ตอนที่แล้วตอนที่ 68 ตำรวจมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 70 เปิดฉากสงครามล่ากะโหลกแดงที่ดินแดนสายฝน 1 (อ่านฟรี 16-10-2021)

ตอนที่ 69 ความรู้สึก


ตอนที่ 69 ความรู้สึก

กลุ่มนักเลงที่ย้อนกลับมาสามคนยืนจ้องมองกาย อันยาและดีนจากทางด้านหลัง กายรีบหันไปอีกทาง แต่ปรากฏว่ามันก็มีอีกสามคนมาขวางทางไว้เช่นกัน

เส้นทางหนีถูกปิด ถ้าอย่างนั้นพวกมันก็คงไม่ได้หนีไปตั้งแต่แรก คงจะวิ่งออกไปให้เราเข้ามาช่วยอันยา ไม่สิ!พวกมันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น บางทีตอนที่หนีพวกมันอาจจะนึกขึ้นได้และย้อนกลับมาดู

ตอนนี้เราจะพูดไปก็ไม่มีประโยชน์พวกมันน่าจะเดือดน่าดูที่โดนเราหลอก...

นักเลงร่างใหญ่ยกท่อเหล็กพุ่งตรงเข้าหากายในทันที มันคิดจะฟาดกายด้วยแทนเหล็กซึ่งถ้าโดนอย่างน้อยกายคงนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปอีกสองสามเดือน

“อ่า…ไม่นะ” อันยาร้องด้วยความกลัว แต่เพราะกลัวเกินไปเธอจึงหลับตาตามสัญชาตญาณเพื่อไม่ให้เป็นการโดนท่อเหล็กฟาดตาย

ทางด้านของดีนแฟนหนุ่มของอันยาก็ตกใจกลัวจนแข็งค้างไปเช่นกัน แต่มันกลับไม่มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของกายดังออกมาอย่างที่ทุกคนคิด นอกจากเสียงของเหล็กที่ฟาดลงไปที่พื้นดัง แกร็ง!

กายมองดูเหล็กที่ฟาดลงพื้นห่างออกไปไม่กี่คืบ มันตกใจอย่างมากในตอนที่นักเลงร่างใหญ่โจมตีมา แต่ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายด้วยความเคยชินในการหลบหลีก กายหลบมาได้อย่างเหลือเชื่อ

“หึ หลบเก่งนี่ไอ้หนู” นักเลงร่างใหญ่พูดเสียงดังข่มขวัญอย่างเต็มที่ แต่อันที่จริงมันกำลังกลบเกลื่อนความขายขี้หน้าของมันที่ตีไม่โดนเด็กหนุ่ม

กายไม่สนใจรีบถอยมาตั้งหลัก ในจังหวะนั้นเองนักเลงอีกคนที่อยู่ด้านหลังฉวยโอกาสในตอนนั้นตีกายจากทางด้านหลัง

“ระวัง” อันยาร้องเตือนเสียงดัง

กายที่ได้ยินรีบกลิ้งตัวไปกับพื้นหลบไปได้อีกครั้ง นักเลงคนนั้นโมโหอย่างมากหันไปตบอันยาเข้าหนึ่งทีก่อนจะชี้หน้าดีนและบอก “จับแฟนแกและทำให้มันหุบปากไปซะ! ไม่อย่างนั้นแกทั้งคู่ได้ตายเป็นผีเฝ้าตรอกนี้แน่”

“ได้ ๆ ผมจะทำ” ดีนรีบคว้าตัวอันยาเข้ามากอดและเอามือปิดปากเธอไว้ อันยาพยายามดิ้นรน แต่เธอไม่มีทางสู้แรงของดีนได้

ตอนนี้หลังจากหลบการโจมตีสองครั้งกายก็โดนต้อนมาจนมุมอยู่ที่หนึ่ง กายหันหลังเข้าหากำแพง ด้านหน้ามี 4 คนล้อมเขา อีกสองคุมเชิงอยู่วงนอกกันกายหลบหนี

พวกมันเป็นนักเลงมืออาชีพมาก... แม้กายจะไม่รู้ว่านักเลงมืออาชีพเป็นไงก็ตาม

“เอาแม่งเลย” นักเลงร่างใหญ่เป็นตัวเปิดอีกเช่นเคย กายไม่รู้จะทำไงจึงทิ้งตัวลงท่อเหล็กฟาดเข้าที่กำแพงอย่างแรงจนเกิดประกายไปเนื่องจากเหล็กขูดกับหนังปูน กายกำหมัดแน่นต่อยเข้าไปที่น้องชายของชายร่างใหญ่อย่างแรงดังปัก! ไม่ต้องบอกก็สามารถจินตนาการถึงความเจ็บปวด ท่อเหล็กในมือชายร่างใหญ่ลงตามมาด้วยมันทิ้งตัวลงมือกุมเป้าใบหน้าเขียวคล้ำพูดอ้ำอึ้งไม่เป็นภาษา

กายคว้าท่อเหล็กจากที่ชายร่างใหญ่ทำหล่นเมื่อสักครู่ขั้นมา มาชี้ไปซ้ายขวาข่มขู่นักเลงที่เหลือ

“แค่นี้พอดีกว่า ฉันไม่อยากทำมากกว่านี้” กายทำใจดีสู้เสือ อันที่จริงมันกลัว

“รออะไรอยู่ จัดการมันสิวะ” นักเลงร่างใหญ่มือกุมเป้าสั่งให้นักเลงที่เหลือลงมือ

“เล่นแม่งเลย” นักเลงอีก 3 คนจับท่อเหล็กแน่นตีไปที่กาย กายเห็นเช่นนั้นก็จับท่อเหล็กในมือในตอนนั้นเองมันก็ราวกับรู้สึกได้ถึงความคุ้นเคยที่ยากจะอธิบาย

กายใช้ท่อเหล็กปัดการโจมตีจากทั้งสามคนอย่างง่ายดายก่อนจะฟาดไปที่หัวเขาของหนึ่งในนั้นด้วยแรงเกือบทั้งหมด ทำให้ตัวของชายคนนั้นเสียหลังลอยขึ้นจากพื้นก่อนที่ตัวจะหล่นกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง

“อ๊ากกก...เข่า เข่าฉันนน...” นักเลงที่โดนฟาดที่เข่าจับหัวเข่าของตัวเองร้องแหกปากดังลั่น แต่กายยังไม่หยุดแค่นั้น อาศัยจังหวะที่อีกสองคนอึ้งฟาดไปที่หลังของหนึ่งในนั้น

ด้วยแรงฟาดหัวของชายคนนั้นกระแทกเข้ากับกำแพงดังปัก! เลือดอาบหน้าล้มลงไป แต่ต่อให้กายจะเก่งแค่ไหน มันก็เหนื่อยเป็นโดยเฉพาะร่างกายที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายอย่างจริงจัง จึงเปิดโอกาสให้นักเลงที่ใกล้กายฟาดท่อเหล็กไปที่แขนขอชายหนุ่มอย่างแรง

กายยกแขนขั้นมากันตามสัญชาตญาณ มันรู้ได้ถึงความเจ็บปวดจากแขนอย่างชัดเจน พร้อมกับตัวที่เซล้มไปกับพื้น

“มันล้มแล้ว ตีมันซ้ำอีก” ตอนนี้อีกสองคนที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลังก็เข้ามารุมฟาดกายด้วยท่อเหล็กในทันที

***************************

ขอโทษครับ ไรท์แค่ยากจะระบายครับ ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แสดงว่าแมวชื่อ “มาช่า” ของไรท์ได้โดนรถชนตายตอนที่ไรท์เขียนมาถึงตรงนี้พอดี เวลา คือ 19.30 น. วันที่ 10 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 ความสูญเสียครั้งที่ 5 ในปีนี้

บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าความตายและการจากลาจะมาพรากสิ่งที่เรารักจากไปตอนไหน

ดังนั้นไรท์ขอให้ผู้อ่านทุกท่านใส่ใจกับสิ่งที่มีค่าให้เหมือนกับว่าทุกวันจะเป็นวันสุดท้ายที่เราได้พบหน้ากันครับ และขอให้ทุกคนสู้ไปต่อกับชีวิตที่ยังมีอยู่ของตนเอง เพื่อจะได้เก็บความทรงจำที่มีค่าของเขาเหล่านั้นที่เราเสียไปให้มีชีวิตในความทรงจำของเราต่อไปครับ ขอบคุณจาก WITTERRY ไรท์จะเขียนตอนนี้ต่อให้เสร็จ

***************************

กายยกท่อเหล็กของตนเองกันท่อเหล็กทั้งสามที่ฟาดเข้ามาไม่ยั้ง แต่แรงของมันเพียงคนเดียวไม่มีทางสู้สามคนได้แน่นอน ทำให้มีหลายครั้งที่ท่อเหล็กฟาดโดนตัวกาย อีกทั้งนักเลงพวกนั้นยังใช้ทั้งเท้าหมัดเข่าใส่ให้กายไม่ยั้ง

แบบนี้ไม่ดีแน่...

ชายหนุ่มกัดฟันแน่นพยายามไม่คิดถึงเลือดที่หางคิ้วซึ่งกำลังไหลออกมา

“ย้ากกก...” กายแหกปากร้องเสียงดังเพื่อเรียกพลังของตนเองพุ่งกอดเอวหนึ่งในนักเลงจนทั้งสองชนเข้ากับกำแพงด้านหลัง ก่อนจะต่อยไปที่ใบหน้าของมันไม่ยัง อีกสองคนก็ไม่คิดว่ากายจะมีแรงฮึดสู้ขนาดนี้มันรีบเข้าไปช่วยเพื่อนนักเลงของตนที่ตนนี้เลือดท่วมหน้าที่ปูดเขียวไปหมด

ปัก!...

ท่อเหล็กฟาดเข้าไปที่หลังของกายอย่างรุนแรง แต่ชายหนุ่มกับไม่สะทกสะท้าน อันที่จริงต้องบอกว่าตอนนี้กายคลุ้มคลั่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันหันกลับมามองนักเลงอีกสองคนนั้นด้วยสายตาเย็นชาราวกับสัตว์ร้ายที่พึ่งตื่นขึ้นมา

“มอง...มองหน้าแบบนั้นหมาย...หมายความว่าไงว่ะไอ้ลูกหมา”

“แก...”

นักเลงสองคนสั่นไปทั้งตัวพวกมันยกท่อเหล็กชี้ใส่กายด้วยมือสั่นเทา กายไม่สนใจเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจนน่าหวาดกลัวกระโจนขึ้นจากพื้นดินพร้อมกับร้องคำรามตามความเคยชินออกมาในชั่วอึดใจ

“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ฟาดฟัน ขั้น 1” ฟาดท่อเหล็กในมือเข้าใส่หนึ่งในนักเลง แต่ในจังหวะก่อนที่ท่อเหล็กจะโดนกายก็เหมือนได้สติขึ้นมา มันรีบเบี่ยงเบนทิศทางการฟาดท่อเหล็กของลงไปด้านข้างกำแพงตึก

ตูม!

กำแพงปูนถึงกับสั่นเบา ๆ ยากจะมีใครสังเกตเห็น แต่พวกที่เหลือเห็นรอยแตกของกำแพงที่ท่อเหล็กฝังลึกไว้กว่า 5 เซนติเมตรอย่างชัดเจน ท่อเหล็กในมือของกายบิดงอผิดรูป ตรงที่มือจับถึงกับทิ้งรอยนิ้วมือของกายไว้ราวกับท่อเหล็กเป็นเพียงดินน้ำมันที่อ่อนนุ่มในมือของกาย

กายดึงท่อเหล็กออกมาจากกำแพง ก่อนจะหันไปจ้องมองสองนักเลงที่ยังไม่เป็นอะไร ทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ขาทั้งสองข้างสั่นเทา มันรีบถอยหนีด้วยความกลัวคล้ายกับคนสติแตก คนที่เหลืออีก 4 คนก็เห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้นมันรีบพาตัวเองวิ่งหนีไปราวกับหมูกับหมา

นับตั้งแต่ที่พวกมันเป็นนักเลงมาไม่เคยคิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

“ก..กาย นายเป็นอะไรไหม” อันยาดิ้นจนหลุดจากดีนที่จับตัวเธอไว้ หญิงสาวรีบเข้าไปดูลูกพี่ลูกน้องของเธอ ใบหน้าของกายบวมช้ำและที่หัวมีเลือดออก อันยาคิดจะยืนมือไปช่วยกายกดแผล แต่ชายหนุ่มห้ามเธอไว้

นอกจากหัวแตก แผลฟกช้ำตามตัวกายและมือทั้งสองที่จับท่อเหล็กถลอกเปิดออกจนเลือดไหลเล็กน้อยกับรู้สึกหมดแรงและปวดที่แขนมาก นอกนั้นกายก็คิดว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมาก

“เธอรีบกลับไปที่บ้านก่อนดีกว่า” พูดจบกายก็ถือท่อเหล็กในมือเดินออกไปจากซอยนี้ในทันที

อันยาแผ่นหลังกายเดินจากไป ก่อนที่จะหันไปมองดีนที่ตอนนี้ตกใจกลัวจนหว่างขาของมันเปียกไปแล้ว อันยาไม่สนใจดีนอีกเธอรีบวิ่งออกจากซอยแห่งนี้ตรงไปแจ้งความกับตำรวจในทันที ซึ่งส่วนหนึ่งหญิงสาวต้องการให้ทางตำรวจดำเนินการดึงเอาเงินของเธอคืนมา

ทางด้านของกาย มันไม่ได้ไปที่โรงพยาบาล แต่ไปที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 แทน ตอนนี้กายไม่รู้ว่าเจ้ซาเรียกลับมาแล้วหรือยัง แต่กายคิดว่าตนควรจะไปหาเจ้ซาเรียก่อน คนขับรถขับไปส่งกายด้วยท่าทางหวาดระแวงราวกับกายเป็นคนร้ายที่วิ่งมาโบกรถหนีตำรวจ แต่กายไม่สนใจ มันจ่ายเงินลงจากรถทันทีที่ถึงจุดหมาย

หลังจากไปถึงหน้าร้านเกมเสมือนจริงที่ปิดอยู่ กายลองเคาะเรียกสองสามครั้ง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

ซาเรียที่ในปากคาบอมยิ้มเปิดประตูออกมาด้วยความสงสัย แต่พอเห็นสภาพของกายเธอก็นิ่งไปสักพักก่อนจะบอกว่า “เข้ามาข้างในก่อน”

กายพยักหน้าตกลงเดินเข้าไปด้านในร้าน ซาเรียรีบเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลในร้านที่ไม่เหมือนกับของทั่วไปออกมา จัดการทำความสะอาดแผลที่หัวของกายก่อนในทันที จากนั้นก็ตามด้วยการล้างแผลจนสะอาด

ซาเรียหยิบสเปกระป๋องของที่ใช้ระดับกองทัพออกมาฉีดใส่แผลที่หัวของกาย เลือดหยุดไหลทันที จากนั้นก็ใช้ปลาสเตอร์ยาชนิดที่ปิดแผลแตกแบบนี้ออกมา ดึงปีกทั้งสองเพื่อให้แผลปิดเข้าหากัน

“ปวดฉิบหายเลย...” กายพูดออกมาตามเคยชิน แต่พอรู้ว่าอยู่ต่อหน้าเจ้ซาเรียจึงรีบขอโทษออกมา

“ขอโทษครับเจ้ซาเรีย”

“ไม่เป็นไร กินยานี่มันช่วยแก้ปวด” ซาเรียส่งยาเม็ดสีขาวมาให้กาย กายไม่รอช้ากิมันเข้าไป แม้จะขมแต่ก็ไม่กล้าคายออกจำใจกลืนน้ำตามไป

“นายไปโดนอะไรมา” ซาเรียถามด้วยความจริงจัง

“เออ...พอดีไปมีเรื่องกับพวกนักเลงมา” กายพูดจบพอเห็นสีหน้าของเจ้ซาเรียที่จ้องมาเขม็ง มันจึงรีบพูดเสริม “เธอกำลังโดนนักเลงพวกนั้นทำร้าย เพราะแฟนหนุ่มของเธอไปมีปัญหากับนักเลงพวกนั้น”

“มันมีกันอยู่กี่คน”

“หก แค่หกคน”

“นายคนเดียวกัดการมันได้ทั้งหมด”

“เปล่า...ผมจัดการมันไปสี่คน ก่อนที่อีกสองจะพากันวิ่งหนีไป” กายยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ ซาเรียมองกายอย่างเฉยเมย

กายเงียบไปสักพักก็กล่าวออกมา “แต่ในตอนสุดท้ายมันมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น”

“เรื่องแปลก ๆ?” ซาเรียรู้สึกสนใจเรื่องแปลก ๆ ของกาย เธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเคาร์เตอน์ เปิดลิ้นชักหยิบอมยิ้มอันใหม่ขึ้นมาแกะห่อออก ก่อนจะใส่ปากอมรอฟังกายพูดออกมาอย่างตั้งใน

“ที่ผมจะบอกมันอาจจะดูแปลก ๆ ไปหน่อย ถ้าบอกแล้วอย่าหาว่าผมบ้านะ”

ซาเรียไม่ตอบยังจ้องมองกาย นั้นทำให้กายรีบเล่าออกมาในทันที

“ตอนสุดท้ายผมเผลอใช้ศิลปะการต่อสู้แบบในเกมราชันสงครามออนไลน์ตามความเคยชิน ในตอนนั้นพอใช้มันเพราะคิดว่านี่คือเกม อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าแขนทั้งสองมีแรงขึ้นมามหาศาล มันมากถึงขนาดที่ผมสามารถฟาดกำแพงจนแตกร้าวด้วยท่อเหล็กธรรมดา” กายหยิบท่อเหล็กที่บิดเบี้ยวออกมาให้เจ้ซาเรียดู

ทั้งร้านเกมเสมือนจริงเงียบลงในทันที มีเพียงเสียงจากเครื่องฟอกอากาศเท่านั้นที่ทำงานอย่างช้า ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด