ตอนที่แล้วChapter 41 : พบคนแคระนักขุดทอง? มาแลกเปลี่ยนกันเถอะ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 43 : ทดสอบพลังของจิ้งจอกน้อยหลังจากวิวัฒนาการ!

Chapter 42 : ได้รับบัตรลูกค้าชั้นเยี่ยม – จิ้งจอกน้อยวิวัฒนาการ!


คนแคระนักขุดทองดูเหมือนจะพอใจกับรสชาติของเนื้อย่างไม่น้อยเขาจึงโยนรูนน้ำมาให้กับไคลน์ด้วยท่าทีสบายๆ

[แจ้งเตือนจากระบบ : รูนน้ำ +1]

ไคลนถือรูนน้ำเอาไว้ในมือแล้วอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาวางยาเอาไว้ในเนื้อนั่นน่าจะไม่เลวเหมือนกัน

แต่ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันที่คนแคระนักขุดทองจะรู้ทันและการแลกเปลี่ยนทั้งหมดจะล้มเหลว

ไคลน์เองก็พอใจกับการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ไม่น้อยดังนั้นก็ช่างมันเถอะ

แลกเนื้อย่างแต่ได้รูนน้ำมาแบบนื้ถือว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม

คนแคระนักขุดทองยังคงระแวงไคลน์กับจิ้งจอกน้อยอยู่แต่ปากของเขาก็เคี้ยวเนื้อย่างในมือไม่หยุด ไม่ช้านักเขาก็หลับตาลงราวกับเพลิดเพลินไปกับรสชาติของมัน

หลังจากจัดการเนื้อย่างเสร็จเขาก็เลียปากทีหนึ่งด้วยสีหน้าท่าทางราวกับว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

“อยากแลกเปลี่ยนอีกไหม?”

ไคลน์หยิบเอาเตาย่างกับเนื้อสดๆออกมาโชว์ให้คนแคระนักขุดทองดู

คนแคระนักขุดทองสังเกตุท่าทีของไคลน์อยู่ซักพักก็พอจะเข้าใจได้ว่าไคลน์ต้องการจะสื่ออะไร

จากนั้นเขาก็วางกระเป๋าลงและมุดลงไปค้นของภายในกระเป๋าอยู่ครู่หนึ่ง

เมื่อเขาโผล่ขึ้นมาอีกครั้งในมือของเขาก็ปรากฏรูนอยู่ถึงสี่ชิ้น

รูนดินสองก้อน รูนไฟหนึ่งก้อนและรูนน้ำอีกหนึ่งก้อน

ไม่มีรูนลมเลย ดูเหมือนเจ้าหมอนี่จะขาดแคลนรูนลมเหมือนกัน

“แปปนึงนะ”

ไคลน์ยิ้มแต้

ครั้งนี้ถือว่าได้รูนมาอย่างง่ายดายจริงๆ

ในตลาดแลกเปลี่ยนตอนนี้ราคาของรูนเพิ่มขึ้นไปไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าแล้ว

เนื้อหนึ่งชิ้นไม่พอที่จะแลกเปลี่ยนอีกต่อไป!

เขาจุดไฟและเริ่มทำการย่างเนื้อ

ทักษะการย่างเนื้อของไคลน์ทำได้อย่างชำนาญและไม่นานนักเขาก็ย่างเนื้อจนเสร็จ

คนแคระนักขุดทองที่เริ่มไว้ใจไคลน์มากขึ้นเองก็ขยับเข้ามาดูทักษะการย่างเนื้อของไคลน์ใกล้ๆ

“อยากจะขโมยวิชารึไง?”

ไคลน์ไม่กลัวเลยว่าทักษะการย่างเนื้อนี้จะถูกขโมยไป

เพราะมีโอกาสเป็นไปได้สูงมากทีเดียวที่เขาคงจะไม่ได้พบเจอคนแคระนักขุดทองผู้นี้อีกในอนาคต

ไคลน์จัดแจงวางเนื้อย่างทั้งสี่ชิ้นลงในชามใบใหญ่และส่งสัญญาณบอกให้คนแคระนักขุดทองเข้ามารับไป

คนแคระนักขุดทองลังเลอยู่ซักพักก่อนจะคว้าชามใบใหญ่ไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากตรวจสอบเนื้อย่างแล้วเขาก็โยนรูนทั้งสี่ชิ้นให้กับไคลน์

[แจ้งเตือนจากระบบ : รูนดิน+2 , รูนน้ำ+1 , รูนไฟ+1]

ไคลน์ชี้ไปที่ผงพริกไทยดำแล้วยิ้ม “นายยังมีอย่างอื่นอีกไหม? คราวนี้ฉันจะใช้ไอนี่แลก”

ถ้าปราศจากพริกไทยดำเนื้อย่างก็ไม่อาจส่งกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ออกมาได้

ถ้าไคลน์อยากได้ผงพริกไทยดำจริงๆก็สามารถซื้อได้จากตลาดแลกเปลี่ยนที่มีคนเอามาวางขายอยู่มากมาย เพียงแค่น้ำสองถึงสามร้อยมิลลิลิตรหรือเนื้อซักครึ่งชิ้นก็คงแลกได้แล้ว

คนแคระนักขุดทองก้มลงมองเนื้อย่างในชามอยู่ซักพักจากนั้นก็เงยหน้ามองมาที่ผงพริกไทยดำก่อนจะพยักหน้ารัวๆราวกับไก่จิกข้าวเปลือก

จากนั้นเขาก็ยื่นมือลงไปขวานหาของในกระเป๋าอีกรอบ

“ดีเลยหวังว่าคราวนี้จะเป็นของดีนะ”

ไคลน์ชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้วแล้วพูดต่อ “ถ้าเป็นรูนก็โอเคแต่อย่างน้อยต้องสองก้อนนะ เจ้าของสิ่งนี้ได้มาไม่ง่ายเลยรู้รึเปล่า?”

แน่นอนว่าคำพูดของเขาคือการบลัฟแบบเห็นได้ชัดแต่ก็ไม่รู้ว่าคนแคระนักขุดทองจะเข้าใจคำพูดของเขาไหม

แต่ไคลน์ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าสิ่งที่คนแคระนักขุดทองหยิบออกมาเป็นลูกปัดทรงกลมลูกหนึ่ง

ขนาดของลูกปัดนี้ไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ตัวลูกปัดมีสีแดงเข้มดูน่าดึงดูดยิ่งนัก

ไคลน์ถาม “ขอดูใกล้ๆได้ไหม?”

ไคลน์อยากจะตรวจสอบไอเทมก่อน

ถ้าเป็นวัตถุดิบธรรมดาๆหรืออัญมณีทั่วไปถ้างั้นสำหรับไคลน์แล้วก็ถือว่าไม่มีค่ามากนัก เทียบกับรูนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

คนแคระนักขุดทองเหยียดมือสั้นๆของเขาเข้ามาและยื่นลูกปัดให้ไคลน์ดู แต่พอเขาคิดอยู่ซักพักก็ตัดสินใจหดมือกลับ ดูจากท่าทีแล้วดูเหมือนว่าหมอนี่จะยังระแวงเขาอยู่หน่อยๆ

“ไม่ต้องกังวลน่าฉันเป็นคนเชื่อถือได้”

ไคลน์จัดการเทผงพริกไทยดำใส่ในชามและวางลงบนพื้น

คนแคระนักขุดทองลังเลอยู่ครึ่งนาทีก่อนจะตัดสินใจโยนลูกปัดสีแดงเข้มนั่นให้เขาและชี้มือชี้ไม้ไปทางจิ้งจอกน้อย

“กำลังจะสื่อว่าให้เอาสิ่งนี้ให้กับจิ้งจอกน้อยงั้นหรอ?”

ไคลน์รับลูกปัดมาและทำการตรวจสอบรายละเอียดของไอเทม

[แจ้งเตือนจากระบบ : เม็ดยาสายเลือดระดับธรรมดา +1]

[เม็ดยาสายเลือดระดับธรรมดา : เม็ดยาที่ถือกำเนิดจากการควบแน่นแก่นโลหิตของสิ่งมีชีวิตแห่งสุสาน หลังจากที่สิ่งมีชีวิตแห่งสุสานกินมันเข้าไปความสามารถของพวกมันจะเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่อาจทำลายขีดจำกัดสูงสุดได้]

“ของสิ่งนี้ไม่เลวเลย แลกกับผงพริกไทยดำก็ได้”

ไคลน์รับเอามาด้วยสีหน้าพึงพอใจ

คนแคระนักขุดทองต่อให้ใช้เม็ดยานี้ไปก็ไม่อาจทำลายขีดจำกัดสูงสุดได้อยู่ดีดังนั้นแทนที่จะเก็บเอาไว้เขาจึงนำมันมาแลกเปลี่ยนกับไคลน์แทน

“ยังมีของแบบนี้อีกไหม?” ไคลน์ถาม

คนแคระนักขุดทองส่ายหัว

“เอาไป”

ไคลน์ถอยหลังไปนิดหน่อยเพื่อทิ้งระยะห่างจากชามหิน

คนแคระนักขุดทองเดินเข้ามาด้วยท่าทีระแวดระวังและหยิบชามหินที่ใส่ผงพริกไทยดำไปด้วยท่าทีเริงร่า

มันยื่นจมูกเข้าไปตรวจสอบผงพริกไทยดำใกล้ๆจนจามออกมา

“มาต่อกันเถอะ”

แต่ก่อนที่ไคลน์จะพูดจบคนแคระนักขุดทองผู้นี้ก็จัดการเทผงพริกไทยดำลงไปในกระเป๋าขนาดเล็กและโยนมันใส่เป้ใบใหญ่จนเสร็จสรรพ จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นสะพายกระเป๋าใบใหญ่แล้วมุดหายลงไปในดิน

กระเป๋าใบใหญ่เองก็จมลงไปในดินตามคนแคระนัดขุดทองไปอย่างน่าอัศจรรย์

เหลือทิ้งเอาไว้เพียงแผ่นโลหะสีทองแดงแผ่นหนึ่งเท่านั้น

ไคลน์ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรู้สึกหมดคำจะพูดขึ้นมา

เขายังอยากแลกเปลี่ยนอยู่เลยแต่เจ้าหมอนี่กลับหนีไปแล้ว!

“แผ่นโลหะนี่ให้ฉันหรอ?”

ไคลน์เดินเข้าไปหยิบแผ่นโลหะขึ้นมาดู

ดูเหมือนมันจะทำมาจากทองแดงหรือไม่ก็เหล็กนี่แหละ

บนพื้นผิวของแผ่นโลหะมีอะไรแปลกๆสลักเอาไว้ด้วย

[แจ้งเตือนจากระบบ : บัตรลูกค้าชั้นเยี่ยม +1]

[บัตรลูกค้าชั้นเยี่ยม : สิ่งนี้จะได้จากคนแคระนักขุดทองเท่านั้น นี่คือบัตรที่จะมอบให้กับลูกค้าที่ซื่อสัตย์เท่านั้น ด้วยบัตรใบนี้เมื่อใดก็ตามที่ผู้ถือครองไปพบกับคนแคระนักขุดทองคนอื่นเข้าในอนาคตพวกเขาจะเชื่อใจคุณ100%]

“ถือได้ว่าเป็นใบรับรองการแลกเปลี่ยนกับคนแคระนักขุดทองก็ได้ใช่ไหม?”

ไคลน์เก็บบัตรเข้าไปในช่องเก็บของ

ถ้าในอนาคตเขาเจอกับคนแคระนักขุดทองอีกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงไปพยายามสื่อสารกับอีกฝ่ายอีกเพียงแค่โชว์บัตรนี้ให้ดูก็พอ

เมื่อจัดการทุกอย่างจนเสร็จไคลน์ก็นั่งยองๆลงและกล่าวกับจิ้งจอกน้อยยิ้มๆ “จิ้งจอกน้อยเอานี่ไปสิ”

จากนั้นลูกปัดทรงกลมก็ปรากฏขึ้นมาในมือของไคลน์

จิ้งจอกน้อยที่เห็นดังนี้ก็เปิดปากออกกลืนลูกปัดลงไปในคำเดียวแบบไม่ลังเล

เมื่อกลืนมันลงไปก็ดูคล้ายกับว่าแขนขาของจิ้งจอกน้อยจะแข็งค้างไปและขนบนร่างกายเองก็ลุกชูชันขึ้นมาราวกับลูกแมวที่กำลังพองขนก็ไม่ปาน!

ลูกปัดสีชาดละลายในปากของเธออย่างช้าๆและเริ่มไหลลงสู่ลำคอ

พลังงานมหาศาลระเบิดขึ้นมาภายในร่างกายของเธอ

สภาวะนี้เป็นดำเนินอยู่หลายนาทีจึงแล้วเสร็จ

ไคลน์สังเกตุเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าด้านหลังของจิ้งจอกน้อยตอนนี้มีหางที่สามค่อยๆก่อตัวขึ้นมาแล้ว

จากคำอธิบายของจิ้งจอกเก้าหาง ยิ่งหางของพวกมันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น

ขีดจำกัดอยู่ที่เก้าหางนั่นแหละ

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ไม่นานนักจิ้งจอกน้อยก็สามารถกลับมาขยับได้อีกครั้ง

เมื่อเจ้าหล่อนหันหัวกลับไปและพบว่ามีหางนุ่มๆเพิ่มมาอีกหางเจ้าหล่อยก็แสดงท่าทีดีอกดีใจและวิ่งไล่กัดหางตัวเองเป็นวงกลมเสียอย่างนั้น

เห็นได้ชัดว่าเจ้าหล่อนดีใจมาก!

[แจ้งเตือนจากระบบ : จิ้งจอกเก้าหางสัตว์เลี้ยงของท่านได้รับการวิวัฒน์จนสมบูรณ์ – ความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น – ได้รับสกิลใหม่ : หนังทองแดงกระดูกโลหะ]

แจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นมา

“สกิลใหม่”

ไคลน์รีบเปิดหน้าต่างสัตว์เลี้ยงขึ้นมาดูทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด