ตอนที่แล้ว135 - ไต่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป137 - พลังของเจดีย์รกร้างตะวันออกจำลอง

136 - สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกหมุนสวรรค์


136 - สตรีศักดิ์สิทธิ์หยกหมุนสวรรค์

โครงกระดูกสีขาวปกคลุมพื้นดินบนยอดเขา และโครงกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนยังคงต่อสู้ดิ้นรนขณะที่พวกเขาเดินลงจากภูเขามากขึ้นเรื่อยๆ

คราวนี้เจียงฮั่นจงทำหน้าที่ในขณะที่เขาใช้กล่องในฝ่ามือ รัศมีอันน่าสะพรึงกลัวถูกปล่อยออกมา

ความผันผวนของพลังที่กระจัดกระจายออกมานั้นทำให้โครงกระดูกสีขาวเหล่านั้นหยุดชะงักลงทันที

เย่ฟ่านตกตะลึงอย่างยิ่ง การดำรงอยู่ระดับนี้ราวกับเทพเจ้ามันไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเขาจะสามารถเอาชนะได้เลย

หลังจากนั้นเจียงฮั่นจง จี้หยุนเฟิงและสวีเต้าหลิงก็ผลัดกันแสดง ความสามารถ ในที่สุดก็ใกล้ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงสองร้อยวา

ในขณะนี้ก็มีเสียงร้องที่น่าสังเวชจากด้านหลัง ขณะที่หลายคนเริ่มล้มลง เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ยอดเขา ทหารม้าหลายก็เสียชีวิตจากวัยชราไปแล้ว

"บัดซบ! แม้แต่พวกเราก็ไม่สามารถทนได้!”

ในขณะนี้แม้ว่าเจียงฮั่นจง จี้หยุนเฟิงและสวีเต้าหลิงจะถือสิ่งประดิษฐ์ต้องห้ามไว้ในมือ แต่ใบหน้าของพวกเขาก็มีอายุมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและร่างกายของพวกเขาก็งองุ้มลง

“ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป เราจะตายโดยไม่ได้ไปถึงยอดเขาด้วยซ้ำ”

“ถอยไป ทุกคนถอย!”

สวีเต้าหลิงตะโกนให้ทหารม้าถอยหนี แผนเดิมของพวกเขาไม่สำเร็จ และคนที่ถูกพามาด้วยก็ช่วยไม่ได้ช่วยเหลืออะไรกับสถานการณ์ตอนนี้

เจียงฮั่นจงจ้องไปที่เย่ฟ่านอย่างเย็นชา มือของเขายังคงจับกล่องผ้าไว้แน่นขณะที่แสงจากสวรรค์แผ่ขยายออกไป พลังที่พุ่งสูงขึ้นบดขยี้เข้าหาเย่ฟ่านทันที ในเวลาไม่กี่ลมหายใจพลังศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นก็ถูกดึงกลับ

“เจ้าทำให้เขาเป็นหุ่นเชิดหรือ?” จี้หยุนเฟิงถาม

“ใช่แล้ว ข้าไม่สบายใจกับเพื่อนตัวเล็กๆคนนี้แล้ว ถ้าเขาขึ้นไปทำลายยาศักดิ์สิทธิ์หรือกินเอง มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะควบคุมเขาอีกต่อไป?” เจียงฮั่นจงตบเย่ฟ่านขณะที่เขาสั่ง

“ขึ้นไป!”

จากนั้นเขาก็หันไปหาคนทั้งสอง

“เราควรใช้พลังทั้งหมดของเราเพื่อช่วยเขา ส่งเขาขึ้นไปบนยอดเขา เราต้องได้รับยาศักดิ์สิทธิ์มาให้ได้ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีวันออกจากที่นี่ได้สำเร็จ!”

"ตกลง!" สวีเต้าหลิงพยักหน้า

จี้หยุนเฟิงพูดขึ้น

“จำนวนครั้งที่เราสามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้ร่วมกันคือเก้าครั้ง ดังนั้นพวกเราควรจะทำลายโครงกระดูกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้เพื่อส่งเขาขึ้นไป”

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ยอดเขามากขึ้น รัศมีของปีศาจก็หนักแน่นขึ้น แม้ว่าโครงกระดูกจะถูกกำจัดออกไปแต่ชายชราเหล่านี้ก็แทบจะเดินไม่ไหวแล้ว ในขณะเดียวกันแม้แต่ตัวของเย่ฟ่านก็ยังแก่ชราจนมีเส้นผมหงอกขาว

ในเวลานี้คำพูดโบราณหลายร้อยคำในจิตใจของเย่ฟ่านเริ่มสั่นสะท้านราวกับเสียงระฆังสีเหลืองที่ดังก้อง มันทำลายแสงสีดำที่พุ่งเข้ามาในจิตใจของเขา ปัดเป่าทุกสิ่งทุกอย่างออกไปทำให้ตราประทับหุ่นเชิดไม่มีผลอีก

เย่ฟ่านรู้สึกเหงื่อเย็นไหลท่วมร่างกายเขาเกือบจะต้องตายไปแล้ว ผู้อาวุโสของตระกูลเจียงนั้นร้ายกาจเกินไป โชคดีที่เขาได้รับการปกป้องอย่างทันท่วงที

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเย่ฟ่านก็ไม่ได้ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เขาแกล้งทำเป็นเหมือนว่ายังคงถูกควบคุมอยู่เช่นเดิม

“เอานี่ไป!”

สวีเต้าหลิงโยนขวดหยกที่สะอาดมาให้เย่ฟ่าน

“ขวดนี้สามารถบรรจุภูเขาขนาดใหญ่ได้ทั้งหมด มันมีพื้นที่ภายในตัวเอง และเจ้าสามารถใช้มันเพื่อเก็บน้ำพุศักดิ์สิทธิ์หลังจากเก็บยาศักดิ์สิทธิ์แล้ว

พวกเขายังอยู่ห่างจากยอดเขาหลายสิบวาและผู้อาวุโสทั้งสามสามารถกำจัดโครงกระดูกทั้งหมดได้แล้ว แต่พวกเขาแก่ชรามากเกินไปจึงไม่กล้าขึ้นไปบนภูเขาอีก

เย่ฟ่านสามารถสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่หลุดลอยหายไปเรื่อยๆ เมื่อไปถึงยอดเขา ผมของเขาขาวราวกับหิมะและร่างกายของเขาก็งุ้มลงเช่นชายชราที่อายุ 80 90 ปี

“นั่นคือ……”

ในขณะนี้เย่ฟ่านตกตะลึงเป็นอย่างมาก ข้างหน้าเขาตอนนี้มีหญิงสาวที่มีลักษณะงดงามสูงส่งนั่งเงียบๆบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์โดยหันหลังให้เขา

เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวทางด้านหลังหญิงสาวคนนั้นก็หันกลับมาจ้องมองไปที่เย่ฟ่าน

นี่คือหญิงสาวที่มีดวงตาที่สดใสและฟันที่ขาวดุจดอกบัว นางงดงามเป็นอย่างมากแต่ไม่คล้ายกับคนที่มีตัวตนอยู่ในโลก

นางยืนอยู่ที่ขอบหน้าผา ถ้านางก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าว นางจะตกลงไปในขุมนรกที่ไม่มีที่สิ้นสุด ชุดสีขาวของนางโบกพริ้วไหวไปกับสายลม ราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์

เย่ฟ่านต้องการค้นหารอยตำหนิบนร่างกายของนางแต่ทำไม่ได้ หญิงสาวคนนี้งดงามจนน่าเหลือเชื่อมากเกินไปจนไม่คล้ายกับมนุษย์ที่มีชีวิตด้วยซ้ำ

ในบรรดาหญิงสาวทั้งหมดที่เย่ฟ่านเคยเห็นมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเปรียบเทียบความงามของนางได้ นั่นคือหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบที่เขาเคยเห็นในหลุมศพของจักรพรรดิอสูร

“ในดินแดนต้องห้ามแห่งนี้จะมีหญิงงามขนาดนี้ได้อย่างไร?”

เย่ฟ่านระมัดระวังอย่างมากในขณะที่เขาค่อยๆถอยหลังกลับ แม้ว่าเขาจะมีร่างกายศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลแต่ตอนนี้มันก็ยังแก่ชรามากขึ้นจนแทบจะขยับไม่ไหวแล้ว

อย่างไรก็ตามหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆราวกับว่านางไม่ได้รับผลกระทบจากคำสาปของพื้นที่ต้องห้าม ด้วยพลังระดับนี้ไม่ทราบว่านางมาจากที่ใดกันแน่

“ยืนมึนงงไปเพื่ออะไร? ทำไมเจ้าไม่รีบไปหยิบยาศักดิ์สิทธิ์ล่ะ?” เจียงฮั่นจงอุทาน คนสามคนด้านล่างมองเห็นเย่ฟ่านที่ขอบยอดเขา แต่ไม่สามารถมองเห็นหญิงสาวที่อยู่ด้านบนสุดได้

บนยอดเขากลิ่นอายของปีศาจพลุ่งพล่านขณะที่หญิงสาวที่เคยปฏิบัติตัวเหมือนกับรูปปั้นได้พุ่งเข้าหาเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว

"แย่แล้ว!"

เย่ฟ่านรู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายของเขาเริ่มแก่เร็วขึ้นและรัศมีลึกลับก็กดเข้ามาหาเขาในขณะที่เขารีบถอยลงจากภูเขาโดยไม่คิดจะเสแสร้งอีก

หญิงสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ จริงๆแล้วนางน่ากลัวยิ่งกว่าคุ้มนรกที่อยู่ด้านข้างซะอีก หากไม่ใช่เพราะทะเลสีทองแห่งความทุกข์ที่ยังไม่แห้งพลังชีวิตทั้งหมดของเย่ฟ่านคงถูกทำลายไปแล้ว

“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่!”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เย่ฟ่านก็รีบถอยลงจากภูเขา เขาต้องการล่อให้หญิงสาวที่งดงามที่สุดคนนี้ลงจากเขามาเผชิญหน้ากับเจียงฮั่นจงและคนอื่นๆ

“ทำไมเจ้าถึงถอยกลับ” เจียงฮั่นจงอุทาน

“แย่แล้วหญิงสาวคนนี้มาจากที่ไหน”

การแสดงออกของจี้หยุนเฟิงเปลี่ยนไป เขาเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นหญิงสาวที่สวมชุดสีขาวและรู้สึกถึงความเร็วที่พลังชีวิตของเขากำลังถูกบดขยี้

"นั่นคือ……."

สวีเต้าหลิงดูเหมือนจะคิดถึงอะไรบางอย่าง ใบหน้าของเขาซีดเผือดไร้สีเลือดแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวถึงขีดสุด

"เกิดอะไรขึ้น ภูมิหลังของหญิงสาวคนนั้นเป็นอย่างไร"

“มันเหลือเชื่อเกินไป มันเป็นไปไม่ได้!” ใบหน้าของสวีเต้าหลิง เป็นสีขาวซีดขณะที่เขาพูดต่อ

“ข้าเคยเห็นภาพวาดของหญิงสาวคนนี้มาก่อน”

จี้หยุนเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า

“ภาพของนางนั้นไม่ธรรมดาอย่างนั้นหรือ? นางเป็นหญิงงามที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน ข้าไม่เคยเห็นหญิงสาวคนไหนในโลกที่จะสามารถทัดเทียมกับนางได้”

“ภาพวาดที่ข้าเห็นมีอายุหกพันปีแล้ว!”

เจียงฮั่นจงและจี้หยุนเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัว คนจากเมื่อหกพันปีก่อน…… นี่มันน่าตกใจเกินไป แม้แต่ตระกูลโบราณของพวกเขาก็ยังไม่มีอายุมากถึงขนาดนี้

“นางไม่ใช่คนที่มีชีวิต!” สวีเต้าหลิงอุทานด้วยสีหน้าซีดเผือด

"อะไร?!"

การแสดงออกบนใบหน้าของจี้หยุนเฟิงและ เจียงฮั่นจงเปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าพวกเขาคิดถึงอะไรบางอย่าง

“หรือว่านางจะเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งมื่อหกพันปีที่แล้ว หญิงงามอันดับหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำลายในตอนนั้น”

เมื่อสวีเต้าหลิงพูดถึงเรื่องนี้จี้หยุนเฟิงและเจียงฮั่นจงก็ค่อยๆคาดเดาถึงตัวตนของหญิงสาวคนนี้ขณะที่พวกเขาอุทาน

“ใช่แล้ว นางเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์หยกหมุนสวรรค์เมื่อหกพันปีก่อน!”

เมื่อสวีเต้าหลิงกล่าวคำเหล่านี้เขาก็แทบไม่อยากจะเชื่อเลย ใครจะจินตนาการว่าพวกเขาจะได้พบกับตัวตนที่ยิ่งใหญ่จากโลกยุคโบราณ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด