ตอนที่แล้วบทที่ 24 ฝนที่ตกหนัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26  เข้าสู่มิติอีกครั้ง

บทที่ 25 ก้าวข้ามจากจุดเริ่มต้น


บทที่ 25

ก้าวข้ามจากจุดเริ่มต้น

10 วันต่อมา

หลี่มู่ฟาน และพรรคพวกตั้งแคมป์อยู่ในป่าทึบซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองสุริยันจันทรา หลังจาก 20 วันของการเดินทางทั้งวันทั้งคืนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงปลายทาง

หลี่มู่ฟาน  หลิวหลง และ ฟานชิงเยว่  ยืนอยู่บนยอดเขามองออกไปไกล

ฟานชิงเยว่พูดขึ้นว่า “นายน้อย ต่อไปนี้พวกเราจะใช้ชีวิตอยู่ในที่โล่งด้านล่างนี้ใช่ไหม?”

หลี่มู่ฟาน พยักหน้าและชี้ไปที่ป่าที่อยู่ด้านล่างจากนั้นกล่าวว่า “พวกเจ้าทั้งสองคนดูนั่นสิ ภูเขา 3 ด้านล้อมรอบและด้านหลังเป็นแม่น้ำหยุนชาง แม่น้ำสายใหญ่แยกจากภูเขาทั้ง 3 ลูก และกลายเป็นกำแพงธรรมชาติ แม่น้ำสายใหญ่เองก็เป็นเส้นทางน้ำที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน มันไหลสู่แม่น้ำและสามารถถอยร่นไปตามแม่น้ำได้ จึงเป็นที่ที่ต้องแย่งชิงกัน”

“ทางตะวันตกเป็นป่าทึบ ช่วงแรกๆพวกเราไม่ควรที่จะเปิดเผยตัวมากเกินไป ป่าแห่งนี้สามารถปกป้องฐานทัพได้ ทางทิศตะวันตกนี้ยังเป็นที่ราบของชนเผ่ามากมาย แม้ว่าที่นั่นจะเป็นเผ่าเอลฟ์แต่พวกเราก็ยังปกครองกันเอง จึงไม่มีอะไรต้องกังวล นอกจากนี้ที่นี่อยู่ภายใต้วงล้อมของภูเขาสามลูก ลมพัดไม่แรง น้ำไม่ท่วม บนเขายังมีลำธารเล็กๆไหลลงมาเป็นน้ำพุบนภูเขา ซึ่งถือว่าเป็นฮวงจุ้ยของเสือและมังกร!”

หลิวหลงกล่าวขึ้นทันทีว่า “นายน้อยช่างมีพรสวรรค์และกล้าหาญ ข้านับถือท่านมาก!”

แม้ว่าฟานชิงเยว่จะมีระดับการบ่มเพาะที่ดี แต่นางก็ไม่มีความรู้เรื่องกลยุทธ์ นางแค่ฟังออกเพียงครึ่งเดียว และก็ไม่สนใจไปได้อีกตราบใดที่นางสามารถติดตาม หลี่มู่ฟาน ได้ แค่นั้นก็ถือว่าเป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง

หลังจากมองขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้ง หลี่มู่ฟาน ก็กล่าวว่า “  ไปแจ้งเหล่าทหารให้มารวมตัวกันที่ลานโล่ง ข้ามีเรื่องจะกล่าว”

หลังจากเวลาประมาณ 1 ก้านธูป ในป่าทึบมองเห็นทหารมากกว่า 200 นาย  หลี่มู่ฟานกล่าวเสียงดังว่า “พี่น้องทั้งหลายในอนาคตที่นี่คือที่เราจะตั้งรกรากอยู่ อย่ามองว่าที่นี่เป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่า พวกเจ้าจะต้องเชื่อว่าพวกเราจะสร้างตึกที่สูงนับหมื่นจั้งและตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่แห่งนี้ วันหน้าเราจะต้องสร้างสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นเมืองใหญ่และมั่นคงอย่างแน่นอน!”

“พวกเจ้าเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกับข้า พวกเจ้าถือดาบและสวมเกราะต่อสู้อย่างกล้าหาญในสนามรบ แต่ตอนนี้พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องฆ่าศัตรูอีกต่อไป พวกเจ้าบางคนอาจต้องถอดชุดเกราะแล้วใส่ชุดของเกษตรกร วางดาบลงและถือจอบขึ้น แต่อย่าลืมว่าพวกเจ้าเป็นนักรบที่ดีที่สุดของอาณาจักรตั้งแต่ต้นจนจบ! อย่าละเลยการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทุกวัน สักวันหนึ่งพวกเจ้าจะต้องจับอาวุธขึ้นมาอีกครั้งและกลายเป็นแม่ทัพใหญ่!”

เหล่าทหารถูกคำพูดของ หลี่มู่ฟาน กระตุ้นพวกเขายกดาบยาวขึ้นก่อนจะตะโกนเสียงดังว่า “ทรงพระเจริญ!ทรงพระเจริญ!ทรงพระเจริญ!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่มู่ฟาน ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ สองมือยกขึ้นทำให้ทุกคนในที่นี้เงียบลงทันที

“เริ่มแบ่งงานเดี๋ยวนี้ หลิวหลง!นำนักรบผู้กล้าหาญ      50 คนสร้างทีมต่อสู้และท่านเป็นหัวหน้าหน่วย

“รับทราบ”

หลิวหลงตอบด้วยความตื่นเต้น

“อาเฉียง ! เจ้าสร้างกองทหารช่าง  50 คนเจ้าเป็นหัวหน้าหน่วยรับผิดชอบในการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในค่าย!”

หลังจากหลายวันมานี้ อาเฉียง ได้อยู่กับผู้คนและเริ่มมีความเป็นมนุษย์มากขึ้นเขาจึงตอบเสียงดังว่า

“อาเฉียง รับทราบ!”

“ชุ่ยฮัว!  เจ้าจงสร้างทีมปลูกพืช 30 คน เจ้าเป็นหัวหน้าทีมรับผิดชอบปลูกพืชอาหารและปกป้องแหล่งอาหารของดินแดน!”

“รับทราบ”

เสียงใสก้องกังวานของหญิงสาวดังออกมาเช่นเดียวกับ อาเฉียงหลายวันมานี้  ชุ่ยฮัว ได้ติดต่อพูดคุยกับมนุษย์มากขึ้นนางจึงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง

“จางเถี่ย ฟังคำสั่ง!”

“เจ้าตั้งทีมตัดหิน  40 คน เจ้าเป็นหัวหน้าหน่วย รับผิดชอบตัดหิน เพื่อให้แน่ใจว่ามีหินเพียงพอในค่าย!”

“รับทราบ”

จางเถี่ย คำรามออกมาด้วยความไม่พอใจ  หลี่มู่ฟาน เดินไปหา จางเถี่ย และมอบดาบให้กับจางเถี่ย

“ฝ่าบาท ท่าน…”

หลี่มู่ฟาน  ตบไหล่ของเขาเบาๆและกล่าวว่า “ดินแดนแห่งนี้ต้องสร้างขึ้นใหม่ให้มั่นคง วัตถุดิบเป็นสิ่งสำคัญก็คือหินลายครามที่แข็งผิดปกติ ดาบธรรมดาไม่สามารถทำลายได้ พวกเราจะนำหินเหล่านั้นเป็นกำแพงค่าย ดาบของข้ายังคมอยู่ มันน่าจะช่วยเจ้าประหยัดเวลาได้มาก”

“แต่..”

จางเถี่ย ได้ยินดังนั้นใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

“รับไปเถอะ จะคิดเรื่องไร้สาระทำไมกัน!”

หลี่มู่ฟาน ยัดดาบยาวเข้าไปในอ้อมแขนของ จางเถี่ย โดยไม่มองหน้าเขา  หลี่มู่ฟานก้าวกลับมาที่ตำแหน่งเดิมและตะโกนว่า

“อาโชวอยู่ที่ไหน?”

ท่ามกลางฝูงชนมีชายหนุ่มรูปงามสวมเสื้อคลุมหนังหมาป่าเดินออกมาข้างหน้าและคุกเข่าข้างหนึ่ง

“ฝ่าบาทมีคำสั่งใดหรือ?”

เมื่อ 10 วันก่อน  หลี่มู่ฟาน ได้เข้าไปในพื้นที่เกมโลกใหม่ หลังจากนั้นหลังจากนั้นเข้าใช้เงิน 1m เขาก็ซื้อการ์ดผู้ติดตามมา 1 ใบซึ่งราคาแสนโหดจนแทบปวดใจ

เมื่อเห็น  อาโชว  คุกเข่าลงและเรียกเขาว่าฝ่าบาท เขารู้สึกโกรธและคำรามออกมาว่า “อาโชว! ยืนขึ้น ข้าได้บอกไปก่อนนี้แล้วว่าอย่าเรียกข้าว่าฝ่าบาท?”

เหล่าทหารและ อาโชว ได้รู้จักกันมาประมาณ 10 วันแล้วและรู้ว่าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้มีนิสัยเป็นเช่นไร ดังนั้นการกระทำของเขาจึงไม่แปลก

อาโชว มองหน้า หลี่มู่ฟาน อย่างไร้เดียงสาใบหน้าเล็กๆของเขาเต็มด้วยความคับข้องใจ

เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่มู่ฟาน กับพูดไม่ออก

“เจ้าพาคน 30 คนจัดตั้งทีมเพาะเลี้ยงสัตว์อสูร ฝึกสัตว์และเลี้ยงมัน..”

“รับทราบ”

หลังจากปรับความคิดแล้ว หลี่มู่ฟาน ก็พูดต่อ “กลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มตีเหล็ก  อาเฉียง  เจ้าเป็นหัวหน้าชั่วคราว   ชุ่ยฮัว เป็นรองหัวหน้าชั่วคราว  พวกเจ้าเลือกนักรบ 30 คนรับผิดชอบในการสร้างเกราะอาวุธและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆในค่าย!”

อาเฉียง และ ชุ่ยฮัว ตอบรับพร้อมกัน “รับทราบ”

“ฟานชิงเยว่”

“มีนักรบที่เหลืออีก 6 คน เจ้าเป็นหัวหน้าหน่วยจัดตั้งทีมสายลับ เพื่อรับผิดชอบในการติดตามสื่อสารข่าวคราวนอกค่ายและภายในค่าย นอกจากนี้เจ้าจะต้องรับผิดชอบเรื่องอาหารการกินประจำวันของข้า!”

“รับทราบ”

ฟานชิงเยว่ ตอบด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ งานของนางเป็นสายลับครึ่งหนึ่งและเป็นสาวใช้ครึ่งหนึ่ง ในฐานะผู้หญิงเพียงคนเดียวในค่ายนี้นอกจาก ชุ่ยฮัว  มีนางเพียงคนเดียวที่คอยปรนนิบัตินายน้อย ตลอดการเดินทางนางดูแล หลี่มู่ฟาน อยู่ตลอด ดังนั้นหน้าที่นี้จึงเหมาะที่จะเป็นนางมากที่สุด

หลังจากแบ่งกลุ่มเสร็จ หลี่มู่ฟาน ก็ตะโกนว่า “ทุกคนแบ่งงานกันชั่วคราวเมื่อดินแดนของเราเติบโตขึ้น พวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเรื่องเหล่านี้อีก ตอนนี้งานหลักของพวกเราคือสร้างที่พักอาศัยชั่วคราว หัวหน้าทีมเลือกคนเสร็จแล้วเริ่มตัดต้นไม้และสร้างบ้านไม้ทันที!”

“รับทราบ!”

ทุกคนรับทำเสียงดัง ทหารทุกคนคิดว่า ฝ่าบาทก็คือ     ฝ่าบาท แม้แต่คำพูดไม่กี่คำก็สามารถจัดการทุกอย่างในฐานทัพได้อย่างเป็นระเบียบ หากเขายังเป็นกษัตริย์อยู่เชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องเป็นถึงจักรพรรดิอย่างแน่นอน