ตอนที่แล้วตอนที่ 13
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15

ตอนที่ 14


ตอนที่ 14

หลังจากที่จินได้ตามเรย์มอนด์เข้าไปภายในห้อง จอมพลหนุ่มก็นั่งรออยู่บนโซฟาแล้วและเขาก็กำลังชี้มือไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วบอกให้จินนั่งลงตรงนั้น

หลังจากนั้นจินก็กระชับเสื้อผ้าที่ใหญ่เทอะทะก่อนที่เขาจะได้ไปนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเรย์มอนด์ และหลังจากที่เขาได้เข้าประตูมาเพียงแค่ 10 วินาทีเขาก็สามารถที่จะสงบจิตสงบใจของตัวเองได้

มันไม่มีอะไรที่เขาจะต้องกลัวนอกเสียจากจะแสร้งทำเป็นตั้งครรภ์ขึ้นมาเท่านั้น

นอกจากนี้เขายังไม่ได้เป็นคนเริ่มพูดเรื่องการตั้งครรภ์ขึ้นมาแต่พวกคอรีย์เป็นคนทึกทักกันไปเอง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังเป็นคนบอกเองว่าลูกที่อยู่ภายในท้องของเขาคือลูกของจอมพลเรย์มอนด์

สิ่งที่เขาทำมีเพียงแค่การพายเรือไปตามกระแสน้ำก็เท่านั้นและการที่เหตุการณ์มันได้เลยเถิดมาถึงขนาดนี้มันก็เป็นเพราะอุปสรรคทางภาษา!

“ใช่แล้ว เรื่องนี้มันไม่ใช่ความผิดของฉัน” จินพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนที่เขาจะได้เผยรอยยิ้มออกมาให้กับเรย์มอนด์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ในขณะนี้สายตาของเขาดูสดใสริมฝีปากของเขาดูเป็นสีชมพูและรอยยิ้มของเขาก็ได้เผยเห็นฟันกระต่ายสองซี่ ส่วนผมของเขาก็ยาวลงมาจนถึงแก้มและผิวพรรณของเขาก็ดูสะอาดเหมือนกับลำธารน้ำใสที่ไหลลงมาจากภูเขาโดยปราศจากสิ่งเจือปน

เมื่อได้เห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้เรย์มอนด์ก็ส่งเสียงกระแอมออกมาเบา ๆ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ พูดออกมาทีละคำ

“ฉันได้ยินมาว่าคุณคือคู่รักของฉันอย่างนั้นหรอ”

แม้ว่าจะได้ยินเช่นนั้นแต่จินก็ยังคงเผลอรอยยิ้มและเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ

“เมื่อ 2-3 วันก่อนฉันได้รับบาดเจ็บ” เรย์มอนด์กล่าวขึ้นมาช้า ๆ ก่อนที่เขาจะถอดหมวกทหารของเข้าออกและเผยให้เห็นผ้าพันแผลที่อยู่บนศีรษะของเขา จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า

“ตอนนี้ฉันปวดหัวมากและฉันก็จำไม่ได้ว่าฉันได้ทำอะไรลงไปกับคุณ ฉันต้องขอโทษคุณด้วย”

จิน: "..."

จินทำได้เพียงแค่กระพริบตาปริบ ๆ แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจต่อไปพร้อมกับคิดขึ้นมาภายในใจว่า

“เขาความจำเสื่อมอย่างนั้นหรอ ช่างน่าเสียดายจริงๆ!”

“คุณไม่โกรธฉันอย่างนั้นหรอ” เรย์มอนด์กล่าว

จินยังคงกระพริบตาอีกครั้งราวกับว่าบทสนทนาทั้งหมดนี้เขายังคงไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราเก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างพวกเราก็แล้วกัน” เรย์มอนด์กล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนั้นรอยยิ้มของจินก็ค่อย ๆ กว้างออกมาอย่างไม่รู้ตัวซึ่งมันเป็นผลลัพธ์ที่เขากำลังต้องการ

ตราบใดก็ตามที่เขาสามารถทำความเข้าใจกับดาวแห่งนี้ได้ซัก 2-3 เดือนแล้วเขาก็จะค่อย ๆ หายจากไปได้อย่างเป็นธรรมชาติและไม่จำเป็นจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเช่นนี้อีกต่อไป

“ทำไมฉันถึงโชคดีขนาดนี้”

ถึงแม้ว่าจินจะโชคร้ายได้พบกับคนตายที่พึ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดจอมพลคนนี้ก็ยังกลายเป็นคนความจำเสื่อม

“คุณไม่จำเป็นจะต้องโทษตัวเองหรอก ตราบใดก็ตามที่คุณยังมีชีวิตอยู่มันก็คงจะเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาก่อนที่คุณจะสามารถจดจำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้” จินกล่าวโดยรู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายอีกต่อไป

ในฐานะที่เขาจะต้องเป็นคู่รักชั่วคราวของอีกฝ่าย จินจึงจำเป็นจะต้องทำหน้าที่คอยดูแลความรู้สึกของเรย์มอนด์ตามสิ่งที่คู่ครองโดยทั่วไปสมควรจะมี

เขาเดาว่ามันน่าจะมีการกระทบกระเทือนในสมองของเรย์มอนด์อย่างรุนแรงจนทำให้มันได้มีก้อนเลือดไปอุดตันเส้นประสาทส่วนความทรงจำบางส่วนของเขาจนทำให้เขาไม่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งได้ ซึ่งในความเป็นจริงตราบใดก็ตามที่เขาได้ใช้พลังวิญญาณเข้าไปขจัดก้อนเลือดในศีรษะของเรย์มอนด์เพียงแค่เล็กน้อย ความทรงจำของชายหนุ่มคนนี้ก็จะกลับคืนมาด้วยความรวดเร็ว

แต่ตอนนี้จินยังไม่อยากที่จะรักษาอาการความจำเสื่อมให้กับเรย์มอนด์เร็วจนเกินไป เพราะการที่เรย์มอนด์ได้สูญเสียความทรงจำเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ของเขา ส่วนเรื่อง ‘ลูก’ ที่ต้าไห่ได้หนีไปเขาก็คงจะหาโอกาสบอกกับคนอื่นว่าเขาเกิดอาการแท้งลูกคนนี้ออกมา

จินรู้สึกว่าแผนการของเขาช่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ

หลังจากนั้นเรย์มอนด์ก็หลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและเผยรอยยิ้มที่ไม่มีใครทราบความหมายออกมา

แต่ในทันใดนั้นเองแจ็คก้าก็เคาะประตูก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาทำความเคารพให้กับเรย์มอนด์ ก่อนที่เขาจะยื่นกล่องที่อยู่ภายในมือไปให้กับชายตรงหน้า

“ท่านจอมพลฉันได้ซื้อเทอร์มินอลสากลอันใหม่มาให้ตามคำสั่งของคุณแล้ว”

เนื่องมาจากเรย์มอนด์ได้ระเบิดพลังของตัวเองออกมามันจึงทำให้เขาไม่สามารถจะใช้พลังงานจากภายในตัวออกมาได้อีกต่อไป ดังนั้นในตอนนี้แจ็คก้าจึงเข้าใจว่าเรย์มอนด์สามารถที่จะใช้ได้เฉพาะเทอร์มินอลสากลเท่านั้น

เทอร์มินอลสากลมีข้อเสียคือมันไม่สามารถระบุข้อมูลส่วนบุคคลของออร์คที่ใช้มันได้ มันจึงทำให้เทอร์มินอลชิ้นนี้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เพียงแค่ข้อมูลสาธารณะเท่านั้น แต่เรื่องนั้นมันก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะสิ่งที่เรย์มอนด์ต้องการมากที่สุดคือขอให้มันสามารถใช้การได้เหมือนกับปกติก็พอ

เขาต้องการจะติดต่อไปยังพ่อแม่ของเขาโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้พ่อแม่ของเขาถูกหลอกจากเหตุการณ์วุ่นวายในสตาร์เน็ตเมื่อสองวันที่ผ่านมา ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์ทั้งหมดมันก็จะเป็นไปตามสิ่งที่บุคคลปริศนาค่อยทำการชักใยอยู่เบื้องหลัง

ข่าวการเสียชีวิตของเขาเพิ่งจะถูกเผยแพร่ออกมาเพียงแค่ไม่นานและเพื่อเป็นการทำลายชื่อเสียงของเขา บุคคลปริศนาจึงทำการจู่โจมด้วยการปล่อยข้อมูลเท็จและพ่อแม่ของเขาก็คือเป้าหมายของการจู่โจมในครั้งนี้

หลังจากการทำลายชื่อเสียงของเขาแล้วบุคคลปริศนาก็คงจะค่อย ๆ เข้ายึดครองกองทัพที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของเขามาก่อน และไม่ว่าจะมองอย่างไรผู้อยู่เบื้องหลังก็คงจะได้วางแผนการเหล่านี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ที่บุคคลคนนั้นได้ทราบข่าวว่าเขาทำการระเบิดพลังงาน

เดิมทีเขาวางแผนที่จะเสแสร้งแกล้งทำเป็นเสียชีวิตต่อไปเพื่อออกสืบหาบุคคลปริศนาที่ต้องการจะทำลายชื่อเสียงของเขา แต่ในตอนนี้พ่อกับแม่ของเขาได้ถูกผลักลงไปในกองปฏิกูลแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะต้องออกมาทำการปกป้องพ่อแม่ของตนเอง

-----

ณ คฤหาสน์จอมพลภายในดาวศูนย์กลาง

“ผู้อาวุโสต้องการให้พวกเราแก้ปัญหายังไงกันแน่” เรนน์กล่าวด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

อย่างไรก็ตามชายชรากลับไม่ตอบคำถามแต่ค่อย ๆ หยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบชาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

เมื่อได้เห็นท่าทีเช่นนั้นลุงของเรย์มอนด์ก็ส่งเสียงกระแอมขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า

“ใช่แล้ว ผู้อาวุโสจัดการเรื่องราวของตระกูลมานานหลายปีและเขาก็ต้องการใช้ชีวิตบั้นปลายของเขาที่ดาวเคราะห์หลู่หยิง แต่ผู้อาวุโสไม่สามารถที่จะปล่อยปะละเลยเรื่องนี้ไปได้จริง ๆ เพราะมันส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงตระกูลของพวกเราโดยตรง”

แต่ในขณะที่ลุงของเรย์มอนด์กำลังจะพูดจาไร้สาระต่อไปเรื่อย ๆ เรนน์ก็กล่าวขัดจังหวะขึ้นมาว่า

“ดาวเคราะห์หลู่หยิงอยู่ห่างไกลจากดาวศูนย์กลางมาก ฉันไม่คิดเลยว่าทันทีที่ผู้อาวุโสได้รู้เรื่องการเสียชีวิตของเรย์มอนด์เมื่อวานนี้จะเดินทางมาจนถึงที่นี่ได้ในชั่วข้ามคืนและเตรียมพร้อมที่จะจัดการเรื่องเจ้าของคฤหาสน์จอมพลคนต่อไปแบบนี้”

เมื่อลุงของเรย์มอนด์ถูกกล่าวขัดจังหวะเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขาได้คิดถึงแผนการที่เขาวางเอาไว้เขาก็กลับมาทำสีหน้าภาคภูมิใจอีกครั้ง

ท้ายที่สุดเรย์มอนด์ก็ตายไปแล้วและเรนน์ก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนไร้ค่าส่วนดอริสก็เป็นผู้หญิง ดังนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไรตำแหน่งเจ้าของคฤหาสน์จอมพลคนต่อไปก็สมควรที่จะเป็นเขา

“อย่ากังวลเรื่องการเปลี่ยนเจ้าของคฤหาสน์จอมพลเลย ฉันต้องขอโทษเรื่องเกี่ยวกับเรย์มอนด์ด้วย แต่ในตอนนี้เรย์มอนด์ก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเราจะเศร้าเสียใจแค่ไหนแต่มันก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงในเรื่องนี้ได้ ส่วนวิธีแก้ปัญหาก็น่าจะอยู่ที่ผู้หญิงที่ชื่อว่าไซริล” ผู้อาวุโสกล่าวขึ้นมาพร้อมกับเงยหน้ามองเรนน์

“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสวางแผนที่จะแก้ปัญหาเอาไว้ยังไงบ้าง” เรนน์กล่าวถามอีกครั้ง

“ถึงยังไงเด็กในท้องของผู้หญิงคนนั้นก็เป็นลูกของเรย์มอนด์และพวกเราก็ไม่สามารถที่จะปล่อยเด็กเอาไว้แบบนั้นได้ ส่วนทางด้านของไซริลก็ไม่มีทางที่จะปล่อยลูกของเธอออกไปเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่พวกเราจะต้องทำคือการนำแม่ของเด็กกลับมา”

“แต่พวกเราส่งคนไปรับเธอมาแล้วนะคะ แต่มันเป็นตัวของไซริลเองที่ไม่อยากจะมาในคฤหาสน์ของเรา” ดอริสกล่าว

“นั่นเป็นเพราะว่าในก่อนหน้านี้คุณได้ทำผิดกับเธอเอาไว้มาก มันจึงทำให้เธอไม่ต้องการเดินทางมาพร้อมกับคนของคุณ” ลุงของเรย์มอนด์กล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนั้นดอริสก็พยายามที่จะพูดปฏิเสธ แต่ผู้อาวุโสก็ได้ยกมือขึ้นมาเพื่อหยุดเธอก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า

“อย่าพึ่งทะเลาะกัน! ปล่อยเรื่องราวที่ผ่านมาไปเถอะ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอมาอยู่กับเราให้ได้”

“เรื่องราวที่ผ่านมาอย่างนั้นหรอ? ไม่ใช่ว่ามันไม่มีเรื่องอะไรตั้งแต่แรกแล้วหรือยังไง” ดอริสทำได้เพียงแต่คิดภายในใจแต่ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้เลย

“แล้วพวกเราจะเกลี้ยกล่อมเธอได้ยังไง” เรนน์กล่าว

“เรย์มอนด์มีดาวพลังงานอยู่ไม่ใช่อย่างนั้นหรอ ขอแค่พวกเรายกดาวพลังงานนั้นให้กับลูกของเธอไซริลย่อมเห็นถึงความจริงใจของพวกเราอย่างแน่นอน” ผู้อาวุโสกล่าว

“ไม่ได้! ดาวพลังงานนั้นเป็นสมบัติส่วนตัวของเรย์มอนด์และพวกเราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปแตะต้องมันอย่างเด็ดขาด” เรนน์กล่าวปฏิเสธขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“ตอนนี้เรย์มอนด์ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้วและเขาก็จากไปอย่างกะทันหันจนเกินไปจนไม่ได้ทำพินัยกรรมทิ้งเอาไว้ ดังนั้นทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่อยู่ภายใต้การครอบครองของเรย์มอนด์ก็สมควรที่จะตกเป็นของตระกูล” ผู้อาวุโสกล่าวพร้อมกับหรี่ตาลง

“ฉันไม่ได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพียงเพราะคิดถึงแต่ตระกูลแต่ฉันกำลังคิดแทนตัวเธอด้วย อย่าลืมว่าถ้าพวกเราไม่รีบจัดการเรื่องดาวพลังงานอย่างเร็วที่สุดมันก็อาจจะตกไปอยู่ในมือของกองทัพและในเวลานั้นพวกเราก็จะเอามันออกมาได้ยากมากขึ้นกว่าเดิม” ผู้อาวุโสกล่าวต่อ

เมื่อได้ยินเช่นนั้นดอริสก็ตัวสั่นขึ้นมาด้วยความโกรธ

“มันเป็นไปอย่างที่ผู้อาวุโสได้บอกเอาไว้ว่าหากพิจารณาตามกฎของจักรวรรดิหากออร์คเสียชีวิตลงแล้วสมบัติภายใต้การปกครองก็จะต้องกลับไปอยู่ในมือของตระกูลหรือสมาชิกในครอบครัวโดยตรง แต่อย่าลืมว่าในตอนนี้ฉันกับดอริสยังมีชีวิตอยู่แล้วทำไมทรัพย์สมบัติส่วนตัวของเรย์มอนด์ถึงจะต้องตกไปอยู่ในมือของคนในตระกูลด้วย” เรนน์กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเยาะเย้ย

“เรนน์แกจะพูดกับผู้อาวุโสแบบนี้ไม่ได้! ตอนนี้เรย์มอนด์ได้จากไปแล้วแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกของเขาในอนาคตเคยคิดบ้างไหม ฉันถามจริง ๆ ว่าใครจะเป็นคนที่คอยสั่งสอนลูกของเรย์มอนด์ขึ้นมา แต่ถ้าหากทรัพย์สินของเรย์มอนด์กลับคืนไปสู่ตระกูลคนของตระกูลย่อมช่วยกันเลี้ยงดูลูกของเขาขึ้นมาอย่างแน่นอน แล้วแกมาพูดจาแบบนั้นกับผู้อาวุโสได้ยังไง” ลุงของเรย์มอนด์กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันโกรธเกรี้ยว

“ในเมื่อเขาเป็นหลานของฉัน ฉันก็มีหน้าที่ที่จะต้องสอนเขาขึ้นมาด้วยตัวเองอยู่แล้ว!”

“แกเนี่ยนะจะเป็นคนสอนหลานขึ้นมา แม้แต่จะกินข้าวกินน้ำเองยังจะกินไม่ได้เลยแล้วแกจะเอาแรงที่ไหนไปสอนหลานขึ้นมาเป็นผู้เป็นคน!!” ลุงของเรย์มอนด์กล่าวขึ้นมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเรนน์ก็ได้จ้องมองไปยังลุงของเรย์มอนด์ด้วยสายตาอันเครียดแค้น แต่อย่างไรก็ตามลุงของเรย์มอนด์ก็ทำได้เพียงแต่หัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างดูถูกเท่านั้น เพราะมันก็เป็นเพียงแค่สายตาที่ไม่สามารถจะทำอะไรตัวตนของเขาได้เลย

“เรนน์ถ้าเรย์มอนด์ยังมีชีวิตอยู่ฉันจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่…” ผู้อาวุโสค่อย ๆ กล่าวขึ้นมาช้า ๆ แต่ในทันใดนั้นเองเสียงของเทอร์มินอลก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะคำพูดของผู้อาวุโส

++++++++++++++

หูยยยยยยย ลุ้น ๆ เรย์มอนด์รึเปล่าที่โทรมา? จะมีคนหน้าหงายไหมน๊อออ ( •̀ᴗ•́ )و ̑̑

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด