ตอนที่แล้ว551-552
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป555-556

553-554


3/10

Ep.553

“แส่หาที่ตาย!”

ชายร่างอ้วนฉีกยิ้มดุดัน แทนที่จะถอยกลับ เขาเลือกก้าวไปข้างหน้า กำหมัดแน่นและซัดใส่ซูเฉิน

ปงงงงง!

วินาทีต่อมา หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือบรรจบกัน สองพละกำลังมหาศาลปะทะกันอย่างดุเดือด เกิดเสียงกระแทกหนักทึบ

ชายร่างอ้วนยันได้ไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ ร่างเขาก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง สุดท้ายถูกกดลงกับพื้นภายใต้ฝ่ายมือของซูเฉิน ครึ่งร่างเขาจมฝังเข้าไปในดิน

“เหตุใดพละกำลังเจ้าถึงได้มากมายขนาดนี้?”

ชายร่างอ้วนตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ร้องอุทานเสียงหลง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่เขาภาคภูมิใจที่สุดก็คือพละกำลังของตน ศัตรูในอดีต บ่อยครั้งมักถูกเขาอาศัยความได้เปรียบด้านพละกำลัง โดนบดขยี้ไปทุกราย เรียกได้ว่าไม่เคยเสียเปรียบใดๆ ไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียม

ทว่าการปรากฏตัวของซูเฉิน ทำให้เขารู้ซึ้งว่าพละกำลังที่แท้จริงคืออะไร!

ต่อหน้าซูเฉิน ชายร่างอ้วนกลายเป็นคนไร้กำลังขัดขืน

เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อมาก

ซูเฉินหรี่ตาลง กวาดผ่านร่างของชายอ้วน จากนั้นเปิด [พื้นที่เพาะปลูก] สนทนากับต้นผลอายุวัฒนะ

“เสี่ยวโซ่ว นายพอจะสัมผัสได้ไหม ว่าเจ้าหมอนี่ได้กินผลพละกำลังไปรึเปล่า?”

พละกำลังของชายอ้วนมหาศาลมาก เอาจริงๆกำปั้นเมื่อครู่หนักหน่วงไม่แพ้น้ำหนักของเต่าทรราชปราณฟ้าเลย

สถานการณ์นี้น่าประหลาดเกินไป มันทำให้เขาเกิดข้อสงสัยว่า อีกฝ่ายได้กลินผลพละกำลังเข้าไปหรือไม่ พละกำลังถึงได้มหาศาลขนาดนี้

“เจ้านาย เขาไม่ใช่แค่กินผลพละกำลัง แต่ยังกลืนแก่นอสูรของต้นผลพละกำลังเข้าไปด้วย!” ต้นผลอายุวัฒนะกล่าวเสียงสั่น

“อะไรนะ!?”

ใบหน้าของซูเฉินแปรเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกกว่าในทุกๆครั้ง

แก่นอสูรของต้นผลพละกำลังถูกกลืนไปแล้ว นั่นไม่ใช่หมายความว่าต้นผลพละกำลังตายไปแล้วหรือ?

ทีแรกตอนรู้ข่าวของต้นผลพละกำลัง แม้ไม่รู้สึกสนใจเท่าผลอื่นๆ แต่เขาก็ยังตั้งใจที่จะยึดมาเป็นของตัวเอง

ทว่าผลลัพธ์นี้ ทำให้เขารู้สึกผิดหวังมาก และโกรธเกรี้ยวอย่างหาที่เปรียบมิได้

“เสี่ยวโซ่ว ต้นผลพละกำลัง ยังพอมีหวังที่จะปลูกใหม่อีกไหม?”

ซูเฉินสูดหายใจลึก เพื่อให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง

“แก่นอสูรของต้นผลพละกำลังยังไม่ถูกดูดซับอย่างสมบูรณ์ ถ้าเจ้านายหาต้นไม้แห่งชีวิตพบ แล้วใช้น้ำจากผลแห่งชีวิต ก็จะสามารถช่วยให้มันฟื้นคืนชีพได้” ต้นผลอายุวัฒนะอธิบาย

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของซูเฉินแปรเปลี่ยนไป ซัดหมัดระเบิดร่างชายอ้วนในโผล๊ะเดียว ควานหาตามเศษศพไม่นานก็เจอแก่นอสูรขนาดเท่าเม็ดถั่วลิสง

“เสี่ยวโซ่ว นี่คือแก่นอสูรของต้นผลพละกำลังใช่ไหม?”

ซูเฉินวางแก่นอสูรนี้ลงเบื้องหน้าต้นผลอายุวัฒนะ เอ่ยถามด้วยความกระวนกระวายใจ

“เจ้านาย นี่คือแก่นอสูรของต้นผลพละกำลัง แม้ว่ามันจะอ่อนแอมาก แต่ยังมีร่องรอยของลมหายใจแห่งชีวิตอยู่” ต้นผลอายุวัฒนะตอบกลับอย่งามั่นใจ

ซูเฉินระบายลมหายใจโล่งอก กำชับว่า “ฉันขอฝากแก่นอสูรของต้นผลพละกำลังไว้ให้นายดูแลชั่วคราว”

ต้นผลพละกำลังกับต้นผลอายุวัฒนะเป็นพืชปีศาจเหมือนกัน การฝากไว้ให้กับมัน น่าจะดีกว่านำไปใส่ในถุงเก็บของ

“เจ้านายสบายใจได้ ฉันจะดูแลมันอย่างดี” ต้นผลอายุวัฒนะให้คำมั่น

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นปิด [พื้นที่เพาะปลูก]

“โกรธไปหน่อยเลยเผลอฆ่าเร็วไป …”

กลับมากวาดสายตามองเศษเนื้อของชายร่างอ้วน ซูเฉินถอนหายใจเบาๆ

ก่อนหน้านี้เพราะใจร้อนเกินไป เลยเผลอฆ่าชายอ้วน ทำลายเบาะแสมากมายที่จะได้รับ ทำให้เขารู้สึกอารมณ์เสียมาก

แต่ในเมื่อนี่คือสิ่งที่ตนกระทำ ดังนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะจมปลักอยู่กับมัน

ซูเฉินสลัดความคิด  มองไปทางสนามรบ

ณ ขณะนี้ ชาวเผ่าระฆังศิลาถูกสังหารเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่แค่ไม่กี่ตน

พวกที่เหลือกำลังถูกหยางฮ่าวและคนอื่นๆล้อมเอาไว้

สิ่งที่ทำให้ซูเฉินต้องประหลาดใจก็คือ ตันหลินและสาวๆคนอื่นๆก็อยู่ในกลุ่มที่กำลังปิดล้อมเช่นกัน

4/10

Ep.554

ตลอดมาเวลาที่ตันหลันและสาวๆลงสนามรบ พวกเธอมักพึ่งพาความสามารถในการโจมตีระยะไกลของ [ปืนพกเพาส์] มาโดยตลอด การต่อสู้ระยะประชิดเช่นนี้ หาได้ยากมาก

อย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่ซูเฉินอยากเห็น เพราะหนทางเดียวที่จะมีชีวิตดีขึ้นในโลกหายนะ คือต้องแข็งแกร่งเท่านั้น

เฝ้ารอจนทุกคนสังหารชาวเผ่าระฆังศิลาจนหมด  ซูเฉินค่อยเรียกพวกเขาขึ้นมาบนรถ แล้วมุ่งหน้าต่อไปยังดินแดนของซอมบี้

ระหว่างทาง ซูเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้คนขับ คัดแยกชิ้นส่วนที่ได้รับ

ช่วงหลายวันที่ผ่านมา คุณภาพของชิ้นส่วนที่ดรอปไม่สูงนัก เกือบทั้งหมดถูกแปลงเป็นแต้มพลังงาน จำนวนแต้มพลังงานโดยรวมจึงกระเตื้องขึ้นมาเกินเลข 2 แล้ว

หลังจากคัดแยกชิ้นส่วน ซูเฉินก็หันมาคุยกับ [รถศึกอัจฉริยะ]

“เสี่ยวจือ ไม่ใช่ว่านายเปิดฟังก์ชั่นการบินแล้วหรอกเหรอ? ทำไมถึงยังเลือกเคลื่อนไปตามพื้นอีก?”

ในความคิดเขา การเลือกบินอยู่บนฟ้า ความสะดวกกว่าบนบกไม่มากก็น้อย จะมีข้อเสียก็แค่ต้องใช้หินพลังงานเพิ่มมากขึ้น

ทว่าหินพลังงานที่ซูเฉินรวบรวมมาได้ในตอนนี้ มีจำนวนมากมายมหาศาล ต่อให้สิ้นเปลืองมากขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ

[รถศึกอัจฉริยะ] อธิบายว่า “เจ้านาย ฉันบินได้ก็จริง แต่ความเร็วในอากาศยังด้อยกว่าการขับรถทางบกนัก”

“เอ๋?”

ซูเฉินขมวดคิ้วเล้กน้อย หากความเร็วไม่เพิ่มขึ้นแต่ลดลง เช่นนั้นฟังก์ชั่นการบินก็แทบไม่มีประโยชน์เลยน่ะสิ

“มีวิธีเพิ่มความเร็วในการบินไหม?” ซูเฉินเอ่ยถามอย่างไม่ยอมแพ้

“ถ้าคุณนำศิลาวิญญาณวายุมาติดตั้งให้ฉันซัก 10 ก้อน จะสามารถช่วยเพิ่มความเร็วในการบินเป็นสิบเท่า” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบ

ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นทันที

[รถศึกอัจฉริยะ] มีความเร็ว 500 ไมล์ต่อชั่วโมง หากเพิ่มขึ้นสิบเท่าก็จะกลายเป็น 5,000 ไมล์

นั่นหมายความว่าหากเขาอยากไปที่ไหนในอนาคต ไม่เท่ากับเพียงชั่วพริบตาหรอกหรือ?

“ดูเหมือนว่าฉันต้องแวะไปทักทายวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยูซะหน่อยแล้ว” ซูเฉินพึมพำกับตัวเอง

ก่อนหน้านี้ เขาเคยได้ศิลาวิญญาณวายุก้อนหนึ่งจากชายชราของวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู ดังนั้นคาดเดาว่าในวิหารน่าจะมีศิลาวิญญาณวายุก้อนอื่นๆอยู่เช่นกัน

แต่เดิม เขามีเป้าหมายแค่ไปราชวงศ์เฝิงซีเพื่อค้นหาต้นผลจำลองจิต แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ บังคับให้เขาต้องเป็นศัตรูกับอีกสองมหาอำนาจใหญ่ –จักรวรรดิเฉินเชิ่ง และวิหารศักดิ์สิทธิ์หมานหยู

ด้วยเหตุนี้ เกรงว่าสี่มหาอำนาจแห่งทวีปเสวียนเทียน นอกจากขุนเขาหวังเฉียวที่ยังไม่เคยเจอแล้ว คงได้เกิดการนองเลือดขึ้นทั้งหมด

“มันคงจะดีถ้าพวกขุนเขาหวังเฉียวไม่มาหาเรื่องฉันเข้า” ซูเฉินผุดความคิดนี้ขึ้นมา

อีกพักหนึ่ง เขาก็เลิกจินตนาการถึงเรื่องพวกนี้ หลับตาและพักผ่อน

หลังจากนั้น [รถศึกอัจฉริยะ] วิ่งไปตลอดเส้นทาง โดยระหว่างทางไม่มีอุปสรรคใดๆกีดขวาง

ในวันที่ห้า [รถศึกอัจฉริยะ] ค่อยๆชะลอความเร็วลงเมื่อมาถึงด้านหน้าของเมืองชางหมิง

ขนาดของเมืองชางหมิงใกล้เคียงกับเมืองจิงกัง  และยังเป็นเมืองของซอมบี้กับพวกเผ่าอมตะ

ตรวจสอบผ่านหน้าจอควบคุมส่วนกลาง ซูเฉินพบว่า  มีซอมบี้มากมายอยู่ในเมืองๆนี้ เกรงว่าอาจมีจำนวนสูงถึง 100,000 ตัว ซึ่งเป็นระดับของคลื่นซอมบี้ขนาดกลาง

ซอมบี้ที่ซูเฉินเคยล่ามาในอดีต ยอดรวมของพวกมัน บวกๆกันแล้วเกิน 100,000 ตัวแน่นอน

แต่การปะทะกับซอมบี้นับ 100,000 ตัวพร้อมกันในคราวเดียว นี่ถือเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ ในเมืองชางหมิงไม่ได้มีเพียงซอมบี้เท่านั้น แต่ยังมีพวกต่างเผ่าอาศัยอยู่นับหลายร้อยตน

ตามกฏเดิม ก่อนจะฆ่าซอมบี้หรือพวกต่างเผ่า อันดับแรกต้องระบุระดับฐานฝึกตนของพวกมันก่อน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด

“เสี่ยวจือ ซอมบี้กับพวกต่างเผ่าในเมืองชางหมิง มีเลเวลสูงสุดเท่าไหร่?”

สิบวินาทีต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบกลับ “เจ้านาย ตรวจพบผู้ฝึกตนเลเวล 6 ทั้งสิ้น 10 คน และยังมีผู้ฝึกตนเลเวล 5 อีกหลายสิบคน”

“เยอะขนาดนั้นเชียว?”

ซูเฉินขมวดคิ้ว แสดงอารมณ์ออกมาเล็กน้อย

อารมณ์ที่ว่ามิใช่ความหวาดกลัว เพราะด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ต่อให้พวกมันมีมากกว่านี้ 2 เท่า เขาก็มั่นใจว่าสามารถสังหารได้ทั้งหมด

แต่เขาแค่รู้สึกสงสัย เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยสังหารพวกต่างเผ่ามากมายในคฤหาสน์ของหานซานเฉียน ซึ่งรวมถึงเลเวล 6 หลายตน

ตามหลักเหตุผลแล้ว บนเกาะหวังซวี่ก็ไม่น่าจะมีเลเวล 6 เหลือเยอะมากถึงขนาดนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด