ตอนที่แล้วดัชนีพิชิตนารี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอย่างนี้ต้องพิสูจน์

แอบส่อง


“ใช่ๆ พี่มิร่า ข้าเหงามากเลยนะ ตอนนี้ท่านแม่น่ะติดนายท่านของข้าจนไม่สนใจข้าเลย ในเมื่อท่านมาก็ดีแล้ว มาเล่นกะ...”

ฟิ้วววว

ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จู่ๆเจ้าเสือน้อยโมจิก็รับรู้ไดเแค่เพียงสายลมที่พัดผ่านตัวของเขาไป

“พี่หญิง ที่เจ้าเด็กดื้อนี่พูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ ที่ว่าพี่ติดผู้ชายน่ะ ข้าไม่ยอมนะ พี่ต้องเป็นของข้าคนเดียว โอ๊ยยย”

“อะแฮ่ม เจ้าว่าใครติดผู้ชาย ข้าแค่ปรนนิบัติน้องชายคนนี้อย่างใกล้ชิดต่างหากล่ะ” ไป๋เสวี่ยฉีกระแอมหลังจากเขกหัวน้องสาวของเธฮ

“ไม่ ข้าไม่ยอมรับ เจ้าหน้าหล่อ แน่จริงมาซัดกันแบบแมนๆมา!”

“...” พัคแทยังที่ยืนอยู๋เงียบๆถอนหายใจออกมา นี่คงเป็นน้องสาวติดพี่ที่โมจิบอกสินะ เขาเลือกที่จะไม่สนใจคำขอไร้สาระของอีกฝ่ายแล้วหันไปลูบหัวปลอบใจเด็กน้อยที่ดวงตาแดงก่ำทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ดูวุ่นวายกันชะมัด” ซายะพึมพำคนเดียว

“ปล่อยข้านะเจ้าสัตว์ป่าหื่นกาม ข้าสาบานว่าถ้าข้าออกไปได้ข้าจะเรียกศิษย์พี่ของข้ามาจัดการเจ้า” วาเนสซ่าที่ถูกขังอยู่ในกรงตะโกนออกมา

“ชิ เสียงดังจริงๆ ดูท่าจะพูดคุยกันดีๆไม่ได้งั้นก็...”  ราฟกำหมัดแล้วเขกหัวของเธอเบาๆ

ตุบ

วาเนสซ่าที่ไม่สามารถหลบหมัดนี้ได้ทันก็สลบลงไปนอนกับพื้นทันที จากนั้นก็มีแสงส่องออกมาจากแหวนที่สวมอยู่บนนิ้วของหญิงสาว

“ฮู่ววว เงียบซะที หืม...คะแนนขนาดนี้...ยัยนี่จัดการผู้เข้าแข่งขันไปเท่าไหร่กันเนี่ย” ราฟเลิกคิ้วแต่ก็ไม่สนใจกับมันมากนัก

“นายยังไม่บอกฉันเลยว่านายรู้เรื่องของฉันตอนเจอกับมิร่าได้ยังไง” ซายะขมวดคิ้วถามเขา

“เรื่องนั้น...”

“เพราะเจ้าคนน่าตายนี่ทำตัวเป็นพวกถ้ำมอง แอบส่องดูพวกเราผ่านกล้องที่ติดไว้อยู่ทั่วทั้งเกาะอยู่น่ะสิ” เสียงของหญิงสาวที่ดูอ่อนแรงดังขึ้น เมื่อทุกคนหันไปมองก็พบว่าเป็นเรเชลที่เดินมาพร้อมกับเฟยฮวา

“เรช?” ซายะเบิกตากว้าง เธอวิ่งเข้าไปประคองหญิงสาวที่ตอนนี้มีใบหน้าซีดขาวเป็นผลมาจากการรีดใช้ปราณเกินขีดจำกัด โชคดีที่ราฟถ่ายเทปราณของเขาไปให้ทำให้เธอฟื้นตัวได้เร็วกว่าปกติหลายวัน

“พวกเธอรู้จักกันเหรอ” ราฟถาม

“เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉัน แต่พอได้เป็นประธานนักเรียนก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ยังติดต่อกันตลอด...เดี๋ยวก่อน ที่เรชพูดเรื่องนายแอบส่องพวกเรานี่คือเรื่องจริงงั้นเหรอ? นายเห็นอะไรไปบ้าง? อย่าบอกนะว่าแอบดูตอนพวกเราอาบน้ำด้วยน่ะ นี่จะทำตัวโรคจิตไปถึงไหนกัน!” ซายะถามเขาด้วยใบหน้าจริงจัง

“จิ๊ คำก็โรคจิต สองคำก็โรคจิต เมื่อไหร่เธอจะมองว่าฉันเป็นคนปกติกับเค้ามั่งอ่ะ เสียใจนะเนี่ย...” ราฟพูดพลางเอามือกุมอก แต่เมื่อเห็นส่ยตาพิฆาตของสองสาวเขาก็มุ่ยปากแล้วพูดต่อว่า

“ก็ได้ๆ ฉันแค่อยากแน่ใจว่าพวกเธอจะปลอดภัยจากการแข่งขันนี้ก็เท่านั้น...ส่วนเรื่องแอบดูตอนอาบน้ำนั่นจริงๆก็อยากดูอยู่นะ แต่เจ้าหมอนี่ดันเป็นสุภาพบุรุษคอยห้ามอยู่เรื่อย” ราฟบอกพลางเบนสายตาไปทางพัคแทยังที่กำลังกระแอมอยู่

“พวกเธอมั่นใจได้ ฉันจำกัดขอบเขตการมองของเขาให้แล้ว” ชายหนุ่มตาทองส่งรอยยิ้มที่แสนจริงใจมาให้พวกเธอ

“...” ซายะกับเรเชลมองพัคแทยังด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“นี่นายก็เป็นไปกับหมอนี่ด้วยงั้นเหรอ”

“อะไรกันสานตาแบบนั้น? ที่พวกฉันทำก็เพื่อดูแลความปลอดภัยของพวกเธอนะ แต่ฉันก็ตกใจอยู่นะที่ซายะรู้สนิทกับราฟด้วย” พัคแทยังเอ่ยยิ้มๆขณะชี้ไปที่มือของทั้งคู่ที่ยังจับกันอยู่

ซายะรีบสะบัดมือของราฟออกทันทีด้วยใบหน้าเย็นชา เธอรีบโคจรปราณเหมันต์บนหน้าทำให้ใบหน้าของเธอไม่แดงจนคนในห้องสังเกตุเห็น

“ใครสนิทกับหมอนี่กัน” เธอกล่าวเสียงแข็ง

“เจ็บจี๊ดเลยแฮะ” ราฟพูดพลางเอามือกุมอกอีกครั้ง

“...” ซายะหันหน้าหนี

“ซายะ เธฮเกลียดเขาไม่ใช่เหรอ แล้วไปสนิทกับหมอนี่ตอนไหนกัน” เรเชลขมวดคิ้ว หลังจากเห็นท่าทีของเพื่อนสาว ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมานานมีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าหญิงสาวผมขาวรู้สึกยังไง

“อะไรกัน เธอหึงฉันเหรอยัยนักดาบ แหม เขินจังเลย แอร๊ย” ราฟยิ้มหวานพลางบิดตัวไปมาด้วยท่าทางน่าถีบ

“นายน่ะเงียบไปเลย ตั้งแต่เฟยฮวาแล้วยังมาซายะอีก นี่นายไปเกี่ยวข้องกับผู้หญิงกี่คนกันแน่” เรเชลเดินเข้ามาหาราฟก่อนจะยื่นมือไปกุมคอเสื้อของเขาด้วยสีหน้าเอาเรื่อง

“เอ่อ...เธอไม่โกรธฉันกับพัคแทยังเรื่องปล่อยให้เธอเอาตัวรอดคนเดียวแล้วเหรอ” ราฟยิ้มแห้งๆ

“เรื่องนั้นเฟยฮวาอธิบายมาแล้วว่าที่นายทำงั้นเพราะอยากให้ฉันพัฒนาพลังให้มากขึ้น นายเกือบจะออกไปสู้กับแบคคัสแล้วใช่มั้ยถ้าเขาไม่ยอมหยุดทำร้ายฉันน่ะ เพราะงี้ฉันเลยโกรธไม่ลง” เรเชลกล่าวพลางถอนหายใจ

ก่อนหน้านี้หลังจากเธอฟื้นขึ้นมา เฟยฮวาที่มองเธอด้วยสายตาไม่พอใจก็บอกว่าเธอไม่มีสิทธิ์โกรธชายหนุ่ม เพราะในตอนที่เธอถูกแบคคัสสั่งให้อสูรพฤกษาจัดการเธอนั้น ราฟเกือบจะชิงแหวนเทเลพอร์ตของโลแกนเพื่อออกไปจัดการแบคคัสด้วยตัวเองแล้ว แต่ก็ถูกโลแกนกับไป๋เสวี่ยฉีขอร้องไม่ให้ทำอย่างนั้น และบอกว่าแบคคัสไม่มีวันสังหารเธอ เขาแค่แกล้งเท่านั้น ราฟจึงเลือกที่จะสังเกตการณ์แล้วจัดการแกนบาเรียของเกาะต่อไป

ไม่อย่างนั้นแล้วต่อให้แบคคัสจะมีอีกร้อยชีวิต เขาก็ไม่อาจหนีรอดจากความโกรธเกรี้ยวของชายผมเทาได้

“ตอบฉันมา!” เรเชลพูดเสียงดัง เธอเขย่าคอเสื้อของราฟไปมา

“อ๊ากกก ยัยนี่ พึ่งฟื้นขึ้นมาแท้ๆทำไมแรงเยอะจังฟะ” ราฟพูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจ

“เรช พอก่อน เธอต้องพักผ่อนนะ ส่วนเรื่องของหมอนี่พวกเราค่อยมาจัดการกันทีหลัง เพราะดูเหมือนลุงคนนั้นมีเรื่องสำคัญที่จะต้องคุยกับหมอนี่อยู่” ซายะห้ามเพื่อนของเธอ

“ก็ได้” เรเชลหยุดกระชากคอเสื้อชายหนุ่มแล้วมองเขาอย่างคาดโทษ จากนั้นเธอก็ขอให้เฟยฮวาพาเธอกลับไปพักที่ห้องพร้อมกับซายะที่ขมวดคิ้วมองเฟยฮวาอย่างไม่สบอารมณ์

“เธอยังอยู่อีกเหรอ” ซายะถาม

“ฉันสิที่ต้องถาม นึกว่าถูกอสูรกินกลางทะเลทรายไปแล้วซะอีก” เฟยฮวายิ้มตอบ

“ยัยนี่...” ซายะถลึงตาใส่สาวครึ่งมังกรแค่ก็เลือกที่จะไม่สนใจเธอเพราะต้องพาเรเชลไปพักผ่อน

หลังจากที่ทั้งสามสาวจากไปโลแกนก็พูดขึ้นว่า

“เอาล่ะ ในเมื่อสาวๆของนายไปแล้ว เครื่องสร้างเสถียรล่ะ ฉันเห็นจากกล้องแล้วว่ามันสำเร็จ” เขาพูดพลางยื่นมือออกมา

“พวกเธอไม่ใช่ของผมซักหน่อย อย่าพูดเหมือนพวกเธอเป็นสิ่งของสิ...เอ้านี่” ราฟโยนออกไปให้โลแกน ชายวัยกลางคนรับมันเอาไว้

“โทษทีๆ...หึๆ ในที่สุดมนุษยชาติก็สามารถออกไปนอกโลกได้แล้ว” โลแกนพูดขึ้นอย่างดีใจ จากนั้นเขาก็ลงมือพิมพ์อะไรบางอย่างด้วยความรวดเร็ว

“ลุงจะทำอะไรอ่ะ” ราฟถาม

“เจาะระบบสื่อสารสาธารณะทั่วโลกเพื่อถ่ายทอดสดบอกทุกคนว่าเราควบคุมบาเรียได้แล้ว”

“อ้อ” ราฟพยักหน้า แต่ก่อนที่โลแกนจะกดเจาะระบบนั้น

ตูมมม

“อะไรกัน” พัคแทยังขมวดคิ้ว เพราะอยู่ๆก็เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“เกิดอะไรขึ้นน่ะลุง” ราฟถาม

“ขอเช็คแปป...อ้อ ไม่มีอะไรหรอก แค่พวกผู้เข้าแข่งขันที่นายจัดการไปกำลังอาละวาดกันน่ะ อย่างกับสงครามขนาดย่อมเลยแฮะ” โลแกนพูดอย่างเฉยชาก่อนตะกดปุ่มกันเสียงให้กับญานวิจัยแห่งนี้ จากนั้นเสียงดังทั้งหมดก็หายไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด