ตอนที่แล้วEP 600 เดินทางสู่ปักกิ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEP 602 รับเข้าโรงเรียน!

EP 601 หาโรงเรียนให้กับเฉิงเฉิง


EP 601 หาโรงเรียนให้กับเฉิงเฉิง

By loop

ยามบ่าย. ประตูหน้าบ้านเป็นรั้วขนาดใหญ่

ตอนนี้ดงซูบินทิ้งรถคาเยนให้กับพวกเธอขับและกระเป๋าเดินทางทั้งหมดอยู่ในรถ ในขณะนี้ดงซูบินแต่งกายเบา ๆ หลังจากแยกจากโจวหยินหยู และหวังหยูริน แล้วดงซูบินก็เอื้อมมือออกไปและนั่งแท็กซี่ข้างถนนแล้วขับรถไป ตรงไปยังบ้านของพ่อแม่ของฉูหยวน แน่นอน จุดประสงค์อีกอย่างของการมาปักกิ่งครั้งนี้คือการได้เจอฉูหยวนและลูกของเขา เขาไม่ได้เจอเธอมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว ซึ่งเหลือเวลาแค่สี่เดือนฉูหยวนก็จะถึงกำหนดคลอดแล้ว

ในรถแท็กซี่ดงซูบินนั้นกำลังโทรหาฉูหยวน

มีเสียงที่นุ่มนวลดังขึ้นมานั้นคือเสียงของฉูหยวน เสียงปลายสายดังขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ "สวัสดี"

"นี้ใครกันค่ะ" ดงซูบินยิ้มอย่างอบอุ่น: "นี้เธอจำแบอร์โทรศัพท์ของฉันไม่ได้หรือยังไงกัน?"

"นั้นซูบินอย่างงั้นหรอ” ดูเหมือนฉูหยวนเองดูเหมือนจะแปลกในที่วันนี้ดงซูบินโทรหาเธอ

จากนั้นดงซูบินก็ได้ยินเสียงของแม่ของฉูหยวนที่ปลายอีกด้านหนึ่ง "ฉูหยวนลูกคุยอยู่กับใคร เพื่อเก่าที่ทำงานของลูกหรอ “เสียงฝีเท้าดังและเสียประตูก็ปิดลง”พอดีมีเรื่องนิดหน่อยนะ“”

ดงซูบินค่อยๆกระซิบ:"เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า? "

ฉูหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม:" พ่อแม่ของฉันกำลังเห่อลูกของนายใหญ่เลย”

“จริงเหรอ” ดงซูบินสูดลมหายใจเข้าก่อนที่ฉูหยวนจะกล่าวว่า “ช่วงสองสามวันนี้ พ่อแม่ของฉันพยายามถามฉันถึงเรื่องของพ่อของเด็ก ว่าเมื่อไรพวกเขาจะได้เจอพ่อของเด็กสักที อีกทั้งพวกเขาก็ถามถึงเรื่องการแต่งงาน ตามข้อตกลงแล้วมันยังต้องผ่านไปอีก ห้าถึงหกปี ถึงเราทั้งคู่จะพูดเรื่องนี้กัน ฉันเลยต้องพยายามโกหกพ่อกับแม่ฉันไปก่อนว่าตอนนี้ตัวฉันยังไม่พร้อมพูดเรื่องนี้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นดงซูบินถึงกับเหงื่อตก  "ถ้าอย่างงั้นฉันเองก็ควรไปหาเธอ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ปักกิ่ง และอีก 10 นาทีจะถึงบ้านเธอแล้ว" “

“ช่วงนี้นายไม่ควรมาที่นี้ เดียวมันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ไปอีก”

“ฉันใกล้จะถึงแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอช่วยออกมาเจอฉันหน่อยได้ไหม”

“ช่วงนี้พวกเขาตัวติดฉันเอามากๆ  และยิ่งเป็นช่วงกลางวันฉันแทบจะออกไปไหนมาไหนคนเดียวไม่ได้เลย ตอนนี้ป้าของฉัน0ลงไปข้างล่างแล้ว ดูเหมือนทั้งคู่จะเห่อหลานชายในท้องฉันเอามากๆเลย  นายมาปักกิ่งมาทำงานหรือเปล่าแล้วจะกลับเมื่อไรล่ะ? ถ้าอย่างั้นช่วงดึกฉันอาจจะออกไปเจอนายได้”

“เธอต้องการอย่างงั้นหรอ ช่วงดึกๆ”

“ใช่ แต่ช่วงกลางวันนี้ไม่ได้จริงๆ”

ดงซูบินถึงกับเซง" ถ้าอย่างงั้นเราค่อยเจอกันอีกที่ตอนดึกๆก็ได้

“ ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดียวฉันจะต้องไปฉีดวัคซีน ถ้ายังไงเดียวเราค่อยคุยกันนะ”

"นี่" ดงซูบินดูเหมือนจะมีคำถามจะถามฉูหยวน "พอดีฉันมีอีกหนึ่งเรื่อง?"

"เอาไว้ค่อยคุยกันได้ไหม?”

“หน้าอกของเธอต้องใหญ่ขึ้นด้วยสินะ!”

ฉูหยวนเธอดุดงซูบินทันทีถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่านี้เป็นการพูดล้อเล่นก็ตาม “ตาบ้านี้!”ดงซูบินยิ้ม: “คืนนี้ฉันจะรอเธอ ฉันคงจะอยู่ที่ห้องตั้งแต่บ่ายเลยพอดีว่าฉันเอารถของฉันให้ลูกน้องของฉันเอาไปใช้ก่อน และกว่าพวกนั้นจะกลับก็คงจะเย็น ถ้าอย่างงั้นฉันจะขอยืมใช้รถของเธอก่อนล่ะกัน”

"ได้สิ ถ้ายังไงก็ขับระวังๆล่ะ"

"เข้าใจแล้ว เธอก็ด้วยนะ"

สักพักหนึ่งดงซูบินยังไม่ได้กลับไปที่พักของเขาทันที เขาให้แท๊กซี่ขับเข้าไปในซอยบ้านของพ่อและแม่ของฉูหยวน ก่อนดงซูบินจะลงจากรถที่จ่ายเงินและแอบมองไปทางซ้ายและขวาก่อนจะแอบมองเข้าไปในบ้านของฉูหนวน

หน้าต่างด้านบนดังเอี๊ยดเปิดออก

เห็นใบหน้าที่สวยงามของฉูหยวนปรากฏขึ้นที่หน้าต่าง จ้องมองมาที่เขา และ ฉูหยวนก็อดยิ้มไม่ได้ ยื่นมือเล็กๆที่ขาวใสดูอ่อนโยนของเธอออกมา แล้วโยนกุญแจรถลงมาจากชั้นบน มันกระแทกไปที่สนามหญ้าด้านล่าง ตกไปที่โคลนพอดี

ดงซูบินยิ้ม หยิบกุญแจขึ้นมาเช็ดโคนที่เปื้อน และชี้ไปที่ห้องฉันบน

ฉูหยวนชี้ไปทางทิศตะวันตก โบกมือให้ไปรถไปที่รถ จากนั้นโบกมือให้เขารีบไปเร็วและดูเหมือนเธอก็ยังยิ้มอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งพยายามขยับปากเหมือนจะพูดแซวดงซูบินว่า "อีตาบ้า"

ดงซูบินกลอกตาจากนั้นก็ตอบรับฉูหยวน โดยการขยิบตาและท่าทางแล้วขับรถออกไป

ทันทีที่ดงซูบินออกมาจากที่บ้านฉูหยวน ก็มีข้อความในโทรศัพท์ มันมาจากฉูหยวน: อย่าขับรถเร็วล่ะแล้วเจอกันตอนกลางคืน

ดงซูบินยิ้มอย่างอบอุ่นและสัมผัสได้ถึงความสุขในใจ และเขาก็คิดไปถึงตอนเย็นที่เขาจะได้เจอกับฉูหยวนแล้ว ดงซูบินเองก็คิดถึงเธอเอามากๆ

หนึ่งชั่วโมง...

สองชั่วโมง...

สามชั่วโมง...

บ่ายวันนี้ดงซูบินขับรถเบนซ์สีเงินไปทั่วปักกิ่ง ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนเช่นกัน ถึงแม้ว่าดงซูบินจะเป็นคนปักกิ่งมาตั้งแต่เด็ก แต่หลายปีผ่านมานี้ เขาเองก็ไม่ได้มีเพื่อนสนิทสมัยเรียนอยู่ที่นี้เลย เพราะด้วยบุคลิกและฐานะทางครอบครัวของเขาในอดีตจึงทำให้ไม่มีเพื่อนคนใดอยากคบกับเขามากนัก อีกทั้งพ่อของดงซูบินก็มาเสียชีวิตด้วยอาการป่วยในช่วงนั้นดงซูบินอยู่ในอาการที่เศร้ามาก เลยทำให้เขาไม่ค่อยได้ติดต่อกับเพื่อนมากนักอีกทั้งเขาไม่มีญาติอยู่ที่ปักกิ่งอีกด้วย

ในช่วงตอนสี่โมงเย็น

เมื่อเขาขับรถออกจากปั๊มน้ำมัน ดงซูบินไม่มีอะไรทำจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงโทรหาโจวหยินหยู ว่า "พี่สาวโจวคุณอยู่ที่ไหน"

"ใน ... " โจวหยินหยูลังเล "ดูเหมือนว่าจะที่นะจะเรียกว่าสะพานหูฝาง"

"สะพานหูฝางหรอ คุณอยู่ส่วนไหนของสะพานหูฝาง"

"น่าจะเป็นฝั่งตะวันตก ถนนฝั่งตะวันตก"

"เอาล่ะ ถ้าอย่างงั้นรอฉันอยู่ตรงนั้นนะ เดียวเราไปทานข้าวกัน เราจะไปทานอาหารเย็นกันทีนั้น” ทันทีที่ดงซูบินขับรถไป เขาเห็นคาเยนสีดำจอดอยู่ข้างถนนหวังหยูรินยืนอยู่ข้างรถกับโจวหยินหยูใต้ร่มกันแดด กำลังรอดงซูบิน ดงซูบินเลี้ยวรถมาจอดเทียบข้างๆ เหยียบเบรก และหยุดอยู่ข้างๆ พวกเธอ โจวหยินหยู และหวังหยูริน ยังไม่รู้ว่านั้นคือดงซูบิน พวกเขามองดูแท็กซี่ที่ผ่านไปมาโดยคิดว่าดงซูบินคงจะนั่งรถแท็กซี่มา จนกระทั่งดงซูบินออกมาจากรถเบนซ์ ทำให้หวังหยูรินเห็นเขาก่อนที่จเธอจะมามองดูรถเบนซ์เอสคลาสกันแบบงงๆ

นี้มันเวอร์ เพราะแค่รถคาเยนที่ดงซูบินให้พวกเธอยืมขับมันก็น่าประหลาดใจแล้ว แล้วดงซูบินยังนำเมอร์เซเดส-เบนซ์อีกคันมาจอดเทียบกับเธอ และรถคันนี้น่าจะราคาแพงกว่าคาเยนด้วยซ้ำ?

ฉันอยากรู้จริงๆครอบครัวของเลขาซูบินเขาทำงานอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้ร่ำรวยขนาดนี้?

“ตอนบ่ายคุณไปไหนกันมามา” แต่ดูเหมือนว่าพวกเธอจะไม่ได้ถามเรื่องรถที่ดงซูบินขับมาเลย “ไปห้างมาเหรอ หวังหยูรินคุณซื้อเสื้อผ้ามาเต็มเลย นี้คุณจะใส่มันหมดจริงๆหรอ?”

หวังหยูรินยิ้ม "เสื้อผ้าพวกนี้มันสวยดีฉันเลยซื้อเผื่อไว้เพราะไม่ค่อยได้มาปักกิ่งบ่อยๆ"

"ถ้าเช่นนั้นเราไปที่ซีตันกัน ที่นั่นดูครึกครื้นดี" โจวหยินหยูดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี เล็กน้อย รอยยิ้มที่แข็งกระด่างทำให้ดงซูบินรู้สึกแปลกใจ

“หือ แล้วเฉิงเฉิงล่ะ”

“อยู่ในรถ” โจวหยินหยูรีบหันหลังกลับและเรียก “ส้ม”

ทันทีที่ประตูรถเปิดออก เฉิงเฉิงเดินลงจากคาเยนน์ด้วยจมูกของเธอกระตุกร้องไห้

โจวหยินหยูรู้สึกเป็นทุกข์อยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังจ้องไปที่เธอ "ทำไมลูกถึงยังร้องไห้อยู่"

ดงซูบินถาม "เกิดอะไรขึ้น"

โจวหยินหยูถอนหายใจหลังจากได้ยินเรื่องนี้ "หลังจากไปที่เราแยกกันแล้ว หยูรินก็ขับรถพาเราไปที่โรงเรียนมัธยมดังๆหลายแห่งในเขตนี้ ฉันคิดโรงเรียนมัธยมเหล่านั้นน่าจะรับนักเรียนง่ายๆแต่กลับไม่ใช้อย่างงั้นเลย และมีโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น 66 แห่ง ในแต่ละปีมีมีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่เปิดรับนักเรียน และดูเหมือนส่วนใหญ่โรงเรียนเหล่านั้นจะมีโค้วตาการรับเด็กอยู่แล้วทำให้ต่อให้ทำคะแนนสูงเท่าก็ตามก็อาจจะไม่ได้เรียนที่ปักกิ่งอยู่ดี "ดงซูบินเองก็ดูแปลกใจ" ดูเหมือนว่าการเข้ามัธยมปลายที่นี้จะไม่ง่ายเลยสินะ'

"จริงๆมันก็ยังมีโรงเรียนที่รับอยู่แต่พวกนั้นขอเงินค่าอุปถัมภ์ ซึ่งก็เป็นจำนวนเงินหลายแสนหยวน อีกทั้งมันก็ไม่ใช้โรงเรียนดังอะไรมากนักและต้องสอบเข้า ฉันเลยคิดว่าน่าจะไปเรียนมัธยมปลายที่เฟินโจวดีกว่า"

บ่ายวันนี้ โจวหยินหยูใช้เวลาในการหาที่เรียนให้กับลูกของเธอ เธอเองก็รู้สึกเครียดเพราะในฐานะผู้อำนวยการพรรคและที่ทำการรัฐบาลเขต  การหาโรงเรียนในเขตเฟิงโจว เธอเพียงไปพูดคุยกับครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมในเขต ต่อให้คะแนนสอบของเฉิงเฉิงจะน้อยนิด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่เธอจะได้เรียนที่นั้น แต่ในกรุงปักกิ่งโจวหยินหยูเองก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร ดังนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่ครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมในปักกิ่งจะต้องเกรงใจเธอ? อีกทั้งเธอยังไม่มีเส้นสายที่นี้  เลยมีทางเดียวคือต้องผ่านขั้นตอนตามระบบทางการเท่านั้น แต่ปัญหาตอนนี้คือโจวหยินหยู ไม่สามารถผ่านขั้นตอนที่เป็นทางการ เพราะโควตาเต็มก่อนกำหนด และไม่ต้องพูดถึงโรงเรียนมัธยมชื่อดังในเขตปักกิ่งเลย เพราะโจวหยินหยูพบว่ามันยากมากที่เฉิงเฉิงจะเรียนต่อที่นี้

เฉิงเฉิงสูดลมหายใจและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

โจวหยินหยูรู้สึกเสียใจกับลูกสาวของเธอมาก อย่าพูดถึงความรู้สึกอึดอัดเลย ฉันเอากระเป๋ามาหมดแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้

หวังหยูรินปลอบโยน: "พี่สาวโจว ทำไมพี่ไม่ลองไปถามอีกครั้ง" โจวหยินหยูถอนหายใจ: "ฉันพยายามแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่สนใจเลย อีกทั้งยังไล่ให้ฉันไปหาโรงเรียนใหม่เรื่อยๆ "

ดงซูบินรู้ตั้งแต่แรกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขนาดดงซูบินเองเป็นคนปักกิ่งเอง เขายังมีสิทธิสอบได้แค่สอบเข้าโรงเรียนธรรมดาเพียงเท่านั้น นับประสาอะไรกับคนต่างถิ่น ดงซูบินจึงมองไปที่เฉิงเฉิง ดงซูบินเดินไปหาเธอและลูบหัวเธอ "หนูน้อยเธอเองก็โตแล้ว หยุดร้องไห้ได้แล้ว”

เฉิงเฉิงพยายามหยุดร้อง แต่ตาของเธอยังแดงอยู่

ดงซูบินลูบหัวเบา ๆ มันทำให้เขาใจอ่อน เขาเองก็ทนไม่ไหวที่เห็นเฉิงเฉิงร้องไห้: "ถ้าอย่างงั้นเฉิงเฉิง ลุงจะช่วยหาโรงเรียนให้คุณเอง"

โจวหยินหยูรีบกล่าวว่า "จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน มันจะเป็นการรบกวนคุณเปล่าๆ..."

ดงซูบินยิ้มและพูดว่า "ฉันจะลองดู แต่ฉันไม่สามารถรับประกันได้นะ"

ดงซูบินหันหลังกลับและเดินออกไปเล็กน้อยแล้วหยิบขึ้นมา โทรศัพท์ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็กดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเสี่ยวหาวน้องชายของเสี่ยวหลาน

โทรศัพท์ผ่านทันทีที่ดังขึ้น

“ฮ่าฮ่า พี่ดงซูบิน ไอดอลของผม ทำไมวันนี้พี่ถึงโทรมาหาผม” เสี่ยวห่าวเขาเป็นคนที่ปลื้มดงซูบินมาก

ดงซูบินได้ยินและพูดว่า "ฉันอยู่ที่ปักกิ่ง ตอนนี้นายอยู่ไหนล่ะ"

"ที่โรงเรียน ผมอยู่ทำการบ้านช่วงฤดูร้อนมาสองวันนี้ ผมเองจะปิดเทอมฤดูร้อนในสัปดาห์หน้า ผมนี้โครตเซงเลย!"

หลังจากพูดไปสองสามคำ ดงซูบินก็พูดขึ้นมาทันทีว่า: "ยังไงก็เถอะ เสี่ยวห่าว นายเรียนที่โรงเรียนมัธยมหยูไค่ใช่ไหม โรงเรียนของนายยังรับสมัครนักเรียนอยู่หรือเปล่า"

"โอ้ทำไมพี่ถึงถามเรื่องนี้กันล่ะ?”

“โอ้ พอดีว่าลูกของเพื่อนร่วมงานของฉันต้องการเข้าไปเรียนที่นั้น นายพอจะมีวิธีช่วยเหลืออะไรได้บ้างไหม”

“โอ้  เรื่องนั้น ผมเองสนิทกับอาจารย์ใหญ่ของที่นี้ ขอแค่ประโยคเดียว”

ดงซูบินสงสัย “เชื่อถือได้ไหม?”

“พี่ชายไม่ต้องห่วงว่า ไว้ใจฉันได้ แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน ถ้าอย่างนั้น ให้เขามาผมาเจอผมก็ได้ เดียวผมจัดการเรื่องนี้ให้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด