ตอนที่แล้วTHW ตอนที่ 19+20(2/3) ความคุมความสามารถอย่างเต็มที่ + ภาพ "คาวบอยตะวันตก"
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTHW ตอนที่ 21+22(1/3) กลิ่นของการออกกำลังกายตอนเช้า + เก็บเกี่ยวดอลลาร์

THW ตอนที่ 19+20(3/3) ความคุมความสามารถอย่างเต็มที่ + ภาพ "คาวบอยตะวันตก"


THW ตอนที่ 19+20(3/3) ความคุมความสามารถอย่างเต็มที่ + ภาพ "คาวบอยตะวันตก"

หลังจากกินพิซซ่าแล้ว เย่เทียนก็เปิดแล็ปท็อปของเขา และเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลภาพสีน้ำมันของ ซีเอ็ม รัสเซลล์

ซึ่งมันก็หาได้ง่ายมาก เพื่อนคนนี้มีผลงานอยู่มากเกินไป และมันก็จะถูกนำมาประมูลทุกๆ ปี และพวกมันทั้งหลายต่างก็อยู่ในการประมูลพิเศษ! ชาวอเมริกันจำนวนมากต่างก็ใช้จ่ายเป็นจำนวนมากให้กับภาพสีน้ำมันของเขา ผู้ซื้อต่างก็ไปรวมตัวกันในทุกๆ การประมูล ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลจะประมูลไม่ออก

ตราบเท่าที่คุณหาราคาประมูลครั้งล่าสุด และจากนั้นก็ทำการวิเคราะห์ขนาดของภาพวาดและราคาผลงานแต่ละชิ้นในแต่ละช่วงเวลาที่สร้างมันขึ้นมาของซีเอ็ม รัสเซลล์ คุณก็จะสามารถประเมินราคาที่ใกล้เคียงที่สุดกับมูลค่าที่แท้จริงของมันได้

และไม่นาน เย่เทียนก็ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

หลังจากทำการตรวจสอบราคาแล้ว มันก็ถึงเวลาเลือกว่าจะขายให้ใคร ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

นิวยอร์กถือเป็นเมืองหนึ่งที่เต็มไปด้วยศูนย์จัดแสดงงานศิลปะและบ้านประมูล

ที่เย่เทียนเลือกคือเลือกที่จะขายให้กับแกลเลอรี่ เพื่อให้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและเรียบง่าย เพื่อไม่ให้วิกาลยาวนานฝันยุ่งเหยิง!

และใช้เวลาไม่นานก่อนที่เย่เทียนจะทำข้อตกลงที่จะขายมันให้กับแกลเลอรี่ที่เป็นที่รู้จักกันดีในพื้นที่แมนแฮตตัน เอสซี และตกลงว่าจะไปพบกันที่แกลเลอรี่พรุ่งนี้ เพื่อที่จะทำการตรวจสอบภาพสีน้ำมันและทำการซื้อขายกันให้สมบูรณ์

หลังจากทำสิ่งนี้เสร็จ มันก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว และเย่เทียนก็เก็บกวาดพร้อมกับไปอาบน้ำ

  "-To-the-Jungle, na..."

เมื่อออกมาจากห้องน้ำ ก็ได้มีเสียงเรียกเข้าของวง Gunflower

มีคนโทรมา

เมื่อเปิดหน้าจอรับสาย ก็พลันมีเสียงตื่นเต้นของเจสันดังออกมาถึงหูเขาทันที

“สตีเวน นายอยู่ไหน? ทำไมถึงไม่มีคนรับสายทั้งที่ฉันโทรไปหาสองสามสาย?”

ไม่ต้องถามเลยว่าจะต้องเป็นข่าวดีอย่างแน่นอน!

เย่เทียนยิ้มพร้อมกับตอบออกไปว่า

“ฉันอยู่บ้าน พอดีว่ากำลังอาบน้ำอยู่ ก็เลยไม่ได้ยิน”

“ถึงว่าล่ะ ฉันโทรมาบอกข่าวดีนาย พวกเครื่องเงินที่ใช้บนโต๊ะอาหารนั่นน่ะ เป็นของโบราณจริงๆ และไม่ใช่ของโบราณธรรมดาด้วย!”

แน่นอนว่ามันเป็นของโบราณ เรื่องนี้ฉันรู้ดีกว่าใครเลยล่ะ! เย่เทียนพูดขึ้นในใจ

จากนั้นเขาก็ถามออกไปอย่างตื่นเต้นว่า

“เจ๋ง! แล้วรู้ไหมว่าช้อนพวกนี้มาจากไหน?”

“ให้เบนนี่บอกนายดีกว่า เขารู้ดีกว่าฉัน!”

“ได้!”

จากนั้น เสียงเบนนี่ก็ดังเข้ามา

“ไง สตีเวน นายช่างเป็นผู้ชายที่โชคดีจริงๆ! ถึงกับเจอสมบัติที่น่าอิจฉาอย่างนั้นได้!”

“สวัสดีเบนนี่ ขอบคุณสำหรับที่ช่วย ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าช้อนนี่มีที่มาจากไหน ฉันรอไม่ไหวแล้ว!”

“ชุดเครื่องเงินที่ใช้บนโต๊ะอาหารนี้ มาจากฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 มันถือเป็นเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารชั้นสูง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นของโบราณที่มีมูลค่ายอดเยี่ยมชิ้นหนึ่ง หากมีเป็นชุดแล้วล่ะก็ มันจะยิ่งมีค่ามากขึ้นไปอีก!

และโรงงานที่ทำเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารนี้ขึ้นมาก็มีชื่อเสียงอย่างมาก ซึ่งก็คือตระกูลโบอี้ภายใต้แอร์เมสในฝรั่งเศส พวกเขาเป็นผู้ทำเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ดีที่สุดในโลก และเป็นไอเทมสุดหรูชั้นยอด!”

“ว้าว!”

เย่เทียนอุทานออกมา พร้อมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เขารู้เรื่องแบรนด์หรูนี้ และมันก็มีฐานะในอุตสาหกรรมเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารตะวันตก เช่นเดียวกับฐานะของแอร์เมสในอุตสาหกรรมแฟชัน ซึ่งถือเป็นแบรนด์ชั้นยอด

แต่เย่เทียนยังคงมีข้อสงสัยบางอย่าง

“แต่จากที่ฉันรู้ สัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เครื่องเงินของตระกูลโบอี้คือ”E.P“ไม่ใช่เหรอ งั้นทำไมบนชุดเครื่องใช้นี้ถึงตัวอักษร”J“ล่ะ? นี่มันไม่สอดคล้องกันเลยนี่?”

เบนนี่พลันอธิบายด้วยรอยยิ้มในทันที

“ใช่”E.P” เป็นโลโก้ของพวกเขา แต่นั่นก็เฉพาะของที่ผลิตจำนวนมาก สำหรับของที่สั่งเฉพาะ จะถูกทำขึ้นโดยช่างฝีมือพิเศษ และจะไม่มีสัญลักษณ์นั้น แต่จะเป็นโลโก้ส่วนตัวของตัวช่างฝีมือแทน

นี่ก็เหมือนกับชุดเครื่องใช้ของนาย และยิ่งที่มาของมันยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก มันถูกทำขึ้นโดยเจ้าบ้านของตระกูลโบอี้ “Jean Baptiste Foss” และตัวอักษร J ก็เป็นที่อยู่บนนั้นก็เป็นโลโก้ของเขาเอง

แต่ว่าโชคไม่ดีที่ไม่สามารถหาได้ว่ามันถูกทำให้ใคร ไม่อย่างนั้น มูลค่าของมันจะยิ่งสูงกว่านี้แน่ แต่ยังไงก็ตาม คนที่สั่งก็จะต้องเป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่งแน่ เพราะไม่มีคนธรรมดาที่ไหนจะสามารถทำให้เขาลงมือทำเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารให้ด้วยตัวเองได้!”

“เจ๋ง! ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าชุดเครื่องใช้นี้จะซ่อนเรื่องราวไว้เป็นจำนวนมาก นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!”

แม้เขาจะรู้นานแล้วว่าชุดเครื่องใช้นี้เป็นของโบราณและมีมูลค่ามาก แต่เย่เทียนก็ยังคงตกใจอยู่ดี หลังจากที่ได้ยินต้นกำเนิดที่แท้จริงของมันแล้ว ก็ทำให้เขาถึงกับต้องทอดถอนใจด้วยอารมณ์

โดยที่สีหน้าของเขายังไม่ฟื้นกลับคืน เสียงเบนนี่ก็ดังมาเข้าหูเขาอีกครั้ง

“สตีเวน นายตั้งใจที่จะขายชุดเครื่องใช้โบราณนี้หรือเปล่า? ถ้านายคิดจะหาคนมาตรวจสอบมันวันนี้ และตั้งใจจะขายชุดเครื่องใช้หายากนี้แล้วล่ะก็

ถ้านายเต็มใจ งั้นฉันก็จะช่วยนายติดต่อคนอื่นให้ ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะต้องให้ราคาดีแน่ๆ และมันจะต้องทำให้นายพอใจอย่างแน่นอน”

แล้วยังจะรออะไรอีก? แน่นอนว่าต้องขายอยู่แล้ว! พวกนายคงไม่คิดว่าฉันจะใช้ชุดเครื่องใช้ทำมือพวกนี้เพื่อกินอาหารเย็นหรอกใช่ไหม!

โดยไม่ลังเล เย่เทียนพลันตอบออกไปในทันที

“แน่นอนว่าฉันต้องการจะขายมัน ฉันไม่มีงานอดิเรกที่จะเก็บสะสมเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร หากสามารถเปลี่ยนมันเป็นเงินดอลลาร์ได้ อย่างนั้นก็คงจะยอดเยี่ยมไปเลย! นายสามารถติดต่อฉันได้ และทุกคนจะเจอกันเมื่อตอนที่พร้อมจะทำการซื้อขาย!”

“ตกลง! ฉันจะติดต่อไปทันทีที่รู้ผล”

เบนนี่ตอบกลับด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับส่งมือถือคือเจสัน

และหูของเย่เทียนก็พลันได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและอิจฉาของเจสัน

“ว้าว! เพื่อน นายนี่ช่างเป็นผู้ชายที่โชคดีจริงๆ! มันเหลือเชื่อมากที่นายสามารถเก็บสมบัติได้อีกครั้ง! ดูเหมือนว่านายจะตกลงไปในแม่น้ำที่เป็นที่ชื่นชอบของพระเจ้า! หรือว่าฉันควรจะไปโดดแม่น้ำตะวันออกสักครั้งดี?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

เย่เทียนหัวเราะขึ้นมาทันที

“ใจเย็น! ใจเย็นไว้! นี่พวก นายอย่าได้คิดไปกระโดดแม่น้ำตะวันออกเชียว เดี๋ยวจะตายไม่รู้ด้วย!”

“นั่นเป็นไปไม่ได้! ฉันเล่นประดาน้ำเป็น ดังนั้น แม่น้ำตะวันออกย่อมไม่สามารถสร้างปัญหาให้ฉันได้!”

หลังจากคุยเล่นกันสองสามคำ เย่เทียนก็กลับมาเรื่องธุรกิจ

“เจสัน ขอบคุณมาก หากไม่ได้ความช่วยเหลือของนายและเบนนี่ ฉันคงไม่รู้ที่มาของชุดเครื่องใช้นี้เร็วขนาดนี้ แถมยังช่วยติดต่อหาคนซื้อให้ด้วย”

“ไม่ต้องเกรงใจไปหรอก แค่เรื่องเล็กน้อยเอง!”

แม้เจสันจะพูดอย่างนั้น แต่เย่เทียนก็ไม่ได้ปล่อยผ่านไป เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังว่า

“ตราบเท่าที่การซื้อขายสำเร็จ ฉันจะให้เบนนี่ 10% และนาย 5% เป็นค่าคอมมิชชั่นสำหรับที่ช่วย ว่ายังไง? นายพอใจหรือเปล่า?”

“อะไรนะ? สตีเวน นี่เรื่องจริงงั้นเหรอ? ฉันไม่ได้ฝันใช่ไหม?”

เจสันตื่นเต้นและเขาแทบจะเป็นบ้า

“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง! ฉันไม่ให้นายช่วยฉันฟรีๆ หรอก”

“เย่! เจ๋ง! สตีเวน นายนี่ช่างใจกว้างจริงๆ! จากนี้ไป นายจะเป็นพี่น้องของฉัน! ไม่! นายเป็นมากกว่าพี่น้อง ฉันรักนายว่ะ!”

เจสันเป็นบ้าไปเรียบร้อย!

ระหว่างที่คุยพลางหัวเราะพลางอยู่นั้น เบนนี่ที่กลับมาจากโทรศัพท์ ก็ได้รับโทรศัพท์จากเจสัน และคุยกับเย่เทียนต่อ

“สตีเวน! ฉันติดต่อเพื่อที่เป็นนายหน้าขายของโบราณแล้ว หากว่านายมีเวลา ก็มาตกลงกันพรุ่งนี้เลย เขารอไม่ไหวที่จะเห็นชุดเครื่องใช้โบราณนี้แล้ว”

เย่เทียนเองก็ใจร้อนไม่แพ้กัน เขาจึงตอบไปอย่างไม่ลังเลว่า

“ได้ พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปทำธุระที่แมนแฮตตันพอดี และหลังจากเสร็จธุระแล้ว เราจะไปเจอกันที่ไหน?”

“เจอกันที่ร้านของฉันตอนบ่าย แบบนั้นทุกคนจะได้สะดวก ส่วนสำหรับเรื่องราคานั้น นายสามารถพูดคุยตกลงด้วยตัวเองได้เลย ฉันจะไม่เข้าไปช่วยแนะนำอะไรทั้งนั้น แล้วก็อย่าลืมค่าคอมมิชชั่นของฉันด้วยล่ะ!”

นี่สิถึงจะสมกับเป็นคนอเมริกัน! พูดคุยเรื่องเงินออกมาตรงๆ โดยไม่มีการอายอะไรเลย!

เย่เทียนยิ้มและตอบกลับไปว่า

“เบนนี่ ฉันรู้กฎดี ค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายส่วนตัวคือ 10% ใช่หรือเปล่า? ฉันไม่ให้นายเหนื่อยเปล่าแน่!”

“ยอดเยี่ยม สตีเวน นายนี่ช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ!”

เบนนี่ตื่นเต้นอย่างมาก มีเงินตกลงมาจากฟ้าแล้วหล่นลงตรงหน้าเขา แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาดีใจได้ยังไง!

“อืม! ไว้เจอกันพรุ่งนี่ เบนนี่!”

“ไว้เจอกัน!”

หลังจากบอกลา เย่เทียนก็วางสาย

หลังจากวางสาย เขาก็หยิบเอาชุดเครื่องใช้โบราณขึ้นมา และเริ่มชื่นชมมัน

ตั้งแต่พรุ่งนี้ มันจะไม่ใช่ของเขาอีก ดังนั้นเขาจึงต้องเอาออกมาชมให้พอ!

จากนั้น เขาก็เริ่มทำการหาราคาเกี่ยวกับเครื่องใช้โบราณนี้ เพื่อที่เขาจะได้ข้อมูลยามต่อรองราคากับฝั่งตรงข้าม

ด้วยที่มาที่ชัดเจน มันจึงหาข้อมูลได้ง่ายมาก!

ไม่นาน เขาก็พบข้อมูลเกี่ยวกับราคาของชุดเครื่องเงินที่ใช้บนโต๊ะอาหารสไตล์อังกฤษที่มาจาก “Jean Baptiste Foss” ซึ่งไม่ว่าจะชิ้นไหน มันก็มีราคาที่แพงเกินจริงมากจริงๆ!

เมื่อทำสิ่งนี้เสร็จ มันก็ถือเป็นการจบวันที่สมบูรณ์แบบ

และพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันนับเงิน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด