท่านั้นนี่ ฉันเห็นการกระทำของเธอผ่านกล้องของลุงโลแกนหมดแล้ว...”

“...และที่สำคัญที่สุด ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิง ถ้าไม่จำเป็นอ่ะนะ เข้าใจรึยัง” ราฟถามหญิงสาว เมื่อเขาเห็นว่าเธอพยักหน้าก็ยิ้มออกมา

“งั้นก็ช่วยเงียบแล้วทำตัวดีๆหน่อย” ราฟบอกหญิงสาวเสร็จก็เดินไปนอนบนเตียง

“ก็ได้...แล้วเจ้าจะปล่อยข้ากลับแดนมารมั้ย” วาเนสซ่าที่เห็นทัศนคติของชายหนุ่มตรงหน้าก็เริ่มคิดว่าเขาเป็นคนมีเหตุผล เลยเริ่มมีความหวังว่าเขาจะปล่อยเธอกลับหลังจากได้คำตอบจากเธอแล้ว

“ยังอ่ะ ฉันได้ยินว่าจักรพรรดิโลหิตรวยมากนี่ เพราะงั้นเลยว่าจะใช้เธอเรียกค่าไถ่ซะหน่อย” ราฟหันมาแสยะยิ้มให้เธอ

“กรอดดด เจ้ามันปีศาจบ้าเงิน!” วาเนสซ่ากัดฟันแล้วหันไปเลือกเกมมาเล่นอย่างเงียบๆ เธอใช้งานมันอย่างชำนาญเพราะที่แดนมารก็มีเครื่องเล่นเกมแบบนี้เหมือนกัน แสดงให้เห็นว่าวิทยาการของมนุษย์นั้นไร้พรมแดนจนเป็นที่ยอมรับแม้แต่เผ่ามาร

“เงียบได้ซะที” ราฟพึมพำก่อนจะคิดถึงเรื่องบางอย่างขณะที่ลูบหัวโกโก้ที่กำลังนอนหลับบนอกของเขาอย่างสบายอารมณ์

‘โลกนี้มันจะวุ่นวายไปไหนนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผู้ใช้พลังต่อสู้กันเอง เรื่องอสูรต่างมิติที่เทพปกรณัมที่ใช้ภาษาลูบอก ยังจะมีเรื่องเทพอสูรโบราณโผล่มาอีก เห้อปวดหัวชิบ ไม่รู้ว่าพลังของเราในตอนนี้จะสู้กับพวกเทพอสูรที่ไม่เคยเห็นไหวป่าว คงมีแต่ต้องหาทางเพิ่มพลังให้มากขึ้นสินะ’ ราฟคิดได้ไม่นานเขาก็ผลอยหลับไป

.

.

.

สองชั่วโมงต่อมา

จึ้ก

จึ้กๆๆ

“หือ...” เมื่อราฟลืมตาตื่นขึ้นมาเขาก็เห็นสาวสวยผมดำกำลังเอานิ้วจิ้มเอวเขาอยู่

“ทำอะไรของเธอน่ะ นึกว่าจะโจมตีฉันตอนหลับซะอีก”

“ใครจะโง่ทำแบบนั้นกัน ตอนนี้ข้าไร้พลังนะ เลิกพูดเรื่องไร้สาระเถอะ แบบว่า...ข้าหิวแล้วอ่ะ” กล่าวจบมารสาวก็เงยหน้าจ้องมองราฟตาใส

“...”

“เห้อ เธออยากกินอะไรล่ะ เออจริงสิ เผ่ามารนี่กินเหมือนมนุษย์มั้ยอ่ะ” ราฟหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมสั่งอาหารแล้วหันมาถามหญิงสาวอย่างสงสัย

“ข้าก็กินเหมือนพวกเจ้านั่นแหละ ต่างกันแค่พวกข้าชอบกินพลังชีวิตเป็นพิเศษ และวิธีที่ง่ายที่สุดคือการครองร่างมนุษย์แล้วกินพลังชีวิตของผู้ทำสัญญากับเผ่ามารที่ต้องการพลัง มันเป็นสัญญาที่ยุติธรรมมากนะ อยากได้พลังเพิ่มเท่าไหร่ก็จ่ายชีวิตมาเท่านั้น” วาเนสซ่าอธิบายก่อนจะสูดจมูกฟุดฟิตไปทางราฟ

“จะว่าไปพลังชีวิตที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเจ้าหอมมากเลย เจ้ามีสายเลือดของเผ่าเทวะเหมือนกับเจ้าชายพัคงั้นเหรอ แปลกมาก ข้าไม่รู้สึกอยากกิยพลังชีวิตเลยเวลาอยู่ข้างกายเจ้าเหมือนได้เติมเต็มความหิว มันราวกับตัวของเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตแล้วมีมากเกินไปจนล้นออกมา” วาเนสซ่าขยับตัวขึ้นมาคร่อมราฟบนเตียงแล้วยื่นหน้าของเธอเข้าไปสูดกลิ่นตรงอกของราฟอย่างสนใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด