ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2

ตอนที่ 1


ตอนที่ 1

ในวันที่เจิดจ้าแสงแดดได้ส่องเข้ามาผ่านช่องว่างระหว่างใบไม้ที่เชื่อมติดกันลงมาทำให้เกิดเงาสีดำสลับกับแสงสว่างบนพื้นดินที่ในบริเวณนั้นมีต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านทัดเทียมหมู่เมฆและเถาวัลย์ที่พันกันจนดูน่ากลัว

ส่วนใหญ่แล้วสัตว์ในป่าดงดิบมักจะออกมาหาอาหารตอนกลางคืน แต่ตอนนี้เป็นเวลายามบ่าย ภายในป่าจึงเงียบสงบและมีเพียงเสียงใบไม้ที่สั่นไหวเมื่อลมพัดเท่านั้น

เมื่อดวงตะวันเคลื่อนไปพร้อมกับใบไม้ที่แกว่งไกว ในเงามืดก็มีสิ่งมีชีวิตที่ไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมของป่าอยู่

เขาเป็นเด็กหนุ่มรูปงามซึ่งกำลังนอนอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่

ในขณะนี้คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย ขนตาหนา ๆ ของเขากำลังสั่นระริกและมีรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปากของเขาราวกับว่าเขากำลังฝันถึงบางสิ่งที่มีความสุข

"โฮกกกก!!"

แต่ทันใดนั้นมันก็มีเสียงคำรามของเสือที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้นจนทำให้แก้วหูของชายหนุ่มสั่นสะท้านและทำให้นกภายในป่าต้องบินหนีออกไปด้วยความหวาดกลัว หลังจากนั้นมันก็ได้มีเสียงของการปะทะกันดังกึกก้องพร้อมกับทำให้ต้นไม้ยักษ์ที่ชายหนุ่มกำลังนอนพักอยู่ก็แกว่งไกวไปมา

‘หอยทากจิน’ ถูกปลุกโดยเสียงคำรามของเสือ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งตัวเขาก็ได้ร่วงหล่นจากกิ่งไม้ที่อยู่บนจุดเกือบสูงที่สุด

ในระหว่างที่หล่นลงมาเขาก็กระเสือกกระสนใช้พลังจิตวิญญาณเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกลงมาอย่างน่าเกลียดจนเกินไป แต่ทว่าท่วงท่าของจินเมื่อร่อนลงมาก็ยังดูไม่สง่างามมากนัก

หลังจากที่ลงมาถึงพื้นเขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นเขาก็ต้องตกใจกับสัตว์สองตัวที่อยู่ข้างหน้าของเขา

ในบริเวณนั้นมีเสือขาวตัวใหญ่นอนอยู่ข้างต้นไม้ โดยเสือขาวตัวนี้กำลังงอขาที่แข็งแกร่งของมันราวกับว่ามันกำลังจะลุกขึ้น ในขณะที่หัวของมันเอียงทำมุมแปลก ๆ มาในทิศทางที่จินนั่งอยู่

ในขณะเดียวกันห่างออกไปไม่กี่ก้าวมีก็งูหลามขนาดยักษ์สีดำที่ได้ตั้งหัวขึ้นสูงกำลังส่ายไปมาในอากาศและรูม่านตาสีเขียวเข้มของมันก็กำลังจับจ้องมองมาที่เขาอย่างเย็นชา

สัตว์สองตัวนี้คงตกใจเพราะจินตกลงมาจากต้นไม้อย่างกระทันหันทำให้การเคลื่อนไหวของพวกมันหยุดชะงักไปชั่วขณะ

ทันใดนั้นจินก็รีบใช้สมองของหอยทากประมวลสถานการณ์อย่างรวดเร็วกว่าปกตินับ 100 เท่าและได้ข้อสรุปขึ้นมาว่า

‘สัตว์สองตัวนี้กำลังต่อสู้กันและเขาก็เป็นเพียงแค่คนที่โชคร้ายที่โดนลูกหลงเท่านั้น’

เมื่อถูกจ้องมองด้วยดวงตาทั้งสองคู่จินก็รู้สึกอายเล็กน้อย เขาจึงยกมือขึ้นมาทักทายสัตว์ทั้งสองพร้อมรอยยิ้มแห้ง ๆ

"อุ้ย!! ขอโทษทีที่มารบกวนพวกคุณนะ เชิญตีกันต่อตามสบายเลย"

หลังจากพูดเสร็จเขาก็ก้มศีรษะลงหยิบผลไม้ 2 ลูกที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดและน่าอร่อยที่สุดในบรรดาผลไม้ที่หล่นลงมาข้าง ๆ เขา จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ยืนขึ้นและเคลื่อนตัวไปทางขอนไม้แห้งซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล

การเคลื่อนไหวของเขาดูไม่รีบร้อนราวกับว่าด้านหลังเขาไม่ใช่สัตว์ร้ายสองตัวที่กำลังต่อสู้กันแต่เป็นคู่รักที่กำลังออกเดทกันอยู่

เรย์มอนด์มองดูแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจและหัวงูขนาดใหญ่ของมันก็หันไปมองเมื่อชายหนุ่มเริ่มก้าวเดิน

ในขณะนี้ชายหนุ่มคนนั้นเปลือยกายเกือบทั้งหมดโดยสวมอยู่เพียงแค่กระโปรงหญ้าหยาบ ๆ ที่ทอจากเถาวัลย์รอบเอวของเขาเท่านั้นทำให้เท้าสีขาวเหมือนหิมะตัดกับใบไม้แห้งที่กำลังแผ่อยู่บนพื้น

“มันมีพวกสายพันธุ์ที่อ่อนแอมาอาศัยที่นี่ได้ยังไง ?”

ความเป็นไปได้หลายอย่างแวบเข้ามาในหัวของเรย์มอนด์แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เพราะหลังจากที่ส่งเสียงคำรามเสือขาวก็เด้งตัวขึ้นจากพื้นแล้วดีดขาหลังก่อนที่จะกระโจนเข้ามาใส่เขา

ในขณะเดียวกันจินก็ได้พบพื้นที่ที่ค่อนข้างราบและนอนสบายบนซากขอนไม้แห้ง แต่ก่อนที่เขาจะนั่งลงมันก็มีคลื่นแสงปรากฎจากนิ้วของเขาพร้อมกับมีคลื่นน้ำบาง ๆ ปรากฏขึ้นในอากาศ

หลังจากนั้นเขาก็ได้นำคลื่นน้ำบาง ๆ ที่เขาได้เรียกออกมานี้ในการล้างผลไม้ก่อนที่จะนำเอาผลไม้ใส่เข้าไปภายในปาก ซึ่งความหวานชุ่มฉ่ำของผลไม้ที่กระจายเต็มปากของเขานั้นก็ได้ทำให้เขาต้องหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข

จินเป็นหอยทากสีทองที่บ่มเพาะพลังมานานนับพันปี ซึ่งหลังจากที่มันได้เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าขึ้นเมื่อ 2-3 วันก่อนจู่ ๆ ร่างของเขาก็กลายเป็นมนุษย์

แต่สิ่งที่ทำให้จินรู้สึกหดหู่ใจที่สุดก็คือเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถกลับร่างกลายเป็นหอยทากได้ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องคงอยู่ในร่างของมนุษย์อย่างไม่มีทางเลือก

โดยปกติการรักษารูปร่างของมนุษย์เอาไว้ตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเพราะมันจะต้องเกิดขึ้นมาจากการฝึกฝนอย่างหนักเท่านั้น แต่สายฟ้าที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติในก่อนหน้านี้กลับได้เปลี่ยนร่างกายของเขาไป

ในปัจจุบันมันยังคงอยู่ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิมันจึงทำให้อากาศที่นี่ร้อนเป็นอย่างมากจนทำให้เขาอยากที่จะหดตัวเข้าไปนอนหลับพักผ่อนภายในเปลือกของเขา แต่ในตอนนี้เปลือกของเขาได้หายไปแล้วมันจึงทำให้การนอนหลับเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสะดวกมากนัก

ส่วนเรื่องภัยอันตรายภายในป่าดงดิบก็ไม่ได้อยู่ภายในความคิดของจินแต่อย่างใดเพราะในฐานะที่เขาเป็นแฟรี่ อันตรายในระดับนี้จึงไม่สามารถที่จะคุกคามเขาได้

ในโลกปีศาจแม้ว่าหอยทากจะมีเพียงแต่คาถาระดับต่ำและไม่มีคาถาที่แข็งแกร่งอะไรนัก แต่เมือกของพวกเขาก็ถือได้ว่าเป็นพรสวรรค์ตามธรรมชาติรวมถึงทักษะการป้องกันของพวกเขาก็ถูกจัดอยู่ในลำดับต้น ๆ

แม้ว่าจินจะไม่สามารถกลับไปเป็นหอยทากได้ในช่วงเวลานี้และไม่มีเปลือกคอยป้องกันตัวเอง แต่เขาก็ยังคงมีตบะที่บำเพ็ญมานานนับ 1,000 ปี ดังนั้นเขาจึงมีวิธีการปกป้องตัวเองอีกอย่างมากมาย

ในขณะนี้จินได้กัดผลไม้เข้าไปอีกคำหนึ่งและเฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างสัตว์ป่าทั้งสองตัวที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 3 เมตร

โดยตอนนี้งูหลามยักษ์สีดำกำลังสะบัดหางของมันกระแทกเข้าใส่เสือขาวตัวใหญ่ที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นอีกครั้ง

หางของงูมีพลังมหาศาลและจินก็เหมือนจะเห็นใบมีดลมตัดผ่านอากาศออกไปในขณะที่หางขนาดยักษ์นั่นได้สะบัดออกไปอีกด้วย

“แบบนั้นแหละ”  จินกลืนผลไม้สดลงไปคำหนึ่ง ในขณะที่มองไปที่งูหลามยักษ์ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ปรบมือ

เขามีชีวิตอยู่มาหลายพันปีและได้เห็นงูหลามล่าสัตว์อื่น ๆ มานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งวิธีการโจมตีปกติที่งูหลามมักจะใช้คือการรัดและกัดเหยื่อของมันและเขาก็ไม่เคยเห็นงูหลามใช้หางมาจัดการกับคู่ต่อสู้ของมันเลย

เมื่อเสือโคร่งขาวตัวใหญ่ถูกหางของงูฟาดเข้าใส่ร่างของมันก็ปลิวออกไป 7-8 เมตรก่อนจะกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง

เมื่อเสือขาวได้ถูกกระแทกอย่างแรงมันก็ทำให้จังหวะที่มันลุกขึ้นช้าลงไปเล็กน้อย งูหลามยักษ์จึงใช้ประโยชน์จากช่องว่างนี้เลื้อยเข้าไปหาศัตรูด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะอ้าปากขนาดใหญ่ของมันแล้วกัดคอเสือยักษ์พร้อมกับใช้หางของมันรัดพันเหยื่อด้วยความรวดเร็ว

ในเวลานี้เลือดสีแดงสดไหลออกมาเปรอะเปื้อนขนสีหิมะของเสือโคร่งสีขาวขนาดใหญ่และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้มันดิ้นรนอย่างทุรนทุราย

เสือขาวตัวใหญ่ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งในขณะที่อุ้งเท้าที่ไม่ได้ถูกรัดพันกำลังตะกายอยู่ในอากาศ มันพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากการถูกกัดและรัดจนตาย

ทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหวงูหลามจะรัดมันแน่นขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป 1 นาทีในที่สุดเสือขาวตัวใหญ่ก็หนีไม่พ้นมันจึงพยายามเอียงศีรษะกัดร่างของงูหลามเป็นครั้งสุดท้าย

จากนั้นไม่นานร่างของเสือโคร่งก็ค่อย ๆ บิดเบี้ยวจนเสียรูปก่อนจะมีเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดของมันแล้วตายไป

การได้ดูการต่อสู้ของสัตว์ร้ายนี้ทำให้จินรู้สึกตื่นเต้นมาก และในปัจจุบันเขาก็ได้แทะเนื้อบางส่วนออกจากแกนของผลไม้ก่อนที่จะโยนแกนผลไม้ที่เหลือทิ้งด้วยท่าทีอันสบาย ๆ พร้อมกับเลียน้ำผลไม้ที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากของเขาด้วยสีหน้าอันพึงพอใจ

เขาอาศัยอยู่ในป่าดงดิบแห่งนี้มาหลายวันแล้ว ซึ่งสำหรับจินที่อาศัยอยู่ในสังคมที่วุ่นวายมานานหลายสิบปีการได้มาอยู่ในที่ ๆ ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต, ดูทีวีหรือนอนหลับสบาย ๆ ได้มันคือชีวิต...แต่ไม่ใช่ชีวิตปกติของหอยทาก

นี่คือหายนะครั้งใหญ่

เมื่อได้ชมการต่อสู้ของสัตว์ร้ายในบริเวณนั้นจินก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น เขาจึงปรบมืออีกครั้งก่อนที่จะยืนขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเดินทางต่อไป

เขาต้องออกจากป่าดงดิบนี้ไปให้ได้ เขาต้องหาที่ที่มนุษย์อาศัยอยู่โดยเร็วที่สุดแล้วค่อยติดต่ออาจารย์ของเขา

หากเขาไม่ทำการติดต่อไปก่อนชายชราขี้เหนียวผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขาย่อมไม่ทำการติดต่อเขามาก่อนอย่างแน่นอน เพราะอีกฝ่ายกลัวว่าเขาจะไปหาเมื่อเขาได้กลายเป็นมนุษย์แบบนี้แล้ว

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้จินก็ยู่ริมฝีปากของเขาเล็กน้อยซึ่งอันที่จริงเขาก็ได้คิดเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของเขาหลังจากที่ได้กลายมาเป็นมนุษย์มาก่อนแล้ว

เขาได้วางแผนไว้ว่าจะเปิดร้านค้าออนไลน์แล้วขายน้ำตบหอยทาก, เจลล้างพิษหอยทาก, ครีมเมือกหอยทาก...

เมือกหอยทากของเขาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามชั้นดีและมันยังจำเป็นจะต้องใช้เป็นส่วนผสมเพียงไม่กี่หยด แต่มันก็สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการขึ้นมาได้

บางทีถ้าหากกิจการของเขารุ่งเรืองเขาก็อาจจะทำการสร้างบริษัทเป็นของตัวเองและมันก็จะทำให้เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์ไปได้ในที่สุด

"จึ๊ก!"

จินรีบยกเท้าขึ้นทันทีที่รู้สึกเจ็บ จากนั้นเขาก็มองเห็นบาดแผลที่ถูกหนามทิ่มตำที่ฝ่าเท้าของเขา

“การเป็นมนุษย์แบบนี้มันไม่ดีเลย มันบาดเจ็บง่ายจนเกินไป ตอนที่ฉันยังเป็นหอยทากแม้ว่าฉันจะเคลื่อนที่ผ่านใบมีดคม ๆ แต่ฉันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำ”

เมื่อได้รับบาดเจ็บจินก็ได้นำเมือกหอยทากของเขาออกมาทาตรงบริเวณบาดแผลเล็กน้อย ซึ่งมันก็ช่วยทำให้บาดแผลเล็ก ๆ นี้สมานตัวกันอย่างว่องไวด้วยอัตราความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

แม้ว่าตอนนี้จะไม่สามารถกลับเป็นหอยทากได้แต่เปลือกของเขาก็ยังคงอยู่ เพียงแต่เปลือกของเขาไม่ได้อยู่บนหลังเหมือนเดิมอีกแล้วแต่มันกลับเข้าไปอยู่ภายในท้องของเขาแทน

จินไม่ได้สนใจที่จะหาใบไม้ขนาดใหญ่มาพันเท้าไว้เพราะอากาศที่นี่ร้อนอบอ้าว ซึ่งถ้าเขาเอาใบไม้มาห่อเท้าไว้ 2-3 ชั้นเขาจะรู้สึกไม่สบายใจและเมือกของเขาสามารถสมานแผลได้ในชั่วพริบตา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะเดินด้วยเท้าเปล่าต่อไป

สิ่งที่จินไม่รู้ก็คือเพียง 2 นาทีหลังจากที่เขาเดินจากไป เสือขาวตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหลังเขาซึ่งถูกรัดตายโดยงูหลามยักษ์ก็ค่อย ๆ กลายเป็นปีศาจที่มีโครงกระดูกบิดเบี้ยวและดวงตาที่แสดงความเกลียดชังออกมาอย่างรุนแรง

เรย์มอนด์ยกศีรษะขึ้นในขณะที่นัยน์ตาแนวตั้งสีเขียวเข้มของเขาเหลือบมองไปที่ขอนไม้แห้งและพบว่าจินไม่อยู่ที่นั่นแล้ว

เขาจึงเลือกที่จะพักสักครู่ก่อนที่จะคลายหางงูออกอย่างช้า ๆ และใช้ปลายหางพลิกศพขึ้น

แน่นอนว่ามีสัญลักษณ์แปลก ๆ อยู่ที่นั่น มันเหมือนกับสัญลักษณ์ของออร์คทั้ง 3 ตัวที่เขาพึ่งฆ่าไปเมื่อสองวันก่อน

จากนั้นเรย์มอนด์ก็ใช้หางกวาดใบไม้หนา ๆ โดยรอบเพื่อทำการฝังศพ

เมื่อ 7 วันก่อนเขาไล่ตามราชินีเซิร์กมาแต่จู่ ๆ เขาก็ได้พบกับพลังงานที่ทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเลือดทั้งหมดของเขาถูกเร่งจนถึงขีดสุด และมันก็ได้ทำลายแกนพลังงานของเขาพร้อมกับทำให้เขาได้ตกลงมาบนดาวลึกลับแห่งนี้

แน่นอนว่าในตอนนี้เขาได้กลายเป็นคนที่ไม่มีพลังอีกต่อไป

โชคดีที่รูปร่างสัตว์ของเขาเป็นงูหลามที่ไม่มีแขนขา ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้รูปร่างของสัตว์เพื่อปกป้องตัวเองได้ชั่วคราว

จากนั้นเขาก็เหลือบตาไปมองซากศพที่ถูกใบไม้ฝังจนมิด

นี่คือร่างของออร์คระดับ 4 ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกมันไม่ได้สูงมากนัก มันคล้ายกับทหารธรรมดาที่มีความแข็งแกร่งกว่าปกติเพียงเล็กน้อย

เมื่อไม่กี่วันก่อนเขายังคงมีพลังการต่อสู้อยู่ในระดับ 8 ซึ่งเขาก็สามารถที่จะทำให้คู่ต่อสู้เหล่านี้ไม่สามารถที่จะขยับตัวได้เพียงเพราะเขาได้ปลดปล่อยพลังออกมาเท่านั้น  แต่ในตอนนี้แกนพลังงานของเขาได้แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วมันจึงทำให้เขาไม่สามารถที่จะเรียกใช้พลังงานในร่างกายออกมาได้อีกต่อไปและทำให้พลังระดับ 8 ของเขากลายเป็นสิ่ง ไร้ความหมายไปเลย

ในตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาสามารถใช้ได้นั้นก็คือสัญชาตญาณสัตว์ร้ายและประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชนของเขาเท่านั้น

หลังจากเรย์มอนด์ฝังศพของเสือขาวเรียบร้อยแล้ว เขาก็เลื้อยช้า ๆ ไปทางแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลออกไป

เขาต้องการให้ปลาและกุ้งในแม่น้ำได้กินซากศพของเขา

ในตอนนี้บนร่างกายของเขามีบาดแผลอยู่มากมายจนเกินไปและอากาศภายในสถานที่แห่งนี้ก็ร้อนจัดเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาก็คาดว่าเขาคงจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อก่อนที่จะถูกคนพวกนั้นได้ฆ่าสังหารเขาเสียอีก

ในขณะเดียวกันหอยทากสีทองก็กำลังนั่งอยู่บนโขดหินข้างแม่น้ำสายเล็ก ๆ นั้นโดยที่เท้าของเขากำลังเหยียดลงไปในแม่น้ำเพื่อคลายร้อน

ในน้ำมีปลาตัวเล็ก 2-3 ตัวว่ายไปมาอยู่ที่เท้าของเขา ซึ่งมันก็ดูเหมือนว่านี่จะเป็นลาภปากของเขาอีกครั้ง

จินได้ใช้พลังวิญญาณกระตุ้นพืชน้ำขนาดเล็กให้ขยับเข้าหาปลาตัวเล็กอย่างเงียบ ๆ แล้วพุ่งเข้าไปจับมันอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้เจ้าปลาน้อยก็กำลังดิ้นรนด้วยความหวาดกลัว

แต่พืชน้ำพวกนั้นไม่ได้รัดมันแน่นมากนักทำให้เมื่อปลาน้อยดิ้นไปมา 2-3 ครั้งพวกมันก็หลุดออกจากพืชน้ำและว่ายหนีไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นอย่างนั้นจินก็ได้หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานและเผยให้เห็นเขี้ยวเล็ก ๆ 2 ซี่ตรงมุมปากของเขา

เขาคิดว่าปลาคงกลัวเขามากและในตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรจะเล่นพอดีอดีตหอยทากสีทองจึงกระโดดลงไปในแม่น้ำ

แม้ว่าอากาศที่นี่จะร้อนมากแต่น้ำในแม่น้ำก็ยังค่อนข้างเย็น จินจึงค่อย ๆ  ก้าวเท้าลงไปในน้ำอย่างช้า ๆ จนในที่สุดร่างของเขาทั้งร่างก็ได้จมลงไปในน้ำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด