ตอนที่แล้วโถงแห่งความตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมพลเจี้ยน

ราชาล่าสังหาร


“ทีนี้คงจะเข้าใจกันแล้วนะว่าที่นี่ไม่ใช่ดันเจี้ยนแต่มันคือกับดักที่ล่อให้คนที่แข็งแกร่งเข้ามา!” ราฟพูดพร้อมกับดวงตาที่เปล่งแสงสีทองออกมา

ในตอนนี้ร่างของจอห์นกำลังสลายหายไป ก่อนที่จะมีดวงแสงสีดำทะมึนลอยออกมาจากร่างแล้วเปลี่ยนรูปของมันกลายเป็นชายแก่ที่มีเขางอกออกมาสองข้างบนหน้าผากแววตาดุดันคนหนึ่งที่มาพร้อมกับกลิ่นอายสุดแสนอันตรายที่ทำให้บางคนที่จิตอ่อนถึงกับสลบไป คนที่ยังมีสติดีอยู่มีเพียงหลินอิงอิง เฮเมร่า และสมาชิกส่วนน้อยที่มีระดับพลังระดับ SS เท่านั้น แต่ถึงจะคงสติไว้ได้ยังไง มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเธอรู้สึกดีเลย เพราะกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากชายชราทำให้พวกเธอรู้สึกหวาดกลัวไปถึงขั้วหัวใจ

“ฮึ่ม เจ้าเด็กหัวเทาสารเลว ตาดีใช้ได้นี่ ดูจากกลิ่นอายแล้วเจ้าไม่ใช่ทายาทของพวกขี้ขลาดนั่น ถ้าอย่างนั้นเจ้าคงได้เจอมรดกพลังเนตรมาสินะ ไม่เช่นนั้นมีหรือที่เจ้าจะมองร่างจริงของข้า...ราชาล่าสังหาร ‘มาร์ธา’ ผู้นี้ออก หึๆ” ชายแก่ หรือมาร์ธา แสยะยิ้มออกมา ก่อนจะเอ่ยต่อว่า

“สังเวยชีวิต แลกจิตวิญญาณ!” เมื่อพูดจบชายชราก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่ร่างของเขาจะสลายกลายเป็นแสงสีดำอีกครั้งแล้วพุ่งเข้าใส่กองภูเขาซากศพ แต่ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปในนั้น ก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มผมเทาขึ้นก่อนที่เขาจะง้างขาเตะลำแสงนั้นออกไปในทิศทางตรงกันข้ามของกองซากศพจนกระแทกเข้ากับผนังของห้องโถงใกล้กับบัลลังก์สีดำจนทำให้ผนังห้องระเบิดออกมา

“อ๊ากกกก”

ตูมมมม!

“โทษทีนะ พอดีไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้น่ะ” ราฟยิ้มบางๆออกมา ก่อนจะหันไปมองพวกเฮเมร่าแล้วกล่าวว่า

“รีบบอกให้คนขนย้ายร่างของคนตายและคนที่สลบไปออกไปเร็ว ผมไม่รู้ว่าตาแก่นี่ทำอะไรได้อีกบ้าง”

“อะ อื้ม!” เฮเมร่าที่เห็นความแข็งแกร่งของราฟตอบรับพร้อมกับอ้าปากหวออย่างหมดงาม ก่อนจะออกคำสั่งให้คนของเธอรีบขนร่างไร้ชีวิตและคนที่สลบเทื่อครู่ออกไปจากที่แห่งนี้

“ระวังตัวด้วยนะ” หลินอิงอิงร้องเตือนชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง เธอรู้ดีว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย เลยเลือกที่จะถอยออกมาพร้อมกับคนอื่นๆ เว้นแต่เฮเมร่าที่เลือกจะยืนประจันหน้ากับชายชราพร้อมกับราฟที่ลอยตัวลงมายืนข้างๆเธอยิ้มๆ

“คุณไม่ออกไปกับคนอื่นเหรอครับ?”

“หึ ฉันเป็นถึงหัวหน้ากิลด์อันดับหนึ่งเชียวนะ จะมาถอยแค่เพราะว่าเจอคนที่แข็งแกร่งกว่าได้ยังไงกันล่ะ” เฮเมร่ายิ้มบางๆ ทั้งที่มือยังสั่นเทาจากแรงกดดันของมาร์ธาอยู่

“ใจเย็นครับ ไม่ต้องกลัว มันเป็นแค่แรงกดดันจากจิตวิญญานของเขาเท่านั้น”

“ฉํนรู้ ฉันไม่ได้กลัวด้วย แต่ฉํนรู้สึกตื่นเต้น เพราะชื่อที่ได้ยินเมื่อกี้น่ะ เธอก็รู้ใช่มั้ยว่ามันเป็นชื่อของ...” เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้เฮเมร่าก็เผยใบหน้าตื่นเต้นออกมา

“หนึ่งในเทพอสูรโบราณ”

วูบบบ

ดวงแสงสีดำที่ถูกราฟเตะจนกระเด็นเมื่อครู่ลอยออกมาจากเศษซากที่ถูกทำลายของผนังห้องโถงก่อนจะมีเสียงของมาร์ธาดังออกมาว่า

“ไอ้เด็กสามหาว เจ้าสัมผัสข้าได้ยังไงกัน!?”

“เรื่องไรจะบอกอ่ะ” ราฟยักคิ้วยียวนให้เขา ทำให้มาร์ธาร้องคำรามออกมา

“ถ้างั้นข้าจะเค้นออกจากปากอวดดีของเจ้าเอง! เจ้าคิดว่าเพียงแค่ข้าไม่ได้พลังชีวิตกับโลหิตของพวกสวะนั่นแล้วจะทำให้ข้าพ่ายแพ้แล้วงั้นเรอะ? อวิชชา...เทพอสูรกลืนวิญญาณ!” สิ้นเสียงของมาร์ธา ราฟและเฮเมร่าก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่แสนจะขนลุกที่แผ่ออกมาจากบรรดาร่างไร้ชีวิตในห้องโถงที่ถูกขนย้ายออกไปด้านนอก จากนั้นก็มีเสียงกรีดร้องของคนในกิลด์แสงดาราดังออกมา

“ผีหลอก!”

“!?” เมื่อราฟหันไปมอง เขาก็เห็นเงาร่างสีขาวหม่นจางๆลอยออกมาจากศพนับร้อยนับพันที่ถูกดวงจิตของชายแก่ผมขาวคนนี้สังหารไป

“ช่วยด้วยยย...”

“อ๊ากกก...”

“เจ็บ...ทรมาน...”

“บ้าเอ๊ย!” เมื่อราฟได้ยินเสียงของวิญญาณเหล่านี้ เขาก็หันไปมองมาร์ธาในร่างดวงจิตกำลังใช้อวิชชาเพื่อกลืนกินวิญญาณของพวกเขา ก่อนจะดีดตัวพุ่งเข้าไปโจมตีดวงแสงที่แสนชั่วร้ายนั้นด้วยความเร็วสูงสุดจนก่อให้เกิดคลื่นกระแทกระเบิดออกมา

“ไอ้ชั่วเอ๊ย!” ราฟเหวี่ยงหมัดที่เปล่งแสงสีเหลืองทองแฝงคุณสมบัติในการทำลายธาตุมืดของปราณสุริยันใส่มาร์ธาเต็มแรงจนพื้นตรงนั้นระเบิดออกและทำให้ห้องโถงแห่งนี้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจนดูราวกับว่ามันจะถล่มลงมา

ตูมมม!

ครืนนน!

“หลบไป!” เสียงของเฮเมร่าที่ดังออกมาทำให้ราฟรีบหลบออกมาจากตรงนั้นทันที

ทางด้านเฮเมร่าก็ไม่นิ่งนอนใจ เม่อเห็นว่าราฟเคลื่อนย้ายตัวเองออกมาแล้ว เธอก็กางมือทั้งสองข้างไปด้านหน้าใช้ออกด้วยพลังทั้งหมดเรียกบอลแสงดาราขนาดยักษ์ที่อัดแน่นไปด้วยพลังของเธอออกมาแล้วปล่อยมันใส่จุดเดิม!

ตูมมม!

“สำเร็จมั้ย?” เฮเมร่าหันมาถามราฟเพราะรู้ว่าเขามีความสามารถในการมองทะลุ

“มันหายไป!” ราฟเอ่ยเสียงเครียด ก่อนจะกวาดตามองไปทั่วห้องโถง แต่ก็ไม่เจออะไร

“ฮ่าๆๆ เจ้าพวกไร้สมอง ต้องขอบใจพวกเจ้าจริงๆที่ทำให้ข้าหลุดออกจากการจองจำของเจ้าเทพปกรณัมบัดซบนั่นตลอดหมื่นปีได้สำเร็จ! โดยเฉพาะเจ้า! ยัยหนพลังดารา!”

“พวกเจ้าคิดจริงๆหรือว่าเพียงแค่วิญญาณของมนุษย์สวะอย่างพวกเจ้าจะทำให้เทพอสูรผู้สูงส่งอย่างข้าแข็งแกร่งขึ้นได้น่ะ ข้าจะบอกความลับให้นะ ว่าที่นี่คือเขตอาคมจองจำของไอ้เทพปกรณัมบัดซบที่มันใช้ผนึกข้าไว้ และสิ่งที่กักขังข้าไว้จนถึงตอนนี้ก็คือบัลลังก์ทมิฬนั่นโว๊ย ข้าเฝ้ารอวันที่จะได้พบกับผู้สืบทอดเจตจำนงแห่งดาราที่สามารถทำลายบัลลังก์บัดซบนี่ในร่างวิญญาณมาตลอดหมื่นปี จนในที่สุดก็ได้พบตัวตนของเจ้าและต้องใช้อุบายในการสร้างดันเจี้ยนพิเศษเพื่อล่อลวงเจ้าให้มาที่นี่ ถึงแม้จะสิ้นเปลืองพลังวิญญานในการสร้างดันเจี้ยนเทียมบ้าบอนี่แล้วก็ควบคุมผู้ใช้พลังที่หลงเข้ามาให้ไปกระจายข่าวเรื่องนี้ก็เถอะ แต่ก็ถือว่าคุ้ม เคี๊ยกๆๆๆ” เสียงหัวเราะของมาร์ธาดังออกมาจากทั่วทิศทาง

“อ้อ เจ้าเด็กผมเทา จากการปะทะเมื่อครู่ทำให้ข้าถูกใจพละกำลังอันมหาศาลของเจ้าจริงๆ  ถ้าเป็นตอนที่ข้ามีร่างเนื้อก็อยากจะซัดกับเจ้าอยู่หรอกนะ แถมพวกไททันคงอยากที่จะสู้กับเจ้าใจเหมือนกัน หวังว่าตอนที่ข้าเรียกพวกนั้นมาเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นนะ เพราะไม่อย่างนั้นการกลับมายึดครองโลกนี้ของพวกข้าคงจะน่าเบื่อแย่ ฮ่าๆๆ ไว้เจอกันใหม่เมื่อข้าฟื้นตัวเสร็จล่ะ! ก็นะ ใครจะไปโง่สู้กับพวกเจ้าโดยไม่มีร่างเนื้อกันล่ะ จริงมั้ย? ถ้าอย่างนั้นก็ไว้เจอกันใหม่ในวันโลกาวินาศ!” สิ้นเสียงของมาร์ธา รอยแยกมิติก็เกิดขึ้นก่อนจะสลายไป และบรรยากาศที่น่าขนลุกก็หมดลง จากนั้นเหล่าวิญญาณที่ถูกเรียกออกมาก็เลือนหายไปในอากาศทิ้งไว้เพียงภูเขาร่างไร้วิญญาณไว้เบื้องหลัง

“...” เฮเมร่ายืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน เพราะได้ยินที่มาร์ธาบอกว่าเธอคือต้นเหตุที่ปลดปล่อยเทพอสูรผู้ชั่วร้ายออกจากการจองจำ

“เป็นเทพอสูรที่พูดมากจริงๆ คุณเอฮเมร่า ไม่เป็นไรนะครับ?” ราฟเอื้อมมือมาแตะไหล่ปลอบใจหญิงสาว

“...ฉันทำทุกอย่างพังหมด” เฮเมร่าพึมพำออกมาเสียงเบาหวิว ก่อนจะทรุดตัวลงไปคุกเข่ากับพื้น

ราฟมองหญิงสาวที่ช็อคอยู่ด้วยแววตาเห็นใจ ขณะมองไปรอบๆห้องโถงที่เริ่มเสื่อมสลายกลายเป็นอณูพลังงานไป

ดูเหมือนว่าดันเจี้ยนแห่งนี้จะถูกสร้างโดยพลังวิญญานของเทพอสูรตนนั้นจริงๆ

“เป็นเรื่องแล้วไง ดันไปปลดปล่อยเทพอสูรที่คิดว่าหายไปจากโลกนี้แถมยังเป็นตัวที่ดูท่าจะอันตรายสุดๆซะด้วยสิ ยังไงก็เถอะ ตาแก่นั่นมีพลังที่แข็งแกร่งจริงๆ เพราะถึงจะมีแค่วิญญาณแต่ดันสร้างดันเจี้ยนหลอกสายตาของผู้ใช้พลังระดับสูงทั้งโลกได้เนี่ย...เห้อ...ขออนุญาตินะครับคุณเฮเมร่า” ราฟพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปแบกร่างของเฮเมร่าที่ในตอนนี้เหมือนจะช็อคจนไม่มีความคิดเป็นของตัวเองขึ้นมาพาดบ่าของเขาแล้วเดินออกมาข้างนอก เพราะเขาขี้เกียจรอให้ดันเจี้ยนปชอมนี่สลายจนหมด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด