ตอนที่แล้ว459-460
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป463-464

461-462


Ep.461

[ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] เปี่ยมไปด้วยพลังเวทย์ของธาตุทั้งห้า เหมือนกับเจ้าของของมัน

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ซูเฉินเป็นปรมาจารย์มนตราเลเวล 5  พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งของเขาก็มีอยู่ 5 ธาตุเช่นกัน

ที่สำคัญก็คือ พลังเวทย์ในหินนี้ มิใช่แยกจากกัน แต่ทั้งห้าม้วนเกลียวเป็นหนึ่งเดียว ใช้โจมตีเพียงครั้งจะเทียบเท่ากับการระเบิดพลังเวทย์ทั้งห้าธาตุพร้อมกัน

หลังจากทบทวนข้อมูลที่ได้มา  ซูเฉินต้องสูดหายใจลึก พยายามข่มอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้

ก่อนที่ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] จะปรากฏขึ้น กระบวนท่าสังหารที่ทรงพลังที่สุดของเขาจะเกิดจาก [กระบี่แยกฟ้าแห่งความโกลาหล]

แต่เวลานี้ พลังทำลายล้างของ [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] นั้นไม่ด้อยไปกว่ากันเลย แค่น้ำหนัก 108,000 จินเพียงอย่างเดียว ก็มีใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถต้านทานได้แล้ว

เกรงว่าต่อให้เป็นยักษ์ไททัน โดนมันเข้าไป ก็คงถูกทุบกลายเป็นเนื้อเหลว

ควบคู่ไปกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวของธาตุทั้งห้า ยามพลังทั้งสองอยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว แทบไม่มีใครสามารถเอาชนะได้

ถึงจุดนี้ ซูเฉินได้รับไพ่ตายมาอีกหนึ่งใบ กำลังรบของเขาเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก

เนื่องจากการเดินทางสู่เกาะซูหวูต้องใช้เวลาหลายวัน ยามว่างเว้น ทุกคนจึงรวมตัวกันเพื่อทานบาร์บีคิว เปิดเพลงฟัง และเล่นเกมไพ่โต้วตี้จู่

เฉินเมิ่งเฟยค่อยๆคลายจากอารมณ์เศร้า กลืนไปกับบรรยากาศครื้นเครง

จนวันที่ห้า บนหน้าจอควบคุมส่วนกลางในที่สุดก็พบสัญญาณของเกาะซูหวู

ซูเฉินลองสำรวจดู แต่แล้วคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน

เห็นแค่เพียงในสถานที่ที่เรียกว่า ‘ที่ราบฉิงหลวน’ มีจุดแสงจำนวนมากกำลังรวมตัวกัน จำนวนน่าจะถึงหลักหมื่น

จุดสีแดง , สีน้ำเงิน และสีดำ มารวมกันอยู่ในที่เดียว แต่แบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน

ด้านหนึ่งคือจุดสีดำประมาณ 1,000 จุด และสีน้ำเงินอีกหลายพันจุด อีกด้านเป็นจุดสีดำประมาณ 2,000 จุด และจุดสีแดงอีกนับหมื่น

ซูเฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย เอ่ยพึมพำออกมา “เป็นไปได้ไหมว่า มนุษย์กับสิ่งมีชีวิตต่างเผ่ากำลังร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับคลื่นซอมบี้และพวกต่างเผ่าอีกกลุ่ม?”

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดเดาของเขาเท่านั้น จะเป็นอย่างที่คิดหรือไม่ คงต้องลองดูถึงจะแน่ใจ

หลังจากไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง ซูเฉินก็กล่าวว่า “เสี่ยวจือ ขยายภาพหน้าจอซิ”

หน้าจอควบคุมส่วนกลางเริ่มเคลื่อนไหว ไม่นานก็ปรากฏภาพของมนุษย์ , ซอมบี้ และพวกต่างเผ่าขึ้น

สิ่งที่ซูเฉินนึกไม่ถึงก็คือ พวกต่างเผ่าในที่นี้ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกัน ดูเหมือนจะแยกออกเป็นสามเผ่าพันธุ์

เผ่าแรกอยู่รวมกับมนุษย์ พวกเขามีรูปร่างสั้นและบึกบึน ดูจากความสูงคาดว่าคงไม่ถึงหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ

ขณะที่พวกต่างเผ่าฝั่งซอมบี้ ซูเฉินเคยเห็นมาก่อนทั้งหมด

ส่วนใหญ่คือพวกเผ่าครึ่งออร์ค ที่เหลือเป็นเผ่าอมตะอีก 10 กว่าตน ทั้งสองร่วมมือกัน ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร แต่สิ่งที่ซูเฉินคิดไม่ออกก็คือ พวกต่างเผ่าตัวเตี้ยเหล่านั้น คือเผ่าพันธุ์อะไรกัน?

แล้วเหตุใดถึงได้อยู่ร่วมกับทางฝั่งมนุษย์?

ทำไมถึงไม่สู้กัน?

“เสี่ยวจือ รีบไปยังที่ราบฉิงหลวน” ซูเฉินแทบอดใจรอไม่ไหว

ซอมบี้นับหมื่นและพวกต่างเผ่านับพัน หากเขาสังหารลงทั้งหมด  น่าจะดรอปชิ้นส่วนได้หลายพันเป็นอย่างน้อย

“รับทราบ”

[รถสึกอัจฉริยะ] รับคำสั่ง แล่นเรือไปยังเกาะซูหวูอย่างรวดเร็ว

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซูเฉินที่กำลังเฝ้าหน้าจอควบคุม ได้พบว่าทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กันแล้ว และนับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เพราะแค่ปะทะกันนิดเดียว ก็มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย

อ้างอิงตามความร้อนแรงในการสังหารนี้ เกรงว่าใช้เวลาไม่นานการต่อสู้คงสิ้นสุดลง

ซูเฉินไม่ต้องการเห็นฉากนี้ หากพวกต่างเผ่าและซอมบี้ตายหมด เขาจะไปดรอปชิ้นส่วนจากไหน?

“หัวหน้าหวู่ ไปเจอกันที่ที่ราบฉิงหลวน ผมขอตัวล่วงหน้าไปก่อน”

ซูเฉินออกคำสั่ง เปิดประตูรถ และวิ่งนำไปเพียงลำพัง

ความเร็วของ [รถศึกอัจฉริยะ] ไม่นับว่าเชื่องช้า มันเร่งเครื่องได้ถึง 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เมื่อเทียบกับความเร็วของซูเฉินแล้ว ยังห่างชั้นกันนัก

ซูเฉินเหยียบย่ำลงในอากาศที่ว่างเปล่า เปิดใช้งาน [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] ระเบิดความว่องไวที่ไม่ด้อยไปกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 7 พริบตาเดียวหายวับไปสุดขอบฟ้า

Ep.462

“รวดเร็วมาก …”

เฉินเมิ่งเฟยมองไปยังทิศทางที่ซูเฉินจากไปด้วยความหลงใหล พึมพำเสียงต่ำ

กำลังรบของซูเฉินนั้นแข็งแกร่งที่สุด แต่ไม่เคยนึกเลยว่ากระทั่งความเร็วก็ยังเป็นเลิศเหนือผู้ใด ผู้ฝึกตนครบวงจรเช่นซูเฉิน เป็นคนที่หาได้ยากในโลกใบนี้อย่างแท้จริง

อีกด้านหนึ่ง หลังจากซูเฉินเข้ามาในเกาะซูหวูแล้ว เขาก็ร่อนลงพื้นทันที

เมื่อเทียบกับท้องฟ้า การวิ่งบนพื้นจะยิ่งช่วยระเบิดความเร็วออกมาได้อย่างเต็มที่

สับฝีเท้าไปตลอดเส้นทาง ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เขาก็มาถึงที่ราบชิงหลวน

ช่วงเวลานี้สถานการณ์รบร้อนระอุเป็นอย่างยิ่ง ศพนอนเกลื่อนเต็มท้องทุ่ง เลือดสดๆเจิ่งนองไปทุกหนแห่ง กลิ่นคาวลอยคละคลุ้งในอากาศ

ซูเฉินหรี่ตากวาดสำรวจมอง และพบว่าฝั่งพวกต่างเผ่าตัวเตี้ยและมนุษย์กำลังเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง พวกเขาตายไปเกือบครึ่งแล้ว คิดว่าอีกไม่นานคงถูกสังหารหมู่

เห็นแบบนี้ เขาก็รีบกระโจนเข้าไปทันที สิ่งแรกที่ทำคือกำจัดฝูงซอมบี้

ได้ยินเพียงเสียงพายุสายฟ้าดังกึกก้องระเบิดลงกลางฝูงซอมบี้

ซูเฉินกางฝ่ามือและร่ายเวทย์พายุสายฟ้า ซอมบี้ในจุดนั้นกว่า 7-8 ร้อยตัวตายคาที่ทันที

จากนั้นก็ตามด้วยเวทย์ธาตุอื่นๆ ผลัดเปลี่ยนกันร่ายออกมาในสนามรบ

ใช้เวลาไม่ถึงนาที ซอมบี้นับหลายพันตัวถูกฆ่าตาย

ความน่าเกรงขามที่ซูเฉินแสดงออกมา บวกกับการโจมตีอันทรงพลัง ได้ดึงดูดความสนใจของทั้งสองฝ่ายอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันการต่อสู้ได้หยุดชะงักลง  ทั้งหมดต่างจับจ้องไปทางซูเฉิน

เมื่อเห็นว่าเป็นมนุษย์รุ่นเยาว์ ห้วงอารมณ์ของทั้งสองฝ่ายก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ฝ่ายมนุษย์บังเกิดความตื่นเต้นจนอธิบายไม่ถูก พวกเขาเริ่มกระซิบกระซาบกัน

“เป็นผู้แข็งแกร่งจากฝั่งมนุษย์ของพวกเรา!”

“โอ้สวรรค์! เขายังเด็กนัก แต่กำลังรบกลับโดดเด่นไม่แพ้ใคร!”

“เขามาจากขุมกำลังไหนกัน? ฉันไม่เคยเจอเขามาก่อน”

“จะต้องเป็นยอดฝีมือที่เร้นกายอยู่แน่ๆ”

“เขาน่าจะเป็นปรมาจารย์มนตราเลเวล 5 ถูกไหม?”

“ต้องเป็นปรมาจารย์มนตราเลเวล 5 อย่างแน่นอน และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกธาตุอีกด้วย!”

เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นทางฝั่งมนุษย์แล้ว ความฮึกเหิมของฝ่ายครึ่งออร์คลดทอนลงไปมาก สีหน้าของทุกตนไม่ค่อยสู้ดีนัก

แม้ซูเฉินจะปรากฏกายเพียงลำพัง แต่กำลังรบที่เขาแสดงออกมา กลับสามารถสังหารซอมบี้นับพันในชั่วพริบตาด้วยมือเดียว นี่ทำให้พวกมันรู้สึกหวาดกลัว

แล้วอีกอย่าง ซูเฉินยังเป็นมนุษย์ บางทีอาจเป็นผู้ช่วยที่อีกฝ่ายเชิญมาก็ได้

ในกรณีนี้ สถานการณ์นับว่าไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเขา

“มนุษย์! เหตุใดเจ้าจึงฆ่าคนของเรา?”

เผ่าครึ่งออร์คเลเวล 4 ก้าวออกมาข้างหน้า คำรามใส่ซูเฉินด้วยความโกรธ

“ก็เห็นหน้าพวกแกแล้วมันรู้สึกรกลูกตา เลยอยากจะกำจัดพวกต่างเผ่าทิ้งซะให้หมด เป็นไง เหตุผลนี้ฟังดูดีไหม?” ซูเฉินกล่าวไปเรื่อยเปื่อย แสยะยิ้มเย็น

ทันทีทีคำนี้หลุดออกมา บังเกิดความโกลาหลขึ้นโดยรอบ

บ้าไปแล้ว!

จองหองนัก!

กล้าดีอย่างไร!

ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตต่างเผ่านับหมื่นตน แต่ซูเฉินเอ่ยปากว่าจะฆ่าพวกมันทั้งหมด ผายลมเช่นนี้ไม่กลัวกัดลิ้นตัวเองตายเอาหรือ?

“กับอีแค่ปรมาจารย์มนตราเลเวล 5 ทำมาเป็นปากดี อย่างเจ้าต้องเจอข้า!”

ปรากฏเผ่าอมตะร่างผอมเพรียวก้าวออกมาจากกลุ่มเผ่าครึ่งออร์ค ตัดสินจากกลิ่นอาย คาดว่าน่าจะเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5

“ขยะอย่างแก ฉันใช้แค่มือเดียวก็พอแล้ว!”

ซูเฉินกวาดสายตามองอีกฝ่าย ฉีกยิ้มกล่าวแดกดัน

พริบตานั้นเอง รอบด้านก็บังเกิดเสียงฮือฮาขึ้นอีกครั้ง

ความเย่อหยิ่งและสำคัญตนของซูเฉิน แม้แต่ฝ่ายมนุษย์ด้วยกันยังต้องอ้าปากค้าง

เป็นความจริงที่ว่าซูเฉินแข็งแกร่งมาก แต่เผ่าอมตะเลเวล 5 ก็ไม่ใช่ตัวกินพืชเช่นกัน มีสิทธิ์อะไรถึงมาบอกว่าจะสังหารมันด้วยมือเดียว

คิดโอ้อวดมันก็ต้องมีขอบเขตบ้างถูกไหม?

“แล้วข้าจะรอดูว่าเจ้าจะมีความสามารถดังปากว่าจริงหรือไม่!!” ชาวเผ่าอมตะตัวผอมโกรธจัด ร้องคำราม พุ่งเข้ามาหมายสังหารซูเฉิน

ซูเฉินปาดจมูก ไม่สนใจใดๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าประชิดตัว

“นี่เขาบ้าไปแล้ว?”

ฝ่ายมนุษย์บางคนร้องโวยวายด้วยความตื่นตระหนก

ซูเฉินเป็นปรมาจารย์มนตรา ข้อได้เปรียบของปรมาจารย์มนตราคือโจมตีระยะไกล แต่หากปล่อยให้ผู้วิวัฒนาการเข้ามาใกล้ จุดจบเดียวคือความตาย

ดังนั้น ฝ่ายมนุษย์จึงเห็นพ้องต้องกัน ว่าพฤติกรรมของซูเฉินเป็นเพียงการรนหาที่ตาย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด