ตอนที่แล้วChapter 16 : สัตว์เลี้ยงจิ้งจอกเก้าหาง! ความสามารถคือสุดยอดความเร็วในการเคลื่อนที่!?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 18 : แหล่งเพาะเนื้ออันแปลกประหลาด – เนื้อย่างอันหอมหวาน

Chapter 17 : จับหมาป่าทรายเขาเดียวแบบเป็นๆ


[ขุดไปทางด้านหลังท่านจะพบกับหมาป่าทรายเขาเดียว – ทรัพยากรในสุสานแห่งนี้มีอยู่มากมาย , จิ้งจอกน้อยเพียงตัวเดียวก็มากพอจะจัดการกับหมาป่าทรายเขาเดียวลงได้แล้ว การต้องพึ่งสตรีไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด]

ไคลน์พึมพำ “พึ่งสตรีเนี่ยนะ”

ยังไงก็ตามในเมื่อจิ้งจอกน้อยสามารถจัดการกับหมาป่าทรายเขาเดียวได้ถ้างั้นเขาก็คงไม่จำเป็นต้องลงมือ

ไคลน์กล่าว “จิ้งจอกน้อยมาเถอะ”

ไคลน์ย่อตัวและโบกมือเรียกจิ้งจอกน้อยที่กำลังกลิ้งไปมาอย่างมีความสุขอยู่บนพื้น

จิ้งจอกน้อยกระโดดเข้าสู่อ้อมอกของไคลน์และนำหัวของเธอถูกับอกของเขาอย่างรักใคร่ (คนแปลใช้คำว่าเธอจริงๆนะ)

หูสีชมพูทั้งสองข้างของเธอส่ายไปส่ายมาอย่างน่ารัก

ไคลน์พูด “จิ้งจอกน้อยฉันมีภารกิจจะมอบให้เธอ”

ทันใดนั้นท่าทีหน้ารักของจิ้งจอกน้อยก็มลายหายไปและรับฟังไคลน์อย่างตั้งใจ ไคลน์เห็นดังนี้จึงยิ้มแล้วกล่าวขึ้น “ฉันจะฉาบยาสลบเอาไว้บนเล็บของเธอ จำเอาไว้นะว่านี่คือยาสลบอย่าเผลอไปเลียล่ะ”

จิ้งจอกน้อยเอียงคอคิดอยู่ซักพักจากนั้นก็พยักหน้ารับคำ

ไคลน์พูดต่อ “พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังสุสานทางด้านหลัง หลังจากที่เข้าไปที่นั่นพวกเราจะต้องเผชิญหน้ากับหมาตัวใหญ่ตัวหนึ่งและภารกิจของเธอก็ง่ายมาก ใช้เล็บที่เคลือบยาสลบเอาไว้ข่วนไปที่เจ้าหมายักษ์นั่นซักหลายแผลหน่อยแต่อย่าฆ่ามันเชียวล่ะเข้าใจไหม?”

ไคลน์หยิบยาสลบออกมา

จิ้งจอกน้อยเองก็นั่งลงด้วยสีหน้าจริงจัง

นี่เป็นภารกิจแรกของเธอดังนั้นเธอจึงต้องการโชว์ให้นายท่านของเธอเห็นว่าเธอยอดเยี่ยมเพียงใด

“ยื่นขาหน้าข้างขวามาหน่อย”

นิ้วของไคลน์แตะลงบนขาหน้าข้างขวาของจิ้งจอกน้อยอย่างแผ่วเบา

จิ้งจอกน้อยเองก็ยื่นขาหน้าข้างขวาให้อย่างเชื่อฟัง

พร้อมกับเสียงอันคมกริบที่ดังขึ้นกงเล็บทั้งสี่ที่ดูแข็งราวโลหะก็พุ่งออกมาจากปุ่มเนื้อ

นิ้วของไคลน์แตะลงบนผงยาสลบและฉาบมันลงบริเวณปลายกงเล็บของจิ้งจอกน้อยอย่างระมัดระวัง

ระบบแจ้งเตือนพลันแจ้งขึ้นมาว่าขาเหลือยาสลบชั้นเยี่ยมให้ใช้ได้อยู่อีก2ครั้งท่านั้น

ไคลน์ที่กังวลว่ายาจะแรงไม่พอจึงดังสินใจใช้มันจนหมด

ในเมื่อราคาของยาสลบมันไม่ได้แพงมากถ้างั้นเพื่อความปลอดภัยก็เพิ่มไปอีกสองเท่าเถอะ

ไคลน์กล่าวกับจิ้งจอกน้อย “ตามฉันมา ก่อนที่เราจะเข้าไปยังสุสานถัดไปจะดีกว่านะถ้าเธอไม่ปล่อยให้ผงยาสลบบนเล็บทั้งสี่นั่นร่วงเพราะงั้นเก็บเล็บกลับไปก่อน”

ไคลน์ตบศรีษะของจิ้งจอกน้อยเบาๆและหยิบพลั่วขึ้นมาเริ่มทำการขุด

จิ้งจอกน้อยเองก็เดินตามเขามาติดๆ

ไม่นานนักหลุมดำขนาดไม่ถึง20เมตรก็ปรากฏ

ไคลน์หันกลับมาพูดกับจิ้งจอกน้อยที่ยืนยกขาหน้าข้างขวาเอาไว้ด้วยท่าทีอ่อนใจ

“เธอเก็บเล็บไปแล้วไม่ต้องกลัวว่าผงยาสลบจะร่วงหรอก”

เขาไม่รู้จริงๆว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ในที่สุดจิ้งจอกน้อยก็ยกขาหน้าข้างขวาลงเสียที

“จำที่ฉันพูดเมื่อกี้ให้ดีๆล่ะ ทั้งหมดที่เธอต้องทำมีเพียงแค่โจมตีเจ้าหมานั่นซักหลายแผลก็พอแต่อย่าฆ่ามันเด็ดขาด หลังจากที่ภารกิจนี้เสร็จสิ้นฉันจะทำเนื้อย่างให้เธอเป็นอาหารกลางวัน”

หลังจากให้คำแนะนำแล้วไคลน์ก็เดินนำก้าวเข้าสู่หลุมดำ

จิ้งจอกน้อยก็ตามไปติดๆราวกับบอร์ดี้การ์ดผู้ภักดี

สุสานแห่งที่15

สุสานแห่งนี้ค่อนข้างกว้างเป็นอย่างมาก พื้นที่ของมันอย่างน้อยก็น่าจะกว้างราวๆ30เมตรเลยทีเดียว

เมื่อไคลน์ก้าวเข้าสู่สุสานแห่งนี้เขาก็ตื่นตัวขึ้นมาทันทีพร้อมๆกับกระชับมีดแมเชเทเอาไว้ในมือแน่น

เสียงขู่เบาๆดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าของเขา เมื่อเขาลองเพ่งสายตามองดูก็พบว่าห่างออกไปราวๆสิบเมตรมีหมาป่าสีเหลืองกำลังแยกเขี้ยวขู่เขาอยู่

ขาทั้งสี่ข้างของมันมีสีดำ มีขนเล็กน้อยบนร่างกายและมีร่างกายขนาดใหญ่โต ดวงตาสีเขียวฟ้าจับจ้องมองมาที่ไคลน์เขม็งราวกับกำลังเตือนไคลน์ว่า ‘เจ้าล่วงล้ำอาณาเขตของข้า’

จิ้งจอกน้อยที่เพิ่งตามเข้ามาเมื่อเห็นหมาป่าเขาเดียวแสดงท่าทีข่มขู่เจ้าของของเธอเธอก็พุ่งเข้าใส่มันด้วยความโมโหแทบจะทันที

เสียงร้องของจิ้งจอกน้อยทั้งแผ่วเบาและน่ารักฟังดูแล้วไม่น่ากลัวอะไรนัก

ยังไงก็ตามหมาป่าทรายเขาเดียวเองก็ไม่คิดจะยอมอยู่เฉยๆเช่นกัน มันส่งเสียงข่มขู่เธอกลับ

พริบตานั้นจิ้งจอกน้อยก็เปลี่ยนไปเป็นเงาสีขาวและพุ่งเข้าใส่หมาป่าทรายเขาเดียวราวกับลูกปืนใหญ่

หมาป่าทรายเขาเดียวเองก็ไม่ยอมและเตรียมจะพุ่งเข้าปะทะเช่นกัน

หมาป่าตัวนี้ไม่ได้เชื่องช้ากว่าจิ้งจอกน้อยเลยซักนิด มันก้มหัวลงและเล็งเขาไปทางทิศที่จิ้งจอกน้อยพุ่งเข้ามา

ไคลน์ไม่รู้จริงๆว่าจิ้งจอกน้อยจะเอาอยู่ไหม

ทันใดนั้นเองความเร็วของจิ้งจอกน้อยก็พลันเพิ่มมากขึ้น หมาป่าทรายเขาเดียวที่เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้จึงได้รับบาดแผลไปถึงสี่แผล

จิ้งจอกน้อยที่ดูราวกับขนนกเมื่อโจมตีเสร็จก็กระโดดทิ้งระยะออกมาจากหมาป่าทรายเขาเดียวและล่อนลงบนพื้นอย่างนิ่มนวลพร้อมกับเชิดคางเล็กน้อยราวกับกำลังแสดงท่าทีว่าพอใจมาก

หมาป่าทรายเขาเดียวที่เห็นดังนั้นจึงยิ่งโมโหขึ้นไปอีก มันเมินไคลน์ไปจนสิ้นและพุ่งเข้าหาจิ้งจอกน้อยอีกครั้ง

ยังไงก็ตามความสามารถของสกิลเพิ่มความเร็วของจิ้งจอกน้อยยังมีผลอยู่ ความเร็วของจิ้งจอกน้อยในตอนนี้ไม่ใช่อะไรที่หมาป่าทรายเขาเดียวสามารถเทียบได้ การเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของจิ้งจอกน้อยทำให้เธอสามารถพลิกกระดานได้อีกครั้งและทิ้งรอยข่วนเอาไว้บนร่างของหมาป่าอีกสี่รอย

หมาป่าทรายเขาเดียวทราบแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ลูกพลับอ่อนนิ่มที่สามารถบีบได้มันจึงมองไปทางไคลน์และเริ่มถอยไปอย่างช้าๆ

ในตอนนั้นเองขาหลังของมันก็พลันพับลงบนพื้นโดยที่จิ้งจอกน้อยยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ไคลน์จึงรีบเรียกให้จิ้งจอกน้อยที่กำลังจะเข้าไปซ้ำหมาป่าทรายเขาเดียวกลับมาทันที

คำใบ้สีทองปรากฏขึ้นมาเหนือหัวของหมาป่าทรายเขาเดียว

[ยาสลบออกฤทธิ์แล้ว มันสามารถประคองสติได้อีกอย่ามากก็สามวินาทีเท่านั้น]

ไคลน์นับหนึ่งถึงสามในใจอย่างเงียบๆและเมื่อเขานับถึงสามร่างของหมาป่าทรายเขาเดียวก็ล้มพับลงบนพื้นและไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป

ไคลน์เดินเข้าไปหามันและยกขาขึ้นมาเตะไปที่ร่างของมันเบาๆ อืมดูเหมือนผลของยาสลบจะดีไม่เลวเลย

ไคลน์เรียกฐานรูนและนำไม้ใส่เข้าไปในเครื่องกลั่นน้ำก่อนเป็นลำดับแรก

แหล่งเพาะเนื้อจำเป็นต้องใช้น้ำดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมเอาไว้ก่อน เขาไม่รู้ว่าแหล่งเพาะเนื้อที่ว่านี้หน้าตาเป็นยังไงดังนั้นเขาจึงขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบค้อนก่อสร้างออกมา

ป๊อกๆๆ!

[แจ้งเตือนจากระบบ : หิน -8]

ไม่นานนักบริเวณมุมของฐานรูนก็ปรากฎแผ่นหินขนาดใหญ่ตั้งเอาไว้ทั้งซ้ายและขวาจนกลายเป็นเหมือนตู้เก็บของที่มีกำแพงล้อมสองด้าน เขาตัดสินใจว่าจะเอาตรงนี้แหละไว้ทำแหล่งเพาะเนื้อแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพื้นที่เท่านี้เพียงพอไหม

ไคลน์นำร่างที่ไร้สติของหมาป่าออกมาและวางมันเข้าไปในที่เก็บของที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ผลของยาสลบยังไม่หมดฤทธิ์ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่าหมาป่าทรายเขาเดียวจะตื่นขึ้นมาสร้างปัญหา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด