Sign in Buddha's palm 242 (II) เชือดมังกร!
Sign in Buddha's palm 242 (II) เชือดมังกร!
ซูฉินเก็บคมมีดเทพเจ้าปีศาจกลับไป ก้าวย่างไปด้านหน้า ลอยขึ้นบนอากาศเดินเข้าหามังกรปีศาจ
“อะไร?!”
เมื่อยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดทั้งหลายได้เห็นฉากนี้ ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา
มังกรปีศาจเก่งกาจในด้านการต่อสู้ด้วยกำลังกายระยะประชิด หากซูฉินต้องการจัดการกับมังกรปีศาจ วิธีที่ดีที่สุดคือการหลบหนีจากการปะทะของมัน และเฉือนมังกรปีศาจอย่างต่อเนื่องด้วยคมมีดในมือของเขา
แต่ตอนนี้ซูฉินกลับพุ่งตรงเข้าหามังกรปีศาจ
“กร๊าซ!”
เมื่อมังกรปีศาจเห็นดังนั้น ดวงตาใหญ่ยักษ์ของมันก็ฉายแววตื่นเต้นออกมา ทีแรกมันลังเลที่จะเข้าใกล้ซูฉิน แต่บัดนี้อีกฝ่ายกลับเสนอตัวเข้ามาหามันตรงๆ
หวึ่ง!!!
ทั่วร่างอันใหญ่โตของมังกรปีศาจพลันระเบิดพลังชีวิตและเลือดเนื้อออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด เงามังกรพาดผ่านไปถึงฟากฟ้า มันแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า คำรามก้องเปล่งรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวออกมา กดดันทั่วทุกพื้นที่บนเทือกเขาคุนหลุน
เวลาช่วงเวลานี้
ตั้งแต่บนยอดจนถึงตีนเขา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างรู้สึกอยากจะคุกเข่าลงกับพื้น ราวกับถูกกดขี่ด้วยแก่นแท้แห่งพลังจนจิตใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนว่างเปล่า
เห็นได้ชัดว่ามังกรปีศาจนั้นสิ้นหวังเต็มที พลังงานชีวิตและเลือดเนื้อของมันเสื่อมถอยลงมากแล้ว แต่มันยังต้องกระตุ้นพลังของตนเองด้วยวิธีการเช่นนี้เท่ากับเป็นการมองหาความตาย อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่มันสามารถดูดกลืนซูฉินเข้าไปได้ ด้วยพลังอันมหาศาลของซูฉินจะต้องทำให้มันได้รับสิ่งตอบแทนกลับมาอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแต่จะสามารถมีชีวิตยืนยาวขึ้นได้อีกหลายร้อยหลายพันปี แต่ยังเป็นไปได้ที่จะสลัดพันธนาการของวิหารการสงครามและเรียกคืนอิสรภาพกลับมาได้
หลังจากผ่านเวลามาหลายหมื่นปี แม้แต่วิหารการสงครามก็ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป และมันกำลังเสื่อมโทรมลงอย่างมาก ไม่เช่นนั้นมังกรปีศาจจะไม่สามารถออกมานอกวิหารการสงครามเช่นนี้ได้
อย่างไรก็ตาม
เมื่อเผชิญกับฉากที่ยิ่งใหญ่เทียมฟ้า ท่าทีของซูฉินยังคงสงบนิ่งไม่แยแส เขาเพียงยกมือขวาขึ้นเบาๆ
“ตายเสีย”
ซูฉินค่อยๆ ยืดฝ่ามือออกมา
เมื่อฝ่ามือกางออกจนสุด มีพลังของห้าหมัดเทพเจ้าสายฟ้าที่แข็งแกร่ง ผสานเข้ากับพลังสายพุทธอันยิ่งใหญ่ที่มีฤทธิ์ปราบพลังของมารปีศาจ นอกจากนี้ยังมีพลังของคัมภีร์มารเก้าวิถีอันลึกซึ้งกว้างขวาง.......ในชั่วพริบตา ก็มีเคล็ดวิชาอันยิ่งใหญ่ไร้เปรียบอย่างน้อยก็หลายร้อยหลายพันวิชาถูกเผยออกมาจากฝ่ามือนี้ ซูฉินเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาอันทรงพลังเหล่านี้อย่างสมบูรณ์ กระทั่งเหนือไปกว่าผู้ที่คิดค้นวิชา
สุดท้าย เคล็ดวิชาอันไร้ที่เปรียบหลายร้อยหลายพันชิ้นก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ผสานเข้ากับฝ่ามือของซูฉิน ประกอบกับกายเนื้อที่ทรงพลังมหาศาล อาจกล่าวได้ว่าพละกำลังทั้งหมดกว่าครึ่งของซูฉินได้ทุ่มออกไปในคราวเดียว
หวึ่ง!!
พลังฝ่ามือของซูฉินนั้นหลอมรวมกันจนถึงขีดสุด คนนอกที่ได้เห็นก็จะคิดว่าเป็นเพียงฝ่ามือธรรมดา เมื่อเปรียบเทียบกับมังกรปีศาจที่กระตุ้นทั้งพลังชีวิตและเลือดเนื้อทั่วร่างจนเกิดเป็นภาพเงามังกรจางๆ ฝ่ามือของซูฉินนั้นแลดูไม่โดดเด่นไปในทันที
อย่างไรก็ตาม
ช่วงเวลาต่อมา
ทั้งสองฝ่ายก็เข้าปะทะกัน
พลังอันน่าหวาดกลัวปะทุแผ่กระจายออกมาทันที ราวกับท้องฟ้าและผืนดินถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ คลื่นพลังจากจุดศูนย์กลางการปะทะระหว่างซูฉินและมังกรปีศาจก็แพร่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
ฝ่ามือของซูฉินหยุดนิ่ง พลังจากการรวมเคล็ดวิชาอันไร้เทียมทานนับร้อยนับพันได้ถูกเปิดเผยออกมาในเวลานี้ พลังของมันเพียงพอที่จะทำลายตำนานยุทธในระดับนภาชั้นที่แปดและสะเทือนขอบเขตตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่เก้า
“ตูม!!”
ท่ามกลางสายตาอันตื่นตะลึงของทุกคน
ด้วยฝ่ามือของซูฉิน ร่างมังกรขนาดยักษ์เริ่มปริแตก เกิดเป็นบาดแผลอันน่ากลัวเกิดขึ้นเรื่อยๆ
หากไม่ใช่เพราะในช่วงวิกฤติ มีแสงจางๆ ปรากฏออกมาจากร่างของมังกรปีศาจ ป่านนี้มันคงถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว
ผู้ชมต่างเงียบกริบ
ยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดต่างตกตะลึง
ไม่มีใครคาดคิดว่าซูฉินจะน่ากลัวมากเพียงนี้ แม้แต่มังกรปีศาจที่คอยปกป้องวิหารการสงครามมาจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ถึงอกถึงใจจริงๆ! มา มาลองอีกสักตั้ง!!”
หลังจากที่ซูฉินฟาดฝ่ามือออกไป จิตวิญญาณการต่อสู้ภายในใจเขาก็เดือดพล่าน พลังชีวิตและเลือดเนื้อที่เทียบเทียมหรืออาจจะเหนือกว่ามังกรปีศาจปรากฏขึ้นและล้อมรอบทุกคนเอาไว้
ซูฉินก้าวเดินไปข้างหน้า ตรงเข้าหามังกรปีศาจ ยกมือขวาขึ้นอีกครั้ง แล้วคว้าออกอย่างเชื่องช้า
“กร๊าซ!!!”
มังกรปีศาจส่งเสียงครวญคร่ำ ในตอนนี้ทำไมมันจะไม่รู้ว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูฉิน ไม่มีแม้แต่คุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าไปต่อสู้พัวพันด้วย
ในพริบตาหลังจากนั้น
มังกรปีศาจก็เปลี่ยนไปเป็นสายฟ้าสีดำอีกครั้ง และหนีไปยังวิหารการสงคราม ซูฉินน่ากลัวอย่างยิ่ง ถ้ายังอยู่ต่อ เกรงว่าตัวมันคงตกตายลงไปจริงๆ
“หนีแล้วงั้นหรือ?”
ซูฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ต้องบอกว่าความเร็วของมังกรปีศาจที่กลายเป็นสายฟ้าสีดำนั้นรวดเร็วมาก หากไม่ใช่เพราะอาณาเขตของซูฉิน บางทีอาจจะตอบสนองไม่ทันก็เป็นได้
“จะหนีไปได้จริงๆ งั้นหรือ?”
ซูฉินเปล่งประกายเจิดจ้าราวกับเป็นดวงตะวันขนาดมหึมา พลังซ้อนทับกันจนในที่สุดดวงตะวันสีทองก็ควบแน่นออกมา และเป็นซูฉินที่ยืนอยู่ตรงกลางของดวงตะวัน มีอีกาทองคำสามขาโบยบินอยู่ภายใน ปลดปล่อยกลิ่นอายอันแข็งแกร่งแห่งอมตะนิรันดร์
ภายใต้การเสริมพลังของอีกาทองคำสามขานี้ ไอพลังของซูฉินก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้จบ และมือขวาที่ยื่นออกมาก็คว้าจับมังกรปีศาจไว้ได้อย่างง่ายดาย จากนั้นจึงดึงมังกรปีศาจด้วยมือซ้าย ฉีกมังกรปีศาจที่มีความยาวหลายร้อยเมตรออกเป็นสองส่วน
เลือดมังกรสีดำร่วงหล่นโปรยปรายลงจากฟากฟ้า
ไม่ว่ามังกรปีศาจจะดิ้นรนเพียงใด มันก็เปรียบเหมือนแผ่นกระดาษบางๆ ภายใต้น้ำมือของซูฉินที่สามารถฉีกมันให้ขาดออกจากกันได้อย่างง่ายดาย
ในปีที่เก้าของราชวงศ์ถังรัชสมัยปัจจุบัน ซูฉินได้ฉีกกระชากร่างของมังกรปีศาจบนยอดเขาคุนหลุน