ตอนที่แล้ว138 - เจ้าเชื่อจริงๆว่าเจ้าควบคุมข้าได้?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป140 - ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

139 - ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์


139 - ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์

เนื้อหนังและอวัยวะภายในของเย่ฟ่านได้รับการหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ชีพจรของเขายังคงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผิวของเขาค่อยๆเรียบขึ้นและเปล่งประกายในที่สุด

เย่ฟ่านก็รู้สึกถึงความแข็งแกร่งภายในร่างกายของเขา เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เหนื่อยและเซื่องซึมอีกต่อไปในขณะที่เขาค่อยๆลุกขึ้นนั่ง

ตอนนี้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาฟื้นคืนอย่างทั่วถึง และเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมที่หนาแน่นในอากาศ

รอบๆน้ำพุเล็กๆมีต้นไม้เล็กๆสิบเอ็ดต้นสูงประมาณครึ่งวาส่องแสงเป็นสีเขียวราวกับแกะสลักจากหินหยก พวกมันเหมือนต้นสนที่มีใบคล้ายกับเข็ม

เย่ฟ่านไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาในอดีตอีกต่อไป หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการฝึกฝนแล้ว ความรู้สึกทางจิตวิญญาณของเขานั้นอ่อนไหวเป็นพิเศษและสามารถเห็นและสัมผัสได้ถึงสมบัติตามธรรมชาติ

แม้ว่าต้นไม้สิบเอ็ดต้นจะสั้นมาก แต่ก็มีกิ่งก้านที่ปกคลุมไปด้วยเปลือกไม้เก่าแก่ แข็งแรงและทรงพลัง เถาวัลย์ขนาดใหญ่เลื้อยไปทุกทิศทุกทางราวกับมังกรวารี

ดูเหมือนว่าพวกมันจะเติบโตมาเป็นเวลาหลายหมื่นปีและดำรงอยู่มานานหลายปีไม่รู้จบให้ความรู้สึกถึงความเก่าแก่และเป็นเอกลักษณ์ ไม่ใช่แค่พืชพรรณธรรมดาอีกต่อไป แต่ราวกับว่าพวกมันเป็นซากโบราณที่มีชีวิต

บนต้นไม้ต้นเล็กๆแต่ละต้นมีผลไม้สีทองอร่ามแวววาวใหญ่เท่าผลลำไย ผลไม้พวกนั้นเป็นประกายระยิบระยับและโปร่งแสงราวกับถูกหลอมจากทองคำเซียน

เย่ฟ่านรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากเมื่อเขามองเห็นผลไม้สิบเอ็ดผลที่เกิดขึ้นบนต้นไม้เล็กๆสิบเอ็ดต้น แม้ว่าจะผ่านอันตรายมามากมายแต่ในที่สุดความพยายามของเขาก็คุ้มค่า

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และตระกูลขุนนางโบราณวางแผนมาเป็นเวลานานก่อนที่จะส่งยอดฝีมือออกมาสองครั้ง โดยใช้ความพยายามทั้งหมดของพวกเขา

สุดท้ายแล้วยอดฝีมือระดับสูงทั้งหมดของพวกเขาได้ล้มลงและพวกเขาก็ไม่ได้รับอะไรกลับไป

ในขณะนี้เย่ฟ่านนั่งอยู่ในน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ และยาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดอยู่ตรงหน้าเขา โชควาสนาครั้งใหญ่นี้ได้มาง่ายเกินไปแล้วเขาจะไม่กระวนกระวายใจได้อย่างไร?

"ปัง!"

เย่ฟ่านก้าวออกจากบ่อน้ำพุและปลิดผลไม้สีทองออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมของผลไม้หนาแน่นเข้าจู่โจมเขาและแทรกซึมเข้าสู่อวัยวะภายในอย่างรวดเร็ว

“นี่เป็นยาศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ใครจะรู้ว่าทำไมมันถึงเติบโตได้เหนือขุมนรกของพื้นที่ต้องห้ามเท่านั้น

เย่ฟ่านวางผลไม้สีทองเข้าไปในปากของเขาและเคี้ยวเบาๆ รสหวานรวมทั้งกลิ่นหอมมากมายแทรกซึมผ่านปากของเขากลายเป็นสิ่งที่จับต้องและสัมผัสได้อย่างชัดเจน

มันทำให้รูขุมขนทั้งหมดในร่างกายของเขาผ่อนคลายและขยายตัวในทันที ร่างกายทั้งหมดของเขาเบาสบายราวกับว่ามันถูกแช่อยู่ในน้ำพุร้อน

ผลไม้สีทองซึ่งใหญ่เท่ากับลำไยนั้นแทบจะกินไม่หมด และในการคำกัดเดียวมันก็กลายเป็นน้ำหวานที่ไหลลงคอของเย่ฟ่านยังไม่รู้จบ

เย่ฟ่านมีความต้องการจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันใดเพราะพลังมากมายมหาศาลได้จู่โจมเข้าไปในทะเลความทุกข์สีทองของเขา

ตอนนี้เย่ฟ่านเป็นผู้บ่มเพาะอยู่แล้วและแน่นอนว่าเขาจะไม่กินผลไม้พวกนี้เพื่อลิ้มลองรสชาติอร่อยเหมือนกับมนุษย์ธรรมดา

เขานั่งลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับหมุนวนศิลปะลึกลับที่ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์เต๋า

อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านยังอ่อนแอเกินไปและร่างกายของเขาอยู่ในสภาพทรุดโทรม เขาเกือบเสียชีวิตจากวัยชราและแม้ว่าเขาจะฟื้นกำลังขึ้นมากเนื่องจากน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ผมของเขาก็ยังเป็นสีขาวเหมือนหิมะและรอยย่นยังคงปกคลุมใบหน้าของเขาอยู่

ในตอนนี้พลังสีทองอันเป็นเอกลักษณ์เข้าสู่ร่างกายของเขาแทบไม่มีโอกาสไหลลงสู่ทะเลแห่งความทุกข์หรือน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ มันถูกดูดซึมไปทั่วร่างกายเพื่อฟื้นฟูสภาพที่เสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว

หลังจากหมุนเวียนวิชาลึกลับที่บันทึกไว้ในคัมภีร์เต๋าในเวลาเพียงครึ่งนาทีเนื้อของเย่ฟ่านก็พองตัวและไม่เหี่ยวแห้งอีกต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาสดใสราวกับเด็กทารกแม้แต่เส้นผมก็ยังกลายเป็นสีดำอีกครั้ง

เย่ฟ่านยื่นมือออกไปและคว้าผลไม้สีทองชิ้นที่สองพร้อมกับใส่มันเข้าไปในปากอย่างไม่ลังเล พลังสีทองที่ไหลออกมาจากผลไม้ถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายของเขาอีกครั้งทำให้ผิวของเขาเปล่งประกายด้วยสีทองพร้อมกับเริ่มปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมา

ครึ่งนาทีต่อมาเย่ฟ่านรู้สึกสดชื่นและเนื้อของเขาก็ถูกฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ มันเต็มไปด้วยพลังชีวิตที่กระฉับกระเฉงอีกครั้งและผิวของเขาก็กลับมาเต่งตึงแล้ว

หลังจากผลศักดิ์สิทธิ์สองผลตอนนี้เย่ฟ่านได้กลับมาเป็นชายวัยสามสิบ แก่นแท้ของปราณภายในร่างกายของเขามีมากมายมหาศาล

เย่ฟ่านยืนขึ้นและทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉง ไม่มีความรู้สึกเสื่อมโทรมอีกต่อไปและฟื้นคืนความเยาว์วัยกลับมาแล้ว

อย่างไรก็ตามใบหน้าของเย่ฟ่านก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขานึกถึงอะไรบางอย่างและรีบวิ่งไปที่ยอดเขาบริเวณใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว

ห่างออกไปหนึ่งร้อยวา หนังสือสีทองส่องประกายแวววาวขณะยังคงนอนเงียบๆอยู่ภายในกอหญ้าป่า มันไม่ได้ตกลงไปพร้อมกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ในขุมนรกที่ไม่มีที่สิ้นสุด เย่ฟ่านหยิบมันขึ้นมาด้วยความดีใจ

"โชคดีจริงๆ!"

เมื่อดึงคัมภีร์เต๋าออกมา เย่ฟ่านก็รีบวิ่งกลับไปหาผลไม้พวกนั้นอย่างระมัดระวัง ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เงียบและไม่มีโครงกระดูกปรากฏ ขึ้นแต่ก็ใช่ว่ามันจะมีความปลอดภัยสำหรับเขา

เมื่อมองไปในระยะไกล เย่ฟ่านรู้สึกได้ว่าหนังศีรษะของเขาชาด้านเพราะว่าโครงกระดูกสีขาวจำนวนมากยังคงวนเวียนอย่างไม่สิ้นสุดอยู่ที่ตีนเขา

“ข้าจะออกไปได้ยังไง?”

จิตใจของเย่ฟ่านปั่นป่วนในขณะที่เขานึกถึงก้อนทองเหลืองทันที

“มันสามารถจัดการสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ ข้าจะสามารถนำมันออกมาใช้ด้านนอกได้หรือไม่?”

เย่ฟ่านตกใจและงุนงง

“เจดีย์รกร้างสามารถผนึกผู้อมตะได้ และก้อนทองเหลืองก็เป็นสมบัติล้ำค่าเช่นกัน”

ก้อนทองเหลืองนั้นนิ่งเฉยและยังคงล่องลอยอยู่ในบริเวณตาน้ำพุของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ภายในตันเถียน มันเหมือนกับหินที่สั่นคลอนไม่ได้เย่ฟ่านไม่รู้จะใช้งานมันได้ยังไง

ไม่นานมานี้สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์ได้ตรวจสอบทะเลแห่งความทุกข์ของเขาและสัมผัสกับก้อนทองเหลืองโดยตรง จนทำให้นางได้รับบาดเจ็บสาหัส

ก้อนทองเหลืองลึกลับไม่สามารถบุกรุกหรือควบคุมได้ มันทำให้เย่ฟ่านรู้สึกไร้ความหวังและหมดหนทาง

"นั่นคือ……"

ท่าทางของเย่ฟ่านแข็งกร้าวเมื่อเห็นคนมีเนื้อและเลือดปรากฏขึ้นบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใกล้เคียง ระยะทางนั้นไกลมากและเขามองไม่เห็นบุคคลนั้นอย่างชัดเจน แต่แน่นอนว่าไม่ใช่โครงกระดูก

บนยอดเขานั้นมีกระบี่โลหะขนาดใหญ่ที่ยาวกว่าสิบวามันถูกแทงตรงเข้าไปในภูเขา และบุคคลนั้นยืนอยู่บนกระบี่อย่างเงียบๆ ขณะที่เสื้อคลุมสีดำของเขาปลิวไสวไปตามสายลม

“ข้ารับใช้รกร้าง!”

เย่ฟ่านตัดสินใจในทันที สิ่งมีชีวิตธรรมดาไม่สามารถเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ได้ บุคคลที่ยืนอยู่ตรงนั้นจะต้องเป็นสัตว์ประหลาดแบบเดียวกันกับสตรีศักดิ์สิทธิ์หยกพลิกสวรรค์อย่างแน่นอน

“ยังมีอีกมาก……”

เมื่อเย่ฟ่านตรวจสอบอย่างรอบคอบเขาก็ตระหนักว่ายังมีใครบางคนอยู่บนภูเขาอีกลูก เขามีเนื้อหนังและยืนอยู่บนยอดของภูเขา พร้อมกับระฆังสีเงินใบใหญ่

ท่าทางของเย่ฟ่านดูเคร่งขรึมเมื่อเขาเห็นบุคคลที่สามยืนอยู่บนยอดเขาศักดิ์สิทธิ์อีกแห่ง โครงกระดูกกำลังหลีกเลี่ยงคนคนนั้นและที่ด้านบนศีรษะของเขาคือเจดีย์โบราณที่มีเก้าชั้น

"สี่คน!"

ในขณะนี้เย่ฟ่านเห็นข้ารับใช้รกร้างคนที่สี่ บุคคลนั้นยืนอยู่บนท้องฟ้าเขาสวมชุดสีม่วงที่โบกสะบัดไปตามแรงลม เหนือศีรษะของเขาเป็นตราประทับสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างยิ่ง

"เกิดอะไรขึ้น?!"

เย่ฟ่านตกใจอย่างมากและเห็นว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์แต่ละลูกมีข้ารับใช้รกร้างคอยดูแลอย่างใกล้ชิด มันทำให้แผนการที่จะขึ้นไปเอาน้ำพุศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งยาศักดิ์สิทธิ์ของเขาต้องมลายหายไป

ระฆัง เจดีย์ และตราประทับเซียนเป็นสิ่งที่ยากต่อการสร้างขึ้นมามากที่สุด และผู้ที่สามารถใช้พวกมันเป็นอาวุธได้นั้นรับรองว่าไม่ใช่ตัวตนระดับธรรมดาอย่างแน่นอน

“มีข่าวลือว่ามีเพียงยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้เท่านั้นที่สามารถกลายเป็นข้ารับใช้รกร้างได้ คนเหล่านี้สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองเพื่อก่อตัวให้เป็นสิ่งประดิษฐ์รูปแบบเฉพาะนั่นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาในตอนที่มีชีวิตอยู่”

เย่ฟ่านรีบกลับไปที่ด้านข้างของน้ำพุ เขาต้องการที่จะฟื้นพลังของเขาอย่างทั่วถึงและดึงผลไม้สีทองออกมากินอีกสองผลทันที

ร่างกายของเขาเปล่งประกายเจิดจ้าเป็นประกาย พลังสีทองสามารถเห็นได้ปกคลุมร่างกายของเขาซึ่งทำให้ร่างกายของเขาสดใสและโปร่งแสงราวกับว่ามันถูกแกะสลักจากหยกศักดิ์สิทธิ์

แก่นแท้ของพลังปราณแห่งชีวิตได้รับการปลดปล่อยอย่างต่อเนื่องในร่างกายของเขา ในตอนนี้เย่ฟ่านกลายเป็นเด็กที่มีอายุประมาณยี่สิบปีอีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด