ตอนที่แล้วผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 6
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 8

ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 7


ผมได้รับพลังแห่งลิชมาพิชิตสาวงาม ตอนที่ 7

"แค่ก-แค่ก!" ซุปต้มยำในปากเซี่ยเยี่ยนแทบจะถูกพ่นออกมา หลังกำจัดธาตุอันเดดในร่างไป เขาก็มั่นใจว่าอันเสี่ยวหรูสลบไปแล้วแน่ๆ คิดไม่ถึงว่าเธอจะแค่อ่อนแรงและอยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น! ซ้ำยังจำได้ด้วยว่ามีคนบีบก้นของเธอ!

"ผู้ชาย?" เสี่ยวหวี่และสาวหน้าตาธรรมดาพลันมีปฏิกิริยาต่อคำคำนี้ จิตวิญญาณแห่งการซุบซิบพลันถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้น เสี่ยวหวี่รีบถาม "พี่อันนา มีผู้ชายอยู่ในห้องเราจริงๆ?"

"ใช่แล้ว อันนา รีบบอกพวกเรามานะ เธอเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สลบ!" อันเสี่ยวหรูจ้องอันนาอย่างคาดคั้น

"ไม่ใช่ผู้ชายสักหน่อย!" อันนาจิบโค้กก่อนจะตบโต๊ะดังปึง "มือปราบวิญญาณต่างหาก!"

"มือปราบวิญญาณ?" สาวสามโพล่งออกมา

"ใช่ ตอนที่วิญญาณร้ายเข้าสิงเสี่ยวหรู เสี่ยวหวี่และเสี่ยวลู่ก็สลบไป ตอนที่เธอกำลังจะทำร้ายฉัน จู่ๆก็มีชายสวมผ้าปิดหน้าเข้ามาจากทางระเบียง เขาร่ายคาถาบางอย่างและใช้ของวิเศษขับไล่วิญญาณที่เข้าสิงร่างเสี่ยวหรูไป เขายังบอกด้วยว่าพวกเธอจะไม่เป็นอะไร แค่นอนหลับสักตื่นเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง จากนั้นเขาก็กระโดดลงระเบียงหายไปเลย!"

"เรื่องจริงเหรอ? ทำไมมันทะแม่งๆเหมือนเธอแต่งเรื่องขึ้นมาเลยล่ะ?" อันเสี่ยวหรูทำสีหน้าไม่เชื่อ

"สาบานด้วยพรหมจรรย์ของฉันเลย!" อันนาพูดอย่างหนักแน่น

"อืม เชื่อก็ได้" อันเสี่ยวหรูเหงื่อตก

"โดดจากระเบียง?"เสี่ยวหวี่อุทาน "ต้องเป็นมือปราบวิญญาณที่เก่งมากแน่ๆ!"

"แล้วเขาได้บอกชื่อตัวเองไว้รึเปล่า?" อันเสี่ยวหรูถาม

"ไม่อะ แต่ฉันจำเสียงของเขาได้ แล้วก็ยังจำของวิเศษของเขาได้ด้วย ถ้าบังเอิญเจอกันล่ะก็ ฉันต้องจำได้แน่!" อันนาพูดอย่างภูมิใจ

เซี่ยเยี่ยนรีบยัดจี้รูปหัวกะโหลกเข้าคอเสื้อ จากนี้ไปเขาจะไม่ห้อยมันไว้ข้างนอกอีกแล้ว

"อ้อใช่ จากการคาดเดาของฉัน มือปราบวิญญาณคนนี้จะต้องซิงแน่ๆ!" อันนาลดเสียงลงพูดอย่างมีเลศนัย

"จริงเหรอคะ? พี่อันนา พี่รู้ได้ไง?" จิตวิญญาณชอบเรื่องซุบซิบของเสี่ยวหวี่พลันลุกโชน

เซี่ยเยี่ยนแทบจะตกเก้าอี้ 'แม้แต่เรื่องนี้ก็ยังรู้ด้วยเรอะ!! นี่พี่สาว เธอต่างหากล่ะที่เป็นยอดฝีมือ!'

"เพราะฉันเห็นน้องชายของเขาโด่ขึ้นมาตอนที่แอบลูบก้นของเสี่ยวหรูน่ะ ฮี่ๆ แล้วก็อีกอย่าง ตอนที่ถูกฉันจับได้เขาก็ลนลานจนแทบจะหลุดพูดชื่อออกมาแล้ว มีเพียงหนุ่มซิงเท่านั้นที่จะเป็นแบบนี้!" อันนาวิเคราะห์เป็นฉากๆ

เซี่ยเยี่ยนก้มหน้าก้มตาโซ้ยบะหมี่อย่างเอาเป็นเอาตาย 'อายจังโว๊ย!!'

"เลิกไร้สาระได้แล้ว ยัยบ้า!" อันเสี่ยวหรูแหว "เมื่อคืนนี้ฉันเสียเปรียบขนาดนั้นเลยเหรอ....ทั้งถูกเห็นตอนโป๊ ทั้งถูกบีบก้นและยังมีการตอบสนองแบบนั้นอีก....เดี๋ยวนะ ถ้าเขามีการตอบสนองแบบนั้น งั้นฉันก็ดึงดูดใจเขาไม่น้อยเลยน่ะสิ....อ้าก....นี่ฉันพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ยยย!"

"ใช่แล้วพี่เสี่ยวหรู!" จู่ๆเสี่ยวหวี่ก็นึกขึ้นได้ "ที่พี่พูดมาจะต้องใช่แน่ๆ มือปราบคนนั้นจะต้องแอบชอบพี่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงปรากฏตัวออกมาช่วยพี่กันล่ะ? หนูว่าเขาคงสตอล์กเกอร์พี่และแอบปีนขึ้นมาดูแน่ๆ พอเขาเห็นพี่ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง เขาก็สวมบทฮีโร่ซะเลย ถ้าไม่ใช่เพราะพี่อันนาไม่ได้สลบ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะจับกดพี่รึเปล่า!!"

"เสี่ยวหวี่ เธอไปเรียนรู้คำว่า 'สตอล์กเกอร์' มาจากไหนน่ะ? คำว่า 'จับกด' ก็ด้วย....เธอกลายเป็นเด็กไม่ดีไปแล้วเหรอ!" จิตใจของอันเสี่ยวหรูแทบจะพังทลาย เธอยื่นมือออกไปดึงแก้มอันนุ่มนิ่มของเสี่ยวหวี่ ขณะที่ฝ่ายหลังทำตาละห้อย

..............

เซี่ยเยี่ยนจัดการบะหมี่ต้มยำเงียบๆ จากนั้นจึงออกจากโรงอาหารไปด้วยจิตใจที่พ่ายแพ้ เขาเงยหน้าขึ้นเหม่อมองท้องฟ้าพลางถอนหายใจ 'คนเมืองนี่ช่าง...ซับซ้อนจริงๆ แม้แต่เด็กสาวน่ารักๆไร้พิษภัยก็ยังรู้จักคำว่าสตอล์กเกอร์....เดี๋ยวนะ แล้วทำไมฉันรู้จักคำว่าสตอล์กเกอร์ด้วยล่ะเนี่ย?!'

หลังออกจากมหาวิทยาลัย เซี่ยเยี่ยนก็นั่งรถไปยังสะพานซ่งเซียน บนรถคนแน่นมาก เซี่ยเยี่ยนได้แต่ยืนเกาะราวจับ เขาเอนหัวลงพิงแขนขณะที่คิดฟุ้งซ่านอยู่ในใจ เรื่องราวในโรงอาหารเมื่อครู่สร้างความสะเทือนใจให้เขาอย่างมาก ตอนนี้เขาต้องการการพักผ่อน

รถบัสหยุดจอดสองป้าย ผู้โดยสารมีทั้งขึ้นและลง แต่ส่วนใหญ่จะขึ้นมากกว่า พร้อมกับคนที่เบียดเสียดมากขึ้น เซี่ยเยี่ยนก็รู้สึกว่ามีคนกำลังจะล้วงกระเป๋าของเขา เขารีบจับมือของหัวโขมยคนนั้นไพล่หลังพลางตะโกน "โจร!"

ไม่มีผู้กล้าออกหน้าช่วยเหลือ ผู้โดยสารที่อยู่รอบตัวเซี่ยเยี่ยนรีบขยับตัวออกห่างจนเป็นที่ว่างอย่างปาฏิหาริย์และเผยให้เห็นชายที่ดูท่าทางนักเลงคนหนึ่ง

"ทำอะไรวะ? แกเรียกใครว่าโจร? ปล่อยนะเว้ย!" นักเลงคนนั้นตื่นตกใจเมื่อถูกจับได้ แต่พอเห็นเหล่าผู้โดยสารต่างพ่ากันถอยห่างราวกับหนีโรคห่า เขารู้สึกโล่งใจและตะคอกเซี่ยเยี่ยนแทน

"เห้ยไอ้หนู จับพี่น้องฉันไว้ทำไม? อยากตายงั้นเรอะ?" ชายร่างอ้วนที่สวมใส่เสื้อกล้ามพลันเดินแหวกกลุ่มผู้โดยสารออกมา บนต้นแขนของชายอ้วนสักผีเสื้อที่ไม่สมประกอบเอาไว้ ทำให้ผู้พบเห็นต่างแปลกใจว่าทำไมเขาถึงสักผีเสื้ออุบาทแบบนั้น

พวกนักล้วงกระเป๋ามักทำงานกันเป็นทีมเสมอ ตอนนี้พวกพ้องของโจรก็เผยตัวแล้ว

ถ้าเป็นนักศึกษาธรรมดาทั่วไปมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้ พวกเขาก็คังจะยอมปล่อยและรีบหนีไปด้วยความกลัว นักปราชญ์ย่อมทราบว่าเวลาไหนควรสู้เวลาไหนควรถอย แต่เซี่ยเยี่ยนไม่ใช่นักศึกษาธรรมดา ยิ่งกว่านั้นเขายังรู้สึกหงุดหงิดจากคำพูดของพวกอันนาและกำลังหาที่ระบายออก คิดไม่ถึงว่าเขาจะได้พบกับกระสอบทรายพวกนี้เข้า

"พี่คนขับ ขับไปที่สถานีตำรวจที!" เซี่ยเยี่ยนตะโกนบอกคนขับที่อยู่ด้านหน้าของรถบัส

คนขับไม่ได้ตอบและตบไฟเลี้ยวแวะเข้าข้างทาง......