ตอนที่แล้วบทที่ 39 ปล้นเผ่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 41 เคล็ดวิชาเต๋าเมฆามรกต

บทที่ 40 สิ่งของสำหรับฤดูหนาว


บทที่ 40

สิ่งของสำหรับฤดูหนาว

ในวันที่ 8  มิติโลกใหม่

ขบวนทัพเดินทางกลับฐาน  หลี่มู่ฟาน ตัดสินใจขายเชลยที่มีคุณสมบัติไม่ดีทั้งหมดและขายรางวัลที่ต่อสู้กับกองเรือนักล่าคราวที่แล้ว เงินในฐานเพิ่มขึ้นเป็น 10m ทันทีช่วยลดการขาดดุลในคลังอย่างมาก

เขามองไปที่กองเงินที่อยู่ในคลัง ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจ

2 วันต่อมาดวงตาของ หลี่มู่ฟาน สว่างขึ้นอีกครั้งและสติก็กลับมาสู่ร่างที่แท้จริง

ที่นี่ไม่ใช่ในค่าย แต่อยู่ภายในถ้ำที่ปกคลุมไปด้วยหมอก ที่นี่เปรียบเสมือนฐานลับของเขา เขาห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้โดยพลการแน่นอนยกเว้นชาวอาณานิคมของเขา

คราวนี้เขานำของกลับมามากมาย หมั่นโถวไส้เนื้อแห้งนับหมื่นก้อน ผ้าห่มผ้าฝ้าย และผ้าห่มฤดูหนาวหลายพันชิ้นรวมทั้งอาหารมากมาย

นอกจากนี้ยังมีชาวอาณานิคมอีก 3 คนติดตามมาด้วยแต่ไม่ใช่แกนนำเก่าของอาณานิคมแต่เป็นนักล่าที่ได้รับการคัดเลือกใหม่ 3 คน

เป็นชาย 2 คนและหญิง 1 คนอยู่ในระดับหลอมรวมร่างกาย หนึ่งในนั้นก็คือไป๋หยาง ที่อยู่ในขอบเขตหลอมรวมร่างกายระดับ 2

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือ หลี่มู่ฟาน นำอสูร   เฉียนจี่กลับมาด้วย ใช่แล้วในมิติเกมสัตว์อสูรตัวนี้เรียกว่าอสูรเฉียนจี่ แต่ในทวีปเทียนเหิง ผู้คนเรียกมันว่ายูนิคอร์น

สัตว์อสูรชนิดนี้หายากมาก พวกมันกระจายตัวอยู่ทั่วทวีปเทียนเหิงแต่ไม่ค่อยมีใครได้พบเห็น พวกมันมีอายุที่ยืนยาวแข็งแกร่งและพยศ

ยูนิคอร์นสีขาวราวหิมะตัวนี้มีชื่อเรียกว่า เหยียบหิมะ   (ต้าเสวี่ย) แม้ว่ามันจะยังไม่บรรลุ แต่ความแข็งแกร่งของมันก็อยู่ในระดับ 6 ของเขตแดนหลอมรวมร่างกาย  หลี่มู่ฟาน จ่ายเงินไป 2 m เพื่อนำมันออกมา มันสามารถใช้เป็นพาหนะและทำหน้าที่เป็นองครักษ์ได้

เขาเพิ่งพาความสามารถในการฝึกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งของ  อาโชว  และทำให้ยูนิคอร์น 10 ตัวเชื่อง มันเหมือนสมบัติล้ำค่าของอาณานิคมและตอนนี้มันก็ได้ใช้ประโยชน์แล้ว

เขาขี่ ยูนิคอร์นเดินออกจากถ้ำไม่กี่ก้าว เขารู้สึกถึงสัมผัสที่อ่อนโยนจากใต้ร่างกายของเขา เขาหัวเราะอย่างพึงพอใจ

“ยอดเยี่ยม ยูนิคอร์นตัวนี้ดีกว่าขี่นิ่มยิ่งกว่าหญิงสาว ฉันควรจะเอามันออกมาจากมิติเกมเพิ่ม…” หลังจากพูดไปครึ่งทางก็รู้ว่าตัวเองพูดผิด เขายิ้มพลางส่ายหัว

นอกจากชาวอาณานิคมที่เขานำตัวออกมาจากเกมแล้ว  อาเฉียง ชุ่ยฮัว ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

“ต้องลำบากพวกเจ้าทั้ง 5 คนแล้วนำของที่เอาออกมาในครั้งนี้ไปยังค่าย”

เนื่องจากมีหมอกขวางกั้นจึงไม่มีใครสามารถเข้าผ่านเส้นทางนี้ได้นอกจาก หลี่มู่ฟาน และชาวอาณานิคมที่มีการติดต่อกับเขาอย่างลึกซึ้ง

ภายในค่ายหลิวหลงและคนอื่นๆมองไปที่เสบียงที่กองอยู่เบื้องหน้าพวกเขาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “นายน้อยด้วยอาหารและผ้าห่มและผ้าฝ้ายมากมายเหล่านี้ในฤดูหนาวพวกเราไม่ต้องกังวลอีกต่อไป!”

หลี่มู่ฟาน กล่าวว่า “แบ่งอาหารออกเป็น 3 ส่วน ทหารกินชุดโภชนาการ ชาวบ้านกินธรรมดา”

“นายน้อยๆแล้วพวกก็อบลินล่ะ?”

หลี่มู่ฟาน คิดอยู่สักครู่ คิดอยู่สักครู่ก่อนจะพูดว่า     “เชลยมีหมั่นโถวไส้เนื้อแห้งจำนวนจำกัด ไม่อดตายก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้หากเชลยทำได้ดีสามารถกินได้มากกว่านี้ แต่ถ้าไม่มีประสิทธิภาพก็ให้พวกมันอดตายไปเถอะ!”

“รับทราบ!”

หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ หลิวหลงก็ถามเสียงเบาว่า       “ฝ่าบาท เชลยอีก 2 คนนั้นจะทำอย่างไร?”

“อืม...สองคนนั้น..”

“ฝ่าบาทข้าน้อยมีความเห็นว่า โปรดให้นางได้กินสักหน่อยส่วนอีกคน….”

หลี่มู่ฟาน หยิบถุงผ้าใบเล็กออกมาจากอกเสื้ออย่างลึกลับและกระซิบข้างหูหลิวหลง

หลิวหลงค่อยๆเบิกตากว้างและมองไปที่ หลี่มู่ฟาน ที่มีสีหน้าเฉยเมยเขาหัวเราะคิกคักและกล่าวว่า “ด้วยสิ่งนี้ข้าไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่เชื่อฟังอีกต่อไป”

หลังจากที่หลิวหลงจากไป  ฟานชิงเยว่ ที่อยู่ข้างๆก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ฝ่าบาทท่านกลับท่านหลิวคุยเรื่องอะไรกันแลลับลมคมในมาก”

หลี่มู่ฟาน หัวเราะแต่ไม่ได้พูดอะไรและเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “ชิงเยว่เจ้าไปจัดการคัดสรรผ้าห่มและผ้าฝ้ายแจกจ่ายให้กับพวกเขา”

“แล้วเชลยล่ะ?”

“เชลย ขึ้นอยู่กับการแสดงของพวกเขา..”

“รับทราบ!”

ฟานชิงเยว่ รับคำสั่งและหันหลังเตรียมที่จะจากไปแต่ หลี่มู่ฟาน ก็หยุดนางเอาไว้ก่อน เขาชี้ไปที่ผู้ชาย 2 คนและผู้หญิงอีก 1 คนจากนั้นกล่าวว่า “ชิงเยว่ คนทั้ง 3 นี้คือ ไป๋หยาง หวังลี่และหวังหง เป็นคนบ้านเดียวกันกับ  อาเฉียง และ ชุ่ยฮัว  ข้าเป็นคนฝึกฝนพวกเขามาอย่างลับๆ และให้รับผิดชอบงานสายลับจากเจ้า ดังนั้นในอนาคตเจ้าจะต้องฝึกฝนพวกเขา”

ฟานชิงเยว่ พยักหน้าให้กับชาวอาณานิคมทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลัง หลี่มู่ฟาน