ตอนที่แล้วChapter 15 : วางแผนจับสัตว์อสูรแห่งสุสานแบบเป็นๆ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 17 : จับหมาป่าทรายเขาเดียวแบบเป็นๆ

Chapter 16 : สัตว์เลี้ยงจิ้งจอกเก้าหาง! ความสามารถคือสุดยอดความเร็วในการเคลื่อนที่!?


[แจ้งเตือนจากระบบ : หิน -1]

[แจ้งเตือนจากระบบ : การสร้างชามหินเสร็จสิ้น]

[แจ้งเตือนจากระบบ : ไม้ -1]

ไคลน์ใช้หินเหล็กไฟที่มีถูกับไม้เพื่อให้เกิดประกายไฟเพราะในการสร้างยาสลบเขาจำเป็นต้องใช้ไฟนั่นเอง

นอกจากไฟแล้วยังต้องใช้ภาชนะบางอย่างเพิ่มเติมด้วย

อันหนึ่งใช้สำหรับใส่วัตถุดิบในการสร้างและอีกอันใช้สำหรับบรรจุ

และตอนนี้เขาก็พร้อมแล้ว

เขาเปิดหน้าจอการผลิตขึ้นมาและเลือกไปที่ยาสลบ

จากนั้นไคลน์ก็กดสร้างอย่างไม่ลังเล!

[แจ้งเตือนจากระบบ : หญ้าล่องเหมันต์ -3 , ดอกจิ้งหรีด -2 , หญ้าโครงกระดูก -2]

สมุนไพรทั้งหมดถูกใส่ลงไปในชามหินจากนั้นเปลวเพลิงก็ค่อยๆห่อหุ้มชามหินเอาไว้

[แจ้งเตือนจากระบบ : การสร้างยาสลบชั้นยอดเสร็จสิ้น]

เปลวเพลิงจางหายหลงเหลือเพียงลูกบอลผงสมุนไพรสีดำเท่านั้นในชาม

[ยาสลบชั้นยอด : 3/3]

ไคลน์ยกชามหินขึ้นมาดู เขาอยากจะลองดมดูใกล้ๆเหมือนกันแต่ก็กลัวว่าจะโดนฤทธิ์ยาไปด้วย

ยาสลบมีจำนวนที่ใช้ได้จำกัดและสามารถใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น

ถ้าเขากังวลว่าผลของยาสลบจะไม่แรงพอถ้างั้นเขาก็สามารถฉาบมันลงไปในอาวุธหรือเทใส่ในน้ำให้มากขึ้นไปอีก3เท่าก็ย่อมได้

‘ยารักษาต้องใช้น้ำแต่ตอนนี้เราไม่มีน้ำเหลือเลย แถมยังกลั่นออกมาทันทีไม่ได้ด้วยสิ’

ไคลน์เก็บยาสลบเข้าไปและมองไปยังคำใบ้ของสุสานทางด้านหลังอีกครั้ง

[ขุดไปทางด้านหลังท่านจะได้เผชิญหน้ากับหมาป่าทรายเขาเดียว ภายในสุสานแห่งนี้มีทรัพยากรอยู่มากมาย บางทีท่านอาจจะต้องรออีกซักเล็กน้อยเพราะการเขาไปตอนนี้อาจจะเสี่ยงเกินไป]

ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ

ชัดเจนแล้วว่าเพียงแค่ยาสลบยังไม่มากพอจะเปลี่ยนสถานการณ์ได้

‘รอต่อไปหรือลองเสี่ยงดวงกับไข่รูนดีนะ’

ไคลน์หยิบไข่รูนออกมามองด้วยสายตาเปล่งประกาย

ตราบใดที่เขาสมารถจับสัตว์อสูรแห่งสุสานในสุสานถัดไปมาได้แบบเป็นๆเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะไม่มีเนื้อให้กินอีกต่อไป

บางทีการมีสัตว์เลี้ยงมาเพิ่มอาจจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ก็ได้

“ไม่รอแล้วดีกว่า!”

ไคลน์ตัดสินใจแล้วว่าจะทำสัญญากับไข่เพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าภายในไข่นี้จะมีตัวอะไรอยู่

ก่อนหน้านี้เขาอาจจะยังกังวลอยู่บ้างเนื่องจากถ้ามีสัตว์เลี้ยงเพิ่มมาก็เท่ากับมีปากเพิ่มมาอีกปากเช่นกัน

แต่ตอนนี้เขามีพันธุศาสตร์อยู่ในมือดังนั้นต่อให้มีปากเพิ่มมาอีกปากก็ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด

ด้วยพันธุศาสตร์ในมือของเขาที่สามารถสร้างแหล่งเพาะเนื้อได้ทำให้ทุกๆอย่างที่เขากังวลสลายกลายเป็นผุยผง

ไคลน์หยิบมีดออกมาและเฉือนไปบนนิ้วของตัวเองเบาๆ

หยดเลือดหยดหนึ่งตกลงบนผิวของไข่รูน

พริบตานั้นเองลวดลายสีเงินบนไข่รูนก็เปล่งประกายเจิดจ้าออกมา

ไข่รูนเริ่มสั่นเล็กน้อยจากนั้นก็แรงขึ้นและแรงขึ้นเรื่อยๆ

ไคลน์วางไข่รูนลงบนพื้นและเฝ้ารอให้สัตว์เลี้ยงของเขากระเทาะเปลือกไข่ออกมาอย่างเงียบๆ

ไม่ถึงสิบวินาทีต่อมาในที่สุดเสียงปริแตกก็ดังขึ้นพร้อมๆกับเปลือกไข่ที่แตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ

ชิ้นส่วนไข่ที่แตกกระจายออกสลายหายไปจนหมด

ภายใต้แสงสีเงินที่โอบอุ้มตัวไข่เอาไว้สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวไข่รูนก็ค่อยๆเผยกายให้เห็น

แมว? หมา? หรือหมาป่ากันนะ?

ดูจากลักษณะของแสงสีเงินแล้วไคลน์คิดว่ามันเหมือนกับหมาไม่น้อย

แสงสีเงินค่อยๆผสานกันในที่สุดพร้อมๆกันนั้นร่างๆหนึ่งก็กระโจนเข้าใส่อ้อมอกของไคลน์อย่างฉับพลัน

“งือๆ”

???

ไคลน์กอดมันตามสัญชาตญาณ

เมื่อครู่ตอนที่มันกระเทาะเปลือกไข่ออกมาไคลน์ก็สัมผัสได้ถึงสายสัมพันธ์บางอย่างระหว่างเขากับมันอย่างน่าประหลาด เมื่อตอนที่มันกระโจนเข้ามาหาไคลน์ก็สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดดังนั้นเขาจึงไม่หลบ

ขนของมันทั้งนุ่มและนิ่ม

ไคลน์ก้มลงไปมองสิ่งมีชีวิตในอ้อมแขน

สิ่งมีชีวิตสีขาวบริสุทธิ์ที่กำลังเอนกายซบอยู่บนอกของเขาตอนนี้กำลังเงยหน้ามองมาที่เขาราวกับกำลังสังเกตุนิสัยของไคลน์เช่นกัน

[จิ้งจอกเก้าหาง : สัตว์อสูรแห่งสุสานรักสงบ เกิดมาพร้อมกับหางสองหางและเมื่อใดที่สายเลือดของมันเติบโตขึ้นเรื่อยๆจำนวนหางเองก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นเก้าหาง]

[แจ้งเตือนจากระบบ : เปิดใช้งานหน้าต่างสัตว์เลี้ยงในเมนูระบบ ท่านสามารถตรวจสอบความสามารถและสเตตัสของสัตว์เลี้ยงได้ตลอดเวลา]

จิ้งจอกเก้าหางสูงราวๆครึ่งเมตรและมีหางสองหางที่ดูอ่อนนุ่มและดูเหมือนว่าหางของมันจะใหญ่กว่าตัวของมันเล็กน้อย

มันเอนกายซบไคลน์และมองมาที่เขาด้วยดวงตาที่งดงามราวกับหยดน้ำ ในตอนนั้นเองที่ไคลน์ราวกับว่าเขากำลังมองไปที่สตรีผู้หนึ่ง

ไคลน์สาบานเลยว่าอาการนี้เกี่ยวกับการที่เขาไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงมานานแน่ๆ

แต่เป็นเพราะลักษณะของจิ้งจอกเก้าหางตัวนี้ที่แสดงออกมานั้นดูไม่แตกต่างไปจากมนุษย์คนหนึ่งเลย

เขานึกถึงจิ้งจอกหญิงในตำนานขึ้นมาคนหนึ่งแทบจะทันที

“ผู้หญิงหรอ?”

ไคลน์ช้อนร่างของจิ้งจอกและยกตัวมันขึ้น

“อย่างที่คิดเลย...ไม่มีหำ”

ไคลน์หัวเราะคิกคัก

“..”

จิ้งจอกเก้าหางก็ปล่อยให้ไคลน์เล่นตามสบายดูไม่มีทีท่าว่าจะต่อต้านเลยแม้แต่น้อย

มันเพียงแค่จ้องมาที่เขาพร้อมกับหางทั้งสองที่ส่ายไปมาเท่านั้น

‘ดูไม่ได้แข็งแกร่งอะไรด้วยสิจะช่วยสู้ได้ไหมเนี่ย?’

ไคลน์ตรวจสอบทั้งซ้ายและขวาแต่ก็ไม่เห็นเลยว่าจิ้งจอกเก้าหางตัวนี้จะมีเขี้ยวคมๆแต่อย่างใด ขนาดตัวของมันเองก็เล็กจิ๋วและดูเหมือนว่าจะกินไม่จุเท่าไหร่นัก

จิ้งจอกเก้าหางกรีดร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ มันแยกเขี้ยวและยกขาหน้าขึ้นแกว่งกงเล็บไปมา

แต่เล็บทั้งสี่ของมันดูไม่เหมือนกับจิ้งจอกแต่เหมือนแมวมากกว่า...

ปุ่มเนื้อเองก็มีชมพูดูอ่อนนุ่มอีกด้วย

ชิ้ง!

จู่ๆตรงปุ่มเนื้อทั้งสองพลันปรากฏกงเล็บแหลมคมราวกับใบมีดยืดออกมา!

กงเล็บคู่นี้โค้งมนและยาวเป็นอย่างยิ่ง

ราวกับมันกำลังบอกเขาว่า “นายท่านข้าเองก็ทรงพลังมากเหมือนกันนะ!”

“หืม ดูใช้ได้เลยนี่”

ไคลน์ยิ้มตอบและวางจิ้งจอกเก้าหางเอาไว้ข้างๆ จากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างสัตว์เลี้ยงขึ้นมา

[จิ้งจอกเก้าหาง]

[ยังไม่มีชื่อ]

[สเตตัส : แข็งแรง]

[สกิล : สุดยอดความเร็วในการเคลื่อนที่]

[สุดยอดความเร็วในการเคลื่อนที่ : หลังจากที่สกิลนี้ถูกเปิดใช้งานความเร็วในการเคลื่อนไหวจะเพิ่มขึ้นสามเท่า บัฟคงอยู่เป็นเวลา10วินาที คูลดาวน์ 30 นาที]

ไคลน์มองไปที่จิ้งจอกเก้าหาง

จิ้งจอกสีขาวตัวน้อยในตอนนี้กำลังโชว์ความสามารถในการเคลื่อนที่ของมันให้ไคลน์ดู

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

มันวิ่งวนไปวนมาอยู่รอบๆตัวเขา

ไคลน์มองเห็นเพียงเส้นสีขาวแวบผ่านไปผ่านมาเท่านั้น ดูๆไปแล้วความเร็วของเจ้าตัวเล็กนี่มีไม่น้อยเลย

นี่ขนาดว่ายังไม่ใช้สกิลเลยนะ ถ้าเกิดใช้สกิลสุดยอดความเร็วในการเคลื่อนที่ขึ้นมาคงจะสามารถลอบโจมตีในระยะใกล้ได้แบบสบายๆเลย

ไคลน์พยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ทราบถึงความแข็งแกร่งของจิ้งจอกเก้าหาง

“หยุดได้แล้วเจ้าตัวเล็ก” เขาร้องบอก

ฟิ้ว!

จิ้งจอกเก้าหางหยุดลงบริเวณเท้าของไคลน์อย่างเชื่อฟัง

“แกยังไม่มีชื่อเลยดังนั้นฉันจะตั้งให้แล้วกัน อืมเอาเป็น...”

ไคลน์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ฉันจะเรียกแกว่าจิ้งจอกน้อย(เสี่ยวหู)ไปก่อนแล้วในอนาคตถ้าฉันคิดชื่อดีๆกว่านี้ได้ค่อยเปลี่ยนให้แกแล้วกัน”

“หงิงๆๆ”

จิ้งจอกน้อยเอาหัวมาถูกับขาของไคลน์ราวกับจะบอกว่ามันถูกใจชื่อนี้มาก

เจ้าตัวน้อยนี่พอใจง่ายเสียจริง

ไคลน์ยิ้มและมองไปทางด้านหลัง เขาทำการตรวจสอบคำใบ้เป็นครั้งที่สาม....

ครั้งนี้ในที่สุดคำใบ้ก็มีการเปลี่ยนแปลงเสียที!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด