ตอนที่แล้ว497-498
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป501-502

499-500


Ep.499

“ทำไมฉันต้องไปเมืองเทียนหวังก่อน?” ซูเฉินไม่เข้าใจ

เฉินเมิ่งเฟยอธิบายว่า “ผู้อาวุโส ค่ายกลเคลื่อนย้ายไปยังทวีปเสวียนเทียนถูกสร้างขึ้นในเมืองเทียนหวัง และเวลาเปิดของค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ไม่แน่ไม่นอน บางทีก็เปิดแค่ปีละครั้ง บางทีก็หลายเดือนครั้ง ถ้าคุณพลาดช่วงเวลาที่มันเปิดไป ฉันไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน”

“มีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วยหรอ?”

ซูเฉินอุทานออกมาเบาๆ ก่อนหันไปสั่ง [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ ล็อคตำแหน่งเมืองเทียนหวัง ขับไปที่นั่นก่อน”

เขาต้องเรียงลำดับความสำคัญ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การค้นหาต้นผลจำลองจิตถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้

หากเดินทางผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายแล้ว อาจต้องทิ้งเวลาช่วงหนึ่ง มันถึงเปิดออกอีกครั้ง เอาไว้ตอนนั้นค่อยกลับมาสังหารพวกต่างเผ่า ก็ยังไม่สายเกินไป

แต่ตอนนี้คงต้องรีบไปทวีปเสวียนเทียนก่อน

“รับทราบ”

[รถศึกอัจฉริยะ] ล็อคตำแหน่งเมืองเทียนหวัง เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

จากที่นี่ไปยังเมืองเทียนหวัง ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน  ซูเฉินคอยเฝ้าหน้าจอควบคุมส่วนกลาง เผื่อระหว่างทางหากเจอสัญญาณของซอมบี้หรือพวกต่างเผ่า จะได้ฆ่ามัน

และไม่นาน ซูเฉินก็เจอจนได้ ถัดไปข้างหน้าไม่กี่สิบไมล์ ปรากฏจุดสีดำและจุดสีน้ำเงินนับสิบบนจอภาพ

ทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาวะไล่ล่า และยิ่งนาน จุดสีน้ำเงินก็จะยิ่งหายไปจากหน้าจอ

เหตุการณ์นี้ ต้องเป็นพวกต่างเผ่ากำลังล่ามนุษย์แน่ๆ

ในเมื่ออยู่บนเส้นทางข้างหน้าพอดี ซูเฉินเลยตั้งใจว่าจะรวดกำจัดพวกมัน จึงหันมากล่าวว่า “เสี่ยวจือ ไล่ตามจุดสัญญาณให้ทัน”

ฮึ่ม ฮึ่มมมม!

[รถศึกอัจฉริยะ] เร่งแรงม้าจนได้ยินเสียงเครื่องยนต์  เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

ไม่กี่นาทีต่อมา ชายต่างเผ่าที่มีผิวสีเขียวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

ณ ขณะนี้ ชายต่างเผ่ากำลังนั่งอยู่บนก้อนหินอย่างสบายอารมณ์ ใบหน้าเขาแสดงออกถึงความหยอกเย้าขี้เล่น

และใต้ฝ่าเท้าเขา มีมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังคุกเข่ากับพื้น ตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัว ร้องขอความเมตตาไม่หยุด

ส่วนสัญญาณของมนุษย์คนอื่นๆที่เห็นในตอนแรก ทั้งหมดถูกชายต่างเผ่าผู้นี้ฆ่าตายไปแล้ว

“รู้รึเปล่าว่ามันมาจากเผ่าพันธุ์ไหน?” ซูเฉินหันไปมองเฉินเมิ่งเฟย แล้วเอ่ยถาม

พวกต่างเผ่าที่มีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้ เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจ

“ผู้อาวุโส เขามาจากเผ่าหนามหยก” เฉินเมิ่งเฟยตอบอย่างรวดเร็ว

“งั้นที่นี่ก็คือดินแดนของขุมกำลังหนามหยก?” ซูเฉินร้องอ้อเบาๆ

เฉินเมิ่งเฟยส่ายหัว บอกว่าเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

เห็นแบบนี้ ซูเฉินก็ไม่ว่าอะไร ก่อนกวาดมองบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง และพบว่ามีเมืองที่ค่อนข้างใหญ่อยู่ใกล้ๆ มันถูกเรียกว่าเมืองอิงเซิ่ง ข้างในเต็มไปด้วยมนุษย์

ถ้าอย่างนั้นที่แห่งนี้ก็สมควรเป็นอาณาเขตของเผ่ามนุษย์ แล้วเหตุใดเผ่าหนามหยกถึงมาก่อความวุ่นวายได้ตามใจชอบเช่นนี้?

เป็นไปได้ไหมว่ามันแข็งแกร่งมาก? เผ่ามนุษย์คนอื่นๆเลยไม่กล้าหาเรื่อง

ได้ข้อสรุปนี้ในใจ ซูเฉินถาม [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ ระดับฝึกตนของชาวเผ่าหนามหยกตนนี้อยู่ขั้นไหน?”

[รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันทีว่า “เขาคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 และเป็นปรมาจารย์มนตราธาตุไม้เลเวล 2”

“ระดับฝึกตนต่ำขนาดนี้เชียว?” ซูเฉินเกิดความสับสนเล็กน้อย

ระดับฝึกตนเพียงแค่นี้ แต่กล้ากระทำการบุ่มบ่ามในเขตเผ่ามนุษย์? แต่ที่แปลกยิ่งกว่าคือไม่มีใครกล้ายุ่ง? แบบนี้มันใช่เรื่องปกติหรือ?

เมื่อ [รถศึกอัจฉริยะ] ขับมาจนถึงหน้าชาวเผ่าหนามหยก ซูเฉินและคนอื่นๆค่อยก้าวลงจากรถ

“โอ้ว! ไม่อยากเชื่อเลย ว่าจะมีมนุษย์ส่งตัวเองมาถึงหน้าประตู นี่มันน่าสนุกจริงๆ”

เห็นซูเฉินและคนอื่นๆปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า ชาวเผ่าหนามหยก ไม่เพียงไม่หวาดกลัว ตรงกันข้าม เขาดูตื่นเต้นมาก

เขาเตะมนุษย์ผู้หญิงออกไป เอ่ยเสียงขรึมว่า “วิ่งต่อสิ! หรือจะให้ข้าฆ่าเจ้าตอนนี้เลย?”

มนุษย์ผู้หญิงรีบหันหลัง หลบหนีด้วยความหวาดกลัว รอจนเธอวิ่งไปได้หลายสิบเมตร ทันใดนั้นเอง มุมปากของเผ่าหนามหยกผุดรอยยิ้มเยาะที่ดูโหดเหี้ยม

เห็นแค่เพียงแสงสีเขียวสะท้อนวาบบนนิ้วมือ ก่อนยิงไล่หลังมนุษย์ผู้หญิงที่กำลังหลบหนีไป

แต่ในตอนนั้นเอง ใบมีดสายส่งพุ่งหวืออ! เข้ามาขวางไว้ ทำลายลำแสงสีเขียวลงอย่างง่ายดาย

Ep.500

“หือ? ในหมู่พวกเจ้าก็มีปรมาจารย์มนตราธาตุลมอยู่ด้วยงั้นหรือ? น่าสนใจดีนี่ ชักน่าสนุกขึ้นมาแล้ว!”

ชาวเผ่าหนามหยกไม่สนใจเลยว่าเวทย์ธาตุไม้ของตนได้ถูกทำลายลง เขาไม่หวาดกลัวซูเฉินและคนอื่นๆแม้แต่น้อย แต่กลับยิ่งหัวเราะเสียงดัง

“อะไรวะ? เหมือนสมองไอ้หมอนี่จะมีปัญหา”

“เออ ท่าทางมันดูโง่สิ้นดี ไม่รู้รึไงว่าพวกเรามาที่นี่ก็เพื่อฆ่ามัน?”

หยางฮ่าวและสหายมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่าชาวเผ่าหนามหยกผู้นี้มันเป็นบ้าอะไรกันแน่?

ซูเฉินมองชาวเผ่าหนามหยกด้วยความสงสัย กล่าวเสียงเรียบว่า “นี่แกไม่กลัวว่าจะโดนฉันฆ่าหรือ?”

“ข้าชุยมู่ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยสะกดคำว่ากลัว!!”

ชุยมู่แห่งเผ่าหนามหยกไม่สะทกสะท้าน แค่นเสียงหัวเราะ เบนสายตามองซูเฉิน ในดวงตามันสะท้อนไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม กล่าวเยาะเย้ยว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าข้า แต่แล้วไง? เจ้ากล้าสังหารข้าหรือไม่? ถ้าแน่จริงก็ลองดู”

เมื่อคำนี้หลุดออกมา ใบหน้าของหยางฮ่าวและคนอื่นๆดูแปลกไป

ชุยมู่เป็นเพียงผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 แค่สมาชิกกลุ่มคนใดคนหนึ่งของซูเฉินก็สามารถฆ่ามันได้แล้ว ผู้ใดกันหนอที่มอบความกล้าหาญให้มัน ถึงได้กล้าเอ่ยวาจาอวดโอ้เช่นนี้?

ขนาดซูเฉินที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะยังตกใจ ความเย่อหยิ่งที่ชุยมู่แสดงออกมา มันไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย

อย่างไรก็ตาม ที่ซูเฉินกล้าทำ นั่นเพราะเขาครอบครองกำลังรบชนิดยากผู้ใดเทียบ แล้วชุยมู่เล่า? อะไรทำให้เขากล้าจองหองขนาดนี้?

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันคงต้องขอทดสอบดูซะแล้วสิ ว่าแกจะแน่อย่างปากพูดรึเปล่า”

ซูเฉินเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมา ปลดปล่อยพลังจิตกวาดไปทางชุยมู่

“ฮ่า ฮ่า​ ฮ่า! ในที่สุดเจ้าก็ลงมือ! นี่มันเยี่ยมไปเลย!”

สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นกำลังพุ่งเข้ามา แทนที่จะหวาดกลัว ตรงกันข้าม ชุยมู่กลับรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม

ทันทีที่พลังจิตสัมผัสลงบนร่างชุยมู่ ในพริบตานั้นเอง บังเกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วร่างของมัน

แทบจะในทันทีหลังจากนั้น รังสีแสงสีเขียวพลันสว่างวาบ และเริ่มเกิดความเคลื่อนไหว หลังจากที่แสงนี้รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน มันได้แปรสภาพกลายเป็นโครงกระดูกสีเขียวที่มีความสูงมากกว่า 2 เมตร

ทันทีที่โครงกระดูกเขียวปรากฏขึ้น มันกระตุกมือทั้งสองข้างออกไปด้านนอก พร้อมเปล่งพลังมหาศาลออกมา ฉีกทำลายพลังจิตที่โอบรัด กระชากออกจากตัว

“หุ่นเชิดเลเวล 6!” ซูเฉินเลิกคิ้ว

แม้เขาไม่ได้ปลดปล่อยพลังจิตอย่างเต็มที่ แต่มันก็ยังอยู่ในเลเวล 5 ทว่าโครงกระดูกเขียวกลับสามารถทำลายลงได้ในการโจมตีเดียว นี่แสดงให้เห็นว่า มันต้องมีระดับอยู่ในเลเวล 6 อย่างไม่ต้องสงสัย

หุ่นเชิดเลเวลสูงเช่นนี้ เป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่งนัก

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! มนุษย์! เป็นอย่างไร? สิ้นหวังแล้วหรือ?”

สีหน้าของชุยมู่เต็มไปด้วยความสะใจ กล่าวอย่างสนุกสนานว่า “ถ้ายังพอมีสมองอยู่บ้าง จงคุกเข่าลงแทบเท้าข้า หักแขนทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วข้าจะลองเก็บไปคิดดู เรื่องปล่อยให้เจ้าตายในสภาพศพสมบูรณ์”

“กลัวว่าฉันคงทำให้แกต้องผิดหวังซะแล้ว” ซูเฉินปาดจมูกเขา เริ่มโคจรพลังจิตอีกครั้ง โถมกดลงบนร่างโครงกระดูกเขียว

“เจ้านาย ข้าถูกพันธนาการโดยพลังจิตที่แข็งแกร่ง”

แม้ซูเฉินจะถูกปรับลดฐานฝึกตนลงหนึ่งขั้น แต่พลังจิตที่ปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มกำลังยังคงสูงกว่าเลเวล 6

โครงกระดูกเขียวตรวจพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ รีบเตือนชุยมู่อย่างรวดเร็ว

“ว่ากระไร?”

ชุยมู่ทั้งตกใจและสับสน ใบหน้าเขาดูน่าเกลียดราวกับเพิ่งกินก้อนอึเข้าไป

ผู้แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะหวังซวี่มีระดับอยู่เพียงเลเวล 6 เท่านั้น ขณะที่เขาได้รับการคุ้มครองโดยหุ่นเชิดโครงกระดูกเลเวล 6 เพราะแบบนี้เขาจึงกล้าไล่สังหารมนุษย์อย่างไม่เกรงกลัว แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าจะดันเจอผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือเลเวล 6 ที่นี่

ณ ขณะนี้ เขากระจ่างแล้วว่ากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งใด หัวใจเต้นแรงจนดีดขึ้นไปถึงลำคอ

กระนั้น เขายังไม่อยากตาย รีบเปล่งเสียงร้องอ้อนวอนขอความเมตตาจากซูเฉิน “ผู้อาวุโส ได้โปรดปล่อยข้าไป ท่านพ่อข้าเป็นเจ้าเมืองไค่หยวน อีกทั้งเขายังเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 อีกด้วย ตราบใดที่ท่านยอมปล่อยข้าไป ข้าจะมอบของกำนัลมากมายเป็นการตอบแทน”

ซูเฉินเบ้ปาก “สำหรับพวกแกเผ่าหนามหยก ฉันตั้งใจว่าไม่ปล่อยไปแม้แต่ตนเดียว แล้วแบบนี้ ฉันจะยอมปล่อยแกไปได้อย่างไร?”

สิ้นเสียง เขาหันไปส่งสายตาให้หยางฮ่าวกับสหาย กล่าวกำชับว่า “ไอ้หมอนี่มอบให้พวกนาย แต่จำไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้มันตายง่ายเกินไป”

ในเมื่อชุยมู่ชอบทรมานและสังหารมนุษย์มาก งั้นเขาก็ต้องการให้ชุยมู่ได้ลิ้มรสการถูกทรมานเสียบ้าง หนำใจเมื่อไหร่ค่อยปล่อยให้ตาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด