ตอนที่แล้ว493-494
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป497-498

495-496


Ep.495

“แล้วถ้าฉันไม่จ่ายล่ะ?”

ซูเฉินค่อยๆหรี่ตาลง เผยรอยยิ้มเย็น

หลินฮู่มองซูเฉิน กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “ถ้าไม่ยอมจ่ายหินพลังงาน ก็ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! อ้อ แล้วอีกอย่าง เป็นเพราะแกที่ทำให้พวกเราทุกคนเสียเวลา ดังนั้นขอยึดรถฐานทัพคันนี้เอาไว้ด้วย”

“พี่เฉิน ไอ้อันธพาลนี่มันจะรังแกกันมากไปแล้ว! ขอให้ฉันได้ออกไปสั่งสอนมันเถอะ!” สือต้าหนิวโกรธเล็กน้อย

หนางฮ่าวกับเฉาหรานก็หยิบอาวุธขึ้นมาเช่นกัน เลือดเริ่มเดือดพร้อมต่อสู้

“นี่พวกแกกล้าอาละวาดบนเกาะหวังซวี่หรือ?”

หลินฮู่หรี่ตาลง กวาดมองซูเฉินและสามสหาย แค่นเสียงหยามเหยียด

เหล่าทหารที่เดิมกระจายอยู่รอบๆ วิ่งเข้ามารวมตัวกัน จำนวนนับร้อยคน ล้อมรอบซูเฉินและคนอื่นๆเอาไว้

ซูเฉินโบกมือส่งสัญญาณปรามให้สือต้าหนิวและสหายใจเย็นลง กวาดสายตามองหลินฮู่ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นี่สรุปแกจะปล้นพวกเราใช่ไหม?”

สังเกตเห็นได้ถึงแววตายั่วโมโหของซูเฉินที่คล้ายไม่หวั่นเกรงสิ่งใด สีหน้าของหลินฮู่มืดมนลง กล่าวข่มเสียงต่ำว่า “เจ้าหนู เลิกแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องซักที รถฐานทัพคันนี้ถูกตาต้องใจท่านปู่ ต่อให้ไม่ยอม แต่แกก็ต้องมอบมันมา!”

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นแกก็ตายซะ!”

ซูเฉินเบ้ปาก ซัดหมัดออกไปโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าใดๆ

“กล้าดียังไง!”

เห็นว่าซูเฉินกล้าชิงลงมือ หลินฮู่โกรธมาก เหวี่ยงหมัดชกสวน

วินาทีถัดมา สองกำปั้นปะทะเดือด บังเกิดเสียงปั๊ก! ดังสนั่น ตามด้วยเสียงฟิ้วของบางสิ่งที่พัดหายไปกับสายลม

เห็นแค่เพียงทั้งคนทั้งร่างของหลินฮู่ถูกต่อยจนแหลกเป็นผุยผง

ซี๊ดดดดด!

ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเสียงสูดหายใจลึก

ต่อมา ทั้งท่าเรือตกอยู่ในความเงียบอันน่าขนลุก

ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงจนยากจะอธิบาย ภายในหัวใจเกิดระลอกคลื่นลูกใหญ่

ต้องรู้นะว่า หลินฮู่น่ะเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ที่แท้จริง ทว่ากลับถูกชายหนุ่มตรงหน้าชกตัวแหลกไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูก

เช่นนั้นแล้วชายหนุ่มผู้นี้มีระดับฝึกตนอยู่ขั้นใดกัน? อย่างน้อยสมควรเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ถูกต้องหรือไม่

และประเด็นก็คือ การเข้าสู่เกาะหวังซวี่ ฐานฝึกตนจะถูกปรับลดลงหนึ่งขั้น นั่นหมายความว่าชายหนุ่มผู้นี้คือผู้วิวัฒนาการเลเวล 6!

ผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 คืออะไรน่ะหรือ?

ก็คือผู้แข็งแกร่งที่สุดในเจ็ดขุมกำลังชั้นนำแห่งเกาะหวังซวี่น่ะสิ!

และชายหนุ่มรุ่นเยาว์ตรงหน้าพวกเขา ที่แท้เป็นการดำรงอยู่ของผู้แข็งแกร่งระดับสูงที่เทียบเคียงได้เเลยกับผู้แข็งแกร่งสูงสุดเหล่านั้น!

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าหมอนี่ถึงไม่เห็นหอการค้าจูหลงอยู่ในสายตา ปรากฏว่าเขาไม่ได้แสร้งทำเป็นอวดเก่ง ทั้งยังไม่ได้โง่ แต่มีทุนมากพอให้ไม่ต้องหวาดกลัว”

ณ ขณะนี้ หลายคนเริ่มจินตนาการถึงสงครามระหว่างซูเฉินกับหอการค้าจูหลง แล้วอดทอดถอนหายใจไม่ได้

“นายท่านหลินตายแล้ว …”

เหล่าทหารเกราะที่รายล้อมซูเฉินและพรรคพวก แต่ละคนเริ่มตื่นตระหนกอย่างไม่อาจควบคุม ชักฝีเท้าถอยไปทีละคน

ภาพที่ซูเฉินระเบิดร่างของหลินฮู่ด้วยหมัดเดียว ส่งผลกระทบทางจิตใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่อันน่าสยดสยองเช่นซูเฉิน พวกเขาเริ่มหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ

ซูเฉินกวาดสายตามอง ก่อนหยุดลงบนร่างของทหารเกราะที่ตะโกนใส่เขาคนก่อนหน้านี้

ทหารคนนั้นรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว คุกเข่าลงพื้นดังปึก! แล้วโขกศีรษะไม่หยุด ร้องอ้อนวอนเสียงดังว่า “ผู้อาวุโส ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดไว้สชีวิตสุนัขของฉันด้วย!”

เมื่อเห็นว่าทหารเกราะผู้นี้รับมือกับสถานการณ์ได้รวดเร็วยิ่ง ซูเฉินก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับมดปลวก กล่าวเสียงเย็นว่า “ตบปากตัวเองร้อยครั้ง”

“ขอรับผู้อาวุโส!”

ทหารเกราะดีใจเหลือแสน ผุดลุกขึ้นตบหน้าตัวเอง

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!

ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทั้งท่าเรือสะท้อนไปด้วยเสียงตบที่ดังฟังชัด

คล้ายกับกลัวว่าซูเฉินจะไม่พอใจ ทหารหุ่มเกราะจึงตบเต็มแรงจริงๆ แค่ไม่กี่ครั้งใบหน้าของเขาก็บวมเป่ง ปูดบวมราวกับหัวหมู

Ep.496

“ทุกคนขึ้นรถ”

ซูเฉินตะโกนเรียก รอจนทุกคนเข้าไป เขาค่อยขึ้นเป็นคนสุดท้าย แต่ขณะที่กำลังจะจากไป ก็มีกลุ่มทหารในชุดเกราะทองคำปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้า กะด้วยสายตาแล้วประมาณ 100 คน

“เจ้านาย พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตต่างเผ่า” [รถศึกอัจฉริยะ] เตือน

“โอ้~”

ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกาย เดิมเขาตั้งใจจะไล่กวาดล้างพวกต่างเผ่าอยู่แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะปรารถนาดี ประเคนตัวเองมาส่งถึงที่

“ผู้อาวุโส พวกเขาเป็นสมาชิกของหน่วยพิทักษ์จูเฟิงแห่งเผ่าเทพ” เฉินเมิ่งเฟยกล่าวด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

หน่วยพิทักษ์จูเฟิงแห่งเผ่าเทพ มีสมาชิกไม่เยอะ แต่กำลังรบโดยรวมแข็งแกร่งมาก

สมาชิกแต่ละคนล้วนเป็นผู้ฝึกตนเลเวล 2 ขึ้นไป

หัวหน้าหน่วยของพวกเขา หยวนกวนเป็นถึงปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 5

“ในเมื่อพวกมันเป็นคนของเผ่าเทพ งั้นก็ฆ่าซะให้หมด!”

ซูเฉินปาดจมูกเขา เดินลงจากรถอีกรอบด้วยท่าทีผ่อนคลาย

เมื่อหลายวันก่อน เขาก็เพิ่งสังหารรุ่นเยาว์อัจฉริยะเผ่าเทพไป นับว่าสร้างความบาดหมางชนิดไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตาย เรื่องนี้ไม่มีทางแก้ไขได้

ดังนั้นตอนนี้จะสังหารเผ่าเทพแค่คนเดียว หรืออีกร้อยคน ก็ไม่ต่างกัน

ในเมื่อได้มาเจอกันทั้งที แน่นอนว่าเขาจะไม่พลาดโอกาสดรอปชิ้นส่วนไป

เฉินเมิ่งเฟยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ‘ขืนยังคงฆ่าต่อไปแบบนี้ พวกกองกำลังอื่นคงไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่ นี่เขาไม่กลัวจริงๆน่ะเหรอ?’

หยางฮ่าวและคนอื่นๆเริ่มรู้สึกตื่นเต้น ถูมือถูมือเดินตามหลังซูเฉินไปติดๆ

รอจนทุกคนลงจากรถ ทหารพิทักษ์ที่อายุราวๆสี่สิบกว่าปีก็เดินออกมาจากในหน่วย

ชายวัยกลางคนผู้นี้มีบุคลิกไม่ธรรมดา เขามองสำรวจซูเฉินอย่างรอบคอบ

หยวนกวนตะโกนว่า “พวกเจ้าอาละวาดสังหารคนเช่นนี้ รู้หรือไม่ว่าที่นี่คือดินแดนของเผ่าเทพเรา?”

“หือ?”

ซูเฉินนิ่งค้างไปเล็กน้อย ทหารยามที่เฝ้าที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเป็นมนุษย์ แล้วไหงจู่ๆมันถึงกลายเป็นดินแดนของเผ่าเทพไปได้?

หรือว่าทหารมนุษย์เหล่านั้นเป็นขุมกำลังสาขารองของเผ่าเทพ?

“ผู้อาวุโส นี่คือดินแดนของเผ่าเทพจริงๆ ทหารมนุษย์เหล่านั้นก็อยู่ภายใต้ร่มธงของเผ่าเทพ” เมื่อเห็นว่าซูเฉินเหมือนจะไม่เข้าใจ เฉินเมิ่งเฟยจึงอธิบาย

ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินส่ายหัวทันที ถอนหายใจและกล่าวว่า “เรื่องที่มนุษย์อ่อนแอจนต้องตกอยู่ใต้อาณัติผู้อื่น เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้จริงๆ”

ทั้งๆที่เหยียบย่ำอยู่บนพื้นดินของตัวเอง แต่กลับต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกต่างเผ่า

และเมื่อดูจากท่าทีของพวกเผ่าเทพและสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เกรงว่าจะไม่ใช่แค่เกาะหวังซวี่เท่านั้น แต่ในทวีปเสวียนเทียนคงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆกัน

ขอบอกว่านี่นับเป็นโศกอนาถกรรมของมนุษย์โดยแท้

หลังถอนหายใจเบาๆ ซูเฉินเพ่งมองไปยังชายเผ่าเทพ กล่าวเสียงเย็นว่า “นี่คือทวีปของมนุษย์ชัดๆ แล้วมันกลายเป็นดินแดนเผ่าเทพของพวกแกตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”

ชายเผ่าเทพหลุดหัวเราะอย่างไม่อาจควบคุม จ้องมองซูเฉินด้วยสายตาราวกับกำลังมองคนโง่ กล่าวประชดประชันว่า “เจ้าหนู โลกใบนี้น่ะผู้แข็งแกร่งถือเป็นใหญ่ที่สุด เผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเจ้าน่ะอ่อนแอมาก สมควรแล้วที่จะถูกพวกเราข่มเหง!”

“แกพูดถูกนะ เรื่องที่คนอ่อนแอไม่มีสิทธิ์เลือก”

ซูเฉินพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนกล่าวเสียงขรึม “แต่ว่านะ เมื่อฉันมาถึงที่นี่แล้ว นับจากนี้ไป พวกต่างเผ่าทั้งหมดจะต้องถูกขับไล่ออกจากทวีปมนุษย์! ถ้าใครดื้อด้านไม่ยอมเชื่อฟัง ฉันจะฆ่าพวกมันทิ้งให้หมด!”

ด้วยประโยคนี้ ไม่มีคำใดที่เหมาะสมจะอธิบาย นอกจากคำว่า ‘อหังการ’ มันได้แสดงถึงความมั่นใจในตนเองชนิดไม่มีผู้ใดเทียบ ชวนให้ผู้ฟังตะลึงลาน

หลังจากผ่านไปนาน เสียงวิพากษ์วิจารย์พลันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

“ให้ตายเถอะ! ฉันไม่เคยเห็นคนบ้าขนาดนี้มาก่อนเลย! แต่นี่มันน่าสนุกซะจริง!”

“กล้าอวดดีต่อหน้าเผ่าเทพ เจ้าหมอนั่นไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้วรึไง?”

“อย่าลืมสิว่าเขาเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 ต่อให้ฐานฝึกตนเขาปรับลดลงเหลือเลเวล 5 แต่ก็ยังมีทุนมากพอที่จะสู้ในศึกนี้อยู่ดี”

“แต่เผ่าเทพไม่ใช่ตัวตนที่จะหาเรื่องกันได้ง่ายๆ เพราะในเผ่าของพวกมัน มีผู้แข็งแกร่งอยู่นับไม่ถ้วน แล้วผู้วิวัฒนาการเลเวล 6 คนเดียวจะสู้ได้หรอ?”

“เจ้าหนุ่มนี่มันบ้าตั้งแต่หน้าทางเข้าแล้ว คราวนี้ยังมาท้าชนกับเผ่าเทพ ยิ่งบ้าไปกันใหญ่”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด