ตอนที่ 68 ตำรวจมา
ตอนที่ 68 ตำรวจมา
กายลืมตาขึ้นมาในร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ตามปกติตอนนี้ไม่มีใครอยู่รวมทั้งซาเรียด้วย ไฟในร้านยังเปิดอยู่ในบางจุดทำให้มีแสงสว่างสลัว ๆ พอให้เห็นภายในร้านเท่านั้น กายเดินออกจากห้อง มองดูจนทั่วร้านไม่พบกับซาเรีย
เจ้ซาเรียไปไหน... ประตูร้านปิดไปแล้ว
กายยืนมือไปปิดลูกบิดอย่างงุนงง เพราะปกติเจ้ซาเรียจะอยู่รอจนกายกลับ ในตอนนั้นเองสายตาของเด็กหนุ่มก็เห็นกระดาษโน้ตติดที่ประตูมีข้อความสั่น ๆ เขียนไว้ว่า
“ร้านเปิดบ่ายสอง”
กายเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้ซาเรียบอกให้มันมาตอนบ่ายสอง ดูเหมือนเธอจะไม่ว่างในเช้าที่จะถึงนี้ ดังนั้นจึงทิ้งโน๊ตบอกกับตนเอง
หลังจากได้กระดาษโน้ตกายก็เปิดประตูล็อคมันจากข้างในและก็ดันประตูกลับเข้าไปที่เดิม โดยตัวของชายหนุ่มออกมาข้างนอกแล้ว ทำให้มันเหมือนกับล็อคจากด้านในก่อนจะนั่งรถกลับบ้านไปนอน โดยเสียค่ารถราคา 150 บิทเท่าเดิมกับทุกครั้ง
“ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่จะทำตามแผนการตลาดที่วางไว้ ต้องนอนก่อน หาวววว...” กายยกมือปิดปากหาวไม่หยุด จนขอบตาชื้นเล็กน้อย ปิดประตูบ้านก่อนจะถอดชุดออกเดินเข้าไปในห้องน้ำ ชายหนุ่มจัดการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวก่อนจะใส่เพียงกางเกงในตัวเดียวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงและหลับลงไปอย่างรวดเร็ว
บนถนนโครัน หน้าบ้านเลขที่ 12 หลังจากกายเข้าไปในบ้านสักพักรถยนต์ไฟฟ้าสีดำที่ราคาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบิทขับวนไปมาอย่างช้า ๆ ด้านในรถมีชายชุดดำสองคนมองไปที่บ้านของกายไม่วางตา
“เด็กนั้นต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง”
“จัดการอย่าให้เหลือร่องรอย”
ทั้งสองพูดจบชายชุดดำที่นั่งอยู่ข้างคนขับก็เปิดประตูลงไป แต่ในตอนนั้นเองก็มีเสียงช๊อตไฟฟ้าดังขึ้น ตัวของชายชุดดำที่พึ่งลงจากรถมีควันลอยออกอย่างรุนแรงจากนั้นก็ล้มลงคาประตู ชายชุดดำอีกคนที่ที่เห็นแบบนั้นก็รู้ว่าตอนนี้พวกมันซวยแล้ว จึงคิดจะหนียกเท้าเตรียมจะเหยียบคันเร่งอย่างสุดชีวิต แต่ในตอนนั้นเองก็มีหมัดของใครบางคนต่อยเข้าไปเต็มแรงผ่านกระจกหน้าหน้าต่างรถข้างคนขับ
หมัดเหมือนกับหมัดเหล็กต่อยเข้าที่หัวจนบดขยี้กะโหลกของชายชุดดำผู้นั้นแตกร้าว สมองของมันหยุดสั่งการตายไปทั้งอย่างนั้น ร่างกายชายชุดดำทิ้งตัวหล่นตุบหัวทิ่มคาพวงมาลัยรถ ยังดีที่ก่อนที่หัวของมันจะกดโดนแตรจนส่งเสียงวุ่นวายยามค่ำคืน เจ้าของหมัดเหล็กภายใต้เสื้อฮู้ดหนังสีดำจับตัวของชายชุดดำไว้ได้ก่อน
บุคคลในเสื้อคลุมฮู้ดหนังสีดำยกร่างของทั้งสองเข้าไปใส่ท้ายรถก่อนจะขับรถออกไปโดยที่ไม่มีใครรู้เห็นเรื่องที่เกิดข้นแม้แต่น้อย นั้นรวมถึงกล้องวงจรปิดด้วย เพราะในจุดที่ชายชุดดำเลือกจอดนั้นอยู่ในมุมอับสายตาพอดี
........
ซาเรียกลับมาที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ก็เกือบเช้าแล้ว หลังจากที่เธอจัดการเอารถคันนั้นไปทิ้งที่นอกเขตเจ็ด ณ ดินแดนที่มนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เธอเดินเข้าไปห้องหลังร้านผ่านแคปซูลพยาบาลที่มีเด็กชายนอนอยู่ ก่อนจะเข้าไปอีกห้อง ด้านในมีอาวุธรวมทั้งปืนหลายรูปแบบ ก่อนที่เธอจะถอดหมัดเหล็กออกวางไว้ยังที่เดิม หมัดเหล็กชาร์จพลังงานด้วยตัวเองหลังจากมันวางบนแท่นของมัน
ซาเรียเดินไปที่คอมพิวเตอร์ของตนเองก่อนจะเข้าเว็บและพิมพ์ข้อความบอกกับผู้รับปลายทางว่า “ทั้งสองถูกจัดการแล้ว”
“อย่าประมาท...พวกมันจะมาอีก”
ซาเรียนั่งมองข้อความด้วยความเงียบ คิ้วทั้งสองชนกันโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
“ขอบคุณ”
“ระวังตัวด้วย”
“คุณก็เช่นกัน”
...
แสงอาทิตย์ยามเช้ามาเยือนหลังจากกายนอนจนเต็มอิ่มแล้ว มันก็รีบลุกขึ้นมาจัดการเข้าไปหน้าเว็บและจัดการสร้างโพสต์ในบอร์ดจำนวนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนั้นพูดถึงร้านขายอาวุธในนครดาราฟ้า ถนนบีท ซึ่งมีอาวุธขายอาวุธราคาถูก เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่มีเงินไม่มากนัก
แน่นอนว่ามีคนอ่านโพสต์ของกายไม่ถึงร้อยคนก่อนที่มันจะถูกปัดตกไป แต่กายไม่ได้กังวล เนื่องจากนี่เป็นเพียงหนึ่งในการแผนเท่านั้น กายยังคงทำอีกหลาย ๆ เว็บที่เกี่ยวข้องกับเกมราชันสงครามออนไลน์
“หลังจากสร้างเบาะแสแล้ว ตอนบ่ายก็ถึงเวลาที่จะใช้ตัวตนของ ลอร์ดเจ็ดโลหะให้เป็นประโยชน์” กายยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ ถ้าต้องการโฆษณาก็ต้องให้คนดังเป็นคนทำ กายเข้าใจถึงสิ่งนี้ดี ด้วยจำนวนคนนับร้อยล้านที่เล่นเกมราชันสงครามออนไลน์ ถ้ากายต้องการจะดึงดูดความสนใจ คงมีเพียงแค่ตัวตนของลอร์ดเจ็ดโลหะที่พอจะดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากได้
“แต่แค่นั้นยังไม่พอ” กายกำลังคิดถึงบางสิ่งที่เป็นกระแสในช่วงนี้ ‘กิลด์กะโหลกแดง’ มันคิดจะไล่ฆ่ากิลด์กะโหลกแดงในโลกราชัน เพื่อทำให้ทุกคนสนใจยิ่งขึ้น
เมื่อได้เป้าหมายแล้วกายก็จัดการกินอาหารแช่แข็งที่ตนเองซื้อมา มื้อเช้านี้กายอยากซดน้ำร้อน ๆ มันจึงเลือกกินบะหมี่หมูแดง ก่อนจะนำไปอุ่นอย่างง่าย ๆ หลังจากจัดการเรื่องหลายอย่างเสร็จแล้วกายก็นั่งพักผ่อนและนึกว่ามันต้องทำอะไรบ้าง แต่พอมาคิดดูแล้วในโลกความจริงนั้นชายหนุ่มไม่เพื่อนหรือกิจกรรมอะไรให้เข้าร่วมเลย จะนัดไทเลอร์ออกไปดื่มก็ไม่ได้เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ ซึ่งไทเลอร์ยังคงทำงานที่โรงงานแยกชิ้นส่วนโลหะ
กายเริ่มคิดแล้วว่าตนควรไทเลอร์เข้ามาเล่นเกมราชันสงครามออนไลน์ด้วยหรือไป เพราะนั้นจะช่วยให้ตนเองมีคู่หู
“ถ้าหมอนั้นเจอกับฮาเกนจะทำหน้ายังไง” กายยิ้มพลางคิดภาพในใจ เพราะทัั้งสองคนคล้าย ๆ กันพอสมควร
หลังนอนเล่นจนเบื่อกายจึงลุกขึ้นแต่งตัวและคิดออกไปหาอะไรกินในตอนบ่ายข้างนอกบ้าน โดยจะเดินไปที่ร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 เพื่อฆ่าเวลาด้วย
ด้านนอกยังมีฝุ่นควันหนาแน่นเหมือนเช่นเดิม กายดึงหมวกขึ้นมาปิดผมไว้ ก่อนจะขยับหน้ากากให้เข้าที่ก้มหน้าเดินต่อไปตามทาง ตอนกลางวันมีกลุ่มคนเดินอยู่จำนวนมาก หลายคนเป็นชนชั้นแรงงาน แต่ก็มีพวกคนมีฐานะปานกลางให้เห็นอยู่บ้าง
พวกที่มีฐานะปานกลางคือเหล่าคนที่มีเงินเดือนมากกว่า 100,000 บิท หรือก็คือมากกว่าลุงแฟร์งของกายสองเท่า แน่นอนว่าเงินจำนวนมากขนาดนี้พอให้กลุ่มคนที่มีฐานะปานกลางค่อนไปทางต่ำกินเนื้อได้อย่างน้อยวันละมื้อสองมื้ออย่างไม่มีปัญหา
กายเงยหน้ามองป้ายร้านอาหารแห่งหนึ่ง มันคือร้านที่กายนั่งรถผ่านสองบ่อย ๆ ร้านนี้คืออาหารประเภทเส้น
ในโลกยุคนี้จะมีอาหารหลัก ๆ อยู่นั้นคือ แป้งเหลวซึ่งรสชาติมัน...พอสมควร ดีขึ้นมาก็พวกข้าวและขนมปัง ส่วนพวกอาหารเส้นนั้น มันอยู่ระหว่างกลางของอาหารแป้งเหลวและข้าวกับขนมปัง
แต่ในความคิดของกายเขาว่าอาหารประเภทเส้นนั้นคืออาหารที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริง เพราะมันต้องผ่านการจินตนาการและกรรมวิธีมากมายกว่าจะได้รูปร่างหน้าตาออกมาหลากหลายขนาดนี้
ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปกายก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอยู่ดังแววออกมาไม่ไกลจากทางร้านมากนัก เสียงนั้นดังมาจากซอยด้านข้างที่กายยืนอยู่
ในตอนแรกกายไม่คิดอยากจะเข้าไปมีปัญหาด้วย แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นว่าคนที่กำลังทะเลาะกันอยู่ หนึ่งในนั้นไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นอันยาและแฟนหนุ่มของเธอ
ทั้งสองถูกล้อมด้วยนักเลงร่างใหญ่ 6 คน
อันยานั่งลงกับพื้นโดยมือกุมใบหน้าไว้ ส่วนทางด้านแฟนหนุ่มของเธอกำลังคุกเข่าด้วยท่าทีจุกท้องใบหน้าเขียวคล้ำ อันยากำลังถามแฟนหนุ่มด้วยความโกรธ กายพอจับใจความได้ ดูเหมือนแฟนหนุ่มของเธอจะไปมีปัญหากับกลุ่มนักเลงกลุ่มนี้ที่กำลังยืนล้อมทั้งสองคนอยู่ น่าจะเป็นเรื่องการพนันและแฟนหนุ่มของเธอยังขโมยเงินเก็บของอันยาไปจนเกือบหมด
กายไม่รู้ว่าอันยาบอกรหัสผ่านให้กับแฟนหนุ่มจนสามารถกดเงินออกมาได้หรือว่าแฟนของเธอใช้วิธีอื่นในการโอนเงินออกมา แต่เขาไม่อยากจะเข้าไปยุ่งมากกว่านี้ เพราะเรื่องที่เธอทำกับกายในวันนั้นยังจำฝังใจชายหนุ่มอยู่
ในตอนนั้นเองอันยาหันมาเห็นกาย เธอกำลังจะอ้าปากเรียกให้กายช่วย แต่แล้วก็เหมือนจะคิดอะไรได้ เธอจะหยุดค้างไป
“ไม่ ๆ อย่าทำผมขอร้องแหละ เงินนั้นคือทั้งหมดที่ผมหาได้แล้ว”
“แล้วแฟนแกละ”
หนึ่งในนักเลงเดินเข้ามาหาอันยากำผมของเธออย่างแรง จนอันยาที่นั่งอยู่กับพื้นถูกยกขึ้นยืนในทันที อันยาร้องด้วยความเจ็บจากการดึงผม
“อ่า...อย่านะ ฉันไม่มีเงินไอ้บ้านั้นเอาเงินฉันไปหมดแล้ว” อันยาพยายามพูดออกมาพร้อมทั้งน้ำตา แต่นักเลงคนนั้นไม่ได้ปล่อยมือที่กำผมของอันยาแม้แต่น้อย
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงของใครบางคนตะโกนดังขึ้น
“ตำรวจ มีตำรวจมา...” เสียงตะโกนดังสุดเสียงไปทั้งซอยแคบ ๆ
เหล่านักเลงได้ยินดังนั้นก็ดูจะลนลาน รีบพากันวิ่งหนีไปในทันที อันยาที่โดนจับผมอยู่ถูกผลักจนล้มไปด้านข้างหลังจากนักเลงหนีหายไป
อันยาก็เห็นชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ
“เธอเป็นอะไรไหม” กายถามอันยาด้วยความเป็นห่วง เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นญาติของเขา ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีทางปฏิเสธได้ กายไม่ใช่คนใจร้ายขนาดที่มองดูญาติตัวเองโดนทำไม่ดีไม่ร้ายโดยกลุ่มนักเลงพวกนั้นได้
“กาย...” อันยาเห็นกายน้ำตาเธอก็ไหลออกมา แต่เพราะความเจ็บอันยาจึงลุกไม่ไหว ในตอนนั้นเองแฟนหนุ่มที่หายจากอาการจุกบ้างแล้วก็รีบลุกขึ้นมาช่วยอันยา แต่อันยากลับผลักแฟนหนุ่มด้วยความโกรธ
“ปล่อยนะ! ดีน…ไอ้ชั่ว นายเอาเงินของฉันไป เอาคืนมานะ...เอาเงินฉันคืนมา” อันยาพยายามทุบไปที่แฟนหนุ่มของเธอ ดีนจับแขนของอันยาด้วยความโกรธ
“หยุดสิวะ ฉันบอกให้หยุดไง เธอจะให้ฉันทำยังไง ถ้าไม่เอาเงินให้พวกมันไปมันได้ซ้อมฉันจนพิการแน่”
“แต่นั้นคือเรื่องของนาย นายไม่มีสิทธิ์เอาเงินของฉันไป”
“ทำไมจะไม่มี แม้แต่ตัวเธอ..ฉันก็เอามาแล้ว”
“เพี๊ยะ!”
อันยาตบเข้าไปที่ใบหน้าของดีน แฟนหนุ่มของเธออย่างแรง ดีนถึงกับโมโหยกมือขึ้นมาคิดจะตบเธอกลับไป แต่แล้วกายที่มองดูเรื่องทั้งหมดก็จับไปที่มือของดีนจนแน่นทำให้ดีนรู้สึกจับอย่างแรง
กายจ้องไปที่ดีนด้วยความเย็นชา ดีนรู้สึกกลัวขึ้นมาเมื่อมองสายตาของกาย
“ปล่อยสิวะ!” ดีนสะบัดมือจนหลุดกายไม่คิดจะไปสนใจชายคนนี้อีกหันไปบอกอันยาว่า “เธอควรรีบกลับไปบ้านก่อน”
แต่แล้วในตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาปิดล้อมพวกเขาไว้
“ฉลาดดีนี่ไอ้หนูที่ตะโกนหลอกพวกเราว่ามีตำรวจมา ดูเหมือนแกจะรู้จักกับสองคนนี้ใช่ไหม” นักเลงผู้เป็นหัวหน้าจับท่อเหล็กในมือตีไปที่มืออีกข้างขณะที่พูดออกมาเพื่อข่มขวัญกาย
ซึ่งมันก็ได้ผลกายรู้สึกใจแป้วขึ้นมาแล้วเช่นกัน เพราะไม่เคยต่อยตีกับนักเลงจริง ๆ ที่อาวุธครบมือมาก่อน มันกลืนน้ำลายในใจร้องว่าซวยแล้วซวยอีก
บัดซบ!ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงดูหนังอยู่บ้านจนบ่ายสองค่อยออกมาซะก็ดี...